ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: watamon ที่ มีนาคม 20, 2018, 12:13:59 pm



หัวข้อ: โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) อาการ, สาเหตุ, การรักษา, วิธีป้องกัน-เเละ สมุน
เริ่มหัวข้อโดย: watamon ที่ มีนาคม 20, 2018, 12:13:59 pm
(https://uppic.cc/d/97b)
โรความดันโลหิตสูง (Hypertension)[/size][/b]

  • โรคความคันโลหิตสูง เป็นอย่างไร ความดันเลือดสูง ความดันเลือด คือ แรงกดดันเลือด ที่เกิดจากหัวใจ สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย การประมาณความดันโลหิตสามารถทำโดยใช้เครื่องมือหลายแบบ แต่ว่าจำพวกที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วไป เช่น เครื่องวัดความดันเลือดมาตรฐานชนิดปรอท เครื่องวัดความดันโลหิตดิจิตอลประเภทอัตโนมัติ ค่าของความดันเลือดมีหน่วยเป็น มิลลิเมตรปรอท จะมี ๒ ค่า ๑ ความดันตัวบน (ซีสโตลิก) เป็นแรงกดดันเลือด ขณะหัวใจห้องด้านล่างซ้ายบีบตัว  ๒ ความดันตัวล่าง (ไดแอสโตลิก) เป็นแรงดันเลือดขณะหัวใจห้องด้านล่างซ้ายคลายตัว  ระดับความดันโลหิตที่ถือว่าสูงนั้น จะมีค่าความดันเลือดตั้งแต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอท

    ด้วยเหตุนี้โรคความดันเลือดสูง ก็เลยเป็นโรคหรือภาวะที่แรงดันเลือดในหลอดเลือดแดงมีค่าสูงกว่าค่ามาตรฐานสังกัดขั้นตอนการวัด โดยหากวัดที่สถานพยาบาล ค่าความดันเลือดตัวบนสูงขึ้นมากยิ่งกว่าหรือพอๆกับ 140 มิลลิเมตร ปรอท(มม.ปรอท, MMhg) และ/หรือความดันเลือดตัวล่างสูงขึ้นยิ่งกว่าหรือพอๆกับ 90 มิลลิเมตรปรอท อย่างต่ำ 2 ครั้ง แม้กระนั้นถ้าเกิดเป็นการวัดความดันเองที่บ้านค่าความดันโลหิตตัวบนสูงขึ้นยิ่งกว่าหรือเท่ากับ 135 มิลลิเมตรปรอทและ/หรือความดันโลหิตตัวด้านล่างสูงขึ้นยิ่งกว่าหรือเท่ากับ 85 มิลลิเมตรปรอทเป็นต้น ดังตารางที่ 1




     


    SBP


    DBP




    Office or clinic
    24-hour
    Day
    Night
    Home


    140
    125-130
    130-135
    120
    130-135


    90
    80
    85
    70
    85




    หมายเหตุ SBP=systolic blood pressure, DBP=diastolic blood pressure
    ปี 2556คนประเทศไทยป่วยเป็นโรคความดันเลือดแทบ 11 ล้านคน เสียชีวิต 5,165 คน และก็พบเจ็บไข้ราย ใหม่เพิ่มเกือบจะ 1 แสนคน จำนวนร้อยละ 50 ไม่รู้ตัวเพราะไม่เคยตรวจสุขภาพ ในกรุ๊ปที่ป่วยแล้วพบว่ามีเพียงแต่ 1 ใน 4 ที่ควบคุมความดันได้ ที่เหลือยังมีความประพฤติปฏิบัติน่าห่วงองค์การอนามัยโลกรายงานว่า โรคความดันเลือดสูงเป็น 1 ในต้นสายปลายเหตุสำคัญ ที่ทำให้พลเมืองอายุสั้น ทั้งโลกมีคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงถึง 1,000 ล้านคน เสียชีวิตปี ละเกือบจะ 8 ล้านคน เฉลี่ยประมาณนาทีละ 15 คน โดย 1 ใน 3 เจอในวัย คนแก่แล้วก็คาดว่า ในปีพุทธศักราช2568 ประชากรวัยผู้ใหญ่ทั้งโลกจะป่วยด้วยโรคนี้เพิ่ม 1,560 ล้านคน

  • สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง ความดันเลือดสูงแยกประเภทตามต้นเหตุการเกิด แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
  • ความดันโลหิตสูงชนิดไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ (primary or essential hypertension) เจอได้ราวๆปริมาณร้อยละ95 ของจำนวนคนแก่โรคความดันเลือดสูงทั้งหมดส่วนใหญ่เจอในคนที่แก่ 60 ปีขึ้นไปและก็พบในเพศหญิงมากกว่าผู้ชาย ปัจจุบันยังไม่เคยทราบสาเหตุที่แจ่มแจ้งแม้กระนั้นอย่างไร ตามคณะกรรมการร่วมแห่งชาติด้านการคาดการณ์รวมทั้งรักษาโรคความดันโลหิตสูง ของอเมริกา พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เกี่ยวพันรวมทั้งผลักดันให้กำเนิดโรคความดันเลือดสูง ได้แก่ กรรมพันธุ์ความอ้วน การมีไขมันในเลือดสูงการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัดแจงไม่บริหารร่างกาย การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์การสูบยาสูบความตึงเครียดอายุแล้วก็มีประวัติครอบครัวเสี่ยงต่อโรคหัวใจรวมทั้งเส้นเลือดซึ่งความดันโลหิตสูงชนิดไม่รู้สาเหตุนี้คือปัญหาสำคัญที่ต้องให้การวินิจฉัยรักษารวมทั้งควบคุมโรคให้ได้อย่างมีคุณภาพ
  • ความดันเลือดสูงประเภทรู้มูลเหตุ(secondary hypertension) ได้น้อยโดยประมาณจำนวนร้อยละ5-10 ส่วนมากมีมูลเหตุมีต้นเหตุมาจากการมีพยาธิภาวะของอวัยวะต่างๆในร่างกายโดยจะส่งผลส่งผลให้เกิดแรงดันเลือดสูงส่วนมาก บางทีอาจกำเนิดพยาธิสภาพที่ไตต่อมหมวกไตโรคหรือความไม่ปกติของระบบประสาทความแปลกของฮอร์โมนโรคของต่อมไร้ท่อร่วมโรคครรภ์เป็นพิษการบาดเจ็บของศีรษะยา และสารเคมีเป็นต้น ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อได้รับการดูแลและรักษาที่ปัจจัยระดับความดันเลือดจะน้อยลงปกติและสามารถรักษาให้หายได้

ด้วยเหตุดังกล่าวจึงสรุปได้ว่า โรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่จะไม่มีต้นเหตุ การควบคุมระดับความดันโลหิตได้ดี จะสามารถช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และก็การตายจากโรคระบบหัวใจ และก็เส้นโลหิตลงได้

  • อาการของโรคความดันเลือดสูง ความสำคัญของโรคความดันเลือดสูงคือ เป็นโรคที่มักไม่มีอาการ รวมทั้งที่เป็นโรคเรื้อรังที่ร้ายแรง (ถ้าเกิดไม่อาจจะควบคุมโรคได้) แม้กระนั้นมักไม่มีอาการ แพทย์บางท่านจึงเรียกโรคความดันโลหิตสูงว่า “เพชฌฆาตเงียบ (Silent killer)” ดังนี้ส่วนใหญ่ของอาการจากโรคความดันเลือดสูง เป็นอาการจากผลข้างเคียง เป็นต้นว่า จากโรคหัวใจ รวมทั้งจากโรคเส้นโลหิตในสมอง หรือ เป็นอาการจากโรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยง เช่น อาการจากโรคเบาหวาน หรือ จากโรคอ้วน หรือเป็นอาการจากโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น โรคเนื้องอกต่อมใต้สมอง

    อาการและก็อาการแสดงที่พบบ่อย คนไข้ที่มีความดันโลหิตสูงน้อยหรือปานกลางไม่เจออาการแสดงเจาะจงที่ชี้ว่ามีภาวการณ์ความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่ การวิเคราะห์พบบ่อยได้จากการที่คนไข้มาตรวจตามนัดหมายหรือมักพบร่วมกับสาเหตุของอาการอื่นซึ่งไม่ใช่ความดันเลือดสูง สำหรับคนป่วยที่หรูหราความดันโลหิตสูงมากมายหรือสูงในระดับรุนแรงแล้วก็เป็นมานานโดยยิ่งไปกว่านั้นในรายที่ยังไม่เคยได้รับการดูแลและรักษาหรือรักษาแต่ไม่สม่ำเสมอไหมได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมมักพบมีลักษณะ ดังนี้

  • ปวดหัวมักพบในคนไข้ที่มีระดับความดันเลือดสูงร้ายแรง โดยลักษณะของอาการปวดศีรษะมักปวด ที่รอบๆกำดันโดยเฉพาะตอนที่ตื่นนอนในเวลาเช้าต่อมาอาการจะเบาๆดียิ่งขึ้นกระทั่งหายไปเองภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงและบางทีอาจเจอมีลักษณะคลื่นไส้อ้วกตามัวมัวด้วยโดยพบว่าลักษณะของการปวดหัวเกิด จากมีการเพิ่มแรงกดดันในกะโหลกศีรษะมากในช่วงช่วงเวลาหลังตื่นนอนเพราะว่าในช่วงเวลาค่ำคืนขณะนอนหลับศูนย์ควบคุมการหายใจในสมองจะลดการกระตุ้น จึงทำให้มีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์มีผลทำให้เส้นโลหิตทั่ว ร่างกายโดยเฉพาะในสมองขยายขนาดมากยิ่งขึ้นก็เลยเพิ่มแรงกดดันในกะโหลกศีรษะ
  • เวียนศีรษะ (dizziness) พบเกิดร่วมกับลักษณะของการปวดศีรษะ
  • เลือดกา เดาไหล(epistaxis)
  • เหนื่อยขณะทา งานหรืออาการหอบนอนราบมิได้แสดงถึงการมีสภาวะหัวใจห้องข้างล่างซ้ายล้มเหลว
  • อาการอื่นๆที่อาจเจอร่วมตัวอย่างเช่นลักษณะการเจ็บทรวงอกสโมสรกับภาวการณ์กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จากการมีเส้นเลือดหัวใจตีบหรือจากการมีกล้ามเนื้อหัวใจหนามากจากภาวะความดันเลือดสูงที่เป็นมานานๆ

ฉะนั้นถ้ามีภาวการณ์ความดันโลหิตสูงอยู่เป็นเวลานานๆก็เลยอาจมีผลต่ออวัยวะที่สำคัญต่างๆของร่างกายนำมาซึ่งการก่อให้เกิดความเสื่อมสภาพถูกทำลายรวมทั้งบางทีอาจเกิดภาวะสอดแทรกตามมาได้
ภาวะแทรกซ้อนของโรคความดันเลือดสูง ในคนไข้โรคความดันโลหิตสูงบางรายบางทีอาจไม่พบมีอาการหรืออาการแสดงอะไรก็ตามรวมทั้งบางรายอาจ พบอาการแสดงจากภาวะแทรกซ้อนของโรคความดันโลหิตสูงต่ออวัยวะต่างๆได้ดังนี้

  • สมองความดัน เลือดสูงจะทา ให้ผนังเส้นโลหิตแดงที่ไปเลี้ยงสมองมีลักษณะครึ้มตัวแล้วก็แข็งตัวด้านในหลอดเลือดตีบแคบรูของเส้นเลือดแดงแคบลงทา ให้การไหลเวียนของโลหิตไปเลี้ยงสมองน้อยลงและขาดเลือดไปเลี้ยง เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะสมองขาดเลือดไปเลี้ยงชั่วคราวคนไข้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงจึงได้โอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) ได้มากกว่า บุคคลธรรมดา

ยิ่งไปกว่านี้ยังทำให้มีการเปลี่ยนที่ฝาผนังเซลล์สมองทา ให้เซลล์สมองบวมผู้เจ็บป่วยจะมีลักษณะอาการไม่ปกติของระบบประสาทการรับรู้ความทรงจำลดน้อยลงและก็บางทีอาจรุนแรงเสียชีวิตได้ ซึ่งเป็นต้นเหตุการเสียชีวิตถึงปริมาณร้อยละ50 และก็ส่งผลทำให้คนที่รอดชีวิตเกิดความพิการตามมา

  • หัวใจ ระดับความดันโลหิตสูงเรื้อรังจะส่งผลทา ให้ฝาผนังเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงหัวใจดกตัวขึ้นจำนวนเลือดเลี้ยงหัวใจน้อยลงหัวใจห้องล่างซ้ายทำงานมากมาขึ้น จำต้องบีบตัวเพิ่มขึ้นเพื่อต้านทานแรงกดดันเลือดในหลอดเลือดแดงที่เพิ่มขึ้นด้วยเหตุนั้น ในช่วงแรกกล้ามเนื้อหัวใจจะปรับพฤติกรรมจากสภาวะความดันโลหิตสูงโดยหัวใจบีบตัวมากขึ้น เพื่อสามารถต้านกับแรงต้านทานที่มากยิ่งขึ้นและก็มีการขยายตัวทำให้เพิ่มความดกของผนังหัวใจห้องข้างล่างซ้ายกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดสภาวะหัวใจห้องข้างล่างซ้ายโต (left ventricular hypertrophy) แม้ยังมิได้รับการดูแลและรักษาและเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจไม่อาจจะขยายตัวได้อีก จะทำให้การทำงานของหัวใจไม่มี
ประสิทธิภาพเกิดภาวะหัวใจวายกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวแล้วก็เสียชีวิตได้

