ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: itopinter_111 ที่ พฤศจิกายน 29, 2017, 11:22:16 am



หัวข้อ: wartscaring แนะนำรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ ป้องกัน ยารักษาหายได้ ลดโอกาสเป็นซ้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: itopinter_111 ที่ พฤศจิกายน 29, 2017, 11:22:16 am
wartscaring ชี้แนะรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ วิธีป้องกันวิธีรักษา ยารักษาหายได้ ลดโอกาสเป็นซ้ำ
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดหูด โรคหูดหงอนไก่ ลดความเสี่ยง รักษาหายทันท่วงที, ยารักษาหูดหงอนไก่ โรคนี้ส่วนใหญ่มาจากเพศสัมพันธ์
หูดหงอนไก่จำแนกแยกแยะเป็นระยะ 4 ระยะดังต่อไปนี้
1.ระยะฟักเชื้อ(HPV) ตอนนี้จะเป็นตอนที่ได้รับเชื้อมาใหม่ๆแต่ว่ายังไม่ออกอาการเป็นติ่งให้มองเห็น จะไม่อาจจะรู้ได้ว่าจะเป็นหูดหงอนไก่รึเปล่า หูดหงอนไก่สามารถฟักเชื้อได้นานถึง 6 เดือน ก็เลยเสนอแนะถ้าคนใดกันแน่สงสัยว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงควรจะไปตรวจที่ รพ.
2.ระยะต้นเริ่ม จะเริ่มมีตุ่มเล็กๆผุดขึ้นมารอบๆของลับ โคน ปลาย และก็รอบรูทวาร เม็ดหูดระยะต้นจะเล็กมากคล้ายผื่นแม้กระนั้นจะไม่มีหนอง หรือคัน หรือแสบอะไรก็ตาม ช่วงอาทิตย์แรกแม้ผู้ใดสังเกตุว่าเป็น จะสามารถรักษาโดยใช้ครีมกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านทานเชื้อชื่อ aldara cream (จะลงข้อมูลตัวยาข้างล่างนะครับ)
3.ระยะขยายตัว เวลานี้จะอยู่ที่ 3 อาทิตย์ ขึ้นไปจนถึงขั้นเป็นมาแล้วหลายเดือน เม็ดหูดจะเริ่มขึ้นเป็นติ่งแจ่มแจ้งจนกระทั่งขนาดเท่าหรือใหญ่กว่าอันธพาลขีดไฟ หรือหัวเข็มหมุด การดูแลรักษาต้องใช้ยาที่มีฤทธิ์ผลัดผิวหูดให้ยุ่ยและค่อยๆหลุดออก รวมทั้งเมื่อหูดเริ่มลอกก็ควรจะป้ายยาทำลายเชื้อพร้อมกันไปด้วยเพื่อคุ้มครองการเกิดซ้ำ บางครั้งอาจจะไม่ 100% แต่ว่าลดการเสี่ยงในการกลับมาเป็นซ้ำได้มากขอรับ (ยารักษาก็จะเป็น wart control )
4.ระยะลุกลาม ตอนนี้เป็นหูดจะขยายตัวเต็มที่เนื่องด้วยปลดปล่อยไว้เป็นเวลานานมากและปลายหูดจะแตกเป็นราวกับดอกกระหล่ำ แลละรับประทานบริเวณรอบอวัยวะสืบพันธุ์ ในเพศชายอาจจะมีการเสี่ยงสำหรับในการที่หูดไปขัดปลายท่อเยี่ยวขอรับ การรักษาจะเป็นการจี้กระแสไฟฟ้า หรือผ่าตัดเล็กนั่นเองนะครับ
