ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: teareborn ที่ เมษายน 05, 2018, 11:52:19 am



หัวข้อ: โรคหูน้ำหนวกอักเสบเรื้อรัง/หูน้ำหนวก.( Chronic Otitis media)- อาการ, สาเหตุ, การ
เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ เมษายน 05, 2018, 11:52:19 am
(https://www.img.in.th/images/fe352ebbc62c7cfddd9d643691df6d9c.jpg)
โรคหูน้ำหนวกอักเสบเรื้อรัง/หูน้ำหนวก[/b].( Chronic Otitis media)[/color][/size][/b]
โรคหู[/b]ชั้นกึ่งกลางอักเสบคืออะไร ประการแรกจำต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบ (Otitis media) นั้น เรียกเป็นภาษาประชาชนว่า โรคหูน้ำหนวก มีต้นเหตุจากการตำหนิดเชื้อในหูชั้นกลาง
ซึ่งหูชั้นกลาง (middle ear) เป็นส่วนของช่องหูที่อยู่ต่อจากเยื่อแก้วหูเข้าไป มีกระดูกค้อน กระดูกทั่ง รวมทั้งกระดูกโกลนบรรจุอยู่ ปฏิบัติหน้าที่รับคลื่นเสียงก่อนหน้าที่ผ่านมาทางหูชั้นนอก และส่งต่อไปยังหูชั้นในซึ่งมีเส้นประสาทหูรับรู้เสียง (การได้ยิน)
            ด้านล่างของหูชั้นกลางมีท่อเล็กๆเชื่อมต่อกับคอหอย เรียกว่า ท่อยูสเตเชียน (Eustachian tube) เมื่อมีการติดเชื้อโรคของคอหอย เชื้อโรคสามารถเดินทางผ่านท่อยูสเตเชียนเข้าไปในหูชั้นในได้ ถ้าหากท่อยูสเตเชียนเกิดการอักเสบบวม ก็จะเกิดการอุดตัน ทำให้เชื้อโรคถูกกักไว้ภายในหูชั้นกลางกระทั่งมีการติดเชื้อของหูชั้นกลาง แล้วก็บางทีอาจอักเสบเป็นหนองขังอยู่ในหูชั้นกลาง มีอาการไข้สูง ปวดหู หูอื้อได้ในระยะต้น
โรคนี้ก็เลยพบได้บ่อยร่วมกับโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนต้น ดังเช่นว่า ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ฝึกหัด คออักเสบ ทอนซิลอักเสบ เป็นต้น โดยเชื้อก่อโรคอาจเป็นไวรัส หรือแบคทีเรียก็ได้
โดยโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบ เป็นโรคที่พบมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก เหตุเพราะในเด็กนั้น ท่อปรับความดันหูชั้นกึ่งกลางหรือท่อยูสเตเชียน (Eustachian tube) ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลางแล้วก็ข้างหลังโพรงจมูก ยังไม่พัฒนาบริบูรณ์เต็มกำลัง ประกอบกับเด็กเกิดภาวะติดเชื้อโรค อย่างเช่น โรคหวัดได้บ่อยมาก ทำให้มีโอกาสที่จะมีการอักเสบสม่ำเสมอไปยังรูเปิดของท่อปรับความดันหูชั้นกึ่งกลาง ซึ่งอยู่หลังโพรงจมูก ส่งผลนำมาซึ่งสภาวะหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเฉียบพลัน (Acute otitis media) ขึ้น ซึ่งถ้าหากไม่ได้รับการดูแลและรักษา จะมีลักษณะอาการไข้ หูอื้อ รวมทั้งปวดหูมาก จวบจนกระทั่งเมื่อแก้วหูทะลุ ลักษณะของการปวดหูและก็ไข้จะเริ่มดีขึ้นกว่าเดิม แต่จะมีน้ำหนอง ซึ่งมีกลิ่นเหม็นไหลออกมาจากหู และก็ถ้ายังมิได้รับการดูแลและรักษาที่สมควรอีก อาจเปลี่ยนเป็น “โรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง หรือหูน้ำหนวก (Chronic otitis media)” ถัดไป ซึ่งได้โอกาสเป็นผลข้างเคียง สอดแทรกต่างๆตามมาได้ ยกตัวอย่างเช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หูชั้นในอักเสบ ฝีในสมอง ฝีข้างหลังหู ฝีที่คอ ใบหน้าเป็นอัมพาต ฯลฯ
โรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบ มักจะเกิดอาการอักเสบข้างในของรอบๆหูชั้นกึ่งกลาง ส่วนใหญ่แล้วมักมีสาเหตุจากการต่อว่าดเชื้อที่เนื้อเยื่อหู กระทั่งทำให้เกิดอาการบวมแดง อักเสบ รวมทั้งกำเนิดของเหลวที่รอบๆหลังแก้วหู
โดยระดับของการอักเสบแบ่งออกเป็น 3 ระดับดังต่อไปนี้