  • ไต ระดับความดันเลือดเรื้อรังส่งผลนำมาซึ่งการก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตครึ้มตัวแล้วก็แข็งขึ้น เส้นโลหิตตีบแคบลงส่งผลให้เส้นเลือดแดงเสื่อมจากการไหลเวียนของปริมาณเลือดไปเลี้ยงไตลดน้อยลงประสิทธิภาพการกรองของเสียน้อยลงรวมทั้งทา ให้มีการคั่งของเสียไตย่อยสลาย รวมทั้งขายหน้าที่เกิดสภาวะไตวายและก็ได้โอกาสเสียชีวิตได้ มีการเรียนรู้พบว่าคนป่วยโรคความดันเลือดสูงประมาณจำนวนร้อยละ10 มักเสียชีวิตด้วยสภาวะไตวาย
  • ตา คนป่วยที่มีภาวการณ์ความดันเลือดสูงร้ายแรงรวมทั้งเรื้อรังจะทำให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของฝาผนังเส้นเลือดที่ตาครึ้มตัวขึ้นมีแรงดัน ในหลอดเลือดสูงขึ้นมีการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงตาตีบลงเส้นเลือดฝอยตีบแคบอย่างเร็วมีการหดเกร็งเฉพาะที่อาจมีเลือดออกที่เรตินาทำให้มีการบวมของจอภาพนัตย์ตา หรือหน้าจอประสาทตาบวม (papilledema) ทำให้การมองเห็นลดน้อยลงมีจุดบอดบางจุดที่ลานสายตา (scotomata) ตามัวแล้วก็ได้โอกาสตาบอดได้
  • เส้นโลหิตในร่างกาย ความดันเลือดสูงจากแรงต้านเส้นโลหิตส่วนปลายมากขึ้นฝาผนังเส้นโลหิตหนาตัวจากเซลล์กล้ามเรียบถูกกระตุ้น ให้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากมีไขมัน ไปเกาะฝาผนังเส้นเลือดทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัว (artherosclerosis) มีการเปลี่ยนของผนังเส้นโลหิตดกและตีบแคบการไหลเวียนของโลหิตไป เลี้ยงสมองหัวใจไตและก็ตาลดลงทา ให้เกิดภาวะเข้าแทรกของอวัยวะดังกล่าวข้างต้นตามมาไดแก้โรคหัวใจและก็
เส้นเลือดโรคเส้นเลือดสมองและก็ไตวายฯลฯ

  • ปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคความดันโลหิต ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคความดันเลือดสูง อย่างเช่น กรรมพันธุ์ จังหวะมีความดันโลหิตสูง จะสูงมากขึ้นเมื่อมีคนภายในครอบครัวเป็นโรคนี้ เบาหวาน ด้วยเหตุว่าทำให้เกิดการอักเสบ ตีบแคบของหลอดเลือดต่างๆรวมถึงหลอดเลือดไต โรคอ้วน และก็น้ำหนักตัวเกิน เพราะว่าเป็นสาเหตุสำคัญของโรคเบาหวาน และก็โรคเส้นเลือดต่างๆตีบจากภาวะไขมันเกาะฝาผนังหลอดเลือด โรคไตเรื้อรัง เพราะว่าจะส่งผลถึงการผลิตเอ็นไซม์รวมทั้งฮอร์โมนที่ควบคุมความดันโลหิตดังที่กล่าวถึงมาแล้วแล้ว โรคนอนแล้วหยุดหายใจ (Sleep apnea) สูบบุหรี่ เนื่องจากสารพิษในควันของบุหรี่เป็นสาเหตุของการเกิดการอักเสบ ตีบตันของเส้นโลหิตต่าง รวมทั้งเส้นโลหิตไต รวมทั้งเส้นเลือดหัวใจ การติดเหล้า ซึ่งยังไม่รู้ชัดเจนถึงกลไกว่าเพราะเหตุใดดื่มสุราแล้วจึงเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดความดันเลือดสูง แต่การเล่าเรียนต่างๆได้ผลตรงกันว่า คนที่ติดเหล้า จะนำมาซึ่งการทำให้หัวใจเต้นแรงกว่าปกติ แล้วก็มีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูง ถึงโดยประมาณ 50%ของผู้ติดเหล้าทั้งปวง ทานอาหารเค็มเป็นประจำ ตลอด ดังเหตุผลดังได้กล่าวแล้ว ขาดการออกกำลังกาย ด้วยเหตุว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคอ้วนแล้วก็เบาหวาน ผลกระทบจากยาบางจำพวก อย่างเช่น ยาในกลุ่มสเตียรอยด์
  • วิธีการรักษาโรคความดันโลหิตสูง การวิเคราะห์โรคความดันเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูงวิเคราะห์จากการที่มีความดันเลือดสูงตลอดเวลา ซึ่งตรวจพบติดต่อกัน 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งควรจะห่างกัน 1 เดือน อย่างไรก็ตามถ้าหากตรวจพบว่าความดันเลือดสูงมาก (ความดันตัวบนสูงขึ้นยิ่งกว่า 180 mmHg หรือ ความดันตัวข้างล่างสูงขึ้นมากยิ่งกว่า 110 mmHg) หรือมีความผิดปกติของหลักการทำงานของอวัยวะจากผลของ   ความดันเลือดสูงร่วมด้วย ก็ถือว่าวินิจฉัยเป็นโรคความดันโลหิตสูง แล้วก็จะต้องรีบได้รับการดูแลและรักษา แพทย์วินิจฉัยโรค   ความดันโลหิตสูงได้จาก เรื่องราวอาการ เรื่องราวไม่สบายทั้งยังในอดีตกาลและก็ปัจจุบัน เรื่องราวรับประทาน/ใช้ยา การวัดความดันเลือด (ควรวัดที่บ้านร่วมด้วยหากว่ามีวัสดุ ด้วยเหตุว่าครั้งคราวค่าที่วัดถึงที่เหมาะโรงพยาบาลสูงขึ้นมากยิ่งกว่าค่าที่วัดเหมาะบ้าน) เมื่อวิเคราะห์ว่าเป็นความดันโลหิตสูง ควรจะตรวจร่างกาย และส่งไปตรวจอื่นๆเพิ่มอีกเพื่อหาปัจจัย หรือปัจจัยเสี่ยง นอกจากนั้น ควรต้องตรวจค้นผลกระทบของความดันเลือดสูงต่ออวัยวะต่างๆเช่น หัวใจ ตา รวมทั้งไต เป็นต้นว่า ตรวจเลือดดูค่าน้ำตาลและไขมันในเลือด มองลักษณะการทำงานของไต รวมทั้งค่าเกลือแร่ในร่างกาย ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจมองหลักการทำงานของหัวใจ และก็เอกซเรย์ปอด ดังนี้การตรวจเพิ่มเติมอีกต่างๆจะสังกัดอาการคนป่วย และดุลยพินิจของหมอแค่นั้น
ชมรมความดันโลหิตสูงที่ประเทศไทย ได้แบ่งระดับความรุนแรงของความดันโลหิตสูง ดังต่อไปนี้




ระดับความรุนแรง


ความดันโลหิตตัวบน


ความดันโลหิตตัวล่าง




ความดันโลหิตปกติ
ระยะก่อนความดันโลหิต
ความดันโลหิตสูงระยะที่ 1
ความดันโลหิตสูงระยะที่ 2


