หัวข้อ: นมผึ้งและคุณประโยชน์ที่น่ารู้และก็จะต้องทดลองหามาทานซักครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: anonchobpost ที่ มกราคม 03, 2018, 01:21:30 pm นมผึ้ง ได้ผลสำเร็จผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวเหมือนน้ำนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นของกินหลักของผึ้งนางพญาและตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นสำหรับเพื่อการเติบโต หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม และยังรวมไปถึงเป็นส่วนประกอบของครีมบำรุงแล้วก็เครื่องแต่งหน้า
นมผึ้ง นมผึ้งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักโดยประมาณ 60-70% และอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆดังเช่นว่า โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ รวมทั้งกรดอะมิโน นอกจากนี้ ยังพบสารอื่นในนมผึ้ง ดังเช่น กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีหน้าที่สำหรับการเจริญเติบโตของผึ้ง สารแอสิติเตียนลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจสึกแล้วก็กลไกลักษณะการทำงานของร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนเพศ ตัวอย่างเช่น เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน ฯลฯ ทั้งนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ แล้วก็ลักษณะอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้องค์ประกอบของนมผึ้งไม่เหมือนกันออกไป คนไม่ใช่น้อยมั่นใจว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย รักษาเบาหวาน รวมถึงแผลเบาหวาน ฯลฯ ทั้งยังยังเชื่อกันอีกว่าถ้านำนมผึ้งทาที่หนังศีรษะอาจช่วยกระตุ้นการก้าวหน้าเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างพวกนี้จะเป็นจริงหรือเปล่า และมีหลักฐานทางการแพทย์มาดน้อยเท่าใดที่จะช่วยยืนยันคุณประโยชน์ ผลดี และก็ความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยในการรักษาโรคกลุ่มนี้ คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากนมผึ้งที่อาจมีต่อสุขภาพ ทุเลาอาการวัยทอง อาการวัยทองคือปัญหาทางสุขภาพที่เกิดสังกัดหญิงวัยกลางคน เป็นสาเหตุของการเกิดอาการหลายแบบ ดังเช่นว่า ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ฯลฯ อาการดังที่กล่าวถึงแล้วสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แต่สารหล่อลื่นส่วนมากจะออกฤทธิ์ได้เพียงแค่ชั่วคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณสมบัติต่อต้านจุลินทรีย์ (Antimicrobial Activity) และมีคุณสมบัติเหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการศึกษาเล่าเรียนโดยให้ผู้หญิงวัยทองที่สมรสแล้วอายุ 50-65 ปี ปริมาณ 90 คน กลุ่มหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กลุ่มหนึ่งใช้ฮอร์โมนชดเชยเอสโตรเจนจำพวกครีมยี่ห้อหนึ่ง และอีกกรุ๊ปใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดเป็นเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีประสิทธิภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสตรีวัยทองได้มากกว่าอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนจำพวกครีมและก็สารหล่อลื่น ซึ่งจากผลการทดสอบอาจกล่าวได้ว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตรวมทั้งบรรเทาอาการวัยทองที่เกี่ยวเนื่องกับช่องคลอดของเพศหญิงวัยทอง และก็ทางนักวิจัยยังได้กำหนดอีกว่าถ้าเพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็บางทีก็อาจจะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นให้มากขึ้นเรื่อยๆได้ ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือกรดไขมันสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) รวมทั้งสารประกอบที่มีคุณลักษณะช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการค้นคว้าที่ให้ผู้หญิงวัยทองสุขภาพดีจำนวน 36 ผู้รับประทานนมผึ้งขนาด 150 มิลลิกรัม เป็นเวลา 3 เดือน โดยตรวจปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้กำเนิดโรคเส้นเลือดรวมทั้งหัวใจ รวมถึงระดับไขมันในเลือดทั้งก่อนแล้วก็หลังการทดลอง พบว่ามีการเปลี่ยนของระดับไขมันในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) น้อยลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) ลดลง 3.09% แล้วก็ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) เพิ่มขึ้น 7.7% จากผลการทดลองอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดรวมทั้งบางทีอาจเป็นลู่ทางหนึ่งสำหรับการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวกับภาวะไขมันในเลือดสูง นอกจากนั้น ยังมีอีกการศึกษาหนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีภาวะไขมันในเลือดสูงประเภทไม่รุนแรงปริมาณ 40 คน รับประทานนมผึ้งขนาด 350 มิลลิกรัมวันละ 9 แคปซูล เป็นเวลา 3 เดือนก็แสดงให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่ลดลงเช่นกัน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) และลดการเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นโลหิตและหัวใจได้อีกด้วย ทุเลาอาการก่อนมีประจำเดือน อาการก่อนมีรอบเดือนมักมีผลในทางลบกับสุขภาพของสตรี บางครั้งบางคราวการรักษาโดยไม่ใช้ยาก็บางทีอาจช่วยบรรเทาให้อาการต่างๆได้ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ให้นิสิตแพทย์ปริมาณ 