ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: lnwneverdie2015 ที่ เมษายน 12, 2015, 03:32:38 pm



หัวข้อ: การใช้งาน เครื่องมือวัด fluke แบบทั่วไป ได้ไม่ยาก
เริ่มหัวข้อโดย: lnwneverdie2015 ที่ เมษายน 12, 2015, 03:32:38 pm
(http://smi-i.com/admin/core/product2/1397.jpg)
เครื่องมือช่างไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ช่างไฟทั่วไป หรือพ่อบ้านทั่วไป จำเป็นต้องฝึกฝนรู้จักการใช้งานให้คล่องแคล่ว มากกว่าการรู้แต่เพียงทฤษฏีเท่านั้น และมัลติมิเตอร์ เป็นอีกอุปกรณ์ไฟฟ้าอีกตัวที่จำเป็นอย่างมากช่างสมัครเล่น เพราะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือชิ้นต้นๆ ที่ช่วยให้เพื่อนๆเข้าใจเรื่องทฤษฏีไฟฟ้า กระนั้นท่านต้องเลือกซื้อหา ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ สักตัวก่อน ซึ่งมีอยู่มากมายหลายยี่ห้อในตลาด ทั้งที่ราคาที่ไม่แพง และราคาสูงแตกต่างกัน บางรุ่นจะมีฟังค์ชั่นพิเศษ เช่น วัดอุณหภูมิองศาฟาเรนไฮน์ได้  แต่ส่วนใหญ่แล้วมัลติมิเตอร์ ราคาถูกจะจะแสดงค่าคลาดเคลื่อนมากนัก เราขอแนะนำมัลติมิเตอร์ยี่ห้อ fluke ซึ่งแม้จะมีราคาค่างวดที่สูงสักนิด แต่ทนทาน ตามมาตรฐานสากล และอ่านค่าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเรียกว่าซื้อทีเดียวใช้คุ้ม โดยเพื่อนๆสามารถสั่งออนไลน์ผ่าน ตัวแทนจำหน่าย fluke ได้ สำหรับงานไฟฟ้าทั่วไป แนะนำรุ่น FLUKE 117 ซึ่งมีคุณสมบัติการวัดพื้นฐานครบถ้วนเหมาะกับมือสมัครเล่นมากครับ
เครื่องมือวัดไฟ คืออะไร
เครื่องมือวัดไฟ เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ช่วยให้เพื่อนๆสามารถวัดค่าไฟฟ้าต่างๆ เช่น แรงดันไฟฟ้า, แอมแปร์, โอห์มมิเตอร์ และความต่อเนื่อง เครื่องมือวัด fluke 117 มีฟังชันก์ เหล่านี้ทั้งหมดนี้ หน้าจอ fluke 117 บอกผลตัวเลข 4 หลัก ซึ่งเหมาะมากสำหรับมือสมัครเล่น ดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะมีช่วงพิสัยต่างๆ ให้เลือก โดยการปรับหน้าปัดไปที่โหมดย่านเหล่านั้น ตามสัญลักษณ์ ดังนี้
V วัดค่าโวลต์ ทั้งแบบDC และไฟฟ้ากระแสสลับ
mV วัดแรงดันไฟฟ้า มิลลิแอมป์ แบบไฟฟ้ากระแสตรง และไฟฟ้ากระแสสลับ
Ω วัดค่าความต้านทาน
A วัดกระแส แบบDC และไฟฟ้ากระแสสลับ
และย่านวัดความต่อเนื่องสำหรับ ตรวจสอบสายไฟขาด
สำหรับกระบวนการการวัดค่าไฟโหมดพื้นฐานต่างๆ เราได้รวบรวมวิธีการไว้ดังต่อไปนี้
การตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า
การวัดค่าโวลต์ หรือโวลต์ ย่าน DCและ AC ก่อนอื่นคุณต้องหาแบตเตอรี่ 9v ที่ที่ใช้แล้วมาทำการทดสอบจากนั้น
1.เสียบขั้วลบสีดำเข้ากับช่อง COM (common) ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
2.ต่อสายแดงเข้าช่อง V
3.บิดลูกบิดไปยังย่านโหมด V แรงดันไฟฟ้า แรงดันDCสูง หรือไฟฟ้ากระแสตรงต่ำ mV จอจะขึ้นโหมด DC
4.นำสายสีแดงสัมผัสที่ขั้วบวก แท่งสายสีดำแตะขั้วลบ ของแบตเตอรี่
5.ค่าของแรงดันไฟฟ้า ของแบตเตอรี่จะขึ้นตัวเลขที่หน้าจอบนดิจิตอลมัลติมิเตอร์
6.ในกรณีวัดไฟบ้าน ให้ปรับลูกบิดไปที่ย่าน V โวลต์ AC สูง Hz เท่านั้น ซึ่งหน้าจอจะเห็นสัญลักษณ์ AC