น้อยกว่า 120 และ
120 – 139/หรือ
140 – 159/หรือ
มากกว่า 160/หรือ


น้อยกว่า 80
80 – 89
90 – 99
มากกว่า 100




หมายเหตุ : หน่วยวัดความดันโลหิตเป็น มิลลิเมตรปรอท
คนที่มีความดันเลือดสูงควรจะควบคุมระดับความดันเลือดให้น้อยกว่า 140/90 มม.ปรอทรวมทั้งใน คนที่มีสภาวะเสี่ยงควรจะควบคุมระดับความดันเลือดให้ต่ำลงมากยิ่งกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท และลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดป้องกันความพิกลพิการรวมทั้งลดการเกิดภาวะแทรกฝึกซ้อมต่ออวัยวะเป้าหมายที่สำคัญของร่างกายได้แก่สมองหัวใจไตแล้วก็ตารวมทั้งอวัยวะสำคัญอื่นๆซึ่งสำหรับเพื่อการรักษาและก็ควบคุมระดับความดันเลือดให้เข้าขั้นธรรมดามี 2 วิธีเป็นการดูแลและรักษาใช้ยาแล้วก็การรักษาโดยไม่ใช้ยาหรือขั้นตอนการปรับเปลี่ยนแบบแผนการดำนงชีพ
การดูแลรักษาโดยวิธีการใช้ยา  (pharmacologic treatment) จุดหมายสำหรับในการลดความดันโลหิตโดยการใช้ยาคือการควบคุมระดับความดันโลหิตให้ลดต่ำลงมากยิ่งกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท โดยลดแรงต่อต้านของเส้นเลือดส่วนปลายรวมทั้งเพิ่มปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจการเลือกใช้ยา ในคนป่วยโรคความดันโลหิตสูงจึงขึ้นกับความเหมาะสมของคนป่วยแต่ละรายและควรจะใคร่ครวญต้นสายปลายเหตุต่างๆเช่นความร้ายแรงของระดับความดันเลือดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่ออวัยวะสำคัญ โรคที่มีอยู่เดิมปัจจัยเสี่ยงอื่นๆซึ่งยาที่ใช้สำหรับการรักษาภาวะความดันโลหิตสูงสามารถแบ่งได้ 7 กลุ่มดังต่อไปนี้
ยาขับเยี่ยว  (diuretics) เป็นกรุ๊ปยาที่นิยมใช้ในผู้ป่วยที่มีการปฏิบัติงานของไตแล้วก็หัวใจผิดปกติ ยากลุ่มนี้ได้แก่ ฟูโรซีมายด์ (furosemide) สไปโรโนแลคโตน(spironolactone) เมโทลาโซน (metolazone)
ยาต่อต้านเบต้า (beta adrenergic receptor blockers) ยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์โดยรวมกับเบต้าอดรีเนอร์จิกรีเซฟเตอร์  (beta adrenergic receptors) อยู่ที่ศีรษะดวงใจรวมทั้งหลอดเลือดแดงเพื่อยั้งการโต้ตอบต่อประสาทซิมพาธิติกลดอัตราการเต้นของหัวใจทำให้หัวใจเต้นช้าลงและก็ความดันเลือดต่ำลง ยาในกลุ่มนี้ อาทิเช่น โพรพาโนลอล (propanolol)หรืออะหนโนลอล (atenolol)
ยาที่ออกฤทธิ์ห้ามตัวรับแองจิโอเทนซินทู (angiotensin II receptorblockersARBs) ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์ขยายเส้นเลือดโดยไม่ทำให้ระดับของเบรดดีไคนินมากขึ้นยากลุ่มนี้ อย่างเช่น แคนเดซาแทน  (candesartan), โลซาแทน (losartan) เป็นต้น
ยาต่อต้านแคลเซียม (calcium antagonists) ยากลุ่มนี้ยับยั้งการเคลื่อนเข้าของประจุแคลเซียมในเซลล์ทำให้กล้ามผนังหลอดเลือดคลายตัวอาจจะส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง เป็นต้นว่า ยาเวอราขว้างไม่วล์   (verapamil) หรือเนฟเฟดิปีน (nifedipine)
ยาต่อต้านอัลฟาวันอดรีเนอร์จิก (alpha I-adrenergic blockers) ยามีฤทธิ์ต้านทานโพสไซแนปตำหนิกอัลฟาวันรีเซฟเตอร์ (postsynaptic alpha 1-receptors) รวมทั้งออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือดส่วนปลายทำให้เส้นเลือดขยายตัว ยาในกลุ่มนี้ดังเช่น พราโซซีน prazosin) หรือดอกซาโซซีน (doxazosin)
ยาที่ยับยั้งไม่ให้มีการสร้างแองจิโอเทนซินทู (angiotensin II convertingenzyme ACE inhibitors)ยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์โดยการยังยั้งแองจิโอเทนซินในการเปลี่ยนแปลงแองจิโอเทนสินวันเป็นแองจิโอเทนสินทูซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ยาในกลุ่มนี้ยกตัวอย่างเช่นอีนาลาพริล (enalapril)
ยาขยายเส้นโลหิต (vasodilators) ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์โดยตรงต่อกล้ามเนื้อเรียบที่อยู่บริเวณเส้นโลหิตแดงทำให้กล้ามคลายตัวและยาต่อต้านทางในผนังเส้นเลือดส่วนปลาย ยาในกลุ่มนี้อย่างเช่นไฮดราลาซีน (hydralazine), ไฮโดรคลอไรด์ (hydrochloride), ลาเบลทาลอล (labetalol)
การดูแลรักษาโดยไม่ใช้ยาหรือการเปลี่ยนแปลงแบบแผนการดำรงชีวิต (lifestylemodification)  เป็นความประพฤติปฏิบัติสุขภาพที่ต้องปฏิบัติบ่อยๆเป็นประจำเพื่อลดระดับความดันโลหิต แล้วก็ปกป้องภาวะแทรกซ้อนกับอวัยวะสำคัญคนเจ็บโรคความดันเลือดสูงทุกราย ควรได้รับคำเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนแบบแผนการดำเนินชีวิตพร้อมกันไปกับการดูแลและรักษาด้วยยา คนป่วยควรจะมีพฤติกรรมช่วยเหลือสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ดังต่อไปนี้ การควบคุมของกินและก็ควบคุมน้ำหนักตัว  การจำกัดอาหารที่มีเกลือโซเดียม  การบริหารร่างกาย การงดสูบบุหรี่ การลดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์  การจัดการกับความตึงเครียด

