ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: teareborn ที่ มีนาคม 24, 2018, 11:32:52 am



หัวข้อ: โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ มีนาคม 24, 2018, 11:32:52 am
(https://www.img.in.th/images/1ba72db7814f928bd1646423a7e0feb2.md.jpg)
ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
1.โรคไข้หวัดใหญ่ [/color]เป็นยังไง  ไข้หวัดใหญ่ หรือ ฟลู (Influenza , Flu) เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจเหมือนกับหวัด แต่ว่ามีต้นเหตุจากเชื้อไวรัสคนละจำพวกแล้วก็มีความร้ายแรงสูงกว่าโรคไข้หวัดปกติมาก แล้วก็เป็นอีกโรคหนึ่งพบได้บ่อยในทุกกลุ่มวัยในเด็กกระทั่ง ถึงคนแก่ และก็มีโอกาสกำเนิดโรคใกล้เคียงกันทั้งยังในสตรีแล้วก็ในเพศชาย  โดยมีลักษณะทางสถานพยาบาลที่สำคัญคือ เป็นไข้สูงแบบทันทีทันควัน ปวดศีรษะ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวกล้าม อ่อนแรง ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่สำคัญที่สุดโรคหนึ่งในกลุ่มโรคติดเชื้อเกิดใหม่และก็โรคติดเชื้ออุบัติซ้ำ เนื่องจากเกิดการระบาดใหญ่ทั้งโลก (pandemic) มาแล้วหลายที แต่ละครั้งเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางดูเหมือนจะทุกทวีป ทำให้มีคนไข้และก็เสียชีวิตนับล้านคน

  • ที่มาของไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการตำหนิดเชื้อ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ที่มีชื่อเรียกว่า อินฟลูเอนซาเชื้อไวรัส (Influenza virus) เป็น RNA ไวรัส อยู่ในเชื้อสาย Orthomyxoviridae ที่เจออยู่ในสารคัดหลั่งของคนป่วย ยกตัวอย่างเช่น น้ำมูก น้ำลาย แล้วก็เสมหะ ฯลฯ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชนิด คือ เชื้อ influenza A, B และ C และ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ประเภท A เป็นจำพวกที่ท้าให้เกิดการระบาดอย่าง กว้างใหญ่ทั่วโลก ชนิด B ท้าทายให้เกิดการระบาดในพื้นที่ระดับภูมิภาค ส่วนประเภท C มักเป็นการติดเชื้อที่แสดงอาการ น้อยหรือเปล่าแสดงอาการ และไม่ท้าให้เกิดการระบาด เชื้อไวรัสจำพวก A แบ่งเป็นประเภทย่อย (subtype) ตามความไม่เหมือนของโปรตีนของไวรัสที่เรียกว่า hemagglutinin (H) และ neuraminidase (N) ชนิดย่อยของไวรัส A ที่พบว่าเป็นสาเหตุของการตำหนิดเชื้อในคนที่พบในปัจจุบันเป็นต้นว่า A(H1N1), A(H1N2), A(H3N2), A(H5N1) และก็ A(H9N2) ส่วนเชื้อไวรัสจำพวก B และ C ไม่มีแบ่งเป็นจำพวกย่อย
  • อาการโรคไข้หวัดใหญ่ อาการจะเริ่มข้างหลังได้รับเชื้อ 1-4 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูงแบบฉับพลัน ( 38 ซ ในคนแก่ ส่วนในเด็กมักจะสูงยิ่งกว่านี้) ปวดหัว หนาวสั่น เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวกล้าม เหน็ดเหนื่อยมาก ปวดกระบอกตาเวลาตาเคลื่อนไหว มีน้ำตาไหลเมื่อมีแสงสว่าง แล้วก็อาจเจออาการคัดจมูก เจ็บคอ หากป่วยด้วยช่วงเวลานานอาจจะมีอาการไอจากหลอดลมอักเสบ (post viral bronchitis) อาการจะร้ายแรงและก็เจ็บไข้เป็นเวลายาวนานกว่าไข้หวัดธรรมดา (common cold) ผู้ป่วยโดยมากจะหายเป็นปกติภายใน 1-2 อาทิตย์ แต่มีบางรายที่มีลักษณะอาการร้ายแรง เนื่องด้วยมีภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญเป็น ปอดอักเสบ ซึ่งอาจก่อให้เสียชีวิตได้
  • กรุ๊ปบุคคลแผนการที่มีการเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่

               เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ และก็ข้าราชการที่เกี่ยวเนื่องกับผู้เจ็บป่วยไข้หวัดใหญ่
               ผู้ที่มีโรคเรื้อรังเป็นปอดอุดกันเรื้อรัง อาการหอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย มะเร็งที่กำลังให้เคมี บำบัด เบาหวาน ธาลัสซีเมีย ภูมิต้านทานขาดตกบกพร่อง (รวมถึงผู้ติดโรคเอชไอวีที่มีอาการ)
               บุคคลที่แก่ 65 ปีขึ้นไป
               หญิงท้อง อายุครรภ์ 4 ข้างขึ้นไป
               คนที่มีน้ำหนักมากยิ่งกว่า 100 กิโลขึ้นไป
               ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองมิได้
               เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี

  • แนวทางอาการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ การวินิจฉัยโรคโดยอาการทางสถานพยาบาลยังมีความจำกัด เพราะอาการเหมือนโรคติดเชื้อฟุตบาท หายใจจากเชื้อไวรัสชนิดอื่น การวินิจฉัยควรที่จะใช้ การตรวจทางห้องทดลองเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรค อาทิเช่นตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในเสลดที่ป้ายหรือดูดจากจมูกหรือลำคอ หรือ ตรวจเจอแอนติเจนของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ใน epithelial cell จาก nasopharyngeal secretion โดยแนวทาง fluorescent antibody หรือ ตรวจพบว่ามีการมากขึ้นของระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อในซีรั่มอย่างน้อย 4 เท่าในระยะรุนแรงและระยะพักฟื้น โดยแนวทาง haemaglutination inhibition (HI) ซึ่งเป็นแนวทางมาตรฐาน หรือ complement fixation (CF) หรือ Enzyme - linked immunosorbent assay (ELISA)และก็การใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยาช่วย ดังเช่น ช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรค ไข้หวัดใหญ่ คนไข้ที่มีอาการน้อย ให้การรักษาตามอาการ ตัวอย่างเช่น ยาลดไข้พาราเซตามอล ยาละลายเสมหะ ฯลฯ การให้ยาต้านทานเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในทันทีหลังจากที่มีอาการช่วยลดความร้ายแรงและอัตราตายในผู้ป่วย ยาต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ ยาโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) และก็ซานามิเวียร์ (Zanamivir) การพิจารณาเลือกใช้ตัวไหน ขึ้นอยู่กับข้อมูลความไวของยาต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในแต่ละประเทศส่วนการให้ยาต้านเชื้อไวรัส amantadine hydrochloride หรือยา rimantidine hydrochloride ภายใน 48 ชั่วโมง นาน 3-5 วัน จะช่วยลดอาการและจำนวนเชื้อไวรัสประเภท A ในสารคัดเลือกหลั่งพื้นที่เดินหายใจได้ ปริมาณยาที่ใช้ในเด็กอายุ 1-9 ปี ให้ขนาด 5 มก./กิโลกรัม/วัน แบ่งให้ 2 ครั้ง สำหรับคนป่วยอายุ 9 ปีขึ้นไปให้ขนาด 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง (แต่ถ้าเกิดผู้ป่วยน้ำหนักน้อยกว่า 45 กิโลกรัม ให้ใช้ขนาดเดียวกับเด็กอายุ 1-9 ปี) นาน 2-5 วัน สำหรับผู้เจ็บป่วยอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือคนที่หลักการทำงานของตับและไตเปลี่ยนไปจากปกติ จะต้องลดปริมาณยาลง ในระยะหลังๆของการรักษาด้วยยาต้านทานไวรัส อาจพบการดื้อยาและก็ตามด้วยการแพร่โรคไปยังคนอื่นๆได้ กรณีนี้อาจจะต้องให้ยาต้านทานไวรัสแก่ผู้เสี่ยงโรคสูงที่อยู่รวมกันเป็นกรุ๊ป หากมีอาการแทรกซ้อนจากเชื้อแบคทีเรียจำเป็นต้องให้ยายาปฏิชีวนะด้วย รวมทั้งควรเลี่ยงยาลดไข้พวก salicylates เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค Reye's syndrome
(https://www.img.in.th/images/08df53c543f447fc31d1e6b566e4714f.jpg)
6.การติดต่อของไข้หวัดใหญ่ ระยะฟักตัวของโรค ระยะฟักตัวของโรคชอบสั้น 1 - 4 วัน แต่โดยเฉลี่ยแล้วราว เฉลี่ย 2 วัน ซึ่งจะขึ้นกับปริมาณของเชื้อไวรัสที่ ได้รับ การติดต่อ เชื้อไวรัสที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของคนเจ็บแพร่ติดต่อไปยังคนอื่นโดยการไอจามรดกันโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไปถ้าอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร บางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือ สิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก  รวมทั้งคนไข้สามารถกระจายเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงก่อนมีอาการแล้วก็จะแพร่ระบาดถัดไปอีก 3-5 วันหลังมีลักษณะอาการในคนแก่ ส่วนในเด็กบางทีอาจแพร่เชื้อได้นานกว่า 7 วัน ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แม้กระนั้นไม่มีอาการก็สามารถกระจายเชื้อในขณะนั้นได้ด้วยเหมือนกัน ในตอนศตวรรษก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก 4 ครั้งคือ

