ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: raraymondas ที่ มกราคม 17, 2018, 03:20:00 am



หัวข้อ: นมผึ้งและคุณประโยชน์ที่น่าสนใจและก็จำเป็นต้องทดลองหามาทานซักครั้ง
เริ่มหัวข้อโดย: raraymondas ที่ มกราคม 17, 2018, 03:20:00 am
นมผึ้ง เป็นผลผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวคล้ายนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวนิดหน่อย เป็นของกินหลักของผึ้งราชินีและก็ตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นสำหรับเพื่อการเติบโต หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม และยังรวมไปถึงเป็นส่วนประกอบของครีมบำรุงรวมทั้งเครื่องแต่งตัว
นมผึ้ง
นมผึ้งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักราวๆ 60-70% รวมทั้งอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆดังเช่นว่า โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ และก็กรดอะมิโน นอกนั้น ยังเจอสารอื่นในนมผึ้ง ดังเช่น กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีหน้าที่สำหรับในการเจริญเติบโตของผึ้ง สารแอสิว่ากล่าวลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับความรู้ความเข้าใจสึกและกลไกแนวทางการทำงานของร่างกาย รวมทั้งฮอร์โมนเพศ ได้แก่ เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน เป็นต้น ทั้งนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ แล้วก็สภาพอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้องค์ประกอบของนมผึ้งต่างกันออกไป หลายท่านมั่นใจว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิต้านทานร่างกาย รักษาเบาหวาน รวมถึงแผลโรคเบาหวาน ฯลฯ ทั้งยังเชื่อกันอีกว่าถ้าเกิดนำนมผึ้งทาที่หนังศีรษะอาจช่วยกระตุ้นการเจริญก้าวหน้าเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างกลุ่มนี้จะเป็นจริงหรือเปล่า และก็มีหลักฐานด้านการแพทย์มาดน้อยเพียงใดที่จะช่วยยืนยันคุณประโยชน์ คุณประโยชน์ และความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับในการรักษาโรคพวกนี้
ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากนมผึ้งที่อาจมีต่อสุขภาพ
ทุเลาอาการวัยทอง อาการวัยทองคือปัญหาทางสุขภาพที่เกิดสังกัดเพศหญิงกลางคน ส่งผลให้เกิดอาการหลายชนิด อาทิเช่น ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะมีเซ็กส์ ฯลฯ อาการดังกล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถทุเลาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แม้กระนั้นสารหล่อลื่นส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์ได้เพียงแต่ชั่วครั้งคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณลักษณะต้านจุลินทรีย์ (Antimicrobial Activity) รวมทั้งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการศึกษาเล่าเรียนโดยให้เพศหญิงวัยทองที่แต่งงานแล้วอายุ 50-65 ปี ปริมาณ 90 คน กลุ่มหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กรุ๊ปหนึ่งใช้ฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนจำพวกครีมแบรนด์หนึ่ง และก็อีกกรุ๊ปใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดตรงเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีคุณภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสตรีวัยทองได้มากกว่าอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนจำพวกครีมและก็สารหล่อลื่น ซึ่งจากผลการทดสอบอาจจะบอกได้ว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตรวมทั้งบรรเทาอาการวัยทองที่เกี่ยวข้องกับช่องคลอดของหญิงวัยทอง และทางผู้วิจัยยังได้เจาะจงอีกว่าถ้าเพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็บางทีก็อาจจะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆได้
ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลากหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือกรดไขมันทางสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) แล้วก็สารประกอบที่มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการค้นคว้าที่ให้หญิงวัยทองร่างกายแข็งแรงจำนวน 36 ผู้รับประทานนมผึ้งขนาด 150 มก. เป็นเวลา 3 เดือน โดยตรวจสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดโรคเส้นโลหิตและหัวใจ รวมถึงระดับไขมันในเลือดก่อนแล้วก็ข้างหลังการทดสอบ พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของระดับไขมันในเลือดอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) ต่ำลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) ต่ำลง 3.09% แล้วก็ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) มากขึ้น 7.7% จากผลการทดลองอาจจะกล่าวว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดรวมทั้งบางทีอาจเป็นหนทางหนึ่งสำหรับการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวเนื่องกับสภาวะไขมันในเลือดสูง
นอกเหนือจากนั้น ยังมีอีกการศึกษาหนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีสภาวะไขมันในเลือดสูงประเภทไม่ร้ายแรงปริมาณ 40 คน รับประทานนมผึ้งขนาด 350 มิลลิกรัมวันละ 9 แคปซูล เป็นเวลา 3 เดือนก็แสดงให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่ลดลงด้วยเหมือนกัน ทั้งยังยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) รวมทั้งลดการเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดและหัวใจได้อีกด้วย