  • หูชั้นกึ่งกลางอักเสบกะทันหัน (Acute otitis media – AOM) โดยทั่วไปแล้วถ้าผู้ป่วยไม่มีอาการหูชั้นกึ่งกลางอักเสบมาก่อน จะนับได้ว่าเป็นหูชั้นกึ่งกลางอักเสบรุนแรง เพราะอาการดังที่กล่าวมาแล้วจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีภาวะ ดังนี้ ส่วนใหญ่มักเกิดร่วมกับการติดเชื้อในรอบๆฟุตบาทหายใจส่วนต้น (คอและก็จมูก) เป็นต้นว่า หวัด ทอนซิลอักเสบ และก็บางรายหูชั้นกลางอักเสบรุนแรงอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่ ไอกรน หัด ทำให้เชื้อโรคบริเวณคอผ่านท่อยูสเตเชียน หรือท่อปรับความดันหูชั้นกึ่งกลาง (Eustachain tube) เข้าไปในหูชั้นกึ่งกลางได้ แล้วก็เกิดการอักเสบขึ้นมา ทำให้เยื่อบุผิวด้านในหูชั้นกลางรวมทั้งท่อยูสเตเชียนบวม และมีหนองขังอยู่ในหูชั้นกึ่งกลาง เพราะว่าไม่สามารถระบายผ่านท่อยูสเตเชียนที่บวมแล้วก็ตันได้ สุดท้ายเยื่อแก้วหูซึ่งเป็นเยื่อบางๆที่กั้นอยู่ระหว่างหูชั้นกึ่งกลางอักเสบกับหูชั้นนอกก็จะมีการทะลุเป็นรู หนองที่ขังอยู่ด้านในก็จะไหลออกมาเปลี่ยนเป็นหูน้ำหนวกในเวลาถัดมา
  • สภาวะน้ำคั่งในหูชั้นกลาง (Otitis media with effusion-OME) เมื่อเกิดการอักเสบที่หูชั้นกลางจะมีผลให้กำเนิดของเหลวด้านในหู ซึ่งบางทีอาจส่งผลต่อการได้ยินในระยะสั้น พูดอีกนัยหนึ่ง เป็นภาวะที่มีนํ้าขังอยู่ในหูชั้นกึ่งกลางโดยที่ไม่มีอาการแสดงของการอักเสบหรือติดโรค ผู้ป่วยมักจะมีอาการหูอื้อ การได้ยินลดลง แต่ไม่มีลักษณะของการปวดหูและไม่มีไข้ เมื่อตรวจทานในหูจะไม่พบการบวมแดงของแก้วหู แต่ว่าจะมีการขยับของเยื่อแก้วหูต่ำลง (เพราะเหตุว่ามีน้ำขังอยู่ด้านหลัง) ภาวะนี้พบได้มากในคนที่มีส่วนประกอบบริเวณใบหน้าที่ผิดปกติ
  • หูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง ถ้าหมอพบว่ามีการฉีกจนขาดของแก้วหูบ่อยๆแล้วก็มีร่องรอยของการอักเสบ ก็อาจจะเป็นผลให้หมอวิเคราะห์ได้ว่ามีการอักเสบอย่างเรื้อรังที่หูชั้นกลางได้โดยมีสภาวะดังต่อไปนี้ เป็นภาวะที่มีการทะลุของเยื่อแก้วหูรวมทั้งมีหูน้ำหนวกไหลแบบเรื้อรัง (โดยมากจะเริ่มเป็นมาตั้งแต่เด็ก) โดยอาจเกิดจากหูชั้นกลางอักเสบกะทันหันหรือมาจากการได้รับบาดเจ็บจนถึงแก้วหูทะลุก็ได้ และบางโอกาสอาจเจอร่วมกับคนที่เป็นภูมิแพ้เรื้อรัง ต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง ผนังกันช่องจมูกคด และก็ริดสีดวงจมูก