  • พุทธศักราช 2461 - 2462 Spanish flu จากไวรัส A(H1N1) เป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุด ราษฎรทั่วโลกป่วยไข้ปริมาณร้อยละ 50 และก็ตายมากถึง 20 ล้านคน
  • พ.ศ. 2500 - 2501 Asian flu จากเชื้อไวรัส A(H2N2) โดยเริ่มตรวจพบในประเทศจีน
  • พุทธศักราช 2511 - 2512 Hong Kong flu จากเชื้อไวรัส A(H3N2) เริ่มตรวจพบในฮ่องกง
  • พ.ศ. 2520 - 2521 Influenza A (H1N1) กลับมาระบาดใหญ่อีกรอบ แยกได้จากผู้ป่วยในสหภาพโซเวียต ก็เลยเรียก Russian flu แต่ว่ามีถิ่นกำเนิดจากเมืองจีน

7.การปฏิบัติตนเมื่อมีอาการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ การดูแลตนเอง เมื่อจับไข้หวัดใหญ่เป็นเมื่อมีไข้ ควรหยุดโรงเรียนหรือหยุดงาน แยกตัวและก็เครื่องใช้จากคนอื่นๆ เพื่อพักผ่อนและคุ้มครองป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนอื่นๆ พักผ่อนให้มากๆรักษาสุขอนามัยฐานราก  เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ลดโอกาสกำเนิดโรคข้างเคียงหรือแทรก พยายามรับประทานอาหารมีสาระห้ากลุ่มในทุกๆวันกินน้ำสะอาดให้มากๆอย่างต่ำวันละ 6 - 8 แก้วเมื่อไม่มีโรคจำต้องจำกัดน้ำกิน กินยาลดไข้พาราเซตามอล หรือตามหมอเสนอแนะ ไม่สมควรรับประทานยาแอสไพรินเพราะเหตุว่าอาจมีการแพ้ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ล้างมือให้สะอาดเป็นประจำรวมทั้งทุกหนก่อนที่จะรับประทานอาหารแล้วก็หลังเข้าห้องอาบน้ำ  ใช้ทิชชู่สำหรับเพื่อการสั่งน้ำมูกหรือเช็ดถูปาก ไม่สมควรใช้ผ้าที่มีไว้สำหรับเช็ดหน้า ต่อไปทิ้งทิชชู่ให้ถูกสุขอนามัย  รู้จักใช้หน้ากากอนามัย งดยาสูบ หลบหลีกควันที่เกิดจากบุหรี่ เนื่องจากว่าเป็นสาเหตุให้อาการรุนแรงขึ้น ควรจะรีบเจอหมอเมื่อ ไข้สูงเกิน 39 - 40 องศาเซียลเซียส และก็ไข้ไม่ต่ำลงหลังได้ยาลดไข้ภายใน 1 - 2 วัน  ดื่มน้ำได้น้อยหรือรับประทานอาหารได้น้อย ไอมาก มีเสมหะ และก็/หรือ เสลดมีสีเหลืองหรือเขียว ซึ่งมีความหมายว่ามีการติดเชื้อโรคแบคทีเรียสอดแทรก เป็นโรคหืด เพราะว่าโรคหืดมักกำเริบแล้วก็ควบคุมเองมิได้ อาการต่างๆชั่วช้าลง หอบอิดโรยร่วมกับไอมากมาย บางทีอาจร่วมกับนอนราบมิได้ เนื่องจากเป็นอาการเข้าแทรกจากปอดบวม เจ็บอกมากมายร่วมกับหายใจขัด อิดโรย เพราะว่าเป็นอาการจากอาการเข้าแทรกจากเยื่อหุ้มหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ชัก ซึม งงเต็ก แขน/ขาอ่อนแรง บางทีอาจร่วมกับปวดศีรษะร้ายแรง รวมทั้งคอแข็ง เพราะเป็นอาการแทรกซ้อนจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ  หรือ สมองอักเสบ