7.เสียบสายทั้งสองสีที่ปลั๊กไฟบ้าน แต่ต้องระวังอย่าให้ทั้งแท่งสายขั้วบวกลบสัมผัสกัน หรือนิ้วสัมผัสที่ปลายเหล็ก ซึ่งไฟกระแสตรงเมืองไทยจะขึ้นค่าประมาณ 220V
(http://smi-i.com/admin/core/product2/159.jpg)
การปริมาณไฟฟ้า
1.เสียบสายดำเข้ากับช่อง COM (common)
2.ต่อขั้วบวกของสายสีแดงที่ช่อง A ซึ่งเครื่องมือวัด fluke 117 สามารถตรวจสอบปริมาณไฟได้ถึงเพียงแค่ 10A
3.บิดลูกบิดไปยังย่านสัญลักษณ์ แอมแปร์ ไฟกระแสตรง
4.ทำการต่อสายสีดำ-แดงเชื่อม เข้าโหลดแหล่งจ่ายไฟฟ้าแบบอนุกรม ค่าปริมาณไฟฟ้าที่ผ่านตัวเครื่องจะแสดงขึ้นที่จอ
5.กรณีต้องการวัดไฟฟ้ากระแสสลับ ให้บิดลูกบิดไปที่ ย่านวัดกระแสสูง หรือเครื่องหมาย A Hz ต่อสายแดงดำ เข้าโหลดกับวงจรแบบอนุกรม ตัวเลขปริมาณกระแสไฟ ACจะแสดงที่จอดิจิตอลมัลติมิเตอร์ กระนั้นควรระมัดระวังเสมอว่าสามารถวัดกระแสมีลิมิตไม่เกิน 10A เท่านั้น ถ้านำไปตรวจสอบกระแสไฟที่ปริมาณมากกว่านั้น ฟิวส์ภายในเครื่องมือวัดไฟจะระเบิด ทำให้เครื่องมือวัดไฟเสียหายได้
การวัดค่าโอห์ม
การวัดความต้านทาน หรือ R คือ ตัวต้านทาน กระแสไฟ เพื่อลดกระแสให้พอดีกับอุปกรณ์หรือวงจรต่างๆ
1.เสียบสายขั้วบวกลบ เหมือนการวัดค่าโวลต์ สายสีแดงแทงเข้ากับเครื่องหมาย Ω โอห์ม สัญลักษณ์กรีกโบราณ ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
2. บิดลูกบิดไปยังย่านโหมด Ω ความต้านทาน และหากเอาขั้วสายทั้งสองเส้นมาสัมผัสกันจะไม่มีความต้านทาน มิเตอร์จะแสดงผลที่ 0 โอห์ม คือความต้านทานไม่มี
3.นำสายแดงดำ ไปสัมผัสยังด้านปลายของวัสดุที่จะวัดค่าความต้านทาน
4.จากนั้นจอเครื่องวัดจะแสดงตัวเลขค่าRของสายไฟนั้นๆ ซึ่งถ้าไม่มีโอห์มแล้ว หน้าจอจะเท่ากับ 0
การตรวจวัดความต่อเนื่อง หรือวิธีเช็คสาย
การวัดความต่อเนื่อง เป็นการตรวจสอบการนำไฟฟ้าของอุปกรณ์ หรือเช็ควัสดุนำไฟว่าต่อกัน วัสดุนำไฟฟ้าขาดจากกันหรือไม่ ซึ่งมีวิธีการดังนี้
1.ต่อสายสีดำ เข้าช่อง COM (common)
2.แทงสายสีแดงขั้วลบเข้า ช่องโอห์ม ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
3.ปรับหน้าปัดไปที่โหมดย่านความต่อเนื่อง เครื่องหมาย wifi
4.ตรวจสอบโดยการนำแท่งปลายทั้งสองสายมาแตะกัน ซึ่งจะมีเสียงดัง ปี๊บ แสดงว่ามีความต่อเนื่องกัน
5.จากนั้นเอานำขั้วสายทั้งสองเส้น สัมผัสที่ปลายวัสดุที่เราจะตรวจสอบสองข้าง ถ้าหากเครื่องมือวัดส่งเสียงดังบี๊บๆ แสดงว่าสายเชื่อมต่อกัน นั่นเอง แต่ถ้าเครื่องมือวัดไม่ส่งเสียง แสดงว่าสายอาจจะขาดใน
ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ทั้งนี้คุณต้องทำการทดลองฝึกหัดให้เข้าใจ ให้ถ่องแท้ และต้องพึงระวังเสมอเวลาจะตรวจไฟบ้าน ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่มีแรงดันสูง มีความอันตรายมากทีเดียว และหากคุณมีงบประมาณเพียงพอ การซื้อหาเครื่องมัลติมิเตอร์ยี่ห้อ fluke จากตัวแทนจำหน่าย fluke ตามห้างต่างๆ จะช่วยให้เพื่อนๆทำงานได้ไม่ยากเลย เพราะยี่ห้อทั่วไปแล้วจะมีช่วงพิสัยที่ใช้งานยากกว่านี้ แต่กับของ fluke มีการออกแบบระบบทำให้มือใหม่ตรวจวัดไฟได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ความทน fluke ถือเป็นอันดับหนึ่งของโลก

ขอบคุณบทความจาก : http://www.meterdd.com

Tags : เครื่องมือวัด fluke
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