ซึ่งโรคหูชั้นกลางอักเสบนี้พบได้ทั่วไปในเด็กมากกว่าในคนแก่ โดยยิ่งไปกว่านั้นเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี เนื่องด้วยท่อยูสเตเชียนของเด็กสั้นกว่ารวมทั้งอยู่ในแนวราบมากกว่าในผู้ใหญ่ โดยในโรคหูชั้นกลางอักเสบนี้ ระยะของการอักเสบที่ทำให้มีน้ำหนองไหลออกมาจากรูหู (ภาษาราษฎรเรียกน้ำหนวก) นี้ ชอบพบในระยะหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรั้ง เป็นส่วนมาก ส่วนระยะอื่นพบได้มากได้ไม่บ่อยมากมาย และก็ความรุนแรงของโรคก็ไม่มากมายเท่าระยะเรื้อรัง โดยเหตุนั้นในประเด็นถัดไปนักเขียนก็เลยจะขอชี้แจงเฉพาะในระยะหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรังหรือโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรังเพียงเท่านั้น เพื่อไม่ให้กำเนิดความสับสนของนักอ่าน
สิ่งที่ทำให้เกิดโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง สาเหตุของโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้องรังของ (COM) มักเกิดขึ้นได้เนื่องมาจาก

  • หูชั้นกึ่งกลางอักเสบเฉียบพลัน (acute otitis media) ที่ไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ทำให้หนองในหูชั้นกลางดันเยื่อแก้วหูทะลุออกมาก รวมทั้งหลังจากนั้นไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกทางทำให้เยื่อแก้วหูที่ทะลุนั้นไม่สามารถปิดได้เอง
  • เยื่อแก้วหูทะลุจากการบาดเจ็บ (traumatic tympanic membrane perforation) ยกตัวอย่างเช่น ใช้ไม่พันสำลีปั่นช่องหู แล้วมีอุบัติเหตุกระแทกทำให้ไม้พันสำลีนั้น กระแทกเยื่อแก้หูจนกระทั่งทะลุเป็นรูแล้วก็รูนั้นไม่สามารถปิดได้เอง หรือมีสาเหตุมาจากการผ่าตัดกรีดเยื่อแก้วหู (myringotomy) เพื่อระบายหนองออกจากหูชั้นกึ่งกลาง ในคนป่วยที่มีหูชั้นกลางอักเสบฉับพลันที่มีภาวะแทรกซ้อน หรือผ่าตัดเพื่อใส่ท่อระบายของเหลวหรือโรคหนองในหูชั้นกึ่งกลาง (ventilation tubes) และก็คาไว้ที่เยื่อแก้วหู แล้วหลุดออกไป แม้กระนั้นรูที่เกิดจากการผ่าตัดนั้นไม่สามารถปิดได้เอง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เยื่อแก้วหูที่ทะลุนั้นไม่สามารถที่จะปิดได้เองเช่น
  • มีการไหลของของเหลว ดังเช่น มูกหรือหนองผ่านรูทะลุตลอดเวลา เพราะยังมีการติดโรคในหูชั้นกึ่งกลางอยู่
  • เยื่อบุผิวหนังของหูชั้นนอก (squamous epithelium) เข้ามาหุ้มที่ขอบของรูทะลุ เมื่อเยื่อแก้วหูทะลุ ทำให้กลไกสำหรับเพื่อการ
(https://www.img.in.th/images/7de14273979038a9b99e41678869fb0b.jpg)
Proteus species
ที่มา : Google
คุ้มครองปกป้องการต่อว่าดเชื้อของหูชั้น
กลางเสียไป เมื่อเยื่อแก้วหูทะลุ ทำให้กลไกสำหรับในการคุ้มครองปกป้องการต่อว่าดเชื้อของหูชั้นกึ่งกลางเสียไปเชื้อโรงที่เป็นต้นเหตุของการต่อว่าดเชื้อแล้วก็ทำให้หูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียและ     
        พบมาก เป็นเชื้อประเภทมึงรมลบ
 (https://www.img.in.th/images/f3f64c57f06d7f350e74ff2864bbec45.jpg)
Pseudomonas aeruginosa
        ที่มา : Googie                                                                                                                
 
