หัวข้อ: นมผึ้งและก็คุณค่าที่น่ารู้ขั้นตอนหนดีต่อร่างกาย เริ่มหัวข้อโดย: ttads2522 ที่ พฤษภาคม 05, 2018, 06:36:32 am นมผึ้ง ได้ผลสำเร็จผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวเหมือนน้ำนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นอาหารหลักของผึ้งนางพญาและก็ตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นสำหรับการเติบโต หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม และก็ยังรวมทั้งเป็นส่วนประกอบของครีมบำรุงรวมทั้งเครื่องแต่งหน้า
นมผึ้งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักประมาณ 60-70% และอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆเป็นต้นว่า โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ และก็กรดอะมิโน ยิ่งไปกว่านี้ ยังเจอสารอื่นในนมผึ้ง เช่น กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทในการเติบโตของผึ้ง สารแอซิติเตียนลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับความรู้สึกและกลไกลักษณะการทำงานของร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนเพศ ยกตัวอย่างเช่น เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน ฯลฯ ทั้งนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ รวมทั้งสภาพอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้องค์ประกอบของนมผึ้งต่างกันออกไป หลายท่านมั่นใจว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิต้านทานร่างกาย รักษาเบาหวาน รวมทั้งแผลเบาหวาน เป็นต้น ทั้งยังเชื่อกันอีกว่าถ้าหากนำนมผึ้งทาที่หนังหัวอาจช่วยกระตุ้นการเจริญเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างพวกนี้จะเป็นจริงหรือเปล่า และมีหลักฐานทางการแพทย์มาดน้อยแค่ไหนที่จะช่วยยืนยันคุณประโยชน์ คุณประโยชน์ และความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยสำหรับการรักษาโรคเหล่านี้ ประโยช์จากนมผึ้งที่อาจมีต่อร่างกาย บรรเทาอาการวัยทอง อาการวัยทองเป็นปัญหาทางสุขภาพที่เกิดขึ้นกับเพศหญิงกลางคน เป็นเหตุให้เกิดอาการหลายประเภท ดังเช่นว่า ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะมีเซ็กส์ ฯลฯ อาการดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถทุเลาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แต่สารหล่อลื่นส่วนมากจะออกฤทธิ์ได้เพียงชั่วคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณสมบัติต้านทานจุลชีพ (Antimicrobial Activity) และก็มีคุณลักษณะคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการเรียนโดยให้หญิงวัยทองที่แต่งงานแล้วอายุ 50-65 ปี จำนวน 90 คน กรุ๊ปหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กรุ๊ปหนึ่งใช้ฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนจำพวกครีมแบรนด์หนึ่ง และอีกกรุ๊ปใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดเป็นเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีประสิทธิภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสตรีวัยทองได้มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนชนิดครีมรวมทั้งสารหล่อลื่น ซึ่งจากผลของการทดสอบอาจจะกล่าวว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตแล้วก็ทุเลาอาการวัยทองที่เกี่ยวเนื่องกับช่องคลอดