หัวข้อ: โรคต่อททอนซิล มีวิธีรักษาด้วยสมุนไพรอย่างไร เเละสมุนไพรมีสรรพคุณ-ประโยชน์อย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ พฤษภาคม 02, 2018, 09:46:29 pm (https://www.img.in.th/images/18ebf093f1ee5be4960161ac8ca50f42.jpg)
โรคต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) โรคต่อมทอนซิลอักเสบเป็นยังไง ต่อมทอนซิล เป็นอวัยวะที่อยู่ข้างในลำคอ ซึ่งคือต่อมคู่ซ้ายขวาใกล้กับโคนลิ้น โดยเป็นต่อมน้ำเหลืองที่ทำหน้าที่จับสิ่งเจือปนจากของกิน , น้ำและการหายใจ ยกตัวอย่างเช่น แบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกายเหมือนกองทหารด่านหน้า รวมทั้งบ่อยมากที่ต่อมทอนซิลมักมีการอักเสบขึ้น ต่อมทอนซิลอักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) คือ โรคที่มีสาเหตุมาจากการอักเสบติดเชื้อของต่อมทอนซิลซึ่งเป็นโรคพบได้ทั่วไปโรคหนึ่ง พบได้ในทุกอายุ แม้กระนั้นพบมากกว่าในเด็ก และไม่ค่อยเจอในผู้ใหญ่แล้วก็คนวัยชรา ช่องทางกำเนิดโรคเสมอกันทั้งยังในเพศหญิงแล้วก็เพศชาย ต่อมทอนซิลอักเสบเจอได้ทั้งยังการอักเสบติดโรคกระทันหันซึ่งเมื่อเกิดมักมีลักษณะอาการร้ายแรงกว่า แต่รักษาหายได้ภายใน 1 - 2 อาทิตย์ และอักเสบเรื้อรังที่มักจะเป็นๆหายๆอาการแต่ละครั้งรุนแรงน้อยกว่าชนิดรุนแรง แต่มีลักษณะอาการอักเสบกระทันหันซ้อนได้เป็นระยะๆซึ่งนิยามของต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังเป็นต้นว่า มีต่อมต่อมทอนซิลอักเสบเกิดขึ้นอย่างน้อย 7 ครั้งใน 1 ปีที่ล่วงเลยไป หรือขั้นต่ำ 5 ครั้งทุกปีต่อเนื่องกันใน 2 ปีที่ผ่านมา หรืออย่างน้อย 3 ครั้งทุกปีติดต่อกันใน 3 ปีที่ล่วงเลยไป ทั้งโรคนี้กำเนิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่มีสาเหตุมาจากกรุ๊ปโรคติดเชื้อรวมทั้งกลุ่มโรคไม่ติดโรค ซึ่งในบทความนี้จะขอกล่าวถึงการอักเสบจากโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสแล้วก็เชื้อแบคทีเรียซึ่งเจอได้เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า “เบต้า-ฮีโมไลว่ากล่าวกสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ” (Group A beta-hemolytic streptococcus) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สเตรปโตค็อกคัส ไพโอจีเนส” (Streptococcus pyogenes) ซึ่งอาจจะทำให้คนป่วยมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงตามมาได้ ที่มาของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การต่อว่าดเชื้อที่ต่อมทอนซิลจำนวนมากเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ผ่านเข้าทางปาก โดยต่อมทอนซิลจะช่วยคุ้มครองปกป้องการต่อว่าดเชื้อด้วยการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้กับเชื้อโรค รวมทั้งเหตุเพราะเป็นภูมิต้านทานด่านแรก ต่อมทอนซิลจึงเป็นอวัยวะที่มีความเสี่ยงต่อการอักเสบและก็ติดเชื้อโรคมากมาย โดยต่อมทอนซิลอักเสบส่วนใหญ่ เป็นการติดเชื้อไวรัส ซึ่งพบได้สูงกว่าการตำหนิดเชื้ออื่นๆประมาณ 70 - 80% ของต่อมทอนซิลอักเสบทั้งหมดทั้งปวง ซึ่งเชื้อไวรัสที่ก่อโรคต่อมทอนซิลอักเสบมีหลายประเภทเป็นต้นว่า
ต้นเหตุของต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่พบได้บ่อยที่สุดเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการเชื้อสเต็ปโตคอคคัสกลุ่ม ที่ส่งผลให้เกิดทอนซิลอักเสบแบบเป็นหนอง (exudative tonsil litis) ลักษณะของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ โดยปกติโรคต่อมทอนซิลอักเสบมักเกิดร่วมกับการอักเสบติดโรคของคอเสมอ อาการของโรคต่อมทอนซิลอักเสบแยกได้เป็น 2 กรุ๊ปใหญ่ๆเป็น