(https://www.img.in.th/images/7e6a368385a063be70ea53a613d5c2b1.jpg)
Staphylococcus aureus
ที่มา Wikipedia
 และก็Pseudomonas aeruginosa, Proteus species, Klebsiella pneumoniae แล้วก็เชื้อจำพวกมึงรมบวก เช่น Staphylococcus aureus และอาจพบเชื้อ anaerobes อาทิเช่น Bacteroides, Peptostrep-tococcus, Peptococcus ได้ ซึ่งสามารถไปสู่ร่างกายได้โดย

  • เป็นผลมาจากการที่เชื้อโรคจากคอ หรือ จมูก ผ่านเข้าทาง Eustachian tube ไปสู่หูชั้นกึ่งกลาง
  • เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเชื้อโรคเข้าทางรูหู ผ่านแก้วหูที่ทะลุอยู่ก่อนแล้ว เข้าไปสู่หูชั้นกลาง รวมทั้ง mastoid air cell
  • ผ่านทางกระแสโลหิต

ยิ่งไปกว่านั้นยังอาจมีสาเหตุมาจาก  มีการอุดตันของรูเปิดของท่อยุสเตเชียนจากพยาธิภาวะในโพรงข้างหลังจมูก อย่างเช่น โรคมะเร็งโพรงข้างหลังจมูก ต่อมอดีนอยด์โต, การอักเสบของโพรงจมูก ไม่ว่าจากการตำหนิดเชื้อ ไหมใช่การตำหนิดเชื้อการอักเสบของโพรงหลังจมูก ซึ่งเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากกรดไหลย้อนที่ขึ้นมาที่โพรงหลังจมูก หรือเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากกรดไหลย้อนที่ขึ้นมาที่โพรงหลังจมูก หรือเกิดขึ้นจากความเปลี่ยนไปจากปกติโดยกำเนิดของท่อยูสเตเชียนทางกายส่วนแล้วก็สรีรวิทยา เป็นต้นว่า เพดานโหว่ (cleft palate) Down syndrome พยาธิภาวะดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว ทำให้มีการคั่งของของเหลวที่ผลิตมาจากหูชั้นกึ่งกลาง และเกิดการอักเสบของเยื่อบุหูชั้นกึ่งกลาง รวมทั้งทำให้ของเหลวดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วไหลออกจากหูชั้นกลางได้
อาการโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง หูชั้นกึ่งกลางอักเสบประเภทเรื้อรัง  แบ่งเป็น 2 จำพวก คือ