บรรเทาอาการก่อนมีระดู อาการก่อนมีเมนส์มักมีผลในทางลบกับสุขภาพของผู้หญิง บางโอกาสการดูแลและรักษาโดยไม่ใช้ยาก็บางทีอาจช่วยทุเลาให้อาการต่างๆดีขึ้นได้ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้นิสิตหมอจำนวน 110 คน รับประทานนมผึ้งขนาด 1,000 มก.วันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีเมนส์ แล้วก็กินสม่ำเสมอจนถึงหมดรอบเดือนในรอบถัดไป พบว่าอาการก่อนมีเมนส์น้อยลง จากผลการทดลองอาจกล่าวได้ว่าการรับประทานนมผึ้งต่อเนื่องกันตรงเวลา 2 เดือน บางทีอาจช่วยบรรเทาอาการก่อนมีระดูได้
รักษาแผลโรคเบาหวาน แผลโรคเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในคนเจ็บโรคเบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี ส่วนใหญ่จะเจอแผลโรคเบาหวานที่บริเวณเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิ้วโป้งเท้าและก็ปลายฝ่าเท้า ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคปฏิบัติภารกิจต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณสมบัติต้านทานเชื้อแบคทีเรีย รวมทั้งกรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ ก็เลยคาดว่าบางครั้งอาจจะช่วยรักษาแผลโรคเบาหวานได้ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งให้คนเจ็บที่มีแผลโรคเบาหวานที่ได้รับการดูแลรักษาหลักตามเดิม ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลและก็ปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลจำพวกไม่มีเชื้อโรคเป็นเวลา 3 เดือนหรือตราบจนกระทั่งแผลจะหาย แล้วก็มีการประมวลผลสัปดาห์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 424 ชั่วโมงก็เลยทำให้แผลหายดี และค่าเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง และความลึกของแผลลดน้อยลงวันละ 0.35 มิลลิเมตร 0.28 มม. และ 0.11 มิลลิเมตรเป็นลำดับ จากผลการศึกษาอาจจะกล่าวว่านมผึ้งอาจมีประสิทธิภาพเป็นช่องทางหนึ่งสำหรับการรักษาแผลเบาหวานควบคุ่ไปกับการรักษาหลัก อย่างไรก็แล้วแต่ผลวิจัยข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดสอบเพียงแต่ 8 คนซึ่งอาจจะเล็กเกินความจำเป็นที่จะสรุปสมรรถนะของนมผึ้งสำหรับในการรักษาแผลโรคเบาหวาน
แต่การศึกษาชิ้นหนึ่งได้แสดงให้เห็นผลสรุปของนมผึ้งที่แตกต่างกันออกไป โดยให้ผู้ที่มีแผลเบาหวานทายาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลตรงเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายเช่นกัน แม้กระนั้นยังไม่อาจจะสรุปได้ว่านมผึ้งมีคุณภาพสำหรับการรักษาแผลโรคเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก
เหตุเพราะการศึกษาเล่าเรียน 2 ชิ้นข้างต้นแสดงให้เห็นผลลัพธ์ของนมผึ้งที่ตรงกันข้ามกัน ก็เลยบางทีอาจยังไม่สามารถที่จะสรุปสมรรถนะของนมผึ้งสำหรับในการรักษาแผลโรคเบาหวานได้อย่างชัดเจน จึงจำเป็นจะต้องเล่าเรียนเพิ่ม
บรรเทาอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากโรคมะเร็ง
อาการอ่อนแรงที่มีเหตุมาจากโรคมะเร็งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดูแลรักษาอีกทั้งการฉายรังสีหรือวิธีการทำเคมีบำบัด มักส่งผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย แล้วก็คุณภาพชีวิตของผู้เจ็บป่วย ซึ่งการรับประทานยา การบำบัด หรือการบริหารร่างกายอาจช่วยทุเลาอาการลงได้ รวมถึงการทานอาหารเสริม ได้แก่ นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเช่นเดียวกัน จึงสอดคล้องกับการเรียนหนึ่งที่ให้คนป่วยโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 52 คน พบว่ากรุ๊ปที่กินน้ำผึ้งดัดแปลงแล้วก็นมผึ้งขนาด 5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 4 อาทิตย์ มีลักษณะอาการอ่อนล้าจากโรคมะเร็งดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกรุ๊ปที่ักินน้ำผึ้งบริสุทธิ์ แต่ยังจำต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มอีกถึงหน้าที่ที่แท้จริงของนมผึ้งสำหรับในการบรรเทาอาการอ่อนกำลังจากโรคมะเร็ง
รักษาไข้ละอองฟาง
โรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่ระบบภูมิต้านทานของร่างกายตอบสนองอย่างหนักกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้ผู้ป่วยมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ เป็นต้น ซึ่งจากการเล่าเรียนทดลองโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่ไม่สบายละอองฟาง ปริมาณ 80 คน กลุ่มหนึ่งรักษาด้วยการกินผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมผึ้งและก็อีกกรุ๊ปกินยาหลอกเป็นเวลา 3-6 เดือน และก็ตราบจนกระทั่งจะสิ้นสุดฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่าอีกทั้ง 2 กรุ๊ปยังคงเจอลักษณะของไข้ละอองฟาง แล้วก็มีระดับความร้ายแรงของอาการที่ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก จากผลการศึกษาเรียนรู้อาจกล่าวได้ว่านมผึ้งบางทีอาจไม่มีความสามารถต่อการดูแลและรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถบรรเทาอาการต่างๆให้ดียิ่งขึ้นได้ ก็เลยยังจึงควรเรียนเพิ่มอีกเกี่ยวกับความสามารถของนมผึ้งสำหรับเพื่อการรักษาไข้ละอองฟางที่กระจ่างแจ้งยิ่งขึ้น
ความปลอดภัยในการกินนมผึ้ง
การกินนมผึ้งออกจะไม่มีอันตรายแม้รับประทานในจำนวนที่สมควร แต่ว่าก็มีโอกาสที่จะเกิดผลใกล้กันได้ เช่น เลือดออกในไส้ เจ็บท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด ฯลฯ บางรายถ้าเกิดมีลักษณะแพ้อย่างรุนแรงอาจจะส่งผลให้มีลักษณะหอบหืด คอบวม หรือถึงกับตาย อีกทั้งการใช้นมผึ้งทาที่รอบๆผิวหนังค่อนข้างไม่เป็นอันตราย แม้กระนั้นไม่ควรทาบริเวณหนังหัวเนื่องจากอาจจะส่งผลให้กำเนิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีลักษณะอาการอักเสบ

Tags : นมผึ้ง,royal jelly,นมผึ้งสรรพคุณ
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