หัวข้อ: โรคต่อมลูกหมากโต - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร เริ่มหัวข้อโดย: กาลครั้งหนึ่ง2560 ที่ เมษายน 21, 2018, 09:21:57 am (https://www.img.in.th/images/b33f047ab3f0cb6d5981b9817740dbd8.gif)
โรคต่อมลูกหมากโต (Benign prostatic hypertrophy-BPH) โรคต่อมลูกหมากโตคืออะไร ต่อมลูกหมาก (prostate gland) เป็นต่อมของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ในผู้ชาย อยู่ตรงข้างหลังของคอกระเพาะปัสสาวะในอุ้งเชิงกรานข้างหลังกระดูกหัวหน่าว มีรูปร่างคล้ายลูกเกาลัด ต่อมมี 5 กลีบ หนักราวๆ 20 กรัม (ขนาดเท่าผลลิ้นย่าง) มีหน้าที่สร้างน้ำมูก (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของน้ำอสุจิ) เพื่อให้ตัวอสุจิแหวกว่ายแล้วก็รับประทานเป็นอาหาร โดยทั่วไปต่อมลูกหมากจะหยุดเติบโตภายหลังอายุ 20 ปี กระทั่งอายุประมาณ 45 ปี จะมีการเพิ่มขนาดขึ้นอีกรอบ และก็เป็นจุดกำเนิดของโรคต่อมลูกหมากโต โรคต่อมลูกหมากโตนับได้ว่าเป็นปัญหาสุขภาพที่น่ากลุ้มใจของคุณสุภาพบุรุษทั้งหลายแหล่ โดยธรรมดาผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโตจะอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป เมื่อแก่ขึ้นต่อมลูกหมากจะเบาๆโตขึ้น ว่ากันว่าชายแก่ 2 ใน 5 คนจะมีลักษณะฉี่ไม่ดีเหมือนปกติ อาการดังที่กล่าวถึงแล้วมีต้นเหตุมาจากการที่ต่อมลูกหมากซึ่งอยู่ล้อมท่อฉี่มีขนาดโตขึ้นและไปบีบท่อปัสสาวะให้แคบลง และก็ยังมีรายงานการศึกษาวิจัยหลายๆชิ้นสรุปว่า ในผู้ชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มักตรวจพบโรคต่อมลูกหมากโต เนื่องจากความผิดแปลกทางด้านขนาดแล้วก็ปริมาณเซลล์ต่อมลูกหมาก เมื่อขนาดของต่อมลูกหมากโตขึ้น จะส่งผลทำให้มีการเกิดการอุดกันของระบบทางเท้าเยี่ยว ถ่ายปัสสาวะบ่อย ทุกข์ยากลำบาก จำเป็นต้องเบ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน กลั้นเยี่ยวไม่อยู่ ในที่สุดอาจถ่ายปัสสาวะไม่ออก แล้วก็มีปัญหาเกี่ยวกับของลับไม่แข็ง รูปแบบการทำงานของต่อมลูกหมากอาศัยการกระตุ้นจากฮอร์โมนเพศชายซึ่งส่วนใหญ่สร้างจากอัณฑะ ซึ่งฮอร์โมนเพศชายนี้ยังเกี่ยวเนื่องกับการกระตุ้นการโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย โดยความแปลกของต่อมลูกหมากที่พบได้บ่อยในชายไทยหมายถึงโรคต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia; BPH) มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate cancer) และต่อมลูกหมากอักเสบ (prostatis) ร้อยละ 80 18 และ 2 ตามลําดับ โดยโรคต่อมลูกหมากโตนี้ เป็นโรคพบบ่อยมากมายของเพศชายวัยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป โดยเจอได้ราวๆ 30-40% ของผู้ชายวัย 50-60 ปี แล้วก็เมื่ออายุ 85 ปีจะเจอโรคนี้ได้มากถึง 90% โรคนี้พบได้ในผู้ชายทั่วทั้งโลก ทุกเชื้อชาติ สาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต ในตอนนี้ ยังไม่รู้ต้นเหตุที่แจ้งชัดของการเกิดโรคต่อมลูกหมากโต แม้กระนั้นแพทย์เชื่อว่า เมื่อชายแก่ขึ้นจะมีผลต่อการผลิตกลุ่มฮอร์โมนเพศชายจากอัณฑะที่ชื่อ แอนโดรเจน (Androgen) ก็เลยทำให้ร่างกายขาดสมดุลของฮอร์โมนเพศชายประเภทต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างฮอร์โมน เทสโทสสเตอโรน (Testosterone) กับฮอร์โมน ไดไฮโดรเทสโทสสเตอโรน () (DHT) ซึ่งภาวการณ์นี้ทำให้เซลล์ของต่อมลูกหมากมีการเจริญวัยผิดปกติได้ ที่เรียกว่า โรคต่อมลูกหมากโต ฮอร์โมนที่มั่นใจว่าเป็นสาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต ที่มา : Wikipedia นอกเหนือจากนี้ยังคาดคะเนว่าอาจเป็นเพราะกรรมพันธุ์ โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่มีลักษณะอาการค่อนข้างร้ายแรงในกลุ่มของผู้คนที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี ซึ่งจำเป็นต้องรับการดูแลรักษาโดยผ่าตัดชอบมีประวัติว่าคนในครอบครัวมักมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ยังสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะพันธุกรรม โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่มีอาการออกจะร้ายแรงในกลุ่มคนที่แก่น้อยกว่า 60 ปี ซึ่งจำต้องรับการรักษาโดยผ่าตัดมักจะมีประวัติว่าคนในครอบครัวมักมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก อาการโรคต่อมลูกหมากโต ลักษณะของโรคต่อมลูกหมากโตนั้น มีต้นเหตุที่เกิดจากเมื่อต่อมลูกหมากโตขึ้น จะไปทำให้เกิดการระคายเคืองต่อท่อเยี่ยว และก็เมื่อต่อมฯยิ่งโตขึ้น ก็จะกดเบียดทับ หรือแทรกรัดบริเวณท่อเยี่ยว ก็เลยทำให้ท่อเยี่ยวตีบแคบลง จนถึงอาจอุดตัน ด้วยเหตุนี้ลักษณะของโรคต่อมลูกหมากโต ก็คือ
แล้วก็ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการชิ้งฉ่องเป็นเลือด เหตุเพราะเบ่งถ่ายนานๆอาจก่อให้หลอดเลือดดำที่ท่อปัสสาวะคั่ง แล้วแตกจนกระทั่งมีเลือดออกมาได้ ทั้งนี้โรคต่อมลูกหมากโตอาจมีภาวะแทรกซ้อนได้แก่ ฉี่ไม่ออกเลย ทางเท้าปัสสาวะอักเสบ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ไตเสื่อมหรือกระเพาะปัสสาวะเสื่อม เยี่ยวเป็นเลือด เป็นต้น ซึ่งบางทีอาจพบได้ไม่เกินปริมาณร้อยละ 20 ของคนเจ็บต่อมลูกหมากทั้งสิ้น ขั้นตอนการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต การตรวจวินิจฉัยคนไข้โรคต่อมลูกหมากโต
การรักษาโรคต่อมลูกหมากโตบางทีอาจจำเป็นต้องใช้หลายๆวิธีด้วยกัน แม้กระนั้นโดยหลักๆแล้วสามารถแบ่งได้ 3 วิธีดังต่อไปนี้การเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต การใช้ยารักษา การผ่าตัด ซึ่งมีรายละเอียดคือ
การติดต่อของโรคต่อมลูกหมากโต โรคต่อมลูกหมากโตเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการขาดสมดุลของฮอร์โมนเพศชายหลายๆชนิด ซึ่งจะมีผลให้เซลล์ของต่อมลูกหมากเติบโตไม่ดีเหมือนปกติ มักกำเนิดในผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และโรคต่อมลูกหมากโตนี้ มิได้เป็นโรคติดต่อและไม่มีการติดต่อจากคนสู่คน แล้วก็จากสัตว์สู่คนแต่อย่างใด (https://www.img.in.th/images/6adce8831f429528e097b9aa2b8a221d.jpg) การปฏิบัติตนเมื่อป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากโต
การคุ้มครองตัวเองจากโรคต่อมลูกหมากโต ปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีใดที่ช่วยปกป้องปัญหาต่อมลูกหมากโตได้อย่างแท้จริงด้วยเหตุว่ายังไม่รู้มูลเหตุที่กระจ่างแจ้งของโรคนี้ และก็การเสี่ยงต่อโรคที่สำคัญที่ไม่สามารถแก้ไขได้นั้นก็คืออายุที่มากขึ้น เพราะฉะนั้นแนวทางที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือเพศชายที่แก่ตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปควรได้รับการตรวจต่อมลูกหมากบ่อยๆทุกปี และก็ควรจะหมั่นพิจารณาความแตกต่างจากปกติของระบบฟุตบาทปัสสาวะ ดังเช่น ถ้าหากมีลักษณะชิ้งฉ่องลำบาก จะต้องใช้แรงเบ่งนานๆเยี่ยวไม่พุ่ง เวลากลางคืนจำเป็นต้องลุกขึ้นยืนมาฉี่ บ่อยครั้ง หรือเยี่ยวเป็นเลือด ก็ควรจะไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวิเคราะห์สาเหตุให้ชัดเจน เมื่อพบว่าเป็นต่อมลูกหมากโตก็ควรกินยารักษา หรือทำผ่าตัดปรับแต่งตามคำแนะนำของหมอ สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครองปกป้อง/รักษาโรคต่อมลูกหมากโต พืชสมุนไพรที่มีรายงานการวิจัยทางคลินิกว่ามีฤทธิ์รักษาโรคต่อมลูกหมากโตยกตัวอย่างเช่น มะเขือเทศ และก็ฟักทอง โดยให้ผู้เจ็บป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าอยู่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตระยะเริ่มต้นกินซอสมะเขือเทศเข้มข้น (Tomato paste) วันละ 50 กรัม (มี lycopene อยู่ 13 มิลลิกรัม) ติดต่อกัน 10 สัปดาห์พบว่า มีผลทำให้ค่า prostate-specific antigen (PSA) ในเลือดซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาวะต่อมลูกหมากโตน้อยลง และก็การศึกษาเล่าเรียนทางคลินิกโดยให้คนป่วยรับประทานแคปซูลสารสกัดเมล็ดฟักทองขนาด 1000 มิลลิกรัมต่อวัน มีผลทำให้คนไข้โรคต่อมลูกหมากโตมีลักษณะ เมื่อรับประทานติดต่อกันนาน 12 อาทิตย์ มะเขือเทศ ชื่อวิทยาศาสตร์ Solanum lycopersicum ตระกูล Solanaceae มีหลายการเรียนพบว่าไลโคพีนในมะเขือ เทศสามารถลดระดับ PSA และก็ปกป้องการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ โดยผ่านกลไกการทำงานต่างๆดังเช่น การลดการ กำเนิด lipid oxidation ต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้ง ลดการสังเคราะห์ 5- alpha dihydrotestosterone ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการโตของต่อมลูกหมาก และก็ยังพบว่าการบริโภคไลวัวพีนจากสินค้า มะเขือเทศซึ่งทำให้ผู้บริโภคหรูหราไลโคพีนในเลือดสูงมากขึ้นจะสามารถลดระดับ PSA ในคนเจ็บโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ Schwarz แล้วก็คณะ (2008) ศึกษาในคนเจ็บโรคต่อมลูกหมากโต (PSA > 4 mg/L) บริโภคไลวัวพีนวันละ 15 mg นาน 6 เดือน พบว่าสามารถคุ้มครองปกป้องต่อมลูกหมากโตได้เมื่อตรวจทางทาวรหนักรวมทั้งการตรวจอัลตราซาวด์และระดับ PSA ลดลงปริมาณร้อยละ 11 เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปควบคุมที่ได้รับยาหลอก (placebo) อย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติ (P < 0.05) และกระบวนการทำแบบสำรวจลักษณะของต่อมลูกหมากฉบับนานาชาติ (International Prostate Symptom Score; IPSS) พบว่ากรุ๊ปที่ได้รับไลวัวพีนมีลักษณะของต่อมลูกหมากดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนที่จะมีการเล่าเรียนอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติ มีการศึกษาในคนป่วยโรคต่อมลูกหมากโตที่มีความเสี่ยงสูงถึงร้อยละ 80 ที่จะเป็นโรคโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในอนาคต (High Grade Prostatic Intraepithelial Neoplasia; HGPIN) โดยกลุ่มทดลองที่ได้รับไลโคพีนวันละ 8 mg ต่อเนื่องทุกเมื่อเชื่อวันนาน 1 ปี (20 คน) เปรียบเทียบกับกรุ๊ปควบคุม (20 คน) พบว่ากลุ่มที่ได้รับไลโคพีนมีระดับ PSA ลดน้อยลง จาก 6.07 mg/L เป็น 3.5 mg/L คิดเป็นปริมาณร้อยละ 42 และมีไลวัวพีนในเลือดมากขึ้นจาก 360 เป็น 680 mg/L รวมทั้งเมื่อสิ้นสุดการศึกษาพบว่ากลุ่มทดลองมีคนเจ็บปริมาณ 2 คนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ในขณะคนเจ็บกลุ่มควบคุมปริมาณ 6 มิได้รับประทานอาการที่มีไลวัวพีน (มะเขือเทศ แตงโม) ตลอดตอนที่ทำงานเรียนรู้หรูหรา PSA เพิ่มสูงขึ้น แล้วก็ผู้ที่มีระดับไลวัวพีนในเลือดน้อยลงกลับกลายโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าการบริโภคไลวัวพีนนาน 1 ปีสามารถป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในคนไข้ที่มีการเสี่ยงสูงได้ ฟักข้าว มีชื่อสามัญว่า Spring bitter cucumber ชื่อวิทยาศาสตร์เป็นMomordica Cochinchinensis Spreng. ฟักข้าว คือผลไม้ที่อุดมด้วยไลวัวปีน รวมทั้งสารพฤษเคมีอื่นๆในกรุ๊ปแคโรทีนอยด์ เป็นต้นว่า เบต้า-แคโรทีน สูงขึ้นยิ่งกว่าแครอท 10 เท่า มีวิตามินซีมากกว่าส้ม 40 เท่า มีซีแซนทีนมากยิ่งกว่า ข้าวโพด 40 เท่า อุดมด้วยวิตามินอี วิตามินเอ กรดไขมันโอเมก้า-3, โอเมก้า-6 แล้วก็โอเมก้า-9 ช่วยเสริมฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านทานอนุมูลอิสระสูง และก็การไหลเวียนของเลือด และในฟักข้าว มีไลโคปีน ประเภทพิเศษ เรียกว่า ไลโปแคโรทีน (Lipocarotene) เป็นกรดไขมันสายยาวที่ช่วยจับแคโรทีน ก็เลยช่วยซึมซับแคโรทีน ฟักข้าว ก็เลยเป็นแหล่งของไลวัวตะกาย ที่เหมาะสมที่สุด ไลวัวตะกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งได้รับการรับรองทางการแพทย์แล้วว่า ช่วยชะลอความชรา ต้านความเสื่อมถอยของร่างกาย ช่วยลดโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมากในผู้ชาย โดยต่อมลูกหมาก คือต่อมที่สร้างน้ำหล่อเลี้ยงสเปิร์ม ต่อมลูกหมากตั้งอยู่ระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับท่อปัสสาวะ เมื่อผู้ชายอายุสูงขึ้นเป็น ตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศชาย(เทสโทสเตอโรน) ลดลง ทำให้เซลล์ในต่อมลูกหมาก แบ่งตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมลูกหมากจึงโตขึ้น แล้วก็ถ้ามีการอักเสบร่วมด้วยก็จะได้โอกาสกำเนิดมะเร็ง ได้สูงขึ้น ไลวัวไต่ จะควบคุมการโตของต่อมลูกหมาก ช่วยให้เซลล์ของโรคมะเร็งฝ่อตาย รวมทั้งลด การแบ่งเซลล์ของมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย หญ้าหนวดแมว ชื่อวิทยาศาสตร์ : Orthosiphon stamineus Benth. วงศ์ : Labiatae หรือ Lamiaceae สรรพคุณหญ้าหนวดแมว ช่วยขับปัสสาวะ ทำให้การหลั่งเยี่ยวเพิ่มขึ้น นอกนั้น ในตำรายาหลายฉบับกล่าวถึงสรรพคุณต่างๆได้แก่ ตำราเรียนยาใช้ใบ และก็ลำต้นการรักษา รวมทั้งคุ้มครองโรคทางเดินปัสสาวะ ลำต้น ใช้อีกทั้งแบบสดหรือแบบแห้ง ด้วยการต้มดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายชราที่ช่วยแก้โรคต่อมลูกหมากโต รวมทั้งขจัดปัญหาเยี่ยวติดขัด รวมทั้งมีฤทธิ์สำหรับการขับกรดยูริก เถาวัลย์เปรียง ชื่อวิทยาศาสตร์ Derris scandens (Roxb.) Benth ชื่อวงศ์ Papilionaceae สรรพคุณ: ตำรายาพื้นบ้าน: ใช้เถา ขับฉี่ แก้กระษัยเหน็บชา ถ่ายกษัย แก้เอ็นขอด ถ่ายเสลด ไม่อุจจาระ ทำให้เส้นเอ็นอ่อนลง ขับฉี่ แก้เยี่ยวพิการ กระเจี๊ยบแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ Hibiscus sabdariffa L. ชื่อตระกูล Malvaceae คุณประโยชน์: ตำรายาไทย: กลีบเลี้ยงมีรสเปรี้ยว แก้อาการขัดเบา การเล่าเรียนทางคลินิก: ลดระดับความดันโลหิต ยั้งเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ทำให้คนเจ็บโรคนิ่วในท่อไต ปัสสาวะสะดวกขึ้น ผู้ป่วยกระเพาะปัสสาวะอักเสบมีลักษณะปวดแสบเวลาฉี่น้อยลง แบบอย่างและขนาดวิธีการใช้ยา: ขับฉี่ ใช้สมุนไพรแห้ง บดเป็นผง 3 กรัม (หรือ 1 ช้อนชา) ชงกับน้ำเดือด 1 ถ้วยแก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้ง นาน 7 วัน หรือจนกว่าอาการจะหาย เอกสารอ้างอิง
หัวข้อ: Re: โรคต่อมลูกหมากโต - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร เริ่มหัวข้อโดย: ณเดช2499 ที่ เมษายน 30, 2018, 10:07:31 am โรคต่อมลูหมากโต วิธีรักษา สมุนไพรรักษา
|