นอกนั้นจะเจอฝาผนังคอหอยแล้วก็เพดานอ่อน มีลักษณะแดงจัดและก็บวม ต่อมทอนซิลบวมโตสีแดงจัด รวมทั้งมีแผ่นหรือจุดหนองสีขาวๆเหลืองๆติดอยู่บนต่อมทอนซิล ยิ่งกว่านั้น ยังบางทีอาจตรวจเจอต่อมน้ำเหลืองที่ใต้ขากรรไกรบวมโตและเจ็บ กรรมวิธีการรักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การวิเคราะห์โรคทอนซิลอักเสบ แพทย์จะวิเคราะห์พื้นฐานด้วยอาการแสดงและก็การตรวจคอโดยบางทีอาจใช้วิธีการตั้งแต่นี้ต่อไป
ถ้าหากพบผนังคอหอยรวมทั้งต่อมทอนซิลมีลักษณะแดงเพียงแค่เล็กๆน้อยๆไหมกระจ่าง ก็มักมีเหตุมาจากการต่อว่าดเชื้อไวรัส ถ้าเกิดต่อมทอนซิลบวมโต แดงจัด แล้วก็มีแผ่นหรือจุดหนองติดอยู่บนทอนซิล ก็ชอบเกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้ออนุภาคเบตาฮีโมโลตำหนิกสเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ ในรายที่ยังคลุมเคลือหมอบางทีอาจจำต้องทำตรวจค้นเชื้อจากรอบๆคอหอยและก็ต่อมทอนซิล โดยใช้วิธีที่เรียกว่า "rapid strep test" ซึ่งสามารถรู้ผลประโยชน์ในไม่กี่นาที ถ้าหากผลของการตรวจไม่กระจ่าง ก็อาจจำเป็นต้องทำเพาะเชื้อซึ่งจะทราบผลใน 1-2 วัน (https://www.img.in.th/images/50568bd58ab42b1ae224e404f52bf403.jpg) การดูแลและรักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ แพทย์จะให้การรักษาตามปัจจัยที่เจอ คือ
ดังนี้การกินยาปฏิชีวนะควรต้องรับประทานให้ครบตามคำแนะนำของหมอ เพื่อมั่นใจว่าแบคทีเรียถูกกำจัดจนหมด เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียที่กำจัดไม่หมดอาจจะก่อให้การตำหนิดเชื้อห่วยลงหรือแพร่ขยายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย ยิ่งไปกว่านี้ในเด็กยังเสี่ยงเกิดภาวะสอดแทรก ดังเช่นว่า การติดเชื้ออย่างรุนแรงที่ไต และก็ไข้รูมาติกซึ่งเป็นการติดโรครอบๆลิ้นหัวใจร่วมกับมีไข้ตามมาได้ ยิ่งกว่านั้นยังมีวิธีการผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลออก (tonsillectomy) ซึ่งเป็นแนวทางรักษาทอนซิลอักเสบที่เป็นซ้ำหลายคราว หรือทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หรือทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ตอบสนองต่อการดูแลรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเท่านั้น โดยพิจารณาได้จากลัษณะดังกล่าวต่อไปนี้
ยิ่งไปกว่านี้ แพทย์ยังบางทีอาจใช้การผ่าตัดทอนซิลในกรณีที่ต่อมทอนซิลอักเสบนำมาซึ่งการก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ยากจะรักษาตามมา ตัวอย่างเช่น
ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การบวมอักเสบของต่อมทอนซิลบ่อยมากหรือเรื้อรังอาจตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนอื่นๆเช่น เกิดภาวะหยุดหายใจขณะกำลังหลับ หายใจไม่สะดวก การตำหนิดเชื้อที่แพร่ลึกลงไปสู่เนื้อเยื่อรอบๆ ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่จะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมา ตัวอย่างเช่น ในกลุ่มที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเชื้อไวรัส ส่วนใหญ่จะไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนผู้ที่ลักษณะของโรคร่วมกับไม่สบายหวัด ไข้หวัดใหญ่ ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อน ยกตัวอย่างเช่น ภูมิแพ้ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ เป็นต้น และในกรุ๊ปที่มีต้นเหตุที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย อาจมีภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้