  • การติดต่อของโรคความดันเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่เกิดจาก ภาวะแรงดันเลือดในหลอดเลือดสูงขึ้นมากยิ่งกว่าค่ามาตรฐาน ดังนั้นโรคความดันโลหิตสูงก็เลยเป็นโรคที่ไม่มีการติดต่อจากคนสู่คนหรือจากสัตว์สู่คน
  • การปฏิบัติตนเมื่อเป็นโรคความดันเลือดสูง เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค
  • การลดหุ่นในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน องค์การอนามัยโลกชี้แนะว่าในตอนแรกควรลดหุ่น อย่างต่ำ 5 กิโล ในคนไข้ความดันโลหิตสูง ที่มีน้ำหนักเกิน
  • การลดปริมาณโซเดียม (เกลือ) ในอาหาร ลดโซเดียมในของกิน เหลือวันละ 0.5 – 2.3 กรัม หรือ เกลือโซเดียมคลอไรด์ 1.2 – 5.8 กรัม
  • ลดจำนวนแอลกอฮอล์ หรือจำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิด 20 – 30 กรัมต่อวันในเพศชาย หรือ 10 – 20 กรัม ในเพศหญิง

จากการศึกษาอาหารสำหรับผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูงเรามักจะได้ยินชื่อ DASH (Dietary Approaches to stop Hypertension) เป็นของกินที่อุดมไปด้วยผัก ผลไม้ รวมทั้งสินค้านมไขมันต่ำ ร่วมกับการลดจำนวนไขมัน รวมทั้งไขมันอิ่มตัวในอาหาร
ตารางแสดงตัวอย่างอาหาร DASH diet/ต่อวัน ได้พลังงาน 2100 กิโลแคลอรี่




หมวดอาหาร


ตัวอย่างอาหารในแต่ละส่วน




ผัก


ผักดิบประมาณ 1 ถ้วยตวง
ผักสุกประมาณ ½ ถ้วยตวง




ผลไม้


มะม่วง ½ ผล ส้ม 1 ลูก เงาะ 6 ผล กล้วยน้ำว้า 1 ผล แตงโม 10 ชิ้น
ฝรั่ง 1 ผลเล็ก มังคุด 1 ผลเล็ก




นม

  • นมพร่องมันเนย
  • นมครบส่วน



 
1 กล่อง (240 ซีซี)
1 กล่อง (240 ซีซี)




ไขมัน
ปลาและสัตว์ปีก


น้ำมัน 5 ซีซี เนย/มาการีน 5 กรัม
ปริมาณ 30 กรัม (ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ)




แป้ง,ข้าว,ธัญพืช


ขนมปัง 1 แผ่น ข้าวสวย 1 ทัพพี




 (https://uppic.cc/d/979)
 
