หัวข้อ: โรคต่อมลูกหมากโต - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ เมษายน 30, 2018, 01:19:28 pm (https://www.img.in.th/images/b33f047ab3f0cb6d5981b9817740dbd8.gif)
โรคต่อมลูกหมากโต (Benign prostatic hypertrophy-BPH) โรคต่อมลูกหมากโตคืออะไร ต่อมลูกหมาก (prostate gland) เป็นต่อมของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ในผู้ชาย อยู่ตรงด้านหลังของคอกระเพาะฉี่ในอุ้งเชิงกรานหลังกระดูกหัวหน่าว มีรูปร่างเหมือนลูกเกาลัด ต่อมมี 5 กลีบ หนักประมาณ 20 กรัม (ขนาดเท่าผลลิ้นจี่) มีหน้าที่สร้างน้ำมูก (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด ของน้ำอสุจิ) เพื่อตัวสเปิร์มว่ายน้ำและรับประทานเป็นของกิน โดยธรรมดาต่อมลูกหมากจะหยุดเจริญวัยภายหลังอายุ 20 ปี จนตราบเท่าอายุราวๆ 45 ปี จะมีการเพิ่มขนาดขึ้นอีกรอบ และเป็นจุดเริ่มแรกของโรคต่อมลูกหมากโต โรคต่อมลูกหมากโตนับได้ว่าเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่น่าไม่ค่อยสบายใจของคุณผู้ชายทั้งหลายแหล่ โดยทั่วไปคนเจ็บโรคต่อมลูกหมากโตจะอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป เมื่อแก่ขึ้นต่อมลูกหมากจะค่อยๆโตขึ้น ว่ากันว่าชายเฒ่า 2 ใน 5 คนจะมีลักษณะปัสสาวะผิดปกติ อาการดังกล่าวข้างต้นมีต้นเหตุมาจากการที่ต่อมลูกหมากซึ่งอยู่ล้อมท่อฉี่มีขนาดโตขึ้นแล้วก็ไปบีบท่อปัสสาวะให้แคบลง รวมทั้งยังมีรายงานการศึกษาเรียนรู้วิจัยหลายๆชิ้นสรุปว่า ในเพศชายที่แก่ 50 ปีขึ้นไป มักตรวจพบโรคต่อมลูกหมากโต เนื่องจากว่าความแปลกทางด้านขนาดและปริมาณเซลล์ต่อมลูกหมาก เมื่อขนาดของต่อมลูกหมากโตขึ้น จะส่งผลกระตุ้นให้เกิดการอุดกันของระบบฟุตบาทปัสสาวะ ชิ้งฉ่องบ่อยครั้ง ลำบาก จำต้องเบ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน กลั้นเยี่ยวไม่อยู่ ท้ายที่สุดบางทีอาจถ่ายปัสสาวะไม่ออก และมีปัญหาเกี่ยวกับของลับไม่แข็งตัว หลักการทำงานของต่อมลูกหมากอาศัยการกระตุ้นจากฮอร์โมนเพศชายซึ่งส่วนใหญ่ผลิตจากอัณฑะ ซึ่งฮอร์โมนเพศชายนี้ยังเกี่ยวกับการกระตุ้นการโตของเซลล์ของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย โดยความแปลกของต่อมลูกหมากที่พบบ่อยในชายไทย คือ โรคต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia; BPH) โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate cancer) และก็ต่อมลูกหมากอักเสบ (prostatis) ปริมาณร้อยละ 80 18 และ 2 ตามลําดับ โดยโรคต่อมลูกหมากโตนี้ เป็นโรคพบได้ทั่วไปมากของเพศชายวัยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป โดยพบได้ราว 30-40% ของเพศชายวัย 50-60 ปี แล้วก็เมื่ออายุ 85 ปีจะเจอโรคนี้ได้สูงถึง 90% โรคนี้พบได้ในเพศชายทั่วทั้งโลก ทุกเชื้อชาติ สิ่งที่ทำให้เกิดโรคต่อมลูกหมากโต ในปัจจุบัน ยังไม่รู้มูลเหตุที่แจ่มแจ้งของการเกิดโรคต่อมลูกหมากโต แม้กระนั้นหมอเชื่อว่า เมื่อชายสูงอายุขึ้นจะส่งผลต่อการสร้างกรุ๊ปฮอร์โมนเพศชายจากอัณฑะที่ชื่อ แอนโดรเจน (Androgen) จึงทำให้ร่างกายขาดสมดุลของฮอร์โมนเพศชายประเภทต่างๆโดยเฉพาะระหว่างฮอร์โมน เทสโทสสเตอโรน (Testosterone) กับฮอร์โมน ไดไฮโดรเทสโทสสเตอโรน () (DHT) ซึ่งภาวการณ์นี้นำมาซึ่งการทำให้เซลล์ของต่อมลูกหมากมีการเจริญเติบโตผิดปกติได้ ที่เรียกว่า โรคต่อมลูกหมากโต ฮอร์โมนที่มั่นใจว่าเป็นสาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต ที่มา : Wikipedia นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีลักษณะอาการค่อนข้างจะรุนแรงในกลุ่มชนที่แก่น้อยกว่า 60 ปี ซึ่งจำเป็นต้องรับการดูแลและรักษาโดยผ่าตัดชอบมีประวัติว่าคนภายในครอบครัวมักมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก ยิ่งไปกว่านี้ยังสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากพันธุกรรม โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่มีอาการค่อนข้างจะรุนแรงในกลุ่มของผู้คนที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี ซึ่งจะต้องรับการรักษาโดยผ่าตัดมักจะมีประวัติว่าคนภายในครอบครัวมักมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก อาการของโรคต่อมลูกหมากโต อาการโรคต่อมลูกหมากโตนั้น เกิดจากเมื่อต่อมลูกหมากโตขึ้น จะไปนำไปสู่การระคายเคืองต่อท่อฉี่ แล้วก็เมื่อต่อมฯยิ่งโตขึ้น ก็จะกดแทรกทับ หรือเบียดรัดบริเวณท่อฉี่ ก็เลยนำมาซึ่งการทำให้ท่อเยี่ยวตีบแคบลง จนถึงอาจอุดตัน ด้วยเหตุนี้อาการโรคต่อมลูกหมากโต ก็คือ
รวมทั้งในคนไข้บางรายอาจมีอาการฉี่เป็นเลือด ด้วยเหตุว่าเบ่งถ่ายนานๆอาจจะเป็นผลให้หลอดโลหิตดำที่ท่อเยี่ยวคั่ง แล้วแตกกระทั่งมีเลือดออกมาได้ ดังนี้โรคต่อมลูกหมากโตอาจมีภาวะแทรกซ้อนเป็นต้นว่า ฉี่ไม่ออกเลย ทางเท้าเยี่ยวอักเสบ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ไตเสื่อมหรือกระเพาะปัสสาวะเสื่อม ฉี่เป็นเลือด ฯลฯ ซึ่งบางทีอาจเจอได้ไม่เกินจำนวนร้อยละ 20 ของผู้เจ็บป่วยต่อมลูกหมากทั้งสิ้น กรรมวิธีการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต การตรวจวิเคราะห์คนเจ็บโรคต่อมลูกหมากโต
การรักษาโรคต่อมลูกหมากโตอาจต้องใช้หลายๆวิธีด้วยกัน แต่โดยหลักๆแล้วสามารถแบ่งได้ 3 วิธีดังต่อไปนี้การเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต การใช้ยารักษา การผ่าตัด ซึ่งมีเนื้อหาเป็น
การติดต่อของโรคต่อมลูกหมากโต โรคต่อมลูกหมากโตเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการขาดสมดุลของฮอร์โมนเพศชายหลายๆประเภท ซึ่งจะทำให้เซลล์ของต่อมลูกหมากเติบโตแตกต่างจากปกติ มักกำเนิดในเพศชายที่แก่ตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และก็โรคต่อมลูกหมากโตนี้ มิได้เป็นโรคติดต่อและไม่มีการติดต่อจากคนสู่คน แล้วก็จากสัตว์สู่คนแต่อย่างใด (https://www.img.in.th/images/6adce8831f429528e097b9aa2b8a221d.jpg) การกระทำตนเมื่อป่วยด้วยโรคต่อมลูกหมากโต
การคุ้มครองตัวเองจากโรคต่อมลูกหมากโต ตอนนี้ยังไม่มีวิธีใดที่ช่วยป้องกันปัญหาต่อมลูกหมากโตได้อย่างแท้จริงเพราะว่ายังไม่รู้สาเหตุที่กระจ่างของโรคนี้ และการเสี่ยงต่อโรคที่สำคัญที่ไม่สามารถที่จะปรับปรุงได้นั้นก็คืออายุที่มากขึ้น ฉะนั้นแนวทางที่เยี่ยมที่สุดก็คือผู้ชายที่แก่ตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปควรได้รับการตรวจต่อมลูกหมากเป็นประจำทุกปี และก็ควรจะหมั่นดูความแปลกของระบบฟุตบาทฉี่ ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีลักษณะถ่ายปัสสาวะทุกข์ยากลำบาก จะต้องใช้แรงเบ่งนานๆเยี่ยวไม่พุ่ง ช่วงเวลาค่ำคืนจำเป็นต้องลุกขึ้นยืนมาเยี่ยว หลายครั้ง หรือปัสสาวะเป็นเลือด ก็ควรจะไปพบหมอ เพื่อตรวจวิเคราะห์สาเหตุให้ชัดแจ้ง เมื่อพบว่าเป็นต่อมลูกหมากโตก็ควรจะรับประทานยารักษา หรือกระทำผ่าตัดปรับปรุงตามคำแนะนำของแพทย์ สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครองป้องกัน/รักษาโรคต่อมลูกหมากโต พืชสมุนไพรที่มีรายงานการวิจัยทางคลินิกว่ามีฤทธิ์รักษาโรคต่อมลูกหมากโตเป็นต้นว่า มะเขือเทศ แล้วก็ฟักทอง โดยให้คนเจ็บที่ได้รับการวิเคราะห์ว่าอยู่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตระยะเริ่มต้นรับประทานซอสมะเขือเทศเข้มข้น (Tomato paste) วันละ 50 กรัม (มี lycopene อยู่ 13 มก.) ต่อเนื่องกัน 10 สัปดาห์พบว่า มีผลทำให้ค่า prostate-specific antigen (PSA) ในเลือดซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงภาวการณ์ต่อมลูกหมากโตต่ำลง และก็การศึกษาเล่าเรียนทางสถานพยาบาลโดยให้ผู้เจ็บป่วยกินแคปซูลสารสกัดเม็ดฟักทองขนาด 1000 มก.ต่อวัน ส่งผลทำให้ผู้เจ็บป่วยโรคต่อมลูกหมากโตมีอาการดียิ่งขึ้น เมื่อรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน 12 อาทิตย์ มะเขือเทศ ชื่อวิทยาศาสตร์ Solanum lycopersicum สกุล Solanaceae มีหลายการศึกษาเล่าเรียนพบว่าไลวัวพีนในมะเขือ เทศสามารถลดระดับ PSA รวมทั้งคุ้มครองการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ โดยผ่านกลไกการทำงานต่างๆอย่างเช่น การลดการ กำเนิด lipid oxidation ต้านอนุมูลอิสระ และก็ ลดการสังเคราะห์ 5- alpha dihydrotestosterone ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการโตของต่อมลูกหมาก และก็ยังพบว่าการบริโภคไลวัวพีนจากสินค้า มะเขือเทศซึ่งนำมาซึ่งการทำให้ลูกค้ามีระดับไลโคพีนในเลือดสูงมากขึ้นจะสามารถลดระดับ PSA ในผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ Schwarz และก็ภาควิชา (2008) เล่าเรียนในผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโต (PSA > 4 mg/L) บริโภคไลวัวพีนวันละ 15 mg นาน 6 เดือน พบว่าสามารถคุ้มครองต่อมลูกหมากโตได้เมื่อตรวจทางทาวรหนักรวมทั้งการตรวจอัลตราซาวด์แล้วก็ระดับ PSA ลดลงจำนวนร้อยละ 11 เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปควบคุมที่ได้รับยาหลอก (placebo) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P < 0.05) แล้วก็แนวทางการทำแบบสำรวจอาการของต่อมลูกหมากฉบับนานาชาติ (International Prostate Symptom Score; IPSS) พบว่ากลุ่มที่ได้รับไลโคพีนมีอาการของต่อมลูกหมากดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการเล่าเรียนอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติ มีการเรียนรู้ในคนไข้โรคต่อมลูกหมากโตที่มีความเสี่ยงสูงถึงร้อยละ 80 ที่จะเป็นโรคโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในอนาคต (High Grade Prostatic Intraepithelial Neoplasia; HGPIN) โดยกลุ่มทดลองที่ได้รับไลวัวพีนวันละ 8 mg ตลอดทุกวี่ทุกวันนาน 1 ปี (20 คน) เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (20 คน) พบว่ากรุ๊ปที่ได้รับไลวัวพีนมีระดับ PSA ลดน้อยลง จาก 6.07 mg/L เป็น 3.5 mg/L คิดเป็นจำนวนร้อยละ 42 รวมทั้งมีไลวัวพีนในเลือดมากขึ้นจาก 360 เป็น 680 mg/L รวมทั้งเมื่อจบการเรียนพบว่ากลุ่มทดลองมีผู้เจ็บป่วยปริมาณ 2 ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ในขณะคนป่วยกลุ่มควบคุมปริมาณ 6 คนที่มิได้กินอาการที่มีไลโคพีน (มะเขือเทศ แตงโม) ตลอดตอนที่ทำงานเรียนรู้มีระดับ PSA เพิ่มสูงขึ้น และก็คนที่มีระดับไลวัวพีนในเลือดลดน้อยลงกลายเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มขึ้น ซึ่งแปลว่าการบริโภคไลโคพีนนาน 1 ปีสามารถปกป้องการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ป่วยที่มีการเสี่ยงสูงได้ ฟักข้าว มีชื่อสามัญว่า Spring bitter cucumber ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Momordica Cochinchinensis Spreng. ฟักข้าว คือผลไม้ที่อุดมด้วยไลวัวไต่ แล้วก็สารพฤษเคมีอื่นๆในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ยกตัวอย่างเช่น เบต้า-แคโรทีน สูงขึ้นยิ่งกว่าแครอท 10 เท่า มีวิตามินซีมากกว่าส้ม 40 เท่า มีซีแซนทีนมากยิ่งกว่า ข้าวโพด 40 เท่า อุดมด้วยวิตามินอี วิตามินเอ กรดไขมันโอเมก้า-3, โอเมก้า-6 และโอเมก้า-9 ช่วยเสริมฤทธิ์สำหรับการต่อต้านอนุมูลอิสระสูง และการไหลเวียนของโลหิต รวมทั้งในฟักข้าว มีไลวัวตะกาย ประเภทพิเศษ เรียกว่า ไลโปแคโรทีน (Lipocarotene) เป็นกรดไขมันสายยาวที่ช่วยจับแคโรทีน จึงช่วยซับแคโรทีน ฟักข้าว ก็เลยเป็นแหล่งของไลโคปีนป่าย ที่เหมาะสมที่สุด ไลโคปีนป่าย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่า ช่วยชะลอความเฒ่า ต้านทานความเสื่อมของร่างกาย ช่วยลดโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมากในผู้ชาย โดยต่อมลูกหมาก คือต่อมที่สร้างน้ำหล่อเลี้ยงสเปิร์ม ต่อมลูกหมากตั้งอยู่ระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับท่อปัสสาวะ เมื่อผู้ชายอายุสูงขึ้นคือ ตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศชาย(เทสโทสเตอโรน) ลดน้อยลง นำมาซึ่งการทำให้เซลล์ในต่อมลูกหมาก แบ่งตัวเยอะขึ้นเรื่อยๆ ต่อมลูกหมากก็เลยโตขึ้น และก็ถ้ามีการอักเสบร่วมด้วยก็จะได้โอกาสกำเนิดโรคมะเร็ง ได้สูงขึ้น ไลโคตะกาย จะควบคุมการโตของต่อมลูกหมาก ช่วยให้เซลล์ของมะเร็งฝ่อตาย รวมทั้งลด การแบ่งเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย หญ้าหนวดแมว ชื่อวิทยาศาสตร์ : Orthosiphon stamineus Benth. วงศ์ : Labiatae หรือ Lamiaceae สรรพคุณต้นหญ้าหนวดแมว ช่วยขับเยี่ยว ทำให้การหลั่งฉี่มากขึ้น นอกเหนือจากนี้ ในแบบเรียนยาหลายฉบับกล่าวถึงคุณประโยชน์ต่างๆยกตัวอย่างเช่น ตำรายาใช้ใบ และลำต้นการดูแลและรักษา แล้วก็คุ้มครองปกป้องโรคทางเดินฉี่ ลำต้น ใช้ทั้งยังแบบสดหรือแบบแห้ง ด้วยการต้มดื่ม โดยยิ่งไปกว่านั้นชายสูงอายุที่ช่วยแก้โรคต่อมลูกหมากโต รวมทั้งแก้ปัญหาปัสสาวะติดขัด รวมทั้งมีฤทธิ์ในการขับกรดยูริก เถาวัลย์เปรียง ชื่อวิทยาศาสตร์ Derris scandens (Roxb.) Benth ชื่อวงศ์ Papilionaceae สรรพคุณ: ตำรายาพื้นบ้าน: ใช้เถา ขับปัสสาวะ แก้กษัยเหน็บชา ถ่ายกษัย แก้เอ็นขอด ถ่ายเสลด ไม่อุจจาระ ทำให้เส้นเอ็นอ่อนลง ขับปัสสาวะ แก้ฉี่ทุพพลภาพ กระเจี๊ยบแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ Hibiscus sabdariffa L. ชื่อวงศ์ Malvaceae สรรพคุณ: หนังสือเรียนยาไทย: กลีบเลี้ยงมีรสเปรี้ยว แก้อาการขัดเบา การเรียนรู้ทางคลินิก: ลดความดันโลหิต ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ทำให้คนป่วยโรคนิ่วในท่อไต ปัสสาวะสะดวกขึ้น ผู้ป่วยกระเพาะปัสสาวะอักเสบมีลักษณะอาการปวดแสบเวลาปัสสาวะน้อยลง แบบแล้วก็ขนาดวิธีใช้ยา: ขับปัสสาวะ ใช้สมุนไพรแห้ง บดเป็นผุยผง 3 กรัม (หรือ 1 ช้อนชา) ชงกับน้ำเดือด 1 ถ้วยแก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้ง นาน 7 วัน หรือจนกว่าอาการจะหาย เอกสารอ้างอิง
|