  • การคุ้มครองป้องกันเองจากโรคไข้หวัดใหญ่ รักษาร่างกายให้แข็งแรง เพื่อให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานโรคได้ดี โดยการออกกำลังกาย เป็นประจำและก็พักให้เพียงพอ อยู่ในที่ที่อากาศระบายได้ดี เลี่ยงความเครียด ยาสูบ สุรารวมทั้งยาเสพติด แล้วก็ระวังรักษาร่างกายให้อบอุ่นในตอนอากาศหนาวเย็น หรืออากาศเปลี่ยน รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ผัก และก็ผลไม้ เพื่อร่างกายได้รับสารอาหารและก็วิตามินพอเพียง ในตอนที่มีการระบาดของโรค ควรจะหลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่ที่มีผู้คนยัดเยียด ตัวอย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง งานมหรสพ รวมถึงการใช้โทรศัพท์สาธารณะหรือลูกบิดประตู ฯลฯ แม้กระนั้นถ้าหลบหลีกมิได้ ควรสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยแอลกอฮอล์เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่บางทีอาจติดมาจากการสัมผัสถูกเสลดของผู้ป่วย และอย่าใช้นิ้วมือขยี้ตาหรือแคะไชจมูกถ้ายังไม่ได้ล้างมือให้สะอาด ผู้ป่วยควรแยกตัวออกห่างจากคนอื่น อย่านอนปะปนหรือคลุกคลีสนิทสนมกับผู้อื่น เวลาไอหรือจามควรที่จะใช้ผ้าปิดปากแล้วก็จมูกเสมอ เวลาเข้าไปในที่ที่มีคนอยู่กันมากๆควรจะใส่หน้ากากอนามัยด้วยทุกครั้ง ส่วนการฉีดวัคซีนปกป้องไข้หวัดใหญ่นั้น โดยปกติถ้าไม่มีการระบาดโรค หมอจะไม่เสนอแนะให้ฉีดยาแก่พสกนิกรทั่วไป เว้นเสียแต่ในผู้ที่อยู่ในกลุ่มมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงดังกล่าวข้างต้น คนแก่ (อายุมากกว่า 65 ปี) ผู้ที่มีอายุต่ำลงยิ่งกว่า 19 ปีที่จะต้องรับประทานยาแอสไพรินบ่อยๆ สตรีมีครรภ์ที่คาดว่าอายุท้องปิ้งเข้าไตรมาสที่ 2 ขึ้นไปในช่วงที่มีการระบาดของโรค ผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ทางด้านการแพทย์ ผู้ที่จำเป็นต้องเดินไปในถิ่นที่มีการระบาดของโรค ผู้ที่มีกิจกรรมจำเป็นที่ไม่สามารถหยุดงานได้ (ตัวอย่างเช่น นักแสดง นักกีฬา นักเที่ยว ตำรวจ เจ้าหน้าที่บริการสังคม นักเรียนหรือนักศึกษาที่อยู่รวมกัน รวมถึงคนที่อาศัยอยู่ในสถานพักฟื้น สถานสงเคราะห์คนวัยชรา) ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ (เป็นต้นว่า คนไข้เอดส์ คนป่วยที่ได้รับยาสเตียรอยด์ ผู้ป่วยรังสีรักษาหรือเคมีบำบัดรักษา) คนเจ็บที่เป็นโรคเรื้อรัง (ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด โรคตับ โรคไต โรคเลือด) ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นกลุ่มที่ควรจะได้รับการฉีดวัคซีนคุ้มครองปกป้องไข้หวัดใหญ่
  • สมุนไพรชนิดไหนที่สามารถช่วยบรรเทา/รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้

    สมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Herbs with anti-influenza activity) ประกอบด้วยสมุนไพร        
                    พลูคาว / ผักคาวตอง (Houttuynia cordata) จากการเรียนรู้ในหลอดทดสอบ น้ำมันระเหยการกลั่นพลูคาวสดมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ เริม (Herpes simplex virus type 1) เอชไอวี (HIV-1) ขึ้นรถสำคัญในน้ำมันระเหยจากพลูคาวที่มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัสดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ได้แก่ methyl n-nonyl ketone, laurly aldehyde, capryl aldehyde
                    Epigallocatechin (EGCG) ในชาเขียว EGCG เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีสูงที่สุดในชาเขียว EGCG ขนาดต่ำในหลอดทดลองมีฤทธิ์ ยับยั้งไม่ให้ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A รวมทั้ง B เข้าเซลล์& ลดการตำหนิดเชื้อของเซลล์เพาะเลี้ยงจากไตสุนัขได้อย่างมีนัยสำคัญ
                    ใบเตย (Pandanus amaryllifolius) ใบเตยมีสารจำพวกเลกติน (lectin) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นโปรตีน ชื่อ Pandanin ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N1) อย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยมีค่าความเข้มข้นที่ยับยั้งเชื้อได้ 50% (EC50) เท่ากับ15.63 microM
                    สาร Aloe emodin Aloe emodin = สารแอนทราควิโนน (anthraquinone) ที่พบได้ในยางว่านหางจระเข้ เมื่อนำสาร Aloe emodin มาผสมกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดสอบนาน 15 นาที ที่ 37 องศาเซลเซียส สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ นอกจากนั้น สาร aloe emodin ยังยับยั้งไวรัสที่ก่อโรคเริม รวมทั้งงูสวัดได้อีกด้วย
    สมุนไพรกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Immunomodulator / Immunostimulant)
                    กระเทียม  Aged Garlic Extract (AGE) มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิต้านทาน AGEเป็นผลิตภัณฑ์กระเทียมจัดแจงโดยการแช่กระเทียมที่หั่นหรือสับใน 15-20% แอลกอฮอล์แล้วทิ้งไว้เป็นเวลานานมากกว่า 10 เดือน ที่อุณหภูมิปกติแล้วเอามาทำให้เข้มข้น เมื่อให้ AGE ทางปากแก่หนูถีบจักร 10 วันก่อนให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แก่หนูโดยการหยอดทางจมูก มีประสิทธิผลสำหรับเพื่อการคุ้มครองปกป้องไข้หวัดใหญ่ได้ดีเท่าการให้วัคซีน
                    สินค้าเสริมของกินกระเทียมที่มีสาร allicin มีการวิจัยในอาสาสมัคร 146 คน โดยให้กลุ่มควบคุมได้รับยาหลอก รวมทั้งกลุ่มทดลองได้รับกระเทียมกินวันละ 1 แคปซูล นาน 12 สัปดาห์ ระหว่างฤดูหนาว (พ.ย. - เดือนกุมภาพันธ์) และก็ให้คะแนนสุขภาพ และอาการหวัดทุกเมื่อเชื่อวัน พบว่า กลุ่มที่ได้รับกระเทียมได้โอกาสเป็นหวัดน้อยกว่ากลุ่มยาหลอก และก็เมื่อเป็นหวัดแล้วหายเร็วกว่า
                    โสม (Ginseng)    สารสกัดโสมอเมริกันที่จดสิทธิบัตรแล้ว (CVT-E002) โดยทดลองให้สารสกัดนี้ ขนาด 200 มก. วันละ 2 ครั้งหรือยาหลอกแก่คนชราที่อาศัยอยู่รวมกันหลายๆคน (institutional setting) จำนวนรวม 198 คน ระหว่างฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ (ฤดูหนาวปี 2543 -44) เพื่อศึกษาประสิทธิผลสำหรับในการคุ้มครองปกป้องการป่วยด้วยโรคทางเท้าหายใจอย่างฉับพลัน (Acute Respiratory Illness, ARI) พบว่า อุบัติการณ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการตรวจรับรองทางห้องปฏิบัติการของกรุ๊ป ยาหลอกสูงยิ่งกว่ากลุ่มที่ได้รับสารสกัดโสมอย่างมีนัยสำคัญ (7/101 และก็ 1/97) และการต่ำลงของความเสี่ยงจากการป่วยด้วยโรค ARI ในกลุ่มที่ได้รับยา CVT-E002 พอๆกับ 89%
    เอกสารอ้างอิง

  • Braunwald, E., Fauci, A., Kasper, D., Hausen, S., Longo, D., and Jamesson, J.(2001). Harrrison’ s:Principles of internal medicine. New York. McGraw-Hill. http://www.disthai.com/[/b]
  • ”สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่-H1n1 (1 มกราคม – 26 ธันวาคม 2558)” สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • ดร.ภก.อัญชลี จูฑะพุทธิ.สรุปการบรรยายประชุมวิชาการกรมพัฒน์เรื่อง”สมุนไพร:ไข้หวัดใหญ่-ไข้หวัดนก.”ณ.ห้องประชุมเบญจกูล กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.วันที่ 28 ธันวาคม 2548
  • (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).”ไข้หวัดใหญ่(lnfluenza/Flu).หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป2.หน้า 393-396
  • “ไข้หวัดใหญ่”คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล.(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก
  • ไข้หวัดใหญ่.กลุ่มระบาดวิทยา/โรคติดต่อ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • โรคไข้หวัดใหญ่แนวทางการดำเนินการให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปี2559.แนวทางการเฝ้าระวังโรคติดต่อในสถานศึกษา 2559 กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