ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: watamon ที่ ธันวาคม 25, 2017, 08:54:26 am



หัวข้อ: สัตววัตถุ ปลาซ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: watamon ที่ ธันวาคม 25, 2017, 08:54:26 am
(http://www.คลัง[b][u]สมุนไพร[/u][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99.jpg)
ปลาช่อน[/size][/b]
ปลาช่อนเป็นสัตว์เลือดเย็น มีกระดูกสันหลัง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Channa striata (Bloch)
จัดอยู่ในตระกูล Channidae
มีชื่อสามัญว่า snakehead murrel
บางถิ่น (พายัพรวมทั้งอีสาน) เรียก ปลาค้อ ก็มี
ชีววิทยาของปลาช่อน
ปลาช่อนมีรูปร่างกลมเป็นทรงกระบอก ลำตัวข้างหางจะแบนเล็กน้อย ความยาวของลำตัวเมื่อโตสุดกำลัง ๖๐-๗๕ เซนติเมตร (มีกล่าวว่าลำตัวยาวได้ถึง ๑ เมตร) หรือ มีความยาวเป็น ๕.๕-๖ เท่าของความลึกของลำตัว และเป็น ๓.๒-๓.๓ เท่าของท่อนหัว ลำตัวข้างบนโค้งลงน้อย ส่วนท้องแบน ด้านข้างของส่วนหางแบน ลำตัวมีตั้งแต่สีเทาถึงสีเทาคละเคล้าน้ำตาล หลังสีดำ ส่วนท้องสีขาว รวมทั้งอาจมีจุดประสีดำหรือสีน้ำตาลกระจัดกระจายอยู่ทั่วๆไป ข้างๆของลำตัวมีลายสีน้ำตาลหรือสีเทาคละเคล้าดำ (ขนาดรวมทั้งรูปร่างไม่บ่อยนัก) พิงขวางลำตัวจากบริเวณใต้เส้นข้างตัวไปยังรอบๆท้อง ในลางตัวลายพวกนี้บางทีอาจพาดขวางลำตัวต่อเนื่องกันจากรอบๆครีบหูถึงคอดหางราว ๑๕ แถบ   อย่างไรก็ตาม สีรวมทั้งลายนี้เปลี่ยนแปลงไปตามถิ่นที่อยู่และก็ฤดู หัวปลาช่อนมีขนาดใหญ่ ลักษณะแบนจากบนลงข้างล่าง ตามีขนาดใหญ่ อยู่ข้างๆของท่อนหัว จะงอยปากกลมมน ปากกว้างรวมทั้งเฉียงลง มุมปากลึกและก็ยื่นเลยจากตามาก ขากรรไกรสามารถยึดหดได้ ขากรรไกรข้างล่างยื่นล้ำขากรรไกรบนน้อย ฟันที่ขากรรไกรบนแล้วก็ล่างเป็นซี่เล็กมากมาย ติดกันเป็นแผ่นรวมทั้งคม ขากรรไกรบนมีเขี้ยว มีฟันที่เพดานส่วนหน้าแล้วก็เพดานส่วนใน ฟันที่กรามรวมทั้งเพดานมีราว ๔ แถว แผ่นปิดกระพุ้งแก้มเปิดกว้างได้ รอบๆบ้องคอเหนือเหงือกมีอวัยวะพิเศษช่วยหายใจ  ทำให้เคลื่อนอยู่บนบกแล้วก็ฝังตัวอยู่ในโคลนได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน  ส่วนบนแล้วก็ข้างๆหัวมีเกล็ดปกคลุมครีบข้างหลังและก็ครีบตูดยาวแทบถึงโคนครีบหาง ครีบหลังมีก้านครีบ ๓๘-๔๒ ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบ ๒๔-๒๖ ก้าน ครีบอยู่ทางด้านท้องใกล้ช่องเปิดทวารและครีบก้น ครีบหูอยู่ข้างๆของลำตัวต่อจากช่องเหงือก ครีบหางกลม คอดหางแบนข้าง  ครีบทุกครีบมีสีเทาปนสีน้ำตาลดำ แล้วก็ครีบทุกครีบไม่มีก้านครีบแข็ง เกล็ดปลาช่อนมีลักษณะกลมมน ขอบเรียบ เกล็ดตามลำตัวมีสีเทาถึงสีน้ำตาลอมเทา ส่วนหลังสีดำ เกล็ดบนเส้นข้างลำตัวมี ๕๒-๕๗ เกล็ด เส้นข้างลำตัวไม่ต่อกันเป็นแนวเดียว แต่มีรอยหักลงไปตรงรอบๆเกล็ดที่ ๑๗-๒๐ ข้างบนและก็ด้านข้างของลำตัวมีเกล็ดขนาดใหญ่ แต่ว่าเกล็ดที่แถวๆศีรษะแข็งกว่าเกล็ดที่รอบๆลำตัว ปลาช่อนเป็นปลาที่มีนิสัยดุร้าย   ทรหดอดทน   หากินตั้งแต่ระดับพื้นดินจนถึงผิวน้ำ ชอบอาศัยอยู่ในน้ำที่มีความลึกไม่เกิน ๑ เมตร โดยยิ่งไปกว่านั้นในรอบๆที่มีพรรณไม้น้ำให้หลบตัวได้ ปลาช่อนสืบพันธุ์กันในหน้าฝน  โดยที่เพศผู้รวมทั้งตัวเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จะจับคู่กัน  ช่วยเหลือกันกัดหญ้าชายน้ำเพื่อทำแอ่งวางไข่ แล้วตัวเมียก็ตกไข่ แล้วตัวผู้ฉัดน้ำอสุจิเข้าผสม เพศผู้ปฏิบัติหน้าที่คอยดูแลลูก  ชาวบ้านเรียกลูกอ่อนของปลาช่อนว่า ลูกครอก เมื่อยังเล็กตัวมีสีออกแดง ดำผุดดำว่ายอยู่ตามแอ่งน้ำไม่ลึกนัก โดยมีบิดาปลาช่อนซุ่มตัวรอระวังอยู่ ปลาช่อนกินปลาเล็กรวมทั้งเนื้อสัตว์อื่นเป็นอาหาร เป็นปลาที่มักพบในทุกภาคของประเทศไทย
(http://www.คลังสมุนไพร.com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99-1.jpg)[/b]
ประโยชน์ทางยา
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร[/url] หมอแผนไทยรู้จักใช้ปลาช่อนเป็นเครื่องยามาแม้กระนั้นโบราณ ตำราเรียนคุณประโยชน์ยาโบราณว่า เนื้อสด มีรสหวาน ชอบกับธาตุทั้งผอง นำมาซึ่งการก่อให้เกิดเสลด ปิดตะระงับวาตะ เนื้อแห้ง มีรสหวาน มัน มีสรรพคุณบำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย แก้เด็กตัวร้อน นอนสะดุ้ง   มือเท้าเย็น ข้างหลังร้อน หอบ  ชักจากไข้สูง แก้ชางทับสำรอก ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ดี มีรสขม   แก้ตาอักเสบ ตาแดง แก้ลอยรอยแผล   หางแห้ง มีรสเย็น คาว แก้เม็ดยอดในปาก แก้ฝ้าละออง และก็เกล็ด มีรสจืดชืด  คาว ทำให้เกิดลมเบ่งเวลาคลอด พระตำราโรคนิทาน ให้ยาขนานหนึ่งสำหรับใช้หยอดตาแก้ “น้ำตาตกหนักให้ตามัว” ยาขนานนี้เข้า “หินในสีสะปลาช่อน” หรือหินในหัวปลาช่อน   เป็นเครื่องยาด้วย  ดังนี้ น้ำตานั้น  แตกพิการให้ตามัว  ให้น้ำตาตกหนัก  แล้วตั้งแต่แห้งไปตานั้นก็เปนดุจเยื่อ ผลลำไย ถ้าหากจะแก้ให้ประกอบยานี้  รากคนทิสอ ๑  รากเสนียด ๑  ผลมะตูมอ่อน  ๑  ขิงแห้ง ๑ ทำเท่าเทียม  ต้มกิน  แล้วจึงประกอบยาหยอดตาให้ประชุม  หินในสีสะปลาช่อน  ๑  บัลลังก์หิน ๑ พิมเสน  ๑ ฝนหยอดตา  สังเกตดูหากมีน้ำตาไหลออกมาถึงแก้ม  คนป่วยนั้นก็ยังไม่ตาย  ถ้าหากไม่มีน้ำตา  ตายแล   พระตำราธาตุภิวังค์ ให้ยาแก้ไข้ที่ทำให้ชักขนานหนึ่ง ชื่อ “ยาอนันตไกรวาต” ยาขนานนี้เข้า “คางปลาช่อน” เป็นยาเครื่องด้วย ดังนี้ ยาชื่ออนันตไกรวาต  แก้พิษไข้ทำให้ชักลิ้นแข็งกระด้างคางแข็ง  รวมทั้งชักให้สั่นไปทั้งยังกาย  แลทำพิษต่างๆ ถ้าเกิดจะแก้ท่านให้เอากระดูกงูเหลือม ๑  กระดูกงูทับสมิงคลา  ๑  คางปลาช่อน[/b] ๑ งาช้าง ๑  ฟันกรามแรด ๑ ยาดังนี้ขั้วให้ไหม้เกรียม โกฐหัวบัว  ๑  โกฐสอ  ๑  โกศกระดูก  ๑  เทียนดำ  ๑  ผลโหระพา  ๑  ผลผักชี  ๑  บอแร็ก  ๑ ใบพิมเสน  ๑ ใบสันพร้าหอม ๑ ใบผักหวาน[/color] ๑ ใบทองหลางน้ำ  ๑  รากถั่วภู  ๑  รากตำลึงเพศผู้  ๑  ดอกบุนนาค[/b]  ๑  ดอกพิกุล  ๑  ยาทั้งนี้เอาส่วนเสมอกัน  บดทำแท่งไว้ น้ำกระสายยานั้นให้เอาน้ำชาวเข้าหรือน้ำดอกไม้ก็ได้ แซกดีงูแลพิมเสน กินแก้สวาปาม แก้ชัก แก้เชื่อมมึน แก้ลิ้นแข็งกระด้างคางแข็ง กินอีกทั้งซะโลมก็ได้แล ยานี้ได้เชื่อมาแล้ว เปนมหาวิเศษนัก
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