หัวข้อ: โรคนิ่วในไต - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร เริ่มหัวข้อโดย: แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ ที่ พฤษภาคม 05, 2018, 12:51:20 am (https://www.img.in.th/images/6b8acbdeef85171242cdf8c11a7c9aca.png)
นิ่วในไต (Kidney Stone) นิ่วในไตเป็นยังไง ก่อนที่พวกเราจะมาทำความรู้จักนิ่วในไตนั้น อันดับแรกจะต้องรู้จักโรคนิ่วกันก่อน โรคนิ่วเป็นขี้ตะกอนจากธาตุต่างๆที่รวมตัวกันเป็นก้อนแข็งที่เกิดจากสาเหตุต่างๆตัวอย่างเช่น ขาดสารอาหารต่างๆหลายประเภท โดยเฉพาะ ซิเทรต โพแทสเซียม แมกนีเซียม และก็โปรตีนซึ่งได้มาจากเนื้อสัตว์ หรืออาจเกิดจากการอักเสบ จากโรคบางชนิด เช่น โรคเก๊าท์เป็นต้น และก็โรคนิ่วนั้นยังสามารถแบ่งออกเป็นของประเภท คือนิ่วในถุงน้ำดี และก็นิ่วในระบบฟุตบาทฉี่ และยังสามารถแยกเป็นชนิดและประเภทนิ่วในทางเดินเยี่ยวได้อีกตามตำแหน่งที่เกิดนิ่ว ได้แก่ นิ่วในไต นิ่วในทอไต นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ รวมทั้งนิ่วในทอเยี่ยว ซึ่งนิ่วทั้งสองประเภทนี้ มีความต่างกันทั้งยังในส่วนประกอบ มูลเหตุ รวมถึงการรักษา แม้กระนั้นในเนื้อหานี้ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงเฉพาะนิ่วในไตแค่นั้น นิ่วในไต เป็นก้อนผลึกขนาดเล็ก ประกอบด้วยหินปูน (แคลเซียม) กับสารเคมีและก็ธาตุ นๆได้แก่ ออกซาเลต ยูริก โปรตีน เป็นต้น หรือบางรายอาจจะมีขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากสารตกค้างต่างๆอีกทั้งจากสารอาหารที่พวกเรากินเข้าไป หรือกรดบางจำพวกที่ร่างกายขับออกไม่หมด ซึ่งก้อนนิ่วในไตนี้ ยังไปเพิ่มอัตราเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคไตอีก ชนิดของนิ่วในไต ก้อนนิ่วมีส่วนประกอบ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็น ธาตุ (mineral composition) และก็ส่วนที่เป็นสาร อินทรีย์(organic matrix) ซึ่งมีประมาณจำนวนร้อยละ 5-10 เป็นสารโมเลกุลใหญ่ที่พบในฉี่ ดังเช่น โปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ฯลฯ ส่วนที่เป็นแร่ธาตุมีเหตุมาจาก การตกผลึกของสารก่อนิ่วในปัสสาวะ ดังเช่นว่า แคลเซียม ออกซาเลต ฟอสเฟต รวมทั้งกรดยูริค สามารถจำแนกแยกแยะของนิ่วในไตได้ดังนี้ นิ่วสตรูไวท์(struvite stones) พบ จำนวนร้อยละ 15 กำเนิดในคนไข้ที่มีทางเดินเยี่ยวอักเสบเรื้อรัง นิ่วกรดยูริค (uric acid stones) เจอราวๆปริมาณร้อยละ 6 เกิดขึ้นจากทานอาหารที่มีพิวรีน (purine) สูง ดังเช่นว่า เครื่องใน สัตว์ปีก ฯลฯ นิ่วซีสตี (cystine stones) เจอราวจำนวนร้อยละ 2 มีต้นเหตุมาจากความแปลกของร่างกาย สำหรับในการซับสารซีสตีน นิ่วแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate stones) เป็นประเภทที่พบมากที่สุด ในประเทศไทย โดยพบร้อยละ 75-80 ซึ่งจากรายงาน การศึกษาที่จังหวัดขอนแก่นเจอนิ่วประเภทนี้ร้อยละ 88 และที่ประเทศสหรัฐอเมริกาพบอุบัติการณ์ร้อยละ 90 นิ่วแคลเซียมออกซาเลตมีสาเหตุมาจากแคลเซียมรวมกับกรด ออกซาลิก (oxalic acid) เมื่อไปรวมกับแร่ธาตุตัวอื่น ยกตัวอย่างเช่น โซเดียม แมกนีเซียม แคลเซียม หรือโปแตสเซียม จะกลายเป็นผลึกออกซาเลต แล้วก็เปลี่ยนเป็นก้อนนิ่วในเวลาต่อมา นิ่วในไตสามารถเจอได้ทุกช่วงอายุตั้งแต่เด็กจนถึงคนวัยชรา แต่ว่าพบได้สูงขึ้นยิ่งกว่าในช่วงอายุ 40 - 50 ปี โดยเจอในผู้ชายสูงขึ้นมากยิ่งกว่าหญิงราว 2 - 3 เท่า นิ่วในไตอาจเกิดกับไตเพียงข้างเดียว โดยจังหวะกำเนิดใกล้เคียงกันข้างซ้ายรวมทั้งขวาหรือเกิดนิ่วพร้อมกันทั้งสองข้าง แต่ว่าความรุนแรงของนิ่วในทั้งสองไตมักแตกต่างกันสังกัดขนาดและก็ตำแหน่งของนิ่ว ในประเทศที่เจริญก้าวหน้าแล้ว จะพบโรคนี้ได้ราวๆ 0.2% ของประชากร ส่วนในเอเชียเจอได้โดยประมาณ 2-5% สำหรับในประเทศไทย พบอัตรา การเกิดโรคนิ่วในไตแล้วก็ในระบบทางเดินเยี่ยวของผู้ป่วยใน จากสถิติกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้นจาก 99.25 ต่อ 100,000 ของสามัญชน ในปีพ.ศ. 2550 เป็น 122.46 ในปี พ.ศ. 2553 พบมากที่สุดในสามัญชน ภาคเหนือแล้วก็ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในอัตรา 188.55 และ 174.67 ตามลำดับ จากการศึกษาเล่าเรียน นิ่วในระบบฟุตบาทฉี่ ในปีพ.ศ. 2552 จำแนกประเภทตามครอบครัว แล้วก็ หมู่บ้าน ในพลเมืองภาคอีสาน ที่จังหวัด ขอนแก่น ปริมาณ 1,034 ราย (โดยรวมผู้ที่เป็นนิ่ว อยู่แล้ว 135 ราย) จาก 551 ครอบครัว แล้วก็ 348 หมู่บ้าน เล่าเรียนด้วยแนวทางถ่ายรูปรังสี Kidney-Ureter Bladder (KUB) พบว่า สมาชิกในครอบครัวจำนวน 116 ครอบครัว (จำนวนร้อยละ 21.05) และก็ใน 23 หมู่บ้าน (ร้อยละ 6.61) เป็นนิ่วในไต ตำแหน่งที่พบนิ่วมากที่สุดหมายถึงในไต โดยประมาณจำนวนร้อยละ 80 สำหรับในภูมิภาคอื่นๆมีการเรียนรู้ไม่เท่าไรนัก แต่ว่ามีรายงานการเรียนรู้พบว่า พบนิ่วมากที่สุดในช่วงอายุ 40-50 ปีรวมทั้ง เจอในเพศชายมากกว่าผู้หญิง 3 เท่า และพบ การเกิดซ้ำ ข้างใน 2 ปี หลังผ่าตัดหรือสลายนิ่วสูงถึง