หัวข้อ: โรคมือเท้าปาก - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร เริ่มหัวข้อโดย: powad1208 ที่ เมษายน 17, 2018, 09:35:22 am (https://www.img.in.th/images/9cd86b1b740e69145d8352166d1af692.md.jpg)
โรคมือเท้าปาก (Hand Foot and Mouth disease – HFMD) โรคมือเท้าปาก คืออะไร โรคมือ-เท้า-ปาก เจ็บป่วยออกผื่นที่ต่อเนื่องกันง่าย แต่มักไม่ร้ายแรงแล้วก็หายได้เองเป็นส่วนมาก ส่วนน้อยที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง ซึ่งโรค มือเท้าปาก เป็นโรคที่พบได้มากในเด็กตัวเล็กๆ โดยยิ่งไปกว่านั้นตอนหน้าฝน มักเกิดขึ้นจากไวรัสกลุ่ม Enterovirus แต่ว่าในแถบร้อนเปียกชื้น พบได้บ่อยได้ทั้งปีโดยส่วนมากแล้ว พบมากในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปีแต่บางทีอาจพบในเด็กแก่กว่านี้ก็ได้ แล้วก็แม้มีการเกิดโรคในสถานที่เลี้ยงเด็กหรือในโรงเรียนสำหรับสอนเด็กอนุบาล ก็จะพบคนป่วยหลายชิ้นขึ้นเพราะว่าโรคนี้ระบาดได้ง่าย อนึ่งโรคนี้เป็นโรคคนละประเภทกับโรคปากเปื่อยยุ่ยเท้ายุ่ยที่เจอได้ในสัตว์กีบคู่ ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่ติดต่อมาสู่คน นอกจากในกรณีที่คนไปสัมผัสคลุกคลีอยู่กับสัตว์ที่เจ็บไข้หรือผู้ที่ปฏิบัติการในห้องแลปเกี่ยวกับโรคในสัตว์พวกนี้ ที่อาจมีรายงานการตำหนิดเชื้อได้บ้าง ที่จริงแล้ว โรคมือ เท้า ปาก ว่าไม่ใช่โรคใหม่ แต่รู้จักกันมานานมากกว่า 50 ปีแล้ว โดยมีประวัติความเป็นมาของโรค ดังต่อไปนี้
ต่อไปก็มีรายงานการระบาดจากประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการมือ เท้า ปาก ไม่ได้มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสประเภทเดียวแต่ว่ามีมากยิ่งกว่า 10 สายพันธุ์ ในการระบาดใหญ่ของกรุ๊ปลักษณะโรคมือ เท้า ปาก พบว่ามีรายงานตั้งแต่ พุทธศักราช2540-2555 มีดังนี้
สำหรับสถานการณ์โรคมือเท้าปากในประเทศไทย อ้างอิงข้อมูลที่ได้รับมาจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในปี 2558 มีผู้เจ็บป่วยทั้งนั้น 40,417 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 62.21 ต่อพลเมือง 1 แสนคน และมีคนไข้เสียชีวิต 3 ราย ส่วนในปี 2559 ข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ 28 มี.ค. 2559 มีคนป่วย 8,973 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 13.78 ต่อประชาชน 1 แสนคน รวมทั้งยังไม่มีผู้เสียชีวิต ตั้งแต่เริ่มมีการตรวจเจอเชื้อ EV71 ในคนเจ็บโรค HFMD ในปี2541 ในประเทศไทยก็เริ่มมีการเฝ้าระวังรายงานและสอบสวนคนไข้สงสัยติดเชื้อโรค EV71 แล้วก็ป้องกันควบคุมโรคหลังจากนั้นมา พบว่าผู้เจ็บป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำยิ่งกว่า 2 ปีและราวๆกึ่งหนึ่งติดเชื้อ EV71 ที่มีลักษณะอาการไม่ร้ายแรง ส่วนในด้านรายงานการแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากจากสำนักระบาดวิทยา พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 1 เดือนเมษายน 2559 มีการระบาดเป็นกลุ่มเป็นก้อนตามสถานศึกษาแล้วก็ในชุมชน 8 เรื่อง จากจำนวนคนป่วย 22 ราย ดังนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอแนะให้โรงเรียนประพฤติตามมาตรการที่กรมควบคุมโรคระบุ เพื่อป้องกันการเกิดโรคแล้วก็การแพร่ระบาดของโรค สิ่งที่ทำให้เกิดโรคมือเท้าปาก โรคมือเท้าปากเป็นผลมาจากการติดเชื้อกลุ่มเชื้อไวรัสเอนเทอโร (Enterovirus) ซึ่งมีอยู่ร่วมกันหลากหลายสาย ตัวอย่างเช่น ค็อกแซคกีเอรวมทั้งบี (Coxsackie A, B), ไวรัสเอนเทอโรจำพวก 71 (Enterovirus 71 – EV71) มูลเหตุที่มักพบที่สุดก็คือการระบาดจากการตำหนิดเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 16 (Coxsackievirus A 16) ซึ่งอาการชอบไม่รุนแรง และก็คนไข้ชอบหายได้เองเป็นส่วนมาก ส่วนต้นสายปลายเหตุที่เจอได้น้อยและก็มีลักษณะอาการร้ายแรงหมายถึงการติดเชื้อไวรัสเอนเทอโรประเภท 71 ซึ่งอาจทำให้ผู้เจ็บป่วยเกิดภาวะเข้าแทรกรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ นอกเหนือจากนั้นโรคมือเท้าปากยังบางทีอาจเกิดได้จากเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 5, 7, 9, 10 แล้วก็เชื้อไวรัสค็อกแซคกีบีประเภท 2 และ 5 ได้บ้าง ซึ่งโรคนี้ส่วนมากชอบติดต่อกันจากการกินของกิน น้ำ การดูดเลียนิ้วมือ หรือของเด็กเล่นที่ปนเปื้อนเชื้อที่ออกมากับอุจจาระ น้ำเหลืองจากตุ่มน้ำที่ผิวหนัง หรือละอองน้ำมูก น้ำลายของคนไข้ ส่วนน้อยที่ติดต่อโดยการสูดเอาฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายที่ผู้ป่วยไอหรือจามรด ซึ่งเมื่อเชื้อไปสู่ร่างกายแล้ว โดยประมาณ 3-6 วัน คนเจ็บก็เลยจะมีลักษณะ อาการของโรคมือเท้าปาก ภายหลังติดโรค 3-7 วัน คนเจ็บจะเริ่มแสดงอาการเริ่มเป็นเป็นไข้ตํ่าๆราวๆ 38-39o C รวมทั้งมีอาการปวดเหมื่อยตามตัวเวลานี้จะมีระยะเวลา ราว 1-2 วัน หลังจากนั้นจะเริ่มมีลักษณะเจ็บปาก ตรวจร่างกายจะพบมีรอยโรคในบริเวณปาก มือรวมทั้งเท้าได้ดังต่อไปนี้
ร้อยละ 80 ของคนเจ็บลักษณะของการเจ็บปากจะไม่ร้ายแรงแล้วก็หายได้เองโดยไม่ต้องรักษาข้างใน 5-10 วัน
บางทีอาจเกิดขึ้นพร้อมรอยโรคที่ปาก หรือจากนั้นเล็กน้อยจํานวนตั้งแต่ 2-3 แห้งไปจนถึง 100 ที่ พบ ที่มือบ่อยมากกว่าเท่า ลักษณะเป็นรอยแดงๆบางทีอาจนูนน้อยขนาด 2-10 มิลลิเมตร กึ่งกลางสีเทา บางรอยโรคมี ลักษณะเป็นตุ่มนํ้าใสขอบแดง มีกระจายขนานไปกับแนวของผิวหนังบางทีอาจเจ็บหรือไม่ก็ได้ต่อจากนั้น 2-3 วัน จะ เริ่มเป็นสะเก็ด รวมทั้งเบาๆหายไปด้านใน 7-10 วัน โดยไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลือ รอบๆอื่นๆที่บางทีอาจเจอรอยโรคได้เช่นกัน คือ ตูด แขน ขา รวมทั้งอวัยวะสืบพันธุ์ในทารกอาจเจอ กระจัดกระจายทั่วตัวได้ โดยธรรมดาโรคมือเท้า ปากตลาดว่ามีลักษณะน้อยโดยมากมักมีเพียงแต่ไข้ปวดเหมื่อยตามเนื้อตามตัวแล้วก็เจ็บปาก แต่ว่า ในผู้ป่วยบางรายอาจพบภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้โดยเฉพาะจากการติดเชื้อ enterovirus 71 ปัจจัยเสี่ยงต่อ การพบภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง คือ
ซึ่งปัจจัยเสี่ยงในข้อ 2 และ 3 จากการศึกษาเรียนรู้ที่โรงพยาบาลเด็ก Chang Gung ประเทศไต้หวัน พบว่า ชมรมกับการตำหนิดเชื้อ EV มากยิ่งกว่า Cox A โดยมักจะทำให้เกิดภาวะแทรก/ทางระบบประสาท ระบบหัวใจ และปอดได้สูง ทำให้ผู้เจ็บป่วยเสียชีวิตอย่างเร็วจากภาวการณ์ปอดบวมน้ำ เลือดออกในปอด แล้วก็สภาวะช็อก อย่างไรก็แล้วแต่เชื้อคอกแซคก็ไวรัส เอ 16 ก็อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกเป็น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มห่อหัวใจอักเสบ แล้วก็ภาวะช็อกได้ แม้กระนั้นเจอได้น้อยกว่าจากเชื้อ เอนเทอโรเชื้อไวรัส 71 มาก ปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมือเท้าปาก
การตรวจรอยโรคที่ผิวหนัง (cutaneous lesion) ทางพยาธิวิทยา(histology) จะพบเม็ดเลือดขาวชนิด neutrophil และ lymphocyte เพิ่มขึ้น แต่จะไม้พบmultinucleated giant cell หรือ inclusion body 11 สําหรับในกรณีที่ต้องการทราบชนิดของเชื้อไวรัสที่ก้อโรค สามารถทําได้โดยการแยกเชื้อไวรัส หรือตรวจ ร่องรอยการติดเชื้อจากนํ้าเหลือง สําหรับประเทศไทยใช้วิธี micro-neutralization หากพบผู้ป่วยในข่ายสงสัยให้ เก็บตัวอย่างดังนี้
โรคมือเท้าปากไม่มีวัคซีนหรือยาสำหรับรักษาโรคโดยตรง การรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการ เช่นการให้ยาลดไข้ paracetamol หรือให้ยาบ้วนปากเพื่อช่วยลดอาการเจ็บของแผลในช่องปาก ถ้าตุ่มกลายเป็นหนองหรือพุพองก็จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี อะม็อกซีซิลลิน อีริโทรไมซิน เป็นต้น ถ้ามีภาวะขาดน้ำเนื่องจากกินและดื่มไม่ได้ ก็จะให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ก็จำเป็นต้องรับเด็กไว้รักษาในโรงพยาบาลหรือส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลต่อไป อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ.2539 มีการศึกษาที่ Medical College of Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการทดลองใช้ acyclovir ในการรักษาผู้ป่วยโรคมือเท้า ปาก 13 รายซึ่ง 12 รายเป็นเด็กอายุ 1-5 ปีและอีก 1 รายเป็นผู้ใหญ่ โดยเริ่มใช้ยา acyclovir ภายใน 1-2 วัน หลังเริ่มมีรอยโรคพบว่าอาการของผู้ป่วยดีขึ้น และรอยโรคเปลี่ยนแปลงดี ขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังเริ่มรักษา ได้ให้ acyclovir ต่ออีก 5 วันจนรอยโรคหายไปหมด ผู้ศึกษาเชื่อว่า acyclovir อาจไปยับยั้งเอนไซม์ thymidine kinase ของ Cox A16แต่ก็อาจมีประโยชน์ ด้านอื่นด้วยเช่น อาจทําให้ผู้ป่วยสร้าง interferon เพื่อยับยั้งไวรัสมากขึ้น15 อย่างไรก็ดียังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้ acyclovir ในการ ลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง และหลังจากการติดเชื้อผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสที่ก่อโรค แต่อาจเกิดโรคมือเท้า ปากซํ้าได้จาก enterovirus ตัวอื่นๆ การติดต่อของโรค มือ เท้า ปาก โรคมือเท้าปากสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากตุ่มน้ำใส หรือสารคัดหลั่งจากจมูกและปากอันได้แก่ น้ำมูก เสมหะ หรือน้ำลาย นอกจากนี้แล้วไวรัสยังสามารถพบได้ในอุจจาระ โดยไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ตั้งแต่ในระยะแรกที่แสดงอาการโดยช่วงที่มีการแพร่กระจายมากที่สุด คือ สัปดาห์แรกที่ผู้ป่วยมีอาการและอาจจะยังพบได้อีกหลายสัปดาห์ในอุจจาระของผู้ป่วยที่หายจากอาการของโรคแล้ว นอกจากนี้แล้วในผู้ใหญ่อาจจะสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้โดยไม่แสดงอาการใดๆ ซึ่งการได้รับไวรัสอาจเป็นการได้รับโดยตรงเช่นจากการไอหรือจาม หรืออาจจะได้รับไวรัสโดยอ้อมโดยการสัมผัสกับพื้นผิวหรือสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสอยู่ เช่นในสถานรับเลี้ยงเด็กซึ่งอาจมีของเล่นหรือของใช้เด็กที่ปนเปื้อนน้ำลายเนื่องจากเด็กเล็กมักชอบนำสิ่งของเข้าปาก ดูดเลียนิ้วมือ รวมถึงจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ มือของผู้เลี้ยงดูเด็กที่ไม่สะอาด เป็นต้น เนื่องจากโรคมือเท้าปากมักพบในเด็กเล็ก ดังนั้นการระบาดมักพบในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือตามโรงเรียนอนุบาล เชื้อเอนเทอโรไวรัสสามารถทนสภาวะกรดในทางเดินอาหารมนุษย์ได้ และมีชีวิตอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ 2-3วัน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเย็นหรือชื้นแฉะเชื้ออาจอยู่ได้เป็นเดือน นอกจากนี้ การทำลายเชื้อต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม น้ำยาฆ่าเชื้อทั่วๆ ไปบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ ๗๐ เปอร์เซ็นต์และแอลกอฮอล์เจลใช้ป้องกันไวรัสไข้หวัดได้ แต่สำหรับเชื้อไวรัสเอนเทอโร แอลกอฮอล์ไม่มีผลโดยตรง การปฏิบัติตนเมื่อป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่จำเป็นต้องให้ยารักษาจำเพาะ เพียงแต่ให้การดูแลตามอาการ และเฝ้าติดตามอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด โดยมีวิธีปฏิบัติ ดังนี้
การป้องกันตัวเองจากโรคมือเท้าปาก
สมุนไพรที่ใช้รักษา/บรรเทาลักษณะโรคมือเท้าปาก สมุนไพรซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ทุเลาอาการของโรคมือเท้าปากนั้นมีดังนี้ ถ้ามีแผลในปากก็สามารถใช้กลีเซอรีนพญายอหยอดบริเวณแผลได้ เนื่องมาจากในใบพญายอมีสารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ทำให้แผลหายเร็วขึ้นและไม่เป็นอันตราย ไม่เป็นผลข้างๆ สมุนไพรในโรค มือ-เท้า-ปากหมายถึงฟ้าทลายขโมย (Andrographis paniculata (Burm.F.) Nees.) เป็นงานศึกษาเรียนรู้ที่ทำในประเทศจีน โดยนักค้นคว้าได้สกัดสารสำคัญของฟ้าทลายขโมยแล้วก็ทำให้อยู่ในรูปแบบของยาฉีด คือ Andrographolide Sulfonate injection งานวิจัยนี้ทำในเด็กที่เป็นโรค มือ-เท้า-ปาก อายุ 1-13 ปี ปริมาณ 230 คน โดยแบ่งเป็น 2 กรุ๊ป กรุ๊ปแรกจะได้รับการดูแลและรักษาแบบแผนเดิมร่วมกับ สารสกัดฟ้าทะลายมิจฉาชีพในแบบอย่างบาฉีด (Andrographolide Sulfonate injection) อีกกลุ่มจะได้รับการรักษาแบบแผนเดิม โดยติดตามผล 7-10 วัน ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยพบว่า กลุ่มแรกจะพบอาการแทรกแบบรุนแรงน้อยกว่ากรุ๊ปที่สองอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังส่งผลให้ไข้ต่ำลงได้เร็วขึ้น ทำให้แผลที่ผิวหนังและก็แผลในปากหายมากยิ่งกว่ากรุ๊ปหวานใจษาแบบแผนเดิม และไม่พบการตายและก็ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงในกลุ่มทดลองอีกด้วย เอกสารอ้างอิง
Tags : โรคมือเท้าปาก
|