ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Treekaesorn ที่ เมษายน 05, 2018, 08:34:45 am



หัวข้อ: wartscaring แนะนำรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ ป้องกัน ยารักษาหายได้ ไม่ตาย
เริ่มหัวข้อโดย: Treekaesorn ที่ เมษายน 05, 2018, 08:34:45 am
wartscaring เสนอแนะรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ การรักษา ยารักษาหายได้ เชื่อคำแนะนำแพทย์
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดหูด โรคหูดหงอนไก่ ลดความเสี่ยง รักษาหายทันท่วงที, ยารักษาหูดหงอนไก่ โรคนี้ส่วนใหญ่มาจากเพศสัมพันธ์
หูดหงอนไก่แบ่งประเภทเป็นระยะ 4 ระยะดังนี้
1.ระยะฟักเชื้อ(HPV) ระยะนี้จะเป็นช่วงๆที่ได้รับเชื้อมาใหม่ๆแต่ว่ายังไม่ออกอาการเป็นติ่งให้มองเห็น จะไม่อาจจะทราบได้ว่าจะเป็นหูดหงอนไก่รึเปล่า หูดหงอนไก่สามารถฟักเชื้อได้นานถึง 6 เดือน ก็เลยแนะนำหากผู้ใดกันแน่สงสัยว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงควรจะไปตรวจที่ รพ.
2.ช่วงแรกเริ่ม จะเริ่มมีตุ่มเล็กๆผุดขึ้นมาบริเวณของลับอีกทั้ง โคน ปลาย และรอบรูทวาร เม็ดหูดระยะต้นจะเล็กมากเหมือนผื่นแต่ว่าจะไม่มีหนอง หรือคัน หรือแสบอะไรก็แล้วแต่ ตอนอาทิตย์แรกหากใครสังเกตุว่าเป็น จะสามารถรักษาโดยใช้ครีมกระตุ้นภูมิต้านทานต่อต้านเชื้อชื่อ aldara cream (จะลงข้อมูลตัวยาด้านล่างนะครับ)
3.ระยะขยายตัว ช่วงนี้จะอยู่ที่ 3 อาทิตย์ ขึ้นไปจนถึงขั้นเป็นมาแล้วหลายเดือน เม็ดหูดจะเริ่มขึ้นเป็นติ่งกระจ่างแจ้งจนถึงขนาดเท่าหรือใหญ่กว่าหัวไม้ขีดไฟ หรือหัวเข็มหมุด การรักษาต้องใช้ยาที่มีฤทธิ์ผลัดผิวหูดให้ยุ่ยรวมทั้งค่อยๆหลุดออก และเมื่อหูดเริ่มลอกก็ควรป้ายยาฆ่าเชื้อพร้อมกันไปด้วยเพื่อคุ้มครองปกป้องการเกิดซ้ำ บางครั้งก็อาจจะไม่ 100% แม้กระนั้นลดการเสี่ยงสำหรับการกลับมาเป็นซ้ำได้มากครับ (ยารักษาก็จะเป็น wart control )
4.ระยะขยาย ช่วงนี้เป็นหูดจะขยายตัวสุดกำลังเหตุเพราะปลดปล่อยไว้ยาวนานมากและก็ปลายหูดจะแตกเป็นราวกับดอกกระหล่ำ แลละรับประทานบริเวณรอบอีกทั้งอวัยวะเพศ ในผู้ชายอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการเสี่ยงสำหรับในการที่หูดไปขัดปลายท่อฉี่นะครับ การดูแลและรักษาจะเป็นการจี้กระแสไฟฟ้า หรือผ่าตัดเล็กนั่นเองขอรับ
เบื่องต้นเลยถ้าเกิดคนใดกันแน่อยากรักษาโดยการจี้กระแสไฟฟ้า จี๋ไนโตรเจนเหลว หรือการผ่าตัดในกรณีที่เป็นมากแล้วแผ่ขยายไปทั่วแต่ว่าไม่ทราบเกี่ยวกับสถานที่การดูแลและรักษา การเข้าไปติดต่อที่ โรงพยาบาลต่างๆรวมถึงการเบิกค่ารักษาจากสวัสดิการต่างๆที่ท่านมีอยู่ ทดลองโทรมาหารือผมได้ครับผม ยินดีให้คำปรึกษา โรงพยาบาลใกล้บ้านท่านโดยเฉพาะ กทม เพื่อการเข้ารับการดูแลและรักษาที่สะดวกที่สุดครับผม