110 คน รับประทานนมผึ้งขนาด 1,000 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีระดู รวมทั้งรับประทานตลอดจนหมดรอบเดือนในรอบต่อไป พบว่าอาการก่อนมีรอบเดือนน้อยลง จากผลการทดลองอาจกล่าวได้ว่าการกินนมผึ้งต่อเนื่องกันตรงเวลา 2 เดือน บางทีอาจช่วยทุเลาอาการก่อนมีเมนส์ได้ รักษาแผลโรคเบาหวาน แผลเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ทั่วไปในคนเจ็บเบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี ส่วนมากจะเจอแผลโรคเบาหวานที่รอบๆเท้า โดยยิ่งไปกว่านั้นนิ้วโป้งเท้าและก็ปลายอุ้งเท้า ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณลักษณะต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และกรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ จึงคาดว่าบางครั้งอาจจะช่วยรักษาแผลเบาหวานได้ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งให้คนไข้ที่มีแผลเบาหวานที่ได้รับการดูแลรักษาหลักตามปกติ ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลและก็ปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลประเภทไม่มีเชื้อเป็นเวลา 3 เดือนหรือจนกระทั่งแผลจะหาย รวมทั้งมีการให้คะแนนอาทิตย์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 424 ชั่วโมงก็เลยทำให้แผลหายดี และค่าถัวเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง รวมทั้งความลึกของแผลต่ำลงวันละ 0.35 มิลลิเมตร 0.28 มม. แล้วก็ 0.11 มม.ตามลำดับ จากผลวิจัยอาจกล่าวได้ว่านมผึ้งอาจมีสมรรถนะเป็นหนทางหนึ่งสำหรับในการรักษาแผลเบาหวานควบคุ่ไปกับการดูแลรักษาหลัก แต่ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดสอบเพียงแค่ 8 คนซึ่งบางครั้งก็อาจจะเล็กเกินความจำเป็นที่จะสรุปความสามารถของนมผึ้งสำหรับในการรักษาแผลโรคเบาหวาน แม้กระนั้นการเรียนชิ้นหนึ่งได้บอกให้เห็นผลสรุปของนมผึ้งที่แตกต่างออกไป โดยให้คนที่มีแผลเบาหวานทายาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลเป็นเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายสิ่งเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่านมผึ้งมีประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการรักษาแผลเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ใช้ยาหลอก เนื่องด้วยการเล่าเรียนทั้ง 2 ชิ้นข้างต้นบ่งบอกถึงคำตอบของนมผึ้งที่ตรงกันข้ามกัน ก็เลยอาจยังไม่สามารถที่จะสรุปประสิทธิภาพของนมผึ้งสำหรับในการรักษาแผลเบาหวานได้อย่างแจ่มแจ้ง จึงต้องศึกษาเพิ่มเติม บรรเทาอาการเมื่อยล้าจากโรคมะเร็ง อาการอ่อนเพลียที่เกิดจากโรคมะเร็งเกิดขึ้นจากการดูแลและรักษาทั้งการฉายรังสีหรือแนวทางการทำเคมีบำบัดรักษา มักมีผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย แล้วก็คุณภาพชีวิตของคนเจ็บ ซึ่งการรับประทานยา การบำบัด หรือการออกกำลังกายบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการลงได้ รวมถึงการรับประทานอาหารเสริม อย่างเช่น นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเหมือนกัน ก็เลยสอดคล้องกับการเล่าเรียนหนึ่งที่ให้คนป่วยโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 52 คน พบว่ากลุ่มที่กินน้ำผึ้งแปรรูปและก็นมผึ้งขนาด 5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 4 สัปดาห์ มีลักษณะอาการอ่อนเพลียจากโรคมะเร็งดีขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกลุ่มที่ักินน้ำผึ้งบริสุทธิ์ แต่ยังจำเป็นต้องเล่าเรียนเพิ่มอีกถึงบทบาทที่แท้จริงของนมผึ้งสำหรับเพื่อการบรรเทาอาการอ่อนกำลังจากโรคมะเร็ง รักษาไข้ละอองฟาง โรคภูมิแพ้ที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองอย่างรุนแรงกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้ผู้เจ็บป่วยมีลักษณะคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ เป็นต้น ซึ่งจากการเล่าเรียนทดลองโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่จับไข้ละอองฟาง จำนวน 80 คน กลุ่มหนึ่งรักษาด้วยการกินสินค้าที่มีส่วนผสมของนมผึ้งและก็อีกกรุ๊ปกินยาหลอกตรงเวลา 3-6 เดือน และจวบจนกระทั่งจะจบฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่า 2 กรุ๊ปยังคงพบอาการของไข้ละอองฟาง และก็หรูหราความรุนแรงของอาการที่ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก จากผลการศึกษาเรียนรู้อาจจะบอกได้ว่านมผึ้งบางทีอาจไม่มีสมรรถนะต่อการดูแลและรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถบรรเทาอาการต่างๆให้ดีขึ้นได้ ก็เลยยังจำเป็นที่จะต้องเรียนเพิ่มเกี่ยวกับความสามารถของนมผึ้งสำหรับการรักษาไข้ละอองฟางที่กระจ่างแจ้งเพิ่มขึ้น ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการรับประทานนมผึ้ง การกินนมผึ้งออกจะปลอดภัยถ้าหากรับประทานในจำนวนที่เหมาะสม แม้กระนั้นก็ได้โอกาสที่จะเป็นผลข้างๆได้ เป็นต้นว่า เลือดออกในไส้ เจ็บท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด ฯลฯ บางรายถ้าหากมีลักษณะอาการแพ้อย่างรุนแรงอาจส่งผลให้มีลักษณะอาการหอบหืด คอบวม หรือถึงขั้นเสียชีวิต อีกทั้งการใช้นมผึ้งทาที่บริเวณผิวหนังค่อนข้างไม่มีอันตราย แม้กระนั้นไม่สมควรทาบริเวณหนังศีรษะด้วยเหตุว่าอาจจะส่งผลให้กำเนิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีลักษณะอาการอักเสบ Tags : นมผึ้ง,royal jelly,นมผึ้งสรรพคุณ
|