  • ประเภทไม่อันตราย (safe or uncomplicated ear) รูทะลุของเยื่อแก้วหู มักจะอยู่กึ่งกลาง (central perforation) ช่องทางที่เยื่อบุหูชั้นนอก (stratified squamous epithelium) หรือคราบไคล (cholesteatoma) จะเข้าไปในหูชั้นกึ่งกลางและโพรงอากาศมาสตอยด์ นำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนน้อย หูน้ำหนวกชนิดนี้เป็นประเภทที่ไม่มีไคลนั่นเอง ประเภทนี้คนไข้จะมีหนอง (mucopurulent discharge) ไหลจากหูเป็นๆหายๆบางทีอาจตรวจพบ granulation หรือ polyp ได้ มักไม่พบว่ามีลักษณะปวดหูร่วมด้วย ถ้าเกิดมีลักษณะปวดหูแปลว่าอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น นอกจากนี้ผู้ป่วยมักเสียการได้ยินแบบการนำเสียงเสีย บางรายอาจมีเส้นประสาทหูเสื่อมร่วมด้วยจาก Bacterial Toxin
  • ประเภทอันตราย (unsafe or complicated ear) มักจะมีรูทะลุของเยื่อแก้วหู อยู่ที่ขอบแก้วหู (marginal perforation) ทำให้จังหวะที่เยื่อบุหูชั้นนอก หรือขี้ไคลจะเข้าไปในหูชั้นกึ่งกลางและก็โพรงกระดูกมาสตอยด์ ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสูง หูน้ำหนวกชนิดนี้ คือ ประเภทที่มีคราบไคลนั่นเอง จำพวกนี้คนป่วยจะมีอาการเป็น ผู้ป่วยจะมีลักษณะหนองไหลออกมาจากหูเป็นๆหายๆถึงแม้รักษาโดยใช้ยาเต็มที่แล้วอาการไม่ดีขึ้น  และก็มีลักษณะอาการหูตึงจากการนำเสียงไม่ปกติ (conductive hearing loss) หรือทำลายอวัยวะที่เกี่ยวกับการได้ยินในหูชั้นใน ทำให้หูตึงจากเส้นประสาทหูดำเนินงานแตกต่างจากปกติ (sensorineural hearing loss) มีลักษณะเวียนหัว คลื่นไส้ คลื่นไส้  ส่งผลให้เกิดอัมพาตของเส้นประสาทคู่ที่ 7  เกิดภาวะแทรกทางสมอง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningitis), ฝีในสมอง (brain abscess),
(https://www.img.in.th/images/6a728c53076c7421ecf65b10eb520443.jpg)
การตำหนิดเชื้อของเส้นเลือดในกะโหลกศีรษะ (sigmoid sinus thrombophlebitis) เกิดการอักเสบของกระดูกมาสตอยด์ (mastoiditis) เนื่องด้วยมีหนองขังอยู่ในส่วนของกระดูก มาสตอยด์ แล้วไม่สามารถที่จะระบายออกไปได้ ทำให้มีการทำลายของกระดูกส่วนที่เป็นโพรงอากาศมาสตอยด์ผู้ป่วยมีลักษณะอาการปวดหูมากขึ้น มีหนองไหลออกจากหูมากขึ้น
แล้วก็มีกลิ่นเหม็น  เกิดฝีหนองข้างหลังหู (subperiosteal abscess)
กรรมวิธีรักษาโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง หมอสามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้จากวิธีซักประวัติความเป็นมาลักษณะของคนเจ็บ การตรวจร่างกาย รวมทั้งการใช้เครื่องส่องหู (Otoscope) ส่องดู ซึ่งจะเจอเยื่อแก้วหูมีลักษณะไม่ปกติ แม้แก้วหูยังไม่ทะลุสามารถยืนยันการมีน้ำในหูชั้นกลางได้ด้วยการตรวจ pneumatic otoscope และก็การวัด tympanometry ถ้าหากทะลุแล้วจะเห็นรูทะลุแล้วก็มีน้ำอยู่ในรูหูชั้นนอก สามารถนำน้ำในหูไปย้อมสีและก็เพาะหาจำพวกของเชื้อได้รวมทั้งการตรวจนับเม็ดเลือดจะช่วยรับรองสภาวะติดโรคถ้าหากยังไม่มีหนองไหล นอกเหนือจากนี้ยังมีการตรวจพิเศษอื่นๆเพิ่มเติมอีกยกตัวอย่างเช่น

  • การถ่ายรังสีกระดูกมาสตอยด์ (plan film of mastoid) พบได้มากว่าโพรงกระดูกมาสตอยด์ทึบ และนิดหน่อยของกระดูกมาสตอยด์บางทีอาจถูกทำลายไป
  • การตรวจการได้ยิน เพื่อตรวจระดับของการได้ยินทีเสียไป ถ้าการอักเสบของหูชั้นกึ่งกลางหรือ cholesteatoma ทำลายกระดูกหู (ossicular destruction) จะก่อให้มีการสูญเสียการได้ยินมากมาย (conductive hearing loss) หรืออาจมีการสูญเสียของประสาทหู (sensorineural hearing loss) ได้ถ้ามี inner ear involvement
  • การเป่าลมเข้าไปในช่องหู เพื่อมองว่าคนป่วยมีอาการเวียนศีรษะมากเพิ่มขึ้น หรือมีลูกตากระเหม็นตุก (nystagmus) หรือ (fistula test) ถ้าเกิด cholesteatoma ได้ทำลายกระดูกที่ห่อหุ้มอวัยวะควบคุมการทรงตัว จนกระทั่งเกิดทางเชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลาง รวมทั้งอวัยวะควบคุมการทรงตัว การเป่าลมดังกล่าวข้างต้นจะกระตุ้นอวัยวะควบคุมการทรงตัว ทำให้ผู้ป่วยมีลักษณะอาการเวียนศีรษะหรือดวงตากระตุกได้ ควรกระทำการทดลองดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นในคนเจ็บทุกรายที่มี cholesteatoma โดยยิ่งไปกว่านั้นคนไข้ที่มีลักษณะอาการเวียนศีรษะ
  • เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) ของกระดูกเทมโพรอล (temporal bone) ตรึกตรองทำในรายที่ใช้ยารักษาเต็มกำลังแล้วไม่ดีขึ้น (สงสัย cholesteatoma เนื้องอก,สิ่งเจือปน) หรือสงสัยว่าจะมีภาวะแทรกซ้อน (ossicular or fallopian canal erosion จาก cholesteoma, subperiostea abscess)
  • การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ของกระดูกเทมโพรอคอยล พิจารรณาทำในรายที่สงสัยว่าจะมีภาวะแทรกซ้อน (dural inflammation, sigmoid sinus thrombosis, labyrinthitis, extra-craniai and intracranial abscess)

สำหรับวิธีการดูแลรักษาโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรังจำพวกไม่อันตรายเป็น ทำความสะอาด ดูดโรคหนองในรูหู  ให้ยาหนอดหู fluoroquinolone ear drop 14-28 วัน
ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้นให้ กินยาปฏิชีวนะ ร่วมด้วย ภายหลังจากให้การรักษาโดยใช้ ยาปฏิชีวนะอย่างมากแล้วยังไม่ดีขึ้นจำต้องประเมินหา cholesteatoma รวมทั้ง mastoiditis
ในคนป่วยบางรายข้างหลังการรักษาด้วย ยาปฏิชีวนะไปแล้ว ยังพบว่าแก้วหูทะลุอยู่ไม่สามารถที่จะปิดเองได้ซึ่งอาจพิจารณารับการผ่าตัดแก้วหู (tympanoplasty) จุดประสงค์หลักในการปะเยื่อแก้วหูเป็น

  • เพื่อกำจัดการตำหนิดเชื้อในหูชั้นกึ่งกลาง
  • เพื่อปกป้องการตำหนิดเชื้อผ่านเยื่อแก้วหูที่ทะลุเข้าสู่หูชั้นกึ่งกลาง
  • เพื่อช่วยให้การได้ยิน

รวมทั้งแนวทางการรักษาโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรังประเภทอันตรายเป็น กำจัดการติดเชื้อข้างในหูชั้นกึ่งกลางปกป้องไม่ให้เกิดการติดเชื้อภายในหูชั้นกึ่งกลางอีก รักษาการได้ยินให้อยู่ในภาวะดี
นอกเหนือจากจุดมุ่งหมายสำหรับในการรักษาดังกล่าว 3 ข้อแล้ว ควรจะทำให้ cholesteatoma มีทางออก เพื่อป้องกันไม่ให้ cholesteatoma มีการขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนไปทำลายอวัยวะที่สำคัญต่างๆ

  • การดูแลและรักษาทางยา โดยบางทีอาจให้ยาต่อต้านจุลชีพประเภทรับประทานแล้วก็ประเภทหยอดหู แล้วก็ให้ยาต้านทานจุลินทรีย์จำพวกฉีดเข้าเส้นโลหิต ในคนไข้ ที่มีภาวะแทรกซ้อน แล้วก็ชำระล้างหู โดยนำหนองของเหลว แล้วก็เนื้อตายในหูชั้นกลางออกให้หมด
  • กระทำการผ่าตัด mastoidectomy สำหรับคนเจ็บที่มี cholesteatoma เก็กกักไว้ภายในส่วนของแก้วหูที่เป็นแอ่ง และแพทย์ไม่อาจจะมองเห็นและชำระล้างเอา cholesteatoma โดยยิ่งไปกว่านั้นส่วนในสุดของแอ่งได้ ควรทำผ่าตัด วิธีการเป็นเอา cholesteatoma ออกมาให้หมด โดยการทำ tympanomastoid surgery และก็เปิดทางให้ choleseatoma ที่อยู่ภายใน มีทางออกสู่ด้านนอก เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้ cholesteatoma มีการขยายขนาดกระทั่งไปทำลายอวัยวะที่สำคัญต่างๆรวมทั้งเกิดภาวะเข้าแทรกได้
(https://www.img.in.th/images/59db43dbbe707d6a87fba2fbf445a24b.jpg)
สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะก่อกำเนิดโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง เหตุต่างๆที่ทำให้คนป่วยมีโอกาสเสี่ยงต่อการตำหนิดเชื้อด้านในหูชั้นกลางจนถึงแปลงเป็นการอักเสบเรื้อรังได้ ซึ่งยกตัวอย่างเช่น

  • อายุ หูชั้นกึ่งกลางอักเสบมักเกิดขึ้นในเด็กอายุ 6 เดือน-2 ปี เป็นส่วนมาก เนื่องมาจากท่อยูสเตเชียนของเด็กอยู่ในลักษณะแนวขนานนำไปสู่การระบายของเหลวไม่ดีพอเหมือนคนแก่
  • ปัญหาด้านสุขภาพ เด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่มีการเสี่ยงที่จะเกิดติดเชื้อในหูชั้นกลาง เพราะความไม่ปกติดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจะส่งผลให้เชื้อโรคเข้าสู่ท่อยูสเตเชียนและก็เข้าสู่หูชั้นกลางได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วๆไป นอกนั้น ผู้ป่วยกลุ่มดาวน์ซินโดรม (Down's Syndrome) ที่มีลักษณะด้านกายภาพที่ต่างจากเด็กคนทั่วไปจะมีแนวโน้มเสี่ยงในการเกิดหูชั้นกลางอักเสบได้มากขึ้น
  • การดื่มนมแม่ เด็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่ตั้งแต่เกิดจะมีผลให้มีภูมิต้านทานในระยะแรกกำเนิดน้อยกว่าเด็กที่ดื่มนมแม่ เพราะว่าในนมแม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีแล้วก็ช่วยป้องกันการตำหนิดเชื้อต่างๆได้
  • ความเคลื่อนไหวของฤดูกาล ไข้หวัดมักเป็นกันมากในช่วงฤดูฝน และฤดูหนาว ซึ่งอาจก่อให้คนป่วยติดโรคที่หูได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเมื่อจับไข้หวัด ยิ่งกว่านั้น คนเจ็บโรคภูมิแพ้อากาศก็ยังมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อได้อีกด้วย
  • การดูแลเด็ก เด็กที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลในสถานที่รับเลี้ยงมีความเสี่ยงที่จะเป็นไข้หวัดและมีการติดเชื้อที่หูได้ง่าย เนื่องจากว่าภูมิต้านทานของเด็กยังไม่พัฒนา และสถานรับเลี้ยงเด็กมักเป็นแหล่งแพร่ระบาดโรคที่ทำให้เด็กเจ็บป่วยได้มากที่สุด
  • มลภาวะทางอากาศ ฝุ่นผงควันในอากาศรวมทั้งควันบุหรี่ อาจทำให้มีการเกิดการต่อว่าดเชื้อในระบบทางเท้าหายใจ แล้วก็หูได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
  • การสั่งขี้มูกแรงๆการดำน้ำ การว่ายน้ำ ในเวลาที่มีการอักเสบในโพรงหลังจมูกจะมีผลให้เกิดการอักเสบติดเชื้อโรคในหูชั้นกลางได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น

การติดต่อของโรงหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง โรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้องรังหรือหูน้ำหนวกนี้ เป็นโรคที่เกิดจากาการตำหนิดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส ในบริเวณหูชั้นกลางซึ่งไม่ได้เป็นโรคติดต่อและไม่ได้มีการติดต่อจากคนสู่คนหรือจากสัตว์สู่คนแต่อย่างใด
การกระทำตนเมื่อมีอาการป่วยเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง (หูน้ำหนวก)

  • ไม่แคะ ปั่น เขี่ย หรือเช็ดขี้หูออก หรือชำระล้างหูโดยใช้ไม้พันสำลี นิ้วมือ หรือวัตถุใดๆก็ตามใส่เข้าไปในรูหู โดยมิได้รับคำชี้แนะจากแพทย์แล้วก็พยาบาล
  • คุ้มครองป้องกันไม่ให้น้ำไพเราะ โดยใช้สำลีหรืออุปกรณ์อุดรูหู (Ear plug) ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านค้ากีฬา (เป็นที่อุดหูสำหรับเพื่อการว่ายน้ำหรือมุดน้ำ) แล้วก็ทุกหนขณะอาบน้ำ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำไพเราะ
  • เวลาที่มีหูน้ำหนวกไหลหรือเป็นโรคหูน้ำหนวกเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาที่ถูกต้องและต่อเนื่อง เลี่ยงการมุดน้ำหรือเล่นน้ำในสระหรือแม่น้ำลำคลอง
  • ไม่ควรล้างหูด้วยสบู่ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อบ่อยๆหรือซื้อยาหยอดหูมาใช้เอง
  • ไม่ไอแบบปิดปากแน่น หรือสั่งขี้มูก จามร้ายแรงแบบปิดจมูกแน่น
  • ป้องกันตนเองไม่ให้เป็นหวัด หรือโรคฟุตบาทหายใจอักเสบ
  • ทำตามข้อเสนอแนะของแพทย์ รับประทานยาจากที่หมอสั่งให้ถูกต้อง ครบสมบูรณ์ ไม่หยุดยาเอง ถึงแม้ว่าอาการจะดีขึ้นและจากนั้นก็ตาม เนื่องจากว่าอาจส่งผลให้การดูแลรักษาเห็นผลไม่เต็มที่ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
  • เมื่อมีลักษณะน่าสงสัย หรือเป็นหวัดช้านาน หรือ เป็นหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน (มีลักษณะไข้ หูอื้อ ปวดหู มีน้ำหนองซึ่งมีกลิ่นเหม็นไหลออกมาจากหู) ควรจะรีบไปพบหมอ/หมอหู คอ จมูก
การปกป้องตนเองจากโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง (หูน้ำหนวก)

  • การป้องกันในเด็กอาจทำได้โดยการลดปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ สนับสนุนให้เด็กแรกเกิดกินนมมารดา หลีกเลี่ยงการส่งเด็กไปเลี้ยงที่ศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีการเขตสุขาภิบาลไม่ดี
  • เลี่ยงการสัมผัสสนิทสนมผู้เป็นไข้หวัด แล้วก็โรคติดเชื้อฟุตบาทหายใจอื่นๆ
  • ฉีดวัคซีนคุ้มครองปกป้องเชื้อนิวโมค็อกคัส (pneumococcal vaccine) ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคหูชั้นกลางอักเสบและก็ปอดอักเสบ
  • หลบหลีกการอยู่ในที่ๆมีควันจากบุหรี่
  • รอบคอบอย่าให้ก่อให้เกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุกับหู หลบหลีกการกระทบสะเทือนรอบๆหูและก็รอบๆใกล้เคียง เพราะเหตุว่าอาจส่งผลให้แก้วหูทะลุแล้วก็ฉีกให้ขาดได้
  • แม้มีอาการป่วยด้วยโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบกระทันหันควรรีบกระทำการรักษาก่อนจะแปลงเป็น ระยะหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง
  • ทำให้ร่างกายแข็งแรงเพื่อลดการเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆด้วยการทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ให้ครบสมบูรณ์ทั้งยัง 5 หมู่ และก็หมั่นบริหารร่างกาย
  • เมื่อมีลักษณะน่าสงสัย หรือเป็นหวัดนาน หรือ เป็นหูชั้นกึ่งกลางอักเสบกระทันหัน ควรจะรีบไปพบหมอ
สมุนไพรที่ใช้คุ้มครองป้องกัน / รักษาโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง (หูน้ำหนวก)

  • หูเสือหรือเนียมหูเสือ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Plectranthus amboinicus คุณประโยชน์ทางยาไทยพบว่า น้ำคั้นจากใบสามารถแก้ปวดหู พิษฝีในหู หูน้ำหนวก ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่าสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ยั้งยีสต์ ยับยั้งเชื้อรา ฆ่าแมลง ยับยั้งการงอกของพืชอื่น ยั้งเอนไซม์ protease จากเชื้อ HIV รวมทั้งมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ    สารสำคัญที่พบในใบ ดังเช่น น้ำมันหอมระเหย thymol, carvacrol, γ-terpinene, cyperene เป็นต้น
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