จำนวนร้อยละ 39 ในปัจจุบันโรคนิ่วในไตมีลัษณะทิศทางที่สูงขึ้น อีกทั้งในประเทศไทยแล้วก็ทุกภูมิภาคทั่วทั้งโลก การมีนิ่วในไต ทำ ให้การทำ งานของไตเสื่อมลง แล้วก็บางทีอาจรุนแรงจนถึง เกิดภาวะไตวายเรื้อรังและโรคไตระยะสุดท้าย ซึ่งทำ ให้ เสียชีวิตได้ นอกเหนือจากนี้โรคนิ่วในไตมีอุบัติการณ์เกิดนิ่วซ้ำ สูงมาก ทำ ให้ผู้ป่วยและก็รัฐบาลจำต้องสูญเสียรายจ่าย สำหรับการรักษาเป็นอันมาก ด้วยเหตุนั้นการหลีกเลี่ยงสาเหตุ เสี่ยงหรือมูลเหตุที่ก่อเกิดนิ่ว อาทิเช่น พืชที่มีออกซาเลต สูง หรือการรับประทานแคลเซียมเม็ดเสริม ควรจะเป็นสิ่งที่ จะต้องคำ รำลึกถึงเพื่อป้องการกันกำเนิดนิ่ว สิ่งที่ทำให้เกิดนิ่วในไต มีเหตุมาจากหลากหลายปัจจัย อีกทั้งปัจจัยเสี่ยงทางด้านสภาพแวดล้อม เมตตาบอลิซึม พันธุกรรม วิถีการดำรงชีวิต แล้วก็นิสัยการกินอาหารของเพศผู้ป่วยไข้เอง แม้กระนั้นต้นสายปลายเหตุที่สำคัญของการเกิดนิ่วในไต คือ การมีสารก่อนิ่วในเยี่ยวสูงขึ้นยิ่งกว่าระดับสารยับยั้งนิ่ว ร่วมกับปัจจัยเสริมคือ ปริมาตรของปัสสาวะน้อย นำไปสู่ภาวะอิ่มตัวยวดยิ่งของสารก่อนิ่วในปัสสาวะ จึงเกิดผลึกที่ไม่ละลายน้ำขึ้น ดังเช่น แคลเซียมออกซาเลต แคลเซียมฟอสเฟต รวมทั้งยูเรต ผลึกนิ่วที่เกิดขึ้นจะทำการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ส่งผลให้เซลล์บุด้านในไตถูกทำลาย ตำแหน่งถูกทำลายนี้จะเป็นพื้นที่ให้ผลึกนิ่วเกาะยึดรวมทั้งรวมกลุ่มกัน เกิดการทับถมของผลึกนิ่วเป็นระยะเวลานานกระทั่งเปลี่ยนเป็นก้อนนิ่วได้ในที่สุด ในคนธรรมดาที่มีสารยั้งนิ่วในปัสสาวะสูงพอเพียงจะสามารถยั้งการก่อตัวของผลึกนิ่วได้ โดยสารเหล่านี้จะไปแย่งจับกับสารก่อนิ่ว ดังเช่นว่า ซิเทรตจับกับแคลเซียม หรือแมกนีเซียมจับกับออกซาเลต ทำให้มีการเกิดเป็นสารที่ละลายน้ำได้ดี และขับออกไปพร้อมกับน้ำฉี่ ทำให้ปริมาณสารก่อนิ่วในฉี่ต่ำลงและไม่สามารถรวมตัวกันเป็นผลึกนิ่วได้ เว้นเสียแต่สารยับยั้งนิ่วกลุ่มนี้แล้วโปรตีนในปัสสาวะหลายแบบยังปฏิบัติหน้าที่ปกป้องการก่อผลึกในฉี่ แล้วก็เมื่อฉาบที่ผิวผลึกจะช่วยขับผลึกออกไปกับเยี่ยวได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ตอนนี้มีหลายงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยกล่าวว่า ความผิดแปลกของการสังเคราะห์แล้วก็หลักการทำงานของโปรตีนยับยั้งนิ่วกลุ่มนี้เป็นต้นเหตุหนึ่งของการเกิดโรคนิ่วในไต การเกิดนิ่วในไตยังบางทีอาจมีต้นเหตุจากโรคอื่นที่เป็นอยู่ เช่น การต่อว่าดเชื้อในระบบฟุตบาทฉี่ โรคเมตาบอลิก รวมถึงการใช้ยารักษาโรคบางชนิดอย่างโรคเกาท์ ต่อมไทรอยด์ดำเนินงานเกินปกติ โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันเลือดสูง และการกินวิตามินดี รวมทั้งแคลเซียมเม็ดเสริมมากเกินไป ลักษณะของนิ่วในไต สำหรับนิ่วในไตโดยมาก คนไข้มักไม่มีอาการแสดง แม้กระนั้นจะมีลักษณะอาการแสดงก็ต่อเมื่อมีการติดเชื้อโรคซ้ำไปซ้ำมาแล้วก็ก้อนนิ่วที่มีขนาดเล็กมากมายๆบางทีอาจหลุดออกไปพร้อมทั้งการขับปัสสาวะโดยไม่ก่อเกิดอาการหรือความรู้สึกปวดอะไรก็ตามอาการของนิ่วในไตอาจไม่ปรากฏให้มองเห็นจนตราบเท่าก้อนนิ่วเริ่มเคลื่อนบริเวณไตหรือไปยังท่อไต ซึ่งเป็นท่อเชื่อมต่อระหว่างไตและก็กระเพาะปัสสาวะ ทำให้คนป่วยที่มีนิ่วในไตอาจมีอาการกลุ่มนี้ตามมา ตัวอย่างเช่น ปวดรอบๆข้างหลังหรือท้องด้านล่างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาจเจ็บปวดรวดร้าวลงไปถึงบริเวณขาหนีบ มีอาการปวดบีบเป็นระยะ รวมทั้งปวดรุนแรงเป็นช่วงๆที่บริเวณดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ปัสสาวะเป็นเลือด หรืออาจมีสีแดง ชมพู และก็น้ำตาล เยี่ยวแล้วเจ็บ ปวดฉี่บ่อยครั้ง ปัสสาวะน้อย ฉี่ขุ่นหรือมีกลิ่นฉุน คลื่นไส้ อ้วก หนาวสั่น เป็นไข้ และก็ถ้าเกิดก้อนนิ่วมีขนาดเล็กและก็ตกลมมาที่ท่อไต จะมีผลให้กำเนิดลักษณะของการปวดบิดในท้องร้ายแรง เรียกว่า “นิ่วในท่อไต” ผู้ป่วยจะมีลักษณะอาการระคายเคืองเวลาเยี่ยว อยากฉี่ แต่เยี่ยวขัด กะปริดกะปรอย ในเรื่องที่มีการติดเชื้อแทรกซ้อนจะมีลักษณะไข้ร่วมด้วย ถ้าหากปลดปล่อยให้เป็นนิ่วไปนานๆโดยไม่ได้รับการดูแลและรักษาจะมีผลให้ไตบาดเจ็บเรื้อรัง ทำให้ไตมีรูปร่างและก็ดำเนินการผิดปกติมากขึ้นแล้วก็ส่งผลให้เกิดสภาวะไตวายสุดท้าย กระบวนการรักษานิ่วในไต หมอวินิจฉัยนิ่วในไตได้จากประวัติความเป็นมาอาการ การตรวจร่างกาย การตรวจฉี่ และก็อาจมีการตรวจอื่นๆเพิ่มขึ้นกับอาการคนเจ็บและก็ดุลพินิจของแพทย์ อาทิเช่น
การดูแลและรักษานิ่วในไตขนาดเล็ก การรักษานิ่วขนาดเล็กที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 5 มิลลิเมตร บางทีอาจทำได้ด้วยการดื่มน้ำมากมายๆเพื่อช่วยขับก้อนนิ่วออกมาพร้อมฉี่ และก็ควรดื่มให้มากพอ (วันละ 8 – 10 แก้ว) จนเยี่ยวเจือจางฉี่เป็นสีใสๆนิ่วบางทีอาจหลุดลงมาเป็นนิ่วในทอไต แต่ แม้คนไข้ด้วยนิ่วชนิดนี้มีลักษณะอาการ หมออาจไตร่ตรองให้ผ่าตัดเอาก้อนนิ่วออกได้เหมือนกัน ถ้ากำเนิดก้อนนิ่วเล็กๆที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความเจ็บ หมออาจใช้ยาเพื่อทุเลาลักษณะของการปวด อย่างเช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) อะเซตามิโนเฟ่น (Acetaminophen) หรือที่รู้จักในชื่อพาราเซตามอล และนาพรอกเซน (Naproxen) นอกจากนี้ การใช้ยาช่วยขับก้อนนิ่วก็เป็นอีกหนึ่งกรรมวิธีรักษา หมออาจสั่งจ่ายยากลุ่มแอลฟา-บล็อกเกอร์ (Alpha Blocker) ซึ่งเป็นยาช่วยขับก้อนนิ่วออกมาทางเยี่ยว ออกฤทธิ์โดยการทำให้กล้ามผ่อนคลาย ทำให้ให้ก้อนนิ่วในไตถูกขับออกมาได้เร็วแล้วก็เจ็บน้อยกว่า การดูแลและรักษานิ่วในไตขนาดใหญ่ ก้อนนิ่วที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 มิลลิเมตรขึ้นไปสามารถทำให้มีเลือดออก และก็คงนำมาซึ่งการก่อให้เกิดแผลที่ท่อไตหรือการต่อว่าดเชื้อในระบบฟุตบาทเยี่ยว จนถึงไม่สามารถหลุดมาเองได้ หมอบางทีอาจจำต้องใช้การรักษาประเภทอื่นๆดังต่อไปนี้
สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะก่อกำเนิดนิ่วในไต
การติดต่อของนิ่วในไต นิ่วในไตเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการตกตะกอนของแร่ธาตุต่างๆแล้วก็แคลเซียม (หินปูน) เป็นก้อนผลึกขนาดต่างๆตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังเช่นว่า ถุงน้ำดี แล้วก็ ระบบทางเดินเยี่ยวของร่างกาย ซึ่งขาดการติดต่อจากคนสู่คนหรือจากสัตว์สู่คนอะไร การกระทำตนเมื่อเป็นนิ่วในไต การดูแลตัวเองเมื่อเป็นนิ่วในไตรวมทั้งเพื่อคุ้มครองนิ่วย้อนกลับไปเป็นซ้ำหลังรักษานิ่วหายแล้ว เช่น
การปกป้องตัวเองจากนิ่วในไต ช่วงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วสูงสุดเป็น 40-60 ปี แล้วก็อัตราการเกิดเป็นนิ่วซ้ำ พบมากถึงจำนวนร้อยละ 50 ข้างใน 5 ปี การปฏิบัติตนเพื่อลดการเสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว หรือการเกิดนิ่วซ้ำ ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
ชื่อผัก ปริมาณกรดออกซาลิค ชื่อผัก ปริมาณกรดออกซาลิค (มิลลิกรัม) (มิลลิกรัม) ผักชีฝรั่ง (parsley) 1,700 หัวไชเท้า 480 มันสำปะหลัง 1,260 ใบกระเจี๊ยบ 389.5 ใบชะพลู 1,088.4 ใบยอ 387.6 ผักโขม (amaranth) 1,090 ผักปัง 385.3 ผักโขม (spinach) 970 ผักกระเฉด 310 ยอดพริกชี้ฟ้า 761.7 ผักแพงพวย 243.9 แครอท 500 กระเทียม 360
กระเจี๊ยบแดง Hibiscus sabdariffa L.
ขทาง Pluchea indica (L.) Less.
ตะไคร้ Cymbopogon citratus Stapf
ทานตะวัน Helianthus annuus L.
สับปะรด Ananas comosus (L.) Merr.
|