เบื่องต้นเลยหากคนใดกันแน่ต้องการรักษาโดยการจี้กระแสไฟฟ้า จี้ไนโตรเจนเหลว หรือการผ่าตัดในกรณีที่เป็นมากแล้วขยายไปทั่วแต่ไม่เคยทราบเกี่ยวกับสถานที่การดูแลและรักษา การเข้าไปติดต่อที่ รพ.ต่างๆรวมทั้งการเบิกค่ารักษาพยาบาลจากสวัสดิการต่างๆที่ท่านมีอยู่ ลองโทรมาขอความเห็นผมได้ครับผม ยินดีให้คำแนะนำ โรงพยาบาลใกล้บ้านท่านโดยยิ่งไปกว่านั้น กทม เพื่อการเข้ารับการดูแลและรักษาที่สะดวกที่สุดครับผม
ถุงยาง ช่วยได้แน่ ถ้าใช้ถูกทาง
แม้กระนั้น ถุงยางยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสโมสรส่วนใหญ่ได้อย่างดีเยี่ยม แค่เพียงจำต้องใช้ให้ถูกวิธี
ควรที่จะเลือกขนาดของถุงยางให้เหมาะกับขนาดของอวัยวะสืบพันธุ์ของคุณสุภาพบุรุษ หากยังคลุมเคลือว่าจำต้องใช้แค่ไหน ให้ลองซื้อมาให้หลายๆขนาด แล้วพิจารณาความแน่นในการสวม
ไม่ควรสวมถุงยางเกิน 2 ชิ้นต่อการใช้ 1 ครั้ง เนื่องจากอาจส่งผลให้ถุงยางเสียดสีกันจนถึงขาดได้ง่าย
ควรจะใช้ถุงยาง 1 ครั้งต่อ 1 ชิ้น ให้เสร็จให้ทิ้งเลย ห้ามเก็บมาใช้ต่อ
สามารถใช้สารหล่อลื่นทาฉาบด้านนอกถุงยาง เพื่อการสอดใส่เป็นไปได้โดยง่ายมากเพิ่มขึ้น แม้กระนั้นควรจะเลือกใช้ประเภทเจล ไม่สมควรเลือกใช้แบบเป็นน้ำมัน ด้วยเหตุว่าบางทีอาจททำให้ถุงยางทรุดโทรม หรือฉีกขาดได้
ควรจะรูดอากาศออกจากกระเปาะของถุงยางอนามัยให้หมดก่อนสวม เนื่องจากว่าอากาศด้านในถุงยางอนามัยอาจก่อให้ถุงยางแตก หรือขาดได้ง่ายเพิ่มขึ้น
หลังทำกิจกรรมเสร็จเป็นระเบียบเรียบร้อย ฝ่ายชายควรจะถอนอวัยวะสืบพันธุ์ออกมาก่อนที่จะอวัยวะเพศจะอ่อนตัว คุ้มครองป้องกันถุงยางอนามัยหลุดเข้าไปในช่องคลอดของฝ่ายหญิง
กามโรค หรือโรคติดต่อทางเพศสัมจำพวก ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
อาการทางผิวหนังอะไรบ้างที่เข้าข่ายถูกสงสัย ว่ามีเหตุมาจากโรคติดต่อทางเพศสัมประเภท หาคำตอบพอดีนี่จ้ะ
1.หูดหงอนไก่
ติ่งเนื้องอกของผิวหนัง ที่เกิดจาก Human PApilloma Virus ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมจำพวก
ไม่เพียงแต่เกิดได้ที่อวัยวะเพศ ยังเกิดถึงที่กะไว้รอบๆลิ้น ในลำคอ
2. โรคหนองใน
โรคหนองในเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โกโนเรีย
อาการในผู้ชายเป็นมีหนองออกมาจากปลายอวัยวะสืบพันธุ์
ส่วนในสตรีจะมีตกขาวขุ่น ปากมดลูกอักเสบ
3. เริมที่อวัยวะเพศ
อาการจะเป็นกรุ๊ปของตุ่มน้ำ แตกออกเป็นแผลแสบ
4. แผลที่อวัยวะสืบพันธุ์จาก โรคซิฟิลิส
แผลที่ของลับจะเกิดขึ้นในสามอาทิตย์ข้างหลังติดเชื้อโรค
5. ผมหล่นจากโรคซิฟิลิส
เกิดขึ้นจากซิฟิลิสระยะที่สองเป็นด้านในสองเดือนแรกหลังติดเชื้อ
ลักษณะผมร่วงเป็นหย่อมเหมือนมอดเล็ม
6. ผื่นที่มือจากซิฟิลิส
พบในซิฟิลิส ระยะลำดับที่สองเหมือนกัน
โดยจะเป็นผื่นสีทองแดงมีสะเก็ด ที่มือเท้า
7.หูดข้าวสวย
เป็นตุ่มขาวขุ่นมีรอยบุบตรงกลางคล้ายสะดือ
8.แผลริมอ่อน
หลังมีการเสี่ยง ไม่เกินสองอาทิตย์
จะเกิดตุ่ม แตกเป็นแผลก้นแผลเปรอะเปื้อน
9.โรคฝีมะม่วง
มีเหตุที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อทางเพศสมาคม
กำเนิดเป็นฝีที่ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ
10 หูดที่ลิ้น
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถกำเนิดอาการที่โพรงปากได้ในกรณีติดต่อจากแนวทางการทำ oral sex
โรคอะไรบ้างสามารถติดต่อได้ทางเพศ
-โรคเอดส์ ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่องติดเชื้อฉวยโอกาส
-โรคหนองใน ผลกระทบเช่นติดโรคในอุ้งเชิงกราน ต่อมลูกหมากอักเสบ ติดโรคกระจัดกระจายทั่วร่างกายเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบได้
-โรคหนองในเทียม เกิดการติดโรคที่อุ้งเชิงกราน ต่อมลูกหมากอักเสบ ตามมาได้
-โรคซิฟิลิส เกิดแผลที่ของลับ ถ้าเกิดไม่ได้รับการดูแลรักษาระยะในที่สุดก่อให้เกิดโรคที่ศีรษะใจ ระบบประสาทได้
-กามโรค กำเนิดเป็นแผล ก้อนหนอง แผล ท่อปัสสาวะตีบตันได้ เพื่อดูรูป
-ฝีมะม่วง เกิดเป็นแผลติดเชื้อ แพร่กระจายมีหนองหนองอาจแตกออกเป็นท่อ ระบายหนองออกสู่ภายนอก
-เริม เป็นแผลที่ของลับเป็นๆหายๆไม่มีการรักษาที่หายสนิท
-พยาธิช่องคลอด มีตกขาวผิดปกติ ท่อปัสสาวะอักเสบ ต่อมลูกหมากอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ
-ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ตกขาวมีสีและกลิ่นไม่ปกติ
-โลน เป็นตุ่มคันจากตัวโลนบริเวณอวัยวะเพศ
-หูดหงอนไก่ เกิดเป็นก้อนหูดซึ่งข้างหลังการดูแลและรักษายังสามารถกลับเป็นได้หลายครั้ง เพิ่มโอกาสการเกิดโรคมะเร็งทวารหนัก โรคมะเร็งปากมดลูก
-หูดข้าวสวย กำเนิดเม็ดก้อนหูดข้าวสุกรอบๆผิวหนังที่ติดโรค สามารถแพร่ไปในตนเองได้โดยการเกา
 
 วิธีเบื้องต้น สำหรับการรักษาหูดด้วยตัวเอง สามารถทำได้เองที่บ้าน (เป็นวิธีการที่ยังไม่ได้รับการรับรอง)

  • การกระตุ้นแอนติบอดี ด้วยการใช้ก้อนน้ำแข็งเช็ดบริเวณที่เป็นหูดกระทั่งรู้สึกชา ต่อจากนั้นให้ใช้เข็มทำลายเชื้อจิ้มลงไปในหูดลึกๆหลายๆครั้ง ซึ่งแนวทางแบบนี้จะเป็นการนำเชื้อไวรัสเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อให้ร่างกายพากเพียรต่อสู้กับมัน ทำให้หูดหายไปได้ท้ายที่สุด วิธีการแบบนี้การนี้บางทีอาจได้ประสิทธิภาพที่ดีมากสำหรับบางบุคคล โดยเฉพาะคนที่มีหูดเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุว่าการจิ้มหูดเพียงแต่ 1 ตุ่มบนร่างกายจะช่วยให้ร่างกายพบหูดตุ่มอื่นๆแล้วก็ตรงเข้าไปทำลายได้ในทันทีทันใด
  • ทาวิตามินซี ให้ใช้วิตามินซี 1 เม็ดนำมาบดแล้วหยดน้ำลงไปเพื่อให้ได้เป็นยาป้ายข้นๆหลังจากนั้นให้ป้ายยาลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ทิ้งไว้ในช่วงกลางวัน และเมื่อถึงในช่วงกลางคืนให้แกะออกเพื่อให้ผิวได้หายใจ
  • แอสไพริน ให้ใช้ยาแอสไพริน 2-3 เม็ดเอามาบดอย่างระมัดระวัง หยดน้ำลงไปนิดหน่อย แล้วนำยาที่ได้มาป้ายลงบนหูด หลังจากนั้นให้นำปลาสเตอร์จำพวกติดแน่นมาปิดทับทิ้งไว้ 1 คืน (ในยาแอสไพรินจะมีกรดซาลิไซลิกที่ช่วยกัดหูดได้)
  • เบตาดีน ให้ทาเบตาดีนลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ทิ้งเอาไว้เป็นเวลา 1-2 วัน แล้วหลังจากนั้นจึงค่อยเปลี่ยนแปลงปลาสเตอร์ยา
  • ยาสีฟัน ให้ป้ายยาสีฟันลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ยาจำพวกติดแน่น ทิ้งเอาไว้ราว 1 คืน โดยให้ทำซ้ำไปเรื่อยจนถึงหูดหายไป
  • น้ำมันวิตามินอี ให้ฉีกแคปซูลวิตามินอีแล้วถูน้ำมันลงบนหูดเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ แล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ในช่วงเวลาเช้า และก็แกะออกในช่วงเวลาค่ำคืนเพื่อให้ผิวได้หายใจ
  • น้ำมันละหุ่ง ให้ทาน้ำมันละหุ่งลงบนหูดโดยใช้สำลีก้านวันละ 2 ครั้ง ซึ่งกรดในน้ำมันละหุ่งจะสามารถกัดเซาะหูดได้ และก็ใช้ได้ผลในด้านดีกับหูดที่มีขนาดเล็กแบนบนบริเวณใบหน้าหรือหลังมือ
    คราวทรีออยล์ ให้ทาทีทรีออยล์ลงบนหูดในจำนวนนิดหน่อย แล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ โดยให้ทำขั้นต่ำตรงเวลา 3 สัปดาห์
  • น้ำมะนาว ให้บีบน้ำมะนาวลงบนหูด แล้วนำหอมใหญ่สดสับมาวางทับไว้ ให้ทำแบบนี้ประมาณ 30 นาที วันละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องกันตรงเวลา 2-3 อาทิตย์
  • เปลือกของพืชเชื้อสายส้ม ให้ปอกมะนาวหรือเลมอนบางๆจนได้ขนาดใหญ่กว่าหูดบางส่วน แล้วปิดทับลงบนหูดโดยใช้ปลาสเตอร์จำพวกติดแน่นหรือเทปกาวติดไว้อีกที แล้วให้แปลงเปลือกใหม่ทุกวี่วัน ต่อจากนั้นราวๆ 1 สัปดาห์ หูดก็จะหลุดออกมา
    ห่วงใยรอคอยต ให้นำแคร์คอยตมาหั่นเป็นชิ้นๆขูดสนใจรอคอยตจนได้เนื้อละเอียด แล้วเติมน้ำมันมะกอกลงไปพอให้เป็นยาป้าย หลังจากนั้นนำมาทาลงบนหูด 2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 30 นาที โดยให้ทำแบบนี้ติดต่อกันเป็นเวลา 2-3 อาทิตย์
  • มะเดื่อ ให้นำมะเดื่อมาบดแล้วป้ายลงบนหูดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที โดยให้ทำเช่นนี้แต่ละวัน ตรงเวลา 2-3 สัปดาห์
  • ใบโหระพา ให้ใช้ใบโหระพาสดนำมาบดแล้วปิดทับลงบนหูด โดยใช้เทปปิดแผลชนิดกันน้ำพันเอาไว้ ให้ทำเช่นนี้ทุกวันเป็นเวลา 1 อาทิตย์ แล้วสารทำลายเชื้อเชื้อไวรัสในใบโหระพาจะช่วยฆ่าหูดให้ท่านเอง
  • เปลือกกล้วย ให้ใช้ข้างในของเปลือกกล้วยถูบริเวณที่เป็นหูดเป็นประจำ เพราะเหตุว่าโพแทสเซียมในกล้วยบางทีอาจช่วยให้หูดหายได้เร็วยิ่งขึ้น หรืออีกแนวทางหนึ่งบางทีอาจนำเปลือกกล้วยมาตัดให้มีขนาดเล็กกว่าเทป เอาภายในของเปลือกกล้วยปิดทับลงบนหูด และหลังจากนั้นก็ค่อยนำเทปผ้ามาปิด ปล่อยทิ้งเอาไว้ตรงเวลา 1 วัน โดยให้ทำเช่นนี้แต่ละวันกระทั่งหูดจะหายไป
  • เบกกิ้งโซดา ให้ผสมผงฟูหรือเบกกิ้งโซดาและน้ำมันละหุ่งเข้าด้วยกันจนกระทั่งเป็นเนื้อครีม ต่อจากนั้นให้นำมาทาลงบนหูดในค่ำคืนโดยใช้ปลาสเตอร์ยาปิดเอาไว้ แล้วจึงแกะปลาสเตอร์ออกในเช้าวันต่อไป วิธีนี้สามารถทำอีกครั้งได้เรื่อยตามความเหมาะสม
  • แอปเปิ้ลไซเดอร์วีนีการ์ (Apple Cider Vinegar – ACV) ให้ใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล แล้วนำสำลีก้อนขนาดพอให้ปิดหูดได้จุ่มไปในน้ำส้มสายยก แล้วต่อจากนั้นให้ปิดด้วยปลาสเตอร์ยาทิ้งเอาไว้ 1 คืน โปรดจดจำไว้ว่า วิธีแบบนี้อาจจะทำให้รู้สึกแสบได้ จำเป็นต้องแปลงสำลีทุกวัน รวมทั้งติดไว้ทุกคืน ต่อไปหนึ่งอาทิตย์เม็ดหูดจะเริ่มหลุดลอกออก
  • จุ่มหูดลงไปในน้ำสับปะรด เนื่องจากว่าในน้ำสับปะรดจะมีโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่ช่วยละลายหูดได้
  • น้ำหล่อเลี้ยงจากต้นแดนดิไลออน (Dandelion) ให้เลือกต้นดินแดนดิไลออนใหม่ๆมาหนึ่งต้น หักก้านออกเป็น 2 ท่อนแล้วก็ใช้น้ำเลี้ยงสีขาวขุ่นที่ไหลซึมออกมาจากก้านทาลงบนหูด โดยให้ทำเช่นนี้วันละ 3-4 ครั้ง ต่อจากนั้นให้ใช้หินภูเขาไฟมาขูดเพื่อเอาชั้นผิวที่ตายแล้วออก โดยให้ทำอย่างต่อเนื่องจนกว่าหูดหายไป
  • น้ำร้อน เป็นแนวทางฐานรากโดยการจุ่มรอบๆที่เป็นหูดลงในน้ำที่ร้อนมากๆซึ่งความร้อนจะมีผลให้หูดนุ่มขึ้นและบางทีอาจช่วยทำลายเชื้อเชื้อไวรัสได้ แต่ว่าควรจะระวังอย่าให้น้ำร้อนเกินจนกระทั่งลวกเท้า (แนะนำว่าอุณหภูมิของน้ำควรน้อยกว่า 60 องศาเซลเซียส)
  • น้ำร้อนรวมทั้งหินภูเขาไฟ ให้แช่หูดลงในน้ำร้อนกระทั่งหูดเริ่มนิ่ม แล้วก็ใช้หินภูเขาไฟหยาบคายสำหรับผลัดเซลล์ผิวขัดบริเวณหูดจวบจนกระทั่งเจอชั้นผิวจริง จุ่มสำลีก้านลงในน้ำยาฟอกแล้วเอามาสัมผัสบนหัวหูดประมาณ 15 นาที (บางทีอาจแสบบ้างเล็กน้อย) เสร็จแล้วให้ล้างออกโดยใช้น้ำสะอาด
  • น้ำร้อนแล้วก็เกลือทะเล ให้แช่บริเวณที่เป็นหูดลงในน้ำเกลืออุ่นๆเป็นเวลา 10-15 นาที เพื่อหูดนุ่มขึ้น ต่อจากนั้นให้ขูดเอาชั้นผิวที่ตายแล้วบนหูดออกไปโดยใช้ตะไบเล็บหรือหินภูเขาไฟ จึงนำเกลือทะเลเม็ดใหญ่มาถู แปะปลาสเตอร์ยาหรือเทปทับลงไปเพื่อให้เม็ดเกลือยังอยู่กับที่ รวมทั้งรอแปลงปลาสเตอร์ยาใหม่ภายหลังจากอาบน้ำ เสร็จแล้วให้ล้างมือให้สะอาดเพื่อปกป้องการแพร่กระจายของเชื้อหูด
  • รับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ได้แก่ กระเทียม มัน เม็ดทานตะวัน ขนมปังโฮลเกรน ข้าว ฯลฯ
  • รับประทานกระเทียมประเภทแคปซูล โดยให้กินวันละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องกันยาวนานหลายสัปดาห์ แล้วหูดจะเริ่มหลุดออกในตอน 1-2 สัปดาห์แรก แต่ให้ทานต่อไปอย่างต่อเนื่องตราบจนกระทั่งหูดจะหายหมด และให้นำน้ำมันกระเทียมมาทาทับบริเวณที่เป็นหูดโดยประมาณ 1-2 ครั้งต่อวัน ตรงเวลา 1 เดือน

 
ส่วนคนที่ต้องการจะสั่งยาไปใช้เบื้องต้นผมจะชี้แนะและชี้แจงเนื้อหาตัวยาที่เหมาะสมครับ เพราะว่ารูปแบบของหูดแต่ละคนเป็นต่างกัน บางคนเป็นแบบแบนราบ แบบเส้นแหลมๆยื่นออกมา และเป็นแบบติ่งเนื้อแจ่มแจ้ง รวมทั้งยังมีกรณีสตรี เพศชาย ภายนอกและก็ด้านใน ที่ตรงนี้เองที่เป็นปัจจัยต่างๆที่จำต้องเลือกใช้ยาให้ถูกแหละสมควรเพื่อการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแล้วก็เห็นผลขอรับ มาเริ่มกันตัวนะครับ
1. ยา aldara ยาชนิดนี้เป็นยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นให้ผิวหนังบริเวณที่ซับยาสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานเชื้อหูดเหมาะกับผู้ที่เป็นระยะแรกๆและสังเกตุเห็นไว หูดยังเป็นเพียงแต่เม็ดคล้ายผื่นระยะเวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์ สามารถใช้ยา aldara เพียงแต่ตัวเดียวแต้มวันเว้นวันได้เลยครับผม ยังพอเพียงทำให้หูดแห้งลงได้เนื่องจากมีขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะใช้ราวๆ3-4 ซองนะครับ ทาตลอดวันเว้นวัน
 (ยาตัวนี้หาใครกันแน่เป็นอยู่ระยะนี้และหาซื้อมิได้สามารถติดต่อสั่งมาได้ครับผม ยินดีจัดส่งให้โดยไม่คิดค่าจัดส่งขอรับ คิดเฉพาะค่ายา ซองละ 220 บาทแค่นั้นนะครับ )
2 ยา Podo ยาตัวนี้เป็นยามาตรฐานที่ใช้รักษาหูดหงอนไก่กันแพร่หลาย ทั้งยังคลีนิค และ โรงพยาบาลต่างๆเหมาะกับหูดที่เริ่มจะขยายตัวเป็นติ่งชัดเจน ระยะมากกว่า 1 ข้างขึ้นไป ควรจะใช้ podo แต้มเพื่อหูดเปื่อยแล้วก็หลุดออกโดยด่วน และก็ทันทีทันควันก่อนจะขยายเพิ่มจำนวนเกินกว่าจะรักษาด้วยการใช้ยาแต้มหูได้ โดยมากจะยุ่ยและก็หลุดภายใน 3 ครั้งแล้วก็เมื่อหลุดหมดก็จะสามารถทา aldara ต่อได้เพื่อกันไม่ให้กลับมาเกิดซ้ำ แต่ว่าถ้าหากระยะนี้จะใช้ aldara รักษาบางคนจำต้องใช้กันเป็นกล่อง มากยิ่งกว่า 10 ซองกว่าหูดจะเริ่มยุ่ย และก็ยา aldara ไม่สมควรใช้ต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานกว่า 16 สัปดาห์อ้างอิงตามวิธีการใช้ เหตุเพราะมีสารซึมซับควรจะใช้แต่ว่าพอสมควรตามสมควร