สำหรับไข้รูมาติก มีโอกาสเกิดขึ้นประมาณปริมาณร้อยละ 0.3-3 ของคนที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้อง แต่ว่าดังนี้การคุ้มครองภาวะแทรกซ้อนรุนแรงดังกล่าวสามารถทำได้กล้วยๆด้วยการกินยาปฏิชีวนะให้ครบ 10 วัน (แม้ว่าอาการจะดีขึ้นข้างหลังกินยาได้ 2-3 วันไปและตาม) การติดต่อของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบติดต่อได้เช่นเดียวกับในโรคไข้หวัดทั่วๆไปแล้วก็ในไข้หวัดใหญ่คือ เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของดรคอยู่ในน้ำลายและเสลด (รวมทั้งสารคัดหลั่งอื่นๆ) ของคนไข้ แล้วก็จะติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโรคดังกล่าวจากผู้เจ็บป่วย จากการไอ จาม หายใจ หรือการสัมผัสสารคัดเลือกหลั่งจากจมูกรวมทั้งช่องปากได้แก่ น้ำมูก น้ำลายคนเจ็บ แล้วก็จากใช้ของใช้ส่วนตัวที่สัมผัสสารคัดเลือกหลั่งดังกล่าวข้างต้น
ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การบวมอักเสบของต่อมทอนซิลหลายครั้งหรือเรื้อรังบางทีอาจตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนอื่นๆยกตัวอย่างเช่น เกิดภาวะหยุดหายใจขณะกำลังหลับ หายใจลำบาก การติดเชื้อที่แพร่ลึกลงไปสู่เยื่อโดยรอบ ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่จะก่อเกิดโรคต่างๆตามมา ตัวอย่างเช่น ในกรุ๊ปที่มีต้นเหตุมาจากไวรัส โดยมากจะไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนคนที่ลักษณะของโรคร่วมกับไม่สบายหวัด ไข้หวัดใหญ่ ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อน ดังเช่นว่า ไซนัสอักเสบ หูชั้นกึ่งกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ฯลฯ แล้วก็ในกลุ่มที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเชื้อแบคทีเรีย อาจมีภาวะแทรกซ้อนดังนี้
สำหรับไข้รูมาติก ได้โอกาสเกิดขึ้นประมาณจำนวนร้อยละ 0.3-3 ของผู้ที่มิได้รับการดูแลและรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างแม่นยำ แต่ว่าทั้งนี้การป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วสามารถทำได้กล้วยๆด้วยการกินยาปฏิชีวนะให้ครบ 10 วัน (แม้ว่าอาการจะดีขึ้นกว่าเดิมหลังกินยาได้ 2-3 วันไปและก็ตาม) การติดต่อของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบติดต่อได้เหมือนกันกับในโรคไข้หวัดทั่วๆไปและก็ในไข้หวัดใหญ่คือ เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของดรคอยู่ในน้ำลายแล้วก็เสลด (รวมทั้งสารคัดหลั่งอื่นๆ) ของคนป่วย แล้วก็จะติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโรคดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจากคนไข้ จากการไอ จาม หายใจ หรือการสัมผัสสารคัดเลือกหลั่งจากจมูกแล้วก็ช่องปากอาทิเช่น น้ำมูก น้ำลายคนป่วย รวมทั้งจากใช้ของใช้ส่วนตัวที่สัมผัสสารคัดเลือกหลั่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น สมุนไพรที่ช่วยป้องกัน/รักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ฟ้าทะลายขโมย ชื่อวิทยาศาสตร์ Andropraphis paniculata (Burm.f.) Wall. EX Nees ชื่อพ้อง Justicia paniculata Burm.f. ชื่อสกุล Acanthaceae คุณประโยชน์: ตำรายาไทย: มีการใช้ส่วนเหนือดินเก็บก่อนจะมีดอก เพื่อรักษาไข้ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ดับพิษร้อน ระงับอักเสบในอาการไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ขับเสมหะ ลดบวม แก้ติดเชื้อโรค รูปแบบและก็ขนาดวิธีการใช้ยา:.