ออกกำลังกาย การออกกำลังกายสำหรับผู้ที่มีความดันเลือดสูง ควรจะบริหารร่างกายแบบแอโรบิค (แบบใช้ออกสิเจน) คือ การบริหารร่างกายที่มีการเคลื่อนไหวโดยตลอดในช่วงช่วงเวลาหนึ่งของกล้ามผูกใหญ่ๆซึ่งเป็นการใช้ออกสิเจนสำหรับในการให้พลังงาน จะได้ประโยชน์ต่อระบบหัวใจแบะเส้นโลหิต อย่างเช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ฯลฯ ซึ่งการออกกกำลังกายควรปฏิบัติทุกวัน ขั้นต่ำวันละ 30 นาที หากไม่มีข้อบังคับ
                บริหารคลายความเครียด การจัดการผ่อนคลายความเครียดในชีวิตประจำวัน ตามหลักเหตุผลแล้วก็หลักจิตวิทยามีอยู่ 2 วิธี
-              พยายามหลบหลีกเรื่องราวหรือภาวะที่จะส่งผลให้เกิดความเคร่งเครียดมาก
-              ควบคุมปฏิกิริยาของตนเอง ต่อสิ่งที่รู้สึกทำให้พวกเราเครียด
รับประทานยาและก็รับการรักษาต่อเนื่อง รับประทานยาตามหมอสั่งสม่ำเสมอไม่ขาดยา และก็เจอแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ไม่ควรหยุดยาหรือเปลี่ยนแปลงยาด้วยตัวเอง สำหรับคนเจ็บที่ทานยาขับเยี่ยว ควรกินส้มหรือกล้วยบ่อยๆ เพื่อชดเชยโปแตสเซียมที่สูญเสียไปในปัสสาวะรีบเจอแพทย์ด้านใน 24 ชั่วโมง หรือ รีบด่วน มีอาการดังนี้  ปวดศีรษะมาก อ่อนล้าอย่างมากกว่าปกติมากมาย เท้าบวม (อาการโรคหัวใจล้มเหลว) เจ็บแน่นหน้าอก ใจสั่น เหงื่อออกมาก จะเป็นลม (อาการจากโรคเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งจำต้องเจอแพทย์รีบด่วน) แขน ขาอ่อนแรง กล่าวไม่ชัดเจน ปากเบี้ยว อาเจียน คลื่นไส้ (อาการจากโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งจำต้องพบแพทย์เร่งด่วน)

  • การปกป้องตัวเองจากโรคความดันเลือดสูง สิ่งจำเป็นที่สุดที่จะคุ้มครองปกป้องการเกิดโรคความดันเลือดสูง เป็นการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตอีกทั้งเรื่องการรับประทาน การออกกำลังกายโดย

-              ควรควบคุมน้ำหนัก
-              กินอาหารที่มีประโยชน์ ครบอีกทั้ง 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม เพิ่มผักผลไม้ในมื้อของกินประเภทไม่หวานมากมายให้มากมายๆ
-              บริหารร่างกาย โดยออกเป็นเวลายาวนานกว่า 30 นาที แล้วก็ออกดูเหมือนจะทุกวัน
-              ลดจำนวนเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
-              พักผ่อนให้พอเพียง
-              รักษาสุขภาพจิต และก็อารมณ์
-              ตรวจสุขภาพรายปี ซึ่งรวมถึงตรวจวัดความดันเลือด เริ่มได้ตั้งแต่อายุ 18-20 ปี หลังจากนั้นตรวจสุขภาพบ่อยมากตามแพทย์ และก็พยาบาลแนะนำ
-              ลดของกินเค็ม หรือโซเดียมคลอไรด์ น้อยกว่า 6 กรัม ต่อวัน) รับประทานอาหารชนิดผัก รวมทั้งผลไม้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ข้อเสนอสำหรับในการลดการบริโภคเกลือและก็โซเดียม :-
เลือกซื้อผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ที่สดใหม่แทนแนวทางในการเลือกซื้ออาหารบรรจุกระป๋อง ผักดองและก็อาหารสำเร็จรูป
หากจำเป็นต้องเลือกซื้ออาหารกระป๋องหรืออาหารสำเร็จรูปควรอ่านฉลากของกินทุกครั้ง รวมทั้งเลือกสินค้าที่มีจำนวนโซเดียมต่ำหรือน้อย (สำหรับประชากรทั่วๆไปควรบริโภคเกลือไม่เกินวันละ 1 ช้อนชา หรือน้อยกว่า 6 กรัมต่อวัน) ล้างผักรวมทั้งเนื้อสัตว์ที่ใช้ปรุงอาหารให้สะอาด เพื่อชะล้างเกลือออก ลดการใช้เกลือแล้วก็เครื่องปรุงรส หันมาใช้เครื่องเทศรวมทั้งสมุนไพรที่มีปริมาณโซเดียมต่ำ อาทิเช่น หัวหอม กระเทียม ขิง พริกไทย มะนาว ผงกระหยี แทนไม่วางภาชนะหรือขวดใส่เกลือและเครื่องปรุงรสต่างๆดังเช่น ซอส  ซีอิ๊วขาวและก็น้ำปลาไว้บนโต๊ะอาหารทุกมื้อชิมของกินก่อนกิน ฝึกการรับประทานอาหารที่มีรสชาติพอเหมาะพอควร ไม่เค็มจัดหรือหวานจัด ทำกับข้าวกินอาหารเองแทนการทานอาหารนอกบ้าน    หรือการซื้ออาหารสำเร็
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