หัวข้อ: อย่าหลงเชื่อ! “วิตามินแบบสูบ” วิธีรับวิตามินเข้าร่างกายแบบใหม่ที่แทบไม่ได้ผล เริ่มหัวข้อโดย: Cloudsupachai111 ที่ เมษายน 28, 2018, 12:34:48 am แชร์เรื่องนี้ทวีตเรื่องนี้ (https://s.isanook.com/he/0/ud/0/4465/thumb.jpg) อย่าหลงเชื่อ! “วิตามินแบบสูบ” วิธีรับวิตามินเข้าร่างกายแบบใหม่ที่แทบไม่ได้ผล เกี่ยวกับ วิตามิน [url=http://health.sanook.com/" target="_blank](https://s.isanook.com/he/0/uc/0/145/logo_100x35.jpg)[/url] สนับสนุนเนื้อหา โลกออนไลน์แห่แชร์สินค้าทาง[url=http://health.sanook.com/" target="_blank]สุขภาพ[/url]รูปแบบใหม่ “[url=http://www.sanook.com/health/9965/" target="_blank]วิตามิน[/url]แบบสูบ” อ้างว่าใส่วิตามินเข้าไปสารพัด รับเข้าร่างกายโดยใช้วิธีสูบ แต่เหล่าแพทย์และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ทั้ง ทนพ. ภาคภูมิ เดชหัสดิน จากเพจ “[url=https://www.facebook.com/MTlikesara/" target="_blank]หมอแล็บแพนด้า[/url]” อ. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ จากเพจ “[url=https://www.facebook.com/jessada.denduangboripant" target="_blank]Jessada Denduangboripant[/url]”และหมอแมวจากเพจ “[url=https://www.facebook.com/HmxMaew/?fref=nf" target="_blank]ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว[/url]” ต่างให้ข้อมูลที่ตรงกันว่า การรับวิตามินเข้าร่างกายในรูปแบบนี้ ให้ผลน้อยมาก เพราะปริมาณวิตามินที่ใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์มีปริมาณน้อยเกินไป และยังไม่มีผลงานวิจัยออกมายืนยันที่ผลที่เกิดขึ้นหลังใช้ผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังไม่ได้รับการรับรองจาก อย. หรือหน่วยงานรัฐใดๆ อีกด้วย สำหรับ วิตามิน หรืออาจเรียกว่า ไวตามิน (Vitamin) นั้นเป็นสารอาหารประเภทหนึ่งทำหน้าที่ช่วยในการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย คนที่ขาดวิตามินอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้มากมาย ถ้าไม่นับ ‘วิตามินแบบสูบ’ คนในสมัยโบราณมีวิธีการนำวิตามินเข้าสู่ร่างกายในรูปแบบของอาหารที่ไว้รับประทาน ย้อนกลับไปเมื่อครั้งสมัยอียิปต์โบราณ คนในยุคนั้นเชื่อว่าการกิน ‘น้ำมันตับปลา’ จะช่วยให้หายจากอาการตาบอดกลางคืน ส่วนในยุคปัจจุบันที่มีความเจริญในเรื่องของการแพทย์ ศัลยแพทย์ชาวสก๊อตได้ทำการสังเกตแล้วพบว่า ไก่ที่กินข้าวแบบไม่ขัดสีจะไม่มีอาการเหน็บชาเกิดขึ้น นับแต่นั้น ข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการค้นพบโดยบังเอิญและจากการเฝ้าสังเกต มนุษย์ก็ได้นำมาประยุกต์ใช้จนเป็นวิทยาการความรู้ในปัจจุบัน โดยวิตามินสำคัญๆ ที่ถูกค้นพบก็ได้แก่ วิตามินเอ (A), บี1 (B1), บี2 (B2), บี3 (B3), บี5 (B5), บี6 (B6), บี7 (B7), บี9 (B9), บี12 ( B12), ซี (C), ดี (D), อี (E ) และ เค (K) นอกจากนี้ อ. เจษฎา ยังกล่าวอีกว่า รูปแบบของผลิตภัณฑ์ได้รับการพัฒนามาจาก “บุหรี่ไฟฟ้า” โดยไม่ใส่นิโคติน แล้วนำวิตามินลงไปใส่แทน แต่ปริมาณไม่เพียงพอเมื่อใช้วิธีสูบเข้าปอด เพราะนอกจากสารต้องมีขนาดเล็กมากพอต่อการเข้าไปสู่ถุงลม และลำเลียงเข้าสู่กระแสเลือดได้แล้วนั้น ที่แย่ไปกว่านั้นคือวิตามินจะเสียสภาพเมื่อถูกความร้อน จนทำให้วิตามินลดประสิทธิภาพลง และอาจกลายเป็นสารอันตรายได้ ทั้งนี้ หมอแมวเสริมว่า วิตามินแบบสูบมีปริมาณวิตามินน้อยกว่าวิตามินเม็ดละบาทที่เราเคยทานกันเสียอีก ดังนั้น Sanook! Health แนะนำว่า หากอยากมีร่างกายแข็งแรงจากวิตามิน ควรทานผักผลไม้สดๆ หรือเพิ่มเติมด้วยวิตามินเสริมแบบเม็ดจะดีกว่าค่ะ การใช้วิตามินเป็นเวลานานๆ จะส่งผลเสียอะไรบ้าง ? ในทางการแพทย์ วิตามินจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ วิตามินที่ละลายน้ำและวิตามินที่ละลายในไขมัน โดยวิตามินทั้งสองอย่างนี้นอกจากจะมีข้อดีแล้ว ก็ยังมีข้อเสียที่แตกต่างกันไปตามประเภทหากใช้กับร่างกายเป็นระยะเวลานานๆ วิตามินที่ละลายในน้ำ จะอยู่ในร่างกายได้นานเป็นเวลา 2 - 4 ชั่วโมง โดยส่วนที่เหลือจากการใช้งานก็จะถูกขับผ่านไตออกมากับปัสสาวะ ทำให้โอกาสที่วิตามินประเภทนี้จะสะสมอยู่ในร่างกายมีน้อย ไม่ก่อให้เกิดผลเสีย และเหตุเพราะมีการสะสมในร่างกายน้อยนี่เอง เราจึงต้องบริโภคอาหารที่มีวิตามินเข้าไปเสริมอยู่อย่างสม่ำเสมอ วิตามินที่ละลายในไขมัน ปกติแล้ววิตามินประเภทนี้มักจะสะสมอยู่ในไขมัน ซึ่งหากว่ามีการสะสมมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายคล้ายกับคนที่โรค อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sanook.com/health/4465/ คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กรดไหลย้อน Tags : สุขภาพ, การดูแลสุขภาพ, ลดความอ้วน
|