ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Chaiworn998 ที่ มีนาคม 28, 2018, 04:11:13 pm



หัวข้อ: เรียนทำเบเกอรี่ มาการอง ของขนมสีสันสดใส หลักสูตรเปิดร้านเบเกอรี่ เรียนทำอาหาร
เริ่มหัวข้อโดย: Chaiworn998 ที่ มีนาคม 28, 2018, 04:11:13 pm
สอนทำขนมปัง มาการอง ของขนมสีสันผ่องใส  หลักสูตรเปิดร้านเบเกอรี่ สอนทำอาหาร   เรียนทำขนมปัง สอนทำขนมไทย, ทำเค้ก, เรียนทำเค้ก เบเกอรี่ฝรั่งเศส
 
เพราะเหตุใดธุรกิจร้านเบเกอรี่ถึงน่าลงทุน
สามารถทำคนเดียวได้ เนื่องจากถ้าเราเริ่ม จากการรับขนมจากที่อื่นมาขาย นั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องจ้างผู้ช่วย ซึ่งคนเดียวก็สามารถดูแลร้านค้าได้เอง ทั้งหมดทั้งปวง ไม่ต้องลงทุนสำหรับในการจ้างผู้รับจ้าง และวุ่นวายกับคนจำนวนมาก
-ตอนนี้ ร้านขนมปัง นั้น กับ Lifestyle ของคนสมัยใหม่ เพราะเหตุว่าคนรุ่นหลังนิยม ไปนั่งตามร้านค้าของหวาน เพื่อพักผ่อน นั่งคุย เสวนากับสหาย หรือนั่งอ่านหนังสือ เพื่อผ่อนคลาย การเปิดร้านขนมแบบเต็มแบบอย่าง จึงตอบโจทย์ข้อนี้ได้ และก็ทำรายได้ให้กับธุรกิจได้ อย่างเป็นกอบเป็นกำ อย่างแน่นอน
-ความชื่นชอบเบเกอรี่ ของคนรุ่นใหม่ ที่มีเวลาน้อย เลือกกินเบเกอรี่เป็น อาหารจานด่วน หรือรองท้อง หลายคนอาจเคยได้ฟังคำว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” เมื่อคุณเดินทางไกล หรืออยู่ในช่วงเวลาที่ผู้คนเร่งรีบ ไม่สามารถหาที่นั่งกินอาหารได้ การกินขนมที่ซื้อข้างทาง จะช่วยให้คุณคลายหิวไปได้ ก่อนที่จะคุณจะทำธุระเสร็จ และก็ไปรับประทานอาหารมื้อใหญ่ถัดไป
การเตรียมความพร้อมก่อนลงทุนในธุรกิจเบเกอรี่
ก่อนที่จะลงทุนในธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ก็จำต้องมีการจัดแจงให้พร้อมกั่น ซึ่งธุรกิจเบเกอรี่โฮมเมดก็ไม่แตกต่างกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ร่วมลงทุนจำต้องพิจารณาถึงความพร้อมก่อนการลงทุน ซึ่งดังเช่น
เงินลงทุน
สำคัญเป็นอันดับหนึ่งก็เพราะเงินลงทุนเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยทำให้การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ก่อนการผลิตเบเกอรี่เป็นไปด้วยดี จำนวนเงินลงทุนย่อมต่างๆนาๆตามลักษณะของธุรกิจว่าต้องการให้ออกมาในลักษณะใด ซึ่งก็ต้องวิเคราะห์และใคร่ครวญตามกำลังของตัวอง เนื่องจากว่าด้วยทั่วไปแล้วการลงทุนในขั้นแรกจะเน้นย้ำไปที่สิ่งของปกรณ์ ซึ่งถือได้ว่าเงินลงทุนคงเดิม แล้วก็จะได้ผลทดแทนกลับมาภายในช่วงเวลาไม่นาน ด้วยเหตุดังกล่าวควรที่จะทำการเลือกใช้อุปกรณ์ที่คุณภาพดี มีการรับประกัน แม้จะราคาสูงแต่มั่นใจได้ถึงคุณภาพ