ถุงยาง ช่วยได้แน่ ถ้าหากใช้ถูกทาง
แม้กระนั้น ถุงยางอนามัยยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสมาคมส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี แค่เพียงจำเป็นต้องใช้ให้ถูกแนวทาง
ควรเลือกขนาดของถุงยางให้เหมาะสมกับขนาดของของลับของคุณสุภาพบุรุษ ถ้าเกิดไม่มั่นใจว่าจะต้องใช้แค่ไหน ให้ลองซื้อมาให้หลายๆขนาด แล้วสังเกตความแน่นในการสวมใส่
ไม่สมควรสวมถุงยางอนามัยเกิน 2 ชิ้นต่อการใช้ 1 ครั้ง เนื่องจากอาจก่อให้ถุงยางอนามัยเสียดสีกันจนกระทั่งขาดได้ง่าย
ควรที่จะใช้ถุงยาง 1 ครั้งต่อ 1 ชิ้น ให้เสร็จให้ทิ้งเลย ห้ามเก็บมาใช้ต่อ
สามารถใช้สารหล่อลื่นทาฉาบภายนอกถุงยาง เพื่อการสอดใส่เป็นไปได้โดยง่ายเพิ่มมากขึ้น แต่ควรเลือกใช้ประเภทเจล ไม่ควรเลือกใช้แบบเป็นน้ำมัน เนื่องจากว่าอาจททำให้ถุงยางอนามัยชำรุด หรือฉีกขาดได้
ควรจะรูดอากาศออกจากกระเปาะของถุงยางอนามัยให้หมดก่อนสวม เพราะว่าอากาศข้างในถุงยางอาจก่อให้ถุงยางแตก หรือขาดได้ง่ายยิ่งขึ้น
ข้างหลังทำกิจกรรมเสร็จเป็นระเบียบ ข้างชายควรถอนอวัยวะเพศออกมาก่อนที่จะของลับจะอ่อนตัว ป้องกันถุงยางหลุดเข้าไปในช่องคลอดของฝ่ายหญิง
กามโรค หรือโรคติดต่อทางเพศสัมชนิด ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
อาการทางผิวหนังอะไรบ้างที่อยู่ในข่ายถูกสงสัย ว่าเป็นผลมาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ หาคำตอบถึงที่เหมาะนี่จ้ะ
1.หูดหงอนไก่
ติ่งเนื้องอกของผิวหนัง ที่เกิดขึ้นมาจาก Human PApilloma Virus ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมชนิด
ไม่เพียงแค่กำเนิดถึงที่กะไว้อวัยวะสืบพันธุ์ ยังกำเนิดพอดีรอบๆลิ้น ในคอ
2. หนองใน
โรคหนองในมีสาเหตุมาจากการต่อว่าดเชื้อแบคทีเรีย โกโนเรีย
อาการในผู้ชายคือมีหนองออกมาจากปลายอวัยวะเพศ
ส่วนในเพศหญิงจะมีตกขาวขุ่น ปากมดลูกอักเสบ
3. เริมที่อวัยวะเพศ
อาการจะเป็นกรุ๊ปของตุ่มน้ำ แตกออกเป็นแผลแสบ
4. แผลที่อวัยวะเพศจาก ซิฟิลิส
แผลที่อวัยวะสืบพันธุ์จะเกิดขึ้นในสามอาทิตย์หลังติดเชื้อโรค
5. ผมตกจากโรคซิฟิลิส
มีต้นเหตุที่เกิดจากซิฟิลิสระยะที่สองคือข้างในสองเดือนแรกหลังติดเชื้อ
ลักษณะผมหล่นเป็นหย่อมเหมือนมอดแทะเล็ม
6. ผื่นที่มือจากโรคซิฟิลิส
พบในซิฟิลิส ระยะลำดับที่สองเช่นเดียวกัน
โดยจะเป็นผื่นสีทองแดงมีสะเก็ด ที่มือเท้า