 (ธรรมดาผมจะคนที่เป็นระยะนี้จะมีมากมายผมจะเสนอแนะให้ใช้อย่างละ 1 ตัว คู่กัน โดยใช้ podo 1 ขวด และ aldara เพียง 1 ซองแค่นั้น อยากจะให้สั่งไปเท่าที่มีความจำเป็นจริงๆถ้าหากยาหมดค่อยติดต่อสั่งมาเพิ่มเป็นครั้งๆไปครับผม เนื่องจากผมไร้ค่าจัดส่งก็เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสั่งไปกักตุนไว้นะครับ)

3. Wart no more เดี๋ยวนี้เป็น wart control ยาชนิดนี้้นับว่าเป็นยารักษาหูดหงอนไก่ที่ดีเยี่ยมที่สุดในตอนนี้ ครับผม
ยาตัวนี้เป็นยารักษาหูดที่ได้ผลแล้วก็ควบคุมการกระจายเชื้อได้ดิบได้ดีมากเพราะว่าเป็นยาที่รวมจุดเด่นของทั้งยัง 2 ตัวแรกไว้ด้วยกัน และเป็นยาตัวเดียวที่มีตัวยาควบคุมเชื้อไวรัส HPV ได้ทำให้จังหวะกลับมาเป็นซ้ำเกือบจะเป็นศูนย์นอกจะเมื่อหายแล้วไปติดเชื้อมาโดยตรงจากคนที่มีเชื้อครับเป็นยาที่ได้รับการยินยอมรับรวมทั้งแพร่หลายในอเมริกา และก็กำลังมีแพร่หลายใน รพ.เอกชน แม้กระนั้นโดยรวมทุกจังหวัดยังจัดว่าน้อยเนื่องด้วยตัวยาที่แพงสูง ไม่สามารถเข้าถึงคนที่มีงบจำกัด ( ยาผมจะสั่งไว้ปริมาณนึงสำหรับเพียงพอที่จะจัดส่งได้ในแต่ละเดือนครับ ยาขวดละ 1600.- ถ้าหากคนใดสนใจสั่งก็ลองติดต่อสอบถามผมก่อนขอรับเพราะว่าผมนำเข้ามาครั้งละไม่มากมายช่วงสิ้นเดือนบางครั้งอาจจะไม่มีของโดยปกติผมจะจัดส่งหมดตั้งแต่ช่วงเวลากลางเดือนแรกขอรับ แต่ถ้าผู้ใดกันมีบัตรเครดิต สามารถสั่งซื้อได้จาก amazon จะมีปลีกเป็นขวดๆนะครับ ผมจะแนบลิงค์ตัวอย่างไว้ให้ครับ
 
ผลข้างเคียงของโรคหูดหงอนไก่

  • เว้นเสียแต่ลักษณะของรอยโรคที่ไม่น่ามองดูแล้ว สำหรับเพื่อการติดโรคไวรัสสายพันธุ์รุนแรง ยกตัวอย่างเช่น สายพันธุ์ 16, 18 ยังอาจทำให้กำเนิดโรคมะเร็งในระบบขยายพันธุ์และโรคมะเร็งทวารหนักได้ด้วย ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของรอยโรค อย่างเช่น อาจมีเลือดออกข้างหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีเหตุที่เกิดจากการมีหูดด้านในปากมดลูก
  • ในหญิงมีครรภ์ หูดหงอนไก่อาจโตขึ้นจนกระทั่งขัดขวางคลอดจนทำให้เด็กคลอดออกมาตรากตรำ หรือเชื้ออาจเข้าไปในปากหรือคอของเด็กในขณะคลอด ทำให้มีการเกิดหูดในกล่องเสียงซึ่งมีอาการนานับประการ ตั้งแต่เสียงแหบไปจนกระทั่งมีการอุดกันของกล่องเสียง ทำให้เด็กออกเสียงหรือหายใจมิได้
  • ในกรุ๊ปชายรักชายจะพบหูดหงอนไก่รอบทวารหนักหรือในทวารหนักได้มากกว่าคนทั่วไป ซึ่งการดูแลรักษาในตำแหน่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะทำได้ยากมากมาย เพราะเหตุว่าไม่ว่าจะใช้ยาหรือใช้กระบวนการผ่าตัด หูดหงอนไก่ก็มักจะเกิดซ้ำได้หลายครั้ง การได้รับการดูแลและรักษาหลายคราวก็เลยอาจทำให้เกิดทวารหนักตีบและก็มีปัญหาสำหรับเพื่อการขับถ่ายตามมาได้ ส่วนก้อนที่อยู่ลึกเข้าไปในทวารหนักบางทีอาจโตมากมายจนทำให้ผู้เจ็บป่วยมีอาการท้องผูก ในบางครั้งอาจมีเลือดออกหรือบิดขั้วจนต้องผ่าตัดรีบด่วนหรือต้องสูดดมยาสลบ นอกนั้นยังพบมากการติดเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 ร่วมด้วยอยู่เป็นประจำซึ่งจะชมรมกับการเกิดโรคมะเร็งทวารหนักได้
  • เกิดหูดหงอนไก่พื้นที่เดินหายใจ (Recurrent Respiratory Papillomatosis – RRP)เป็นตั้งแต่โพรงจมูกลงไปจนกระทั่งถุงลมในปอด พบได้มากได้มากที่สุดที่กล่องเสียง ทำให้คนไข้มีลักษณะเสียงแหบหรือเกิดการอุดกันทางเดินหายใจจนเสียชีวิตได้ ในเด็กมักมีสาเหตุมาจากการต่อว่าดเชื้อจากแม่ในระหว่างการคลอดจากที่กล่าวมา ส่วนในผู้ใหญ่พบได้ทั่วไปว่ามีสาเหตุมาจากการมีเซ็กส์ทางช่องปาก หากแม้สภาวะนี้จะเป็นภาวการณ์ที่เจอได้ไม่บ่อย (เจอได้ราวๆ 1-4 ต่อประชากร 100,000 คน) แม้กระนั้นถ้าเกิดเกิดแล้วจะสร้างความทุกข์ทรมานต่อคนป่วยเป็นอันมาก
  • ทั้งหัวข้อการรักษาที่เรื้อรังและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย เนื่องจากในคนแก่ชอบจบด้วยการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของก้อนหูดเพื่อช่วยเรื่องทางเท้าหายใจ ซึ่งการผ่าตัดอย่างงี้จะทำได้ยากมากตั้งแต่กรรมวิธีการดมยาสลบ ที่คนไข้อาจขาดอากาศหายใจได้เป็นบางช่วง นอกนั้นตามธรรมชาติแล้วรอยโรคก็ชอบกระจัดกระจายไปทั่ว ก็เลยทำให้ไม่สามารถกำจัดออกหมดได้ภายในครั้งเดียว รวมทั้งบางทีอาจจะต้องได้รับการผ่าตัดมากยิ่งกว่า 5 ครั้งในชีวิต ส่วนในเด็กมักจึงควรได้รับการผ่าตัดโดยเฉลี่ย 4.4 ครั้งต่อปี รวมแล้วราวๆ 19.7 ครั้งในช่วงชีวิต จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาคือรอยแผล ได้ผลสำเร็จทำให้หลอดลมตีบแล้วก็หายใจได้ตรากตรำในระยะยาว
ต้องการสั่งซื้อยา ปรึกษาแนะนำบอกต่อ เบอร์ 092-9899456 คุณนิธิพล
#หูดหงอนไก่ #ขายยารักษาหูด #หมอเสนอแนะ #แพทย์ช่วยได้ #ส่วนตัว

Tags : ยารักษาหูดหงอนไก่
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