ส่วนทุนอีกอย่างครั้งเรียกกันว่าต้นทุนผันแปร ยกตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายที่เปลี่ยนได้ นับว่าพวกนี้เป็นเงินลงทุนที่นักลงทุนเองจะต้องตระเตรียมไว้ล่วงหน้า เพื่อสามารถเงินลงทุนสามารถเวียนได้อย่างไม่ขัดข้อง
-วิชาความรู้ความชำนาญ
ต้องสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจเบเกอรี่โฮมเมดมากมาย เพราะเหตุว่าควรทำความเข้าใจถึงใอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้และก็วัตถุดิบทุกอย่างสำหรับเพื่อการทำเบเกอรี่ ควรจะศึกษาว่าแป้งมีกี่ประเภท น้ำตาลหรือวัตถุดิบตัวอึ่นๆมีคุณลักษณะอย่างไรใช้เป็นส่วนผสมในเบเกอรี่แต่ละจำพวกเพื่ออะไร ยิ่งกว่านั้นยังจำต้องฝึกฝนแล้วก็ชำนิชำนาญสำหรับการทำ เบเกอรี่มากพอที่จะควบคุมประสิทธิภาพและรสชาติได้ เพื่อของหวานที่ผลิตมีคุณภาพและรสที่เช่นกัน
ในตอนนี้ มีสถานที่เรียนสอนทำเบเกอรีเยอะแยะ เราสามารถเลือกเรียนได้ ได้ตามอยาก ทั้งสามารถเลือกเฉพาะวิชาที่พึงพอใจได้ ซึ่งโดยมากถึงแม้เขาเรียนเพียงคอร์สเดียวก็สามารถเอามาปรับใช้รวมทั้งทำขายได้ในทันที และก็การเรียนสูตรรวมทั้งกระบวนการทำจากเพื่อนพ้องหรือวงศาคณาญาติ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะไม่ต้องเลยค่าครองชีพสำหรับเพื่อการเข้าเรียนกับสถานที่เรียนสอนทำเบเกอรี่ต่างๆ
-ศึกษาเล่าเรียนตลาดรวมทั้งคู่ปรปักษ์
ผู้ผลิตควรศึกษาเรียนรู้ถึงสถานการณ์การตลาดเพื่อกระบวนการทำความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการดำเนินธุรกิจของพวกเรา ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าว่ากาตลาดเบเกอรี่ในช่วงนั้นๆเป็นยังไง มีกลุ่มคู่แข่งขันจำนวนประมาณกี่ราย แล้วก็แต่ละรายมีข้อเด่นข้อด้อยอะไรบ้าง และพวกเราต้องหาจุดแข็งของพวกเรา รวมทั้งปรับยุทธวิธีเพื่อสู้กับคู่แข่งให้ได้ การ มองหา ร้านขายของสำหรับฝากขายมีความหมายมากสำหรับการที่จะช่วยทำให้ธุรกิจของพวกเราก้าวไปข้างหน้าหรือจะถอยหลัง ร้านที่เห็นสมควรให้ความสนใจคือร้านที่อยู่ในย่านชุมชน มีทำเลดี มีที่จอดรถสำหรับลูกค้าไว้พร้อม มีการเคลื่อนของปริมาณลูกค้ารวมทั้งหมุนวนผลิตภัณฑ์ตลอดทั้งวัน แล้วก็ทางร้านมีลัษณะทิศทางที่จะช่วยพรีเซนเทชั่นผลิตภัณฑ์ของเรา เพื่อไม่ให้ผลิตภัณฑ์ของพวกเราถูกกักไว้เพื่อคอยส่งกลับคืนอย่างเดียว
-หาแหล่งวัตถุดิบที่เหมาะสมทั้งยังเรื่องราคาและคุณภาพ
การซื้อวัตถุดิบสำหรับเฉพาะการทำเบเกอรี่ ย่อมทำให้ได้วัตถุดิบที่มีราคาถูกกว่าซื้อตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป และยังคงได้เครื่องมือในการทำเบเกอรี่อย่างสมบูรณ์
รูปแบบของธุรกิจร้านขนมปัง อาชีพอิสระ รายได้ดี
-รับขนมจากที่อื่นๆมาขาย
Bakery แบรนด์ HOME ของมหาวิทยาลัยราชภัฎ สวนดุสิต เป็นตัวอย่างสุด Classic ของ ร้านขนมปัง ลักษณะนี้ เราจะมองเห็นคนนำขนมยี่ห้อ HOME มาเดินขายจากที่ต่างๆหรือตั้งโต๊ะขายก็ตาม รูปแบบนี้เป็นแบบอย่างที่เริ่มต้นง่าย เพียงแต่ไปรับของหวาน แล้วก็นำมาตั้งขาย ไม่ต้องจมทุนไปกับการซื้อเครื่องอบของหวาน ไม่ต้องสิ้นเปลืองแรงทำ รวมทั้งขนมที่ขายอร่อยแน่ๆ
- ทำของหวานขายเอง
ถ้าหากคุณมีเงินทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมาหน่อย และเคยไปเรียนทำ Bakery มา หรือเชื่อมั่นในฝีมือ ธุรกิจร้านเบเกอรี่จำพวกนี้ จะทำเงินได้มากกว่า เพราะพวกเราไม่ต้องไปรับของหวาน มาจากที่อื่นๆ ซึ่งมีต้นทุนที่ซื้อมา แพงกว่าของหวานที่เราทำเองอย่างไม่ต้องสงสัย แม้กระนั้นก็จะต้องทดลองชั่งน้ำหนักดูว่า เงินทุนที่ลงเพิ่มไป จะคุ้มกับรายได้ที่ได้มากขึ้นมาหรือไม่
- ร้านเบเกอรี่พร้อมที่นั่ง แบบเต็มแบบ
ถ้าเกิดไม่ต้องการที่จะอยากขายแค่ Bakery อย่างเดียว แล้วก็มีความรู้สึกว่าขนมที่สร้างขึ้นมา มีดีกว่าเพียงแค่จะเป็นร้านทั่วๆไป ก็เปิดร้านเบเกอรี่พร้อมที่นั่ง แบบเต็มแบบอย่างได้เลย เพราะราคาของหวานจะขายได้แพงกว่า 2 แบบแรก โดยมีจุดหมาย ให้เป็นจุดนัดพบ สำหรับคนที่มาทานขนม นั่งคุยกัน หรือนั่งอ่านหนังสือ ซึ่งกับ Lifestyle ของคนรุ่นหลังด้วย
 
สูตรคัพเค้ก
คัพเค้กเรดเวลเว็ท
สำหรับใครที่เคยลองชิมเค้กเรดเวลเว็ทมาแล้วติดใจอยากทำเสิร์ฟแขกในงานปาร์ตี้บ้าง แต่ถ้าทำชิ้นใหญ่คงไม่เหมาะขอย่อขนาดลงเป็นคัพเค้กเรดเวลเว็ทสูตรจากคุณปูขาเก เซมารู มีจุดเด่นที่เนื้อเค้กรสช็อกโกแลตแต่มีสีแดงสด โปะครีมชีส ทำเสิร์ฟในถ้วยกระดาษสีแดงดูเข้ากันจริง ๆ บอกได้คำเดียวว่าเริด
ส่วนผสม คัพเค้กเรดเวลเว็ท
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ (ร่อนแล้วตวง) 3+1/2 ถ้วย
 - เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชา
 - เกลือป่น 1+1/2 ช้อนชา
 - ผงโกโก้ 1/4 ถ้วย
 - ไข่ไก่ (ขนาดใหญ่) 3 ฟอง
 - น้ำตาลทราย 1+3/4 ถ้วย
 - น้ำมันดอกคาโนลา 2 ถ้วย
 - กลิ่นวานิลลา 1+1/2 ช้อนชา
 - บัตเตอร์มิลค์ 1+1/3 ถ้วย
 - น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา
 - สีผสมอาหารสีแดง 1 ออนซ์
 - พิมพ์คัพเค้ก 24 ถ้วย
หมายเหตุ :
- เค้กกำมะหยี่นี้ตามปกติเขาใส่น้ำส้มสายชูลงไปด้วย จะทำให้เค้กฟู นุ่ม ชุ่มละมุนละไม เพราะน้ำส้มสายชูจะไปทำปฏิกิริยากับเบกกิ้งโซดา ทำให้เกิดฟองอากาศเล็ก ๆ ในส่วนผสม ขณะที่เราตะล่อมส่วนผสมอยู่จะทำให้เค้กที่ได้เบา ฟูฟ่อง นุ่ม นวลเนียนดุจดังแพรกำมะหยี่
 - ถ้าไม่มีบัตเตอร์มิลค์ ให้ใช้นมสดจืด 1-1/3 ถ้วย ผสมน้ำมะนาว 1-1/2 ช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ส่วนผสมจะข้นขึ้น หรือใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ขนาด 4-6 ออนซ์ ผสมกับนมให้ได้ปริมาณเท่าบัตเตอร์มิลค์ 1-1/3 ถ้วย
 - ใช้น้ำมันคาโนลา หรือน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน จะได้ไม่มีกลิ่นน้ำมันติดขนม
 - สีผสมอาหารสีแดงในสูตรต้นฉบับใช้ 3 ออนซ์ แม่ปูใช้ 1 ออนซ์ สีก็แดงอย่างสุดขีดแล้วค่ะหรือจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ก็อาจเป็นไปได้
วิธีทำคัพเค้กเรดเวลเว็ท
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
 2. ร่อนแป้งเค้ก เกลือ เบกกิ้งโซดา และผงโกโก้เข้าด้วยกัน พักไว้ก่อน
 3. ตอกไข่ไก่ใส่ลงในอ่างผสมขนาดใหญ่ จากนั้นตีด้วยตะกร้อไฟฟ้า ใช้ความเร็วปานกลางจนขึ้นฟู
 4. ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละน้อยจนหมด ตีจนส่วนผสมข้นเป็นครีม ใช้เวลาตีประมาณ 5 นาที จากนั้นยกตะกร้อขึ้นให้ส่วนผสมไหลลงเห็นเป็นรอยพับ
 5. ค่อย ๆ เทน้ำมันใส่ลงในอ่างผสมไข่ ตีส่วนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยกลิ่นวานิลลาลงไป ส่วนผสมที่ได้จะข้น ๆ
 6. ใส่สีผสมอาหารสีแดงลงไปทั้งหมด ตีส่วนผสมให้เข้ากันดี แล้วใส่น้ำส้มสายชูลงไป
 7. ใส่ส่วนผสมแป้งครึ่งหนึ่งลงในอ่างผสมไข่ ตะล่อมส่วนผสมพอเข้ากัน
 8. ใส่บัตเตอร์มิลค์ลงไป ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วใส่แป้งที่เหลือลงไปจนหมด ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน (การตะล่อมแป้งตะล่อมเบา ๆ แต่ให้ทำไว ๆ ค่ะ)
 9. ค่อย ๆ ตักส่วนผสมใส่ในลงพิมพ์กระดาษ (จริง ๆ ต้องได้ทั้งหมด 24 ถ้วย แต่วันนี้แม่ปูมือหนักไปหน่อย ทำได้ 22 ถ้วยค่ะ) จากนั้นนำเข้าเตาอบ นานประมาณ 23-25 นาที หรือจนเค้กสุก (โดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มดู ให้จิ้มไม้ลงไปตรงกลางเค้ก ถ้าไม่มีเศษแป้งติดไม้ก็แสดงว่าเค้กสุกแล้ว) นำออกจากเตาอบพักบนตะแกรงให้เค้กคลายความร้อนก่อนประมาณ 10 นาที จึงนำออกจากถาดวางพักให้เค้กเย็นบนตะแกรง
- พักเค้กให้เย็นก่อน ระหว่างนี้ก็ไปทำครีมชีสฟรอสติ้งกันค่ะ
ส่วนผสม ครีมชีสฟรอสติ้ง
- ครีมชีส 227 กรัม
 - เนยนุ่ม ๆ 113 กรัม
 - น้ำตาลไอซิ่ง 400 กรัม
วิธีทำครีมชีสฟรอสติ้ง
- ตีครีมชีสให้เนียนแล้วใส่เนยลงไปตีให้เข้ากันจนส่วนผสมขึ้นฟู (จะได้หน้าตาดังรูป) จากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไป (หาผ้าคลุมอ่างไว้ด้วยก็ดีค่ะ น้ำตาลจะได้ไม่กระจายเต็มห้อง) ตีไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายหมด (ใช้เวลาไม่นานมากค่ะ)
 - จะได้ส่วนผสมครีมฟรอสติ้งข้น ๆ เนียน ๆ ดังนี้ จากนั้นนำไปบีบลงบนเค้ก (ถ้าบีบครีมไม่หนามาก ก็จะบีบได้พอดีกับคัพเค้กตามสูตรนี้ค่ะ แม่ปูบีบใส่ บางอันหนา บางอันบาง แต่ก็พอดีค่ะ)

 - แบบนี้โปะอย่างหนา สำหรับคนที่ชื่นชอบครีมหวาน ๆ


เค้กช็อกโกแลตบอลกราโนล่า
ถ้าเบื่อกราโนล่าแช่นมก็จับมาทำเมนูเค้กช็อกโกแลตบอลกราโนล่า สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1860279 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่แป้งข้าวโอ๊ตกับกล้วยหอม เติมกราโนล่าลงไปหน่อย ปั้นเป็นก้อนกลมสวยงาม
ส่วนผสม เค้กบอลไส้กราโนล่า
• แป้งข้าวโอ๊ต 4 ช้อนโต๊ะ
 • กล้วยหอม 1 ลูก
 • ไข่ไก่ 1 ฟอง
 • ไข่ขาว 1 ฟอง
 • กลิ่นวานิลลา
 • ผงโกโก้ 1 ช้อนชา
 • กราโนล่า
วิธีทำเค้กบอลไส้กราโนล่า
1. ตีแป้งข้าวโอ๊ต กล้วย ไข่ไก่ ไข่ขาว และวานิลลาเข้าด้วยกัน
 2. ปั่นเสร็จแบ่ง 2 ส่วน ส่วนแรกปล่อยไว้ อีกส่วนใส่ผงโกโก้ เทแต่ละสีลงกระทะทำทาโกะยากิ สักพักใส่กราโนล่าไว้ตรงกลาง แล้วก็พลิกไปมาเหมือนทำทาโกะยากิ ตกแต่งตามชอบ

 
 
ความเป็นมาของของหวานสีสันผ่องใส มาการูนหรือมาการอง (Macaroon)
มาการูน หรือ มาการอง (Macaroon) ขนมหวานรูปวงกลมเชื้อชาติฝรั่งเศส ซึ่งมีชีวิตชีวาแจ่มใส ใส่ไส้ตรงกลาง เชื้อเชิญให้น่าอร่อย กำลังได้รับความนิยมอย่างมากมายและประสบพบเห็นกันได้เยอะแยะตามห้าง ร้านขนมปัง หรือในโฮเต็ลเมืองไทยปัจจุบันนี้
 ใครกันแน่จะทราบบ้างว่าต้นกำเนิดที่แท้จริงของของหวานทรงกลมสีสันผ่องใสที่น่ารับประทานนี้เป็นของหวานที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี มาจากคำว่า "Maccaone หรือ Maccherone" ในภาษาอิตาลี มาการองหรือมาการูน เปิดตัวหนแรกในปี ค.ศ. 1553 โดยเชฟหญิงชาวอิตาลีที่มีนามว่า Catherine de Medicis ในงานมงคลสมรสของเธอกับ Duc d'Orleans หรือกษัตริย์เฮนรี่ที่ 2 ของฝรั่งเศส ในอีก 21 ปีต่อมานั่นเอง
มาการองหรือมาการูน เริ่มต้นเป็นของหวานที่สร้างขึ้นมากล้วยๆจากอัลมอนต์ น้ำตาลแล้วก็ไข่ขาวแค่นั้น ซึ่งเป็นของที่แพงไม่แพงและก็มีคุณค่าทางอาหาร มีการบันทึกไว้ว่าหลานสาวของ Catherine de Medicis แล้วก็ชาวฝรั่งเศสใช้กินเพื่อประทังชีวิตในยุคข้าวยากหมากแพง
จนกว่าตอนต้นศตวรรษที่ 20 เค้าหน้าของ มาการองหรือมาการูน ก็แปรไปเป็นของหวานที่มีชีวิตชีวาจัดจ้า รวมทั้งเอามาการูนสองแผ่นมาตามติดกันโดยมีไส้ "chocolate panache (ช็อกโกแล็ตผสมครีม)" โดย Pierre Desfontaines หลายชายของ Louis Ernest Laduree (Laduree pastry and Salon de the,rue Royale) ร้านเบเกอรี่ชื่อดังในฝรั่งเศส
แนวทางการทำมาการองคร่าวๆเป็น การผสมไข่ขาว น้ำตาลทราย และอัลมอนด์ล้วนๆบดละเอียดจนถึงเป็นผงคล้ายแป้ง เรียกส่วนประกอบนี้ว่า เมอแรงก์ (meringue) ตักเมอแรงก์ใส่กรวยแล้วบีบลงบนถาดอบเป็นชิ้นกลมๆขนาดเล็ก รวมทั้งถูกตากทิ้งเอาไว้ครู่หนึ่งแล้วหลังจากนั้นก็ให้นำเข้าเตาอบ ออกมาเป็นฝามาการอง (Shell) แล้วทำไส้สอดไว้กึ่งกลาง
 การทำมาการองต้นตำรับ แตกต่างตั้งแต่แนวทางเตรียมเมอแรงก์แบบที่นิยมทำกันในขณะนี้ กระบวนการทำมาการองแบบต้นตำรับนั้นจำต้องใช้แนวทางจัดแจงเมอแรงก์แบบ "เฟรนช์ เมอแรงก์ (French Meringue)" คือการตีไข่ขาวกับน้ำตาลแบบไม่ต้องต้ม ใช้มือเบาๆตีไปเรื่อยซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมที่คนฝรั่งเศสทำมาเมื่อร้อยปีให้หลัง ร้านค้ามาการองที่มีชื่อในขณะนี้ของประเทศฝรั่งเศสก็ยังใช้แนวทางเริ่มแรกนี้อยู่ แต่ในช่วงเวลานี้คนส่วนใหญ่ไม่มีผู้ใดทำแล้ว ด้วยเหตุว่าแนวทางการทำยุ่งยากกว่าแนวทางต้มน้ำตาลด้วยความร้อนซึ่งจะมีผลให้ผิวของมาการองแตกต่าง แล้วก็แบบเริ่มแรกจะต้องใช้เวลาตากที่อุณหภูมิปกติอย่างต่ำ 3 ชั่วโมงถึงจะนำเข้าอบได้ ช่วงเวลาที่แนวทางต้มน้ำตาล ทิ้งไว้เพียง 15 นาที ก็นำเข้าเตาอบได้เลย
มาการองสมัยนี้นิยมต้มน้ำตาลที่อุณหภูมิ 118 องศาเซลเซียส ซึ่งเมื่อรวมกับไข่ขาวจะมีความแน่นรวมทั้งคงตัวช่วยไม่ให้ผิวหน้ามาการองแตกจากการอบ ผิวเรียบสวย แต่ว่าไม่มีความนุ่มเท่ากับวิธีตีน้ำตาลทราย ไข่ขาวแล้วก็ผงอัลมอนด์ให้ขึ้นฟูเบาๆซึ่งจะต้องอาศัยความชำนิชำนาญ
กระบวนการทำมาการองต้นตำรับแบบ เฟรนช์ เมอแรงก์ ทำให้ได้ตัวฝามาการอง (Shell) ซึ่งผิวสัมผัสภายนอกจะกรอบบางๆกัดนิดหนึ่งจะเจอความนิ่มของเนื้อเชลล์แทบละลายในปากผสมผสานกลมกลืนไปกับรสของไส้
คุณสมบัติเฉพาะของมาการองอีกจุด คือ "ชายอุบายประเทศฝรั่งเศส (skirt)" เป็นส่วนที่เป็นรอยหยักๆบริเวณรอบๆขอบเชลล์ ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากส่วนผสมรวมทั้งการอบที่เหมาะสม ถ้าอบแล้วไม่มีสเกิร์ตเกิดขึ้น ตัวเชลล์จะกลายเป็นขนมผิงที่กรอบทั้งชิ้น
(http://www.annann201.com/image/data/11920601_999210586790653_454856427_n.jpg)|
ขมป้งบ้านครูแอน อร่อย การันตี เรียนแล้วทำเป็น ชัวร์
(http://www.annann201.com/image/data/12081449_1017937108251334_417336563_n.jpg)|
อยากทำขนมเค้กเป็น อยากทำขนมอร่อยๆ เรียนกับครูแอนเลย
(http://www.annann201.com/image/data/12071604_1017937091584669_375514808_n.jpg)|
ทำขนมเค้กกินเอง ขนมปัง เบเกอรี่ บ้านครูแอน สอนเป็นกันเอง เรียนจบต้องทำเป็นให้จงได้
(http://www.annann201.com/image/data/12067393_1017937111584667_1341016223_n.jpg)}
คอร์สแต่งหน้าเค้ก ไส้ขนมปัง เปิดร้านเบเกอรี่ (สอนส่วนตัว) อร่อยเหาะ

ขอบคุณบทความจาก : http://www.annann201.com/

Tags :  เรียนทำเค้ก, เบเกอรี่, ขนมปัง
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