7.หูดข้าวสวย
เป็นตุ่มขาวขุ่นมีรอยบุ๋มตรงกลางเหมือนสะดือ
8.โรคแผลริมอ่อน
หลังมีการเสี่ยง ไม่เกินสองสัปดาห์
จะเกิดตุ่ม แตกเป็นแผลตูดแผลสกปรก
9.โรคฝีมะม่วง
เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
กำเนิดเป็นฝีที่ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ
10 หูดที่ลิ้น
โรคติดต่อทางเพศสมาคมสามารถกำเนิดอาการที่ช่องปากได้ในกรณีติดต่อจากแนวทางการทำ oral sex
โรคอะไรบ้างสามารถติดต่อได้ทางเพศ
-โรคภูมิคุมกันบกพร่อง ทำให้ภูมิคุ้มกันผิดพลาดติดเชื้อโรคฉวยโอกาส
-โรคหนองใน ผลกระทบตัวอย่างเช่นติดโรคในอุ้งเชิงกราน ต่อมลูกหมากอักเสบ ติดเชื้อกระจัดกระจายทั่วร่างกายเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อห่อหุ้มหัวใจอักเสบได้
-โรคหนองในเทียม มีการติดโรคที่อุ้งเชิงกราน ต่อมลูกหมากอักเสบ ตามมาได้
-โรคซิฟิลิส กำเนิดแผลที่อวัยวะสืบพันธุ์ ถ้ามิได้รับการดูแลรักษาระยะในที่สุดทำให้มีการเกิดโรคที่หัวจิตใจ ระบบประสาทได้
-โรคแผลริมอ่อน กำเนิดเป็นแผล ก้อนหนอง แผลเป็น ท่อปัสสาวะตีบตันได้ เพื่อมองรูป
-ฝีมะม่วง เกิดเป็นแผลติดเชื้อโรค ขยายมีหนองหนองอาจแตกออกเป็นท่อ ระบายหนองออกสู่ภายนอก
-เริม เป็นแผลที่อวัยวะเพศเป็นๆหายๆไม่มีการดูแลและรักษาที่หายสนิท
-พยาธิช่องคลอด มีตกขาวเปลี่ยนไปจากปกติ ท่อฉี่อักเสบ ต่อมลูกหมากอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ
-ติดโรคแบคทีเรียในช่องคลอด ตกขาวมีสีรวมทั้งกลิ่นไม่ปกติ
-โลน เป็นตุ่มคันจากตัวโลนบริเวณของลับ
-หูดหงอนไก่ เกิดเป็นก้อนหูดซึ่งหลังการรักษายังสามารถกลับกลายได้หลายครั้ง เพิ่มจังหวะการเกิดมะเร็งทวารหนัก โรคมะเร็งปากมดลูก
-หูดข้าวสวย กำเนิดเม็ดก้อนหูดข้าวสุกรอบๆผิวหนังที่ติดเชื้อ สามารถแพร่กระจายในตนเองได้โดยการเกา
 
 วิธีเบื้องต้น สำหรับการรักษาหูดด้วยตัวเอง สามารถทำได้เองที่บ้าน (เป็นวิธีการที่ยังไม่ได้รับการรับรอง)

  • การกระตุ้นแอนติบอดี ด้วยการใช้ก้อนน้ำแข็งถูรอบๆที่เป็นหูดจนกระทั่งรู้สึกชา แล้วให้ใช้เข็มทำลายเชื้อจิ้มลงไปในหูดลึกๆหลายๆครั้ง ซึ่งวิธีการแบบนี้จะเป็นการนำเชื้อไวรัสไปสู่กระแสโลหิตเพื่อร่างกายมานะต่อสู้กับมัน ทำให้หูดหายไปได้ในที่สุด แนวทางแบบนี้การนี้อาจได้ผลลัพธ์ที่ดีมากมายสำหรับบางคน โดยเฉพาะคนที่มีหูดจำนวนไม่ใช่น้อย ด้วยเหตุว่าการจิ้มหูดเพียงแต่ 1 ตุ่มบนร่างกายจะช่วยให้ร่างกายพบหูดตุ่มอื่นๆและตรงเข้าไปทำลายได้ในทันที
  • ทาวิตามินซี ให้ใช้วิตามินซี 1 เม็ดนำมาบดแล้วหยดน้ำลงไปเพื่อได้เป็นยาป้ายข้นๆต่อจากนั้นให้ทายาลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ทิ้งเอาไว้ภายในกลางวัน และเมื่อถึงในช่วงเวลากลางคืนให้แกะออกเพื่อผิวได้หายใจ
  • แอสไพริน ให้ใช้ยาแอสไพริน 2-3 เม็ดเอามาบดให้รอบคอบ หยดน้ำลงไปเล็กน้อย แล้วนำยาที่ได้มาป้ายลงบนหูด หลังจากนั้นให้นำปลาสเตอร์จำพวกติดแน่นมาปิดทับทิ้งเอาไว้ 1 คืน (ในยาแอสไพรินจะมีกรดซาลิไซลิกที่ช่วยกัดหูดได้)
  • เบตาดีน ให้ทาเบตาดีนลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ทิ้งเอาไว้เป็นเวลา 1-2 วัน ต่อจากนั้นแล้วก็ค่อยแปลงปลาสเตอร์ยา
  • ยาสีฟัน ให้ทายาสีฟันลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ยาชนิดติดแน่น ทิ้งไว้โดยประมาณ 1 คืน โดยให้ทำใหม่ไปเรื่อยกระทั่งหูดหายไป
  • น้ำมันวิตามินอี ให้ฉีกแคปซูลวิตามินอีแล้วถูน้ำมันลงบนหูดเพียงเล็กน้อย แล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ในเวลาเช้า และก็แกะออกในยามค่ำคืนเพื่อผิวได้หายใจ
  • น้ำมันละหุ่ง ให้ทาน้ำมันละหุ่งลงบนหูดโดยใช้สำลีก้านวันละ 2 ครั้ง ซึ่งกรดในน้ำมันละหุ่งจะสามารถกัดกร่อนหูดได้ แล้วก็ใช้ได้ผลดีกับหูดที่มีขนาดเล็กแบนบนบริเวณใบหน้าหรือหลังมือ
    ครั้งทรีออยล์ ให้ทาทีทรีออยล์ลงบนหูดในจำนวนนิดหน่อย แล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ โดยให้ทำขั้นต่ำเป็นเวลา 3 อาทิตย์
  • น้ำมะนาว ให้บีบน้ำมะนาวลงบนหูด แล้วนำหอมใหญ่สดสับมาวางทับไว้ ให้ทำเช่นนี้ประมาณ 30 นาที วันละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2-3 อาทิตย์
  • เปลือกของพืชตระกูลส้ม ให้ปอกมะนาวหรือเลมอนบางๆจนได้ขนาดใหญ่กว่าหูดน้อย แล้วปิดทับลงบนหูดโดยใช้ปลาสเตอร์จำพวกติดแน่นหรือเทปกาวแปะไว้อีกครั้ง แล้วให้เปลี่ยนแปลงเปลือกใหม่ทุกวี่วัน ต่อไปราวๆ 1 อาทิตย์ หูดก็จะหลุดออกมา
    ห่วงใยรอต ให้นำห่วงใยรอคอยตมาหั่นเป็นชิ้นๆขูดห่วงใยรอตจนได้เนื้อละเอียด แล้วเติมน้ำมันมะกอกลงไปพอให้เป็นยาป้าย แล้วต่อจากนั้นนำมาทาลงบนหูด 2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 30 นาที โดยให้ทำเช่นนี้ต่อเนื่องกันตรงเวลา 2-3 สัปดาห์
  • มะเดื่อ ให้นำมะเดื่อมาบดแล้วป้ายลงบนหูดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที โดยให้ทำแบบนี้ทุกวัน เป็นเวลา 2-3 อาทิตย์
  • ใบโหระพา ให้ใช้ใบโหระพาสดเอามาบดแล้วปิดทับลงบนหูด โดยใช้เทปปิดแผลชนิดกันน้ำพันเอาไว้ ให้ทำแบบนี้ทุกวี่ทุกวันตรงเวลา 1 อาทิตย์ แล้วสารทำลายเชื้อไวรัสในใบโหระพาจะช่วยฆ่าหูดให้คุณเอง
  • เปลือกกล้วย ให้ใช้ข้างในของเปลือกกล้วยถูบริเวณที่เป็นหูดเป็นประจำ ด้วยเหตุว่าโพแทสเซียมในกล้วยอาจช่วยให้หูดหายได้เร็วยิ่งขึ้น หรืออีกวิธีหนึ่งบางทีอาจนำเปลือกกล้วยมาตัดให้มีขนาดเล็กกว่าเทป เอาข้างในของเปลือกกล้วยปิดทับลงบนหูด แล้วจากนั้นจึงค่อยนำเทปผ้ามาปิด ปล่อยทิ้งไว้ตรงเวลา 24 ชั่วโมง โดยให้ทำเช่นนี้ทุกวันกระทั่งหูดจะหายไป
  • เบกกิ้งโซดา ให้ผสมผงฟูหรือเบกกิ้งโซดาแล้วก็น้ำมันละหุ่งเข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อครีม ต่อจากนั้นให้เอามาทาลงบนหูดในกลางคืนโดยใช้ปลาสเตอร์ยาปิดเอาไว้ แล้วจึงแกะปลาสเตอร์ออกในเช้าตรู่วันถัดไป แนวทางนี้สามารถทำซ้ำได้เรื่อยๆตามสมควร
  • แอปเปิ้ลไซเดอร์วีนีการ์ (Apple Cider Vinegar – ACV) ให้ใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล แล้วนำสำลีก้อนขนาดพอให้ปิดหูดได้จุ่มไปในน้ำส้มสายชู แล้วหลังจากนั้นให้ปิดด้วยปลาสเตอร์ยาทิ้งเอาไว้ 1 คืน โปรดจดจำไว้ว่า แนวทางลักษณะนี้อาจส่งผลให้รู้สึกแสบได้ จะต้องเปลี่ยนแปลงสำลีวันแล้ววันเล่า รวมทั้งแปะไว้ทุกคืน หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์เม็ดหูดจะเริ่มหลุดลอกออก
  • จุ่มหูดลงไปในน้ำสับปะรด ด้วยเหตุว่าในน้ำสับปะรดจะมีเอนไซม์ที่ช่วยละลายหูดได้
  • น้ำเลี้ยงจากต้นดินแดนดิไลออน (Dandelion) ให้เลือกต้นแดนดิไลออนสดๆมาหนึ่งต้น หักก้านออกเป็น 2 ท่อนแล้วใช้น้ำเลี้ยงสีขาวขุ่นที่ไหลซึมออกมาจากก้านทาลงบนหูด โดยให้ทำเช่นนี้วันละ 3-4 ครั้ง แล้วหลังจากนั้นให้ใช้หินภูเขาไฟมาขูดเพื่อเอาชั้นผิวที่ตายแล้วออก โดยให้ทำอย่างสม่ำเสมอกระทั่งหูดหายไป
  • น้ำร้อน เป็นแนวทางรากฐานโดยการจุ่มบริเวณที่เป็นหูดลงในน้ำที่ร้อนจัดๆซึ่งความร้อนจะทำให้หูดนุ่มขึ้นแล้วก็อาจช่วยฆ่าเชื้อไวรัสได้ แต่ควรจะระวังอย่าให้น้ำร้อนเกินจนถึงลวกเท้า (ชี้แนะว่าอุณหภูมิของน้ำควรจะต่ำลงยิ่งกว่า 60 องศาเซลเซียส)
  • น้ำร้อนและหินภูเขาไฟ ให้แช่หูดลงในน้ำร้อนจวบจนกระทั่งหูดเริ่มนุ่ม แล้วใช้หินภูเขาไฟหยาบสำหรับผลัดเซลล์ผิวขัดรอบๆหูดจนกว่าเจอชั้นผิวจริง จุ่มสำลีก้านลงในน้ำยาฟอกแล้วเอามาแตะต้องบนหัวหูดโดยประมาณ 15 นาที (อาจแสบบ้างเล็กน้อย) เสร็จแล้วให้ล้างออกโดยใช้น้ำสะอาด
  • น้ำร้อนรวมทั้งเกลือทะเล ให้แช่บริเวณที่เป็นหูดลงในน้ำเกลืออุ่นๆตรงเวลา 10-15 นาที เพื่อให้หูดนุ่มขึ้น ต่อจากนั้นให้ขูดเอาชั้นผิวที่ตายแล้วบนหูดออกไปโดยใช้ตะไบเล็บหรือหินภูเขาไฟ ก็เลยนำเกลือทะเลเม็ดใหญ่มาถู ติดปลาสเตอร์ยาหรือเทปทับลงไปเพื่อให้เม็ดเกลือยังอยู่กับที่ รวมทั้งรอเปลี่ยนปลาสเตอร์ยาใหม่ภายหลังจากอาบน้ำ เสร็จแล้วให้ล้างมือให้สะอาดเพื่อปกป้องการแพร่ระบาดของเชื้อหูด
  • กินอาหารที่ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน เป็นต้นว่า กระเทียม มันเทศ เม็ดทานตะวัน ขนมปังโฮลเกรน ข้าว ฯลฯ
  • รับประทานกระเทียมจำพวกแคปซูล โดยให้รับประทานวันละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องกันยาวนานหลายสัปดาห์ แล้วหูดจะเริ่มหลุดออกในตอน 1-2 อาทิตย์แรก แต่ว่าให้ทานต่อไปอย่างต่อเนื่องกระทั่งหูดจะหายหมด แล้วก็ให้นำน้ำมันกระเทียมมาทาทับรอบๆที่เป็นหูดราว 1-2 ครั้งต่อวัน ตรงเวลา 1 เดือน

 
ส่วนคนที่ต้องการจะสั่งยาไปใช้พื้นฐานผมจะเสนอแนะรวมทั้งชี้แจงเนื้อหาตัวยาที่เหมาะสมครับ ด้วยเหตุว่ารูปแบบของหูดแต่ละคนเป็นแตกต่างกัน บางคนเป็นแบบแบนราบ แบบเส้นแหลมๆยื่นออกมา รวมทั้งเป็นแบบติ่งเนื้อแจ่มกระจ่าง รวมทั้งยังมีกรณีหญิง ผู้ชาย ภายนอกรวมทั้งด้านใน ที่ตรงนี้เองที่เป็นปัจจัยต่างๆที่ต้องเลือกใช้ยาให้ถูกแหละสมควรเพื่อการดูแลและรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและก็เห็นผลครับ มาเริ่มกันทีละตัวครับ
1. ยา aldara ยาประเภทนี้เป็นยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นให้ผิวหนังบริเวณที่ดูดซับยาสร้างภูมิคุ้มกันต้านเชื้อหูดเหมาะกับคนที่เป็นระยะแรกๆแล้วก็สังเกตุเห็นไว หูดยังเป็นเพียงเม็ดคล้ายๆผื่นระยะเวลาราวๆ 1-2 อาทิตย์ สามารถใช้ยา aldara เพียงแต่ตัวเดียวแต้มวันเว้นวันได้เลยนะครับ ยังพอทำให้หูดแห้งลงได้เหตุเพราะมีขนาดเล็ก โดยธรรมดาจะใช้ราวๆ3-4 ซองครับ ทาสม่ำเสมอวันเว้นวัน
 (ยาตัวนี้หาคนไหนกันเป็นอยู่ช่วงนี้รวมทั้งหาซื้อมิได้สามารถติดต่อสั่งมาได้ครับ ยินดีจัดส่งให้โดยไม่คิดค่าจัดส่งนะครับ คิดเฉพาะค่ายา ซองละ 220 บาทเพียงแค่นั้นนะครับ )
2 ยา Podo ยาตัวนี้เป็นยามาตรฐานที่ใช้รักษาหูดหงอนไก่กันแพร่หลาย คลีนิค รวมทั้ง โรงพยาบาลต่างๆเหมาะกับหูดที่เริ่มจะขยายตัวเป็นติ่งชัดเจน ระยะมากยิ่งกว่า 1 ข้างขึ้นไป ควรใช้ podo แต้มเพื่อให้หูดยุ่ยและหลุดออกโดยเร็ว และทันเวลาก่อนที่จะขยายเพิ่มจำนวนเกินกว่าจะรักษาโดยใช้ยาแต้มหูได้ โดยมากจะเปื่อยยุ่ยแล้วก็หลุดข้างใน 3 ครั้งและเมื่อหลุดหมดก็จะสามารถทา aldara ต่อได้เพื่อกันไม่ให้กลับมาเกิดซ้ำ แต่ว่าถ้าหากระยะนี้จะใช้ aldara รักษาบางคนต้องใช้กันเป็นกล่อง มากยิ่งกว่า 10 ซองกว่าหูดจะเริ่มยุ่ย และยา aldara ไม่สมควรใช้สม่ำเสมอเป็นเวลายาวนานกว่า 16 สัปดาห์อ้างอิงตามวิธีใช้ เนื่องด้วยมีสารดูดซับควรจะใช้แม้กระนั้นพอประมาณตามสมควร
 (ปกติผมจะคนที่เป็นระยะนี้จะมีเป็นจำนวนมากผมจะแนะนำให้ใช้อย่างละ 1 ตัว คู่กัน โดยใช้ podo 1 ขวด รวมทั้ง aldara เพียง 1 ซองเพียงแค่นั้น อยากจะให้สั่งไปเท่าที่มีความจำเป็นจริงๆถ้ายาหมดค่อยติดต่อสั่งมาเพิ่มเป็นครั้งๆไปนะครับ ด้วยเหตุว่าผมไม่มีคุณค่าจัดส่งจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสั่งไปตุนไว้ขอรับ)

3. Wart no more ปัจจุบันนี้เป็น wart control ยาประเภทนี้้นับได้ว่าเป็นยารักษาหูดหงอนไก่ที่ดีที่สุดในขณะนี้ ครับ
ยาตัวนี้เป็นยารักษาหูดที่ได้ผลและก็ควบคุมผู้กระทำระจายเชื้อเจริญมากเพราะเป็นยาศูนย์รวมข้อดีของอีกทั้ง 2 ตัวแรกไว้ร่วมกัน และเป็นยาตัวเดียวที่มีตัวยาควบคุมเชื้อไวรัส HPV ได้ทำให้จังหวะกลับมาเป็นซ้ำดูเหมือนจะเป็นศูนย์นอกจะเมื่อหายแล้วไปติดโรคมาโดยตรงจากผู้ที่มีเชื้อครับผมเป็นยาที่ได้รับการยินยอมรับแล้วก็แพร่หลายในอเมริกา และก็เริ่มจะมีแพร่หลายใน รพ.เอกชน แต่ว่าโดยรวมทุกจังหวัดยังนับว่าน้อยเหตุเพราะตัวยาที่ราคาแพงสูง ไม่สามารถที่จะเข้าถึงผู้ที่มีงบจำกัด ( ยาผมจะสั่งไว้ปริมาณนึงสำหรับพอเพียงที่จะจัดส่งได้ในแต่ละเดือนครับ ยาขวดละ 1600.- ถ้าผู้ใดกันพอใจสั่งก็ทดลองติดต่อมาและสอบถามผมก่อนขอรับด้วยเหตุว่าผมนำเข้ามาทีละไม่มากตอนสิ้นเดือนบางครั้งก็อาจจะไม่มีของปกติผมจะจัดส่งหมดตั้งแต่กลางเดือนแรกครับ แต่ถ้าหากผู้ใดกันมีบัตรเครดิต สามารถสั่งซื้อได้จาก amazon จะมีจัดจำหน่ายปลีกเป็นขวดๆนะครับ ผมจะแนบลิงค์แบบอย่างไว้ให้ขอรับ
 
ผลข้างเคียงของโรคหูดหงอนไก่

  • เว้นแต่รูปแบบของรอยโรคที่ไม่น่ามองแล้ว สำหรับเพื่อการติดเชื้อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ร้ายแรง ดังเช่น สายพันธุ์ 16, 18 ยังอาจจะส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งในระบบขยายพันธุ์และโรคมะเร็งทวารหนักได้ด้วย ส่วนผลกระทบอื่นๆก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของรอยโรค ดังเช่น อาจมีเลือดออกข้างหลังมีเซ็กส์ ซึ่งเป็นผลมาจากการมีหูดข้างในปากมดลูก
  • ในหญิงมีท้อง หูดหงอนไก่อาจโตขึ้นกระทั่งกีดกั้นคลอดจนกระทั่งทำให้เด็กคลอดออกมาตรากตรำ หรือเชื้อบางทีอาจเข้าไปในปากหรือคอของเด็กในขณะคลอด กระตุ้นให้เกิดหูดในกล่องเสียงซึ่งมีลักษณะอาการแตกต่างกันไป ตั้งแต่เสียงแหบไปจนกระทั่งมีการอุดกั้นของกล่องเสียง ทำให้เด็กออกเสียงหรือหายใจมิได้
  • ในกรุ๊ปชายรักชายจะเจอหูดหงอนไก่รอบทวารหนักหรือในทวารหนักได้มากกว่าคนทั่วๆไป ซึ่งการดูแลรักษาในตำแหน่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วจะทำได้ยากมาก เพราะไม่ว่าจะใช้ยาหรือใช้ขั้นตอนการผ่าตัด หูดหงอนไก่ก็มักจะกำเนิดซ้ำได้หลายครั้ง การได้รับการดูแลรักษาหลายครั้งจึงอาจก่อให้กำเนิดทวารหนักตีบแล้วก็มีปัญหาสำหรับการถ่ายตามมาได้ ส่วนก้อนที่อยู่ลึกเข้าไปในทวารหนักอาจโตมากมายจนกระทั่งทำให้ผู้เจ็บป่วยมีลักษณะท้องผูก ในบางครั้งอาจมีเลือดออกหรือบิดขั้วจนกระทั่งจำเป็นต้องผ่าตัดเร่งด่วนหรือต้องสูดดมยาสลบ นอกจากนี้ยังมักพบการตำหนิดเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 ร่วมด้วยอยู่เป็นประจำซึ่งจะชมรมกับการเกิดโรคมะเร็งทวารหนักได้
  • เกิดหูดหงอนไก่ที่ทางเดินหายใจ (Recurrent Respiratory Papillomatosis – RRP)เป็นตั้งแต่โพรงจมูกลงไปจนถึงถุงลมในปอด พบได้ทั่วไปได้มากที่สุดที่กล่องเสียง ทำให้คนเจ็บมีลักษณะเสียงแหบหรือมีการอุดกั้นทางเท้าหายใจจนถึงเสียชีวิตได้ ในเด็กมักมีสาเหตุมาจากการต่อว่าดเชื้อจากแม่ในระหว่างการคลอดจากที่กล่าวมา ส่วนในผู้ใหญ่พบมากว่าเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการมีเซ็กส์ทางช่องปาก ถึงแม้สภาวะนี้จะเป็นภาวะที่เจอได้นานๆครั้ง (พบได้ราว 1-4 ต่อพลเมือง 100,000 คน) แต่ถ้าหากกำเนิดแล้วจะสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวทุกข์ทรมานแสนสาหัสต่อคนไข้อย่างมากมาย
  • ทั้งยังเรื่องการรักษาที่เรื้อรังรวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอย่างมหาศาล ด้วยเหตุว่าในผู้ใหญ่มักจะจบด้วยการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของก้อนหูดเพื่อช่วยเรื่องทางเท้าหายใจ ซึ่งการผ่าตัดแบบงี้จะทำเป็นยากมากมายตั้งแต่ขั้นตอนการดมยาสลบ ที่คนป่วยบางทีอาจขาดอากาศหายใจได้เป็นบางช่วง ยิ่งกว่านั้นตามธรรมชาติแล้วรอยโรคก็ชอบกระจายไปทั่ว จึงทำให้ไม่อาจจะกำจัดออกหมดได้ข้างในครั้งเดียว และก็บางทีอาจต้องได้รับการผ่าตัดมากยิ่งกว่า 5 ครั้งในชีวิต ส่วนในเด็กมักจึงควรได้รับการผ่าตัดโดยเฉลี่ย 4.4 ครั้งต่อปี รวมแล้วราว 19.7 ครั้งในช่วงชีวิต จึงก่อให้เกิดผลข้างเคียงตามมาเป็นแผลเป็น ได้ผลสำเร็จทำให้หลอดลมตีบและก็หายใจได้ตรากตรำในระยะยาว
ต้องการสั่งซื้อยา ปรึกษาแนะนำบอกต่อ เบอร์ 092-9899456 คุณนิธิพล
#หูดหงอนไก่ #ขายยารักษาหูด #หมอเสนอแนะ #แพทย์ช่วยได้ #ส่วนตัว

Tags :  wart no more,ยารักษาหูดหงอนไก่
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