ทุเลาลักษณะการเจ็บคอ กินครั้งละ 3-6 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน บรรเทาอาการหวัด กินครั้งละ 1.5-3 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังรับประทานอาหารและก่อนนอน ส่วนประกอบทางเคมี: สารประเภทแลคโตน andrographolide,neoandrographolide,deoxyandrographolide, deoxy-didehydroandrographolide สารกรุ๊ปฟลาโวน ดังเช่น aroxylin, wagonin, andrographidine A จากการเล่าเรียนประสิทธิภาพของสารสกัดจากฟ้าทะลายขโมยในผู้เจ็บป่วยระบบทางเท้าหายใจส่วนบนไม่รุนแรง 223 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่กินสารสกัดจากฟ้าทะลายขโมย 200 มิลลิกรัมต่อวัน แล้วก็อีกกลุ่มรับประทานยาหลอกเป็นระยะเวลา 5 วัน ซึ่งจะวัดผลด้วยการวัดอาการจากเพศผู้ป่วยไข้เองในด้านต่างๆได้แก่ อาการไอ เสลด มีน้ำมูก ปวดศีรษะ เป็นไข้ เจ็บคอ อาการเหน็ดเหนื่อยง่าย แล้วก็ปัญหาในการนอน ผลพบว่า ทั้งยัง 2 กรุ๊ปมีอาการดีตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งจบการทดสอบ แต่ว่ากลุ่มที่กินสารสกัดจากฟ้าทะลายโจรเห็นผลได้อย่างเห็นได้ชัดในช่วงวันที่ 3-5 มากกว่ากรุ๊ปที่กินยาหลอก อย่างไรก็ดี ยังเจอผลกระทบเล็กน้อยในอีกทั้ง 2 กรุ๊ป จากการทดสอบจึงเชื่อว่าฟ้าทะลายโจรอาจช่วยรักษาหรือทุเลาอาการติดเชื้อในทางเดินหายใจตอนต้น โทงเทง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Physalis angulata L. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ : Physalis minima ชื่อสามัญ : Hogweed, Ground Cherry ชื่อวงศ์ : SOLANACEAE สรรพคุณโทงเทง : แบบเรียนยาไทย ผลรสเปรี้ยวเย็น แก้ต่อมน้ำลายอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้ฝีในคอ แก้อักเสบในคอ แก้ร้อนในอยากกินน้ำ ตำพอกแก้ปวดบวม ส่วนผลดีที่สำคัญของโตงเตงที่ ใช้รักษาอาการทอนซิลอักเสบ โดยหมอพื้นเมืองนั้นจะใช้ทั้งต้นตำให้แหลกละลายกับเหล้า เอาสำลีชุบเอาน้ำยาใช้อมไว้ข้างแก้ม กลืนน้ำผ่านคอนิด แก้ทอนซิลอักเสบ หรือที่เรียกว่าต่อมน้ำลายอักเสบ แก้ฝีในคอ ใช้แก้อาการอักเสบในคอก้าวหน้า หรือแพ้แอลกอฮอล์ก็ใช้ละลายกับน้ำส้มสายชูแทน ใช้ด้านในแก้ร้อนในกระหายน้ำ ใช้ด้านนอกแก้ฟกบวมอักเสบทำให้เย็น รวมทั้งอีกแบบเรียนยาหนึ่งบอกว่าแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ ให้ใช้ต้นนี้สดๆ(หรืออย่างแห้งก็ใช้ได้) 3 หัว แผ่น ฝักชุบน้ำตาล 2 แผ่น ใส่น้ำ 1 ถ้วย ต้มให้เหลือครึ่งถ้วย รับประทานครั้งเดียวหมด เด็กก็รับประทานต่ำลงตามส่วน จากการรักษาผู้ป่วยร้อยกว่าราย บางบุคคลกิน 4-10 ครั้งก็หาย บางบุคคลรับประทานต่อเนื่องกันถึง 2 เดือนก็เลยหาย ปลาไหลเผือก ชื่อวิทยาศาสตร์ : EURYCOMA LONGIFOLIA Jack. สกุล : SIMAROUBACEAE คุณประโยชน์ทางยา : ราก ต้านโรคมะเร็ง รักษาโรคอัมพาต ช่วยถ่ายน้ำเหลือง ขับพยาธิ แก้อาการท้องผูก แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้อาการเจ็บคอ วิธีการใช้ตามตำราไทย : ต้านทานโรคมะเร็ง ช่วยขับถ่ายน้ำเหลือง ขับพยาธิ แก้อาการท้องผูก แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้ลักษณะการเจ็บคอ นำรากแห้งราว 8-15 กรัม นำมาต้มเอาน้ำดื่มก่อนที่จะกินอาหารทุกเช้าและก็เย็น (2 เวลา) เอกสารอ้างอิง
|