หัวข้อ: สัตววัตถุ หมวดคอร์ดาตา เริ่มหัวข้อโดย: Saiswatka ที่ ธันวาคม 08, 2017, 02:50:06 pm (http://www.คลัง[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/11111-1.jpg)
หมวดคอร์ดาตา[/b] สัตว์ในหมวดคอร์ดาตา (Phylum Chordata) เป็นสัตว์ที่มีพัฒนาการสูงขึ้นยิ่งกว่าหมวดอื่นๆมีลักษณะสำคัญ คือ ๑. มีโนโตคอร์ด (notochord) เป็นแท่งโครงร่าง ซึ่งควรมีขั้นต่ำในช่วงระยะใดระยะหนึ่งของชีวิต หรืออาจมีอยู่ตลอดชีพ เซลล์ศูนย์รวมเป็นโนโตคอร์ดเป็นเซลล์ที่มีช่องว่างมาก โนโตคอร์ดมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหุ้มห่อ สำหรับสัตว์มีกระดูกสันหลังจะมีกระดูกรุ่งเรืองขึ้นมาแทนที่โนโตคอร์ด และก็โนโตคอร์ดพบในระยะตัวอ่อนเพียงแค่นั้น ๒. มีเส้นประสาทไขสันหลังอยู่ข้างหลังเหนือทางเดินอาหาร ๓. มีช่องเหงือกอยู่บริเวณคอหอย เป็นช่องยาวอยู่ที่ฝาผนังของคอหอย เป็นทางที่น้ำผ่านออกจากคอหอย ๔. มีระบบประสาทศูนย์กลาง ๕. มีเพศแยกอยู่คนละตัว ๖. มีสมมาตรแบบทบกัน ๒ ด้าน สัตว์ในหมวดนี้บางทีอาจจัดหมวดหมู่ออกได้เป็น ๒ พวกใหญ่ๆคือ สัตว์โปรโตคอร์ดาตากับสัตว์มีกระดูกสันหลัง โดยที่พวกข้างหลังนั้น เป็นพวกที่มีการประยุกต์ใช้คุณประโยชน์ทางยามาก สัตว์มีกระดูกสันหลังที่มีคุณประโยชน์ทางยา อาจแยกประเภทย่อยได้อีกเป็น ๒ กรุ๊ปเป็นกรุ๊ปปลากับกลุ่มจตุบาท กลุ่มปลา กลุ่มปลา (Superclass Pisces) เป็นสัตว์น้ำ หายใจด้วยเหงือก โดยให้น้ำไหลผ่านช่องเหงือก ใช้ครีบในการเคลื่อนไหวรวมทั้งทรงตัว จำนวนมากมีเกล็ดห่อตัว มีหัวหัวใจ ๒ ห้อง ประสาทสมองมี ๑๐ คู่ มีเส้นข้างตัวสำหรับรับความสะเทือน รูจมูกไม่ใช้หายใจ แต่ใช้ดมกลิ่น แบ่งย่อยออกเป็น ๓ ชั้น แต่ว่าที่เจอในประเทศไทยรวมทั้งมีคุณประโยชน์ทางยามีเพียงแต่ ๒ ชั้น คือชั้นปลากระดูกอ่อน (Class Chondrichthyes) กับชั้นปลากระดูกแข็ง (Class Osteichthyes) ชั้นปลากระดูกอ่อน ชั้นปลากระดูกอ่อน (Class Chondrichthyes) เป็นชั้นของสัตว์มีกระดูกสันหลังที่อาศัยอยู่ในน้ำ มีกระดูกกรุบหรือกระดูกอ่อน หายใจด้วยเหงือก มีช่องเหงือกเห็นได้ชัดเจน มีราว ๓-๗ คู่ ช่องเหงือกนี้บางทีอาจอยู่ด้านข้างหรือข้างล่างของลำตัว ปากอยู่ทางข้างล่างของลำตัว มีฟัน ใช้กล้ามเนื้อลำตัวแล้วก็ครีบช่วยในการเคลื่อนไหว แพร่พันธุ์แบบอาศัยเพศ มีการถือกำเนิดภายในตัว ปลากระเบน ปลากระเบนเป็นปลากระดูกอ่อนพวกหนึ่ง มีหลากหลายประเภท หลายสกุล และหลายวงศ์ มีรวมทั้งโลกราว ๔๓๐ ชนิด ในประเทศไทยมีไม่ต่ำกว่า ๒๐ ชนิด จัดอยู่ในชั้น Rajiformes มีชื่อสามัญว่า ray ดังเช่น ปลา-ปลากระเบนเจ้าพระยา อันมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dasyatis (Himantura) polylepis (Bleeker) จัดอยู่ในสกุล Trigonidae ซึ่งมีขนาดตัวกว้างกว่า ๒ เมตร หนักกว่า ๕๐๐ กก. พบในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่อำเภอบางไทร จังหวัดอยุธยา ไปจนกระทั่งแม่น้ำน่าน จังหวัดพิจิตรและก็ยังพบได้อีกในแม่น้ำบางปะกงและก็แม่น้ำโขง (http://www.คลัง[b][u]สมุนไพร[/u][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/class7.gif) ชีววิทยาของปลากระเบน ปลากระเบนเป็นปลาที่มีลำตัวแบน ลื่น มีเกล็ด ที่มีลักษณะเป็นปุ่มเล็กๆหรือมีผิวหนังหยาบเป็นลางแห่ง โดยเฉพาะในแนวสันหลัง นอกจากปลากระเบนขนุน ผิวหนังเป็นหนามคลุมทุกตัวโดยปกติ ปลากระเบนมีครีบอกแผ่ขยายออกข้างๆ ลางชนิดแผ่ออกไปจรดหัวทางข้างหน้าแล้วก็หางทางด้านหลังจนเกือบจะเป็นวงกลมดูเหมือนจานหรือว่าลางชนิดแผ่ยื่นออกด้านข้างเป็นปีกคล้ายนกหรือผีเสื้อ รวมทั้งลางชนิดครีบอกแผ่ไปไม่ถึงส่วนหัว ทำให้หัวแยกออกจากครีบอกแล้วก็มองเห็นหัวโหนกเป็นลอน ดังเช่น ปลากระเบนนก อาจมีหรืออไม่มีครีบหลัง ไม่มีครีบหาง นอกจากปลากระเบนไฟฟ้า กระเบนท้องน้ำ หรือ โรนินและโรนัน ครีบท้องอยู่ด้านล่างตรงส่วนท้ายลำตัว จะงอยปากของปลากระเบนลางประเภทยื่นแหลม ยกตัวอย่างเช่น ปลากระเบนขาว ลางจำพวกมนกลม ได้แก่ ปลากระเบนกระแสไฟฟ้า หรือลางพวกเป็นแผ่แข็ง มีฟันห่างเรียวอยู่สองข้าง ตัวอย่างเช่น ปลาฉนาก ส่วนมากปลากระเบนมีตาอยู่ด้านบน มีลางประเภทที่ตาอยู่ข้างๆหัว ตัวอย่างเช่น ปลากระเบนนก ปลากระเบนราหู ข้างหลังตาเป็นช่องหายใจ ปากและก็จมูกอยู่ด้านล่าง ลางประเภทมีปากที่ยึดหดได้บ้าง ระหว่างปากกับจมูกมีร่องเชื่อมถึงกัน ช่องเหงือกมี ๕ คู่ อยู่ต่อไปทางท้ายของปาก ฟันเป็นฟันบด หน้าตัดเรียบหรือเป็นปุ่มเล็กๆเรียงเป็นแนวๆหลายแนว อยู่ทั้งด้านบนรวมทั้งข้างล่างของขากรรไกร ทวารร่วมเป็นช่องยาวรีค่อนไปทางด้านหลัง ถัดลงไปมีรูพุงเล็กๆ๒ รู ตัวมีอวัยวะสืบพันธุ์เป็นแท่ง เรียกกันว่า ตะเกียบ อยู่ด้านในของครีบท้องทั้งยังซ้ายรวมทั้งขวา หางปลาปลากระเบนบางทีอาจเรียวยาว สั้นบ้าง ยาวบ้าง มักมีผิวหยาบหรือตะปุ่มตะป่ำ ลางจำพวกอาจมีแผ่นหนังบางๆอยู่ข้างบนและก็ด้านล่างของหาง อาจมีเงี่ยงหางยาวและก็แหลมคม ๑-๔ อัน บนหางตอนใกล้ลำตัว โคนเงี่ยงหางมีต่อมน้ำพิษอยู่ เมื่อถูกแทงจะรู้สึกปวด เงี่ยงหางนี้เจอเฉพาะในปลากระเบนสกุล Trygonidae (Dasyatididae) และก็ปลากระเบนนก วงศ์ Myliobatidae ปลากระเบนในน่านน้ำไทย ปลากระเบนที่เจอในน่านน้ำของประเทศไทยมีราว ๔๐ ชนิดมีเพียงแต่ ๕ ชนิดที่พบในน้ำจืด นอกจากนี้พบในน้ำเค็ม มักอาศัยอยู่กับพื้นท้องน้ำที่เป็นดินโคลนทรายหรือดินผสมทราย กินสัตว์ที่อยู่ตามพื้นใต้ท้องน้ำเป็นของกิน อาทิเช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ตลอดจนเพรียงรวมทั้งหนอนต่างๆ สมุนไพร[/size][/b] ปลากระเบนที่รู้จักกันดีจัดอยู่ใน ๔ ตระกูล คือ ๑.ปลากระเบนในสกุล Trigonidae (Dasytididae) ได้แก่ ปลากระเบนขาว Dasyatis signifier (Campagno et Roberts) ปลากระเบนเสือ Dasyatis (Himantura) gerrardi (Gray) ปลากระเบนธง Dasyatis (Pastinachus) sephen (Forsskal) ปลากระเบนทองคำ Taeniura lymma (Forsskal) ปลากระเบนขนุน Urogymnus africanus (Bloch et Schneider) ๒.ปลากระเบนในวงศ์ Myliobatidae เป็นต้นว่า ปลากระเบนค้างคาว Aetomylaeus maculatus (Gray) ปลากระเบนค้างคาว Aetomylaeus niehofii (Bloch et Schneider) ปลากระเบนค้างคาว Aetomylaeus narinari (Euphrasen) ปลากระเบนจมูกวัว หรือปลายี่สน Rhinoptera javanica Muller et Henle ๓.ปลากระเบนในสกุล Mobulidae เช่น ปลากระเบนราหู Mobula japonica (Muller et Henle) ปลากระเบนราหู Mobula diabolus (Shaw) ๔.ปลากระเบนในวงศ์ Torpenidinae เช่น ปลากระเบนไฟฟ้า หรือปลาเสียว Narke dipterygia (Bloch et Schneider) ปลากระเบนกระแสไฟฟ้า หรือปลาเสียว (Temera hardwickii Gray) ปลากระเบนกระแสไฟฟ้า หรือปลาเสียว (Narcine indica Henle) ผลดีทางยา หมอแผนไทยใช้ “หนังปลากระเบน” แล้วก็ “เงี่ยงปลากระเบน” เป็นเครื่องยาสำหรับปรุงยาหลายตำรับหลายขนาน ตำราคุณประโยชน์ยาโบราณว่า หนังปลากระเบนมีรสมัน คาว มีสรรพคุณขับเลือด แก้ซาง ส่วนเงี่ยงปลากระเบนมีรสเย็น มีสรรพคุณดับพิษรอยดำ แบบเรียนยาแผ่นจารึกวัดราชโอรสารามให้ยาแก้ซางขนานหนึ่งเข้า “หนังกเบน” เป็นเครื่องยาด้วย ดังนี้ อนึ่งเอานอแรด เขากวาง หนังกเบน ผมคน หวายตะค้า รากมะแว้ง ยาดังนี้ขั้ว ตรีกะเหม็นตุก กเทียม เอาเท่าเทียมกัน ทำเปนจุณ บดลายเหล้าปัดกวาด แก้ละอองแล แก้ทรางช้างทั้งมวล หายอย่าสนโก้เลย วิเสศนักแล ฯ ในพระคัมภีร์ธาตุวิภังค์ให้ยาแก้พิษไข้รอยแดงทั้งสิ้นไว้ขนานหนึ่ง ชื่อ “ยาจักรวาลฟ้ารอบ” ยาขนานนี้เข้า “เงี่ยงปลากระเบน” เป็นเครื่องยาด้วย นอกเหนือจากนี้ อดีตสมัยใช้หนังปลากระเบนขัดไม้หรือเขาสัตว์แทนกระดาษทราย น้ำมันจากตับปลากระเบนก็ใช้ประโยชน์ได้เหมือนกันกับน้ำมันจากตับปลาจำพวกอื่น ส่วนครีบปลากระเบนกินได้เช่นเดียวกับครีบปลาฉลามซึ่งชาวจีนนิยมกินกัน แล้วก็เรียกกันว่า “หูฉลาม” Tags : สมุนไพร
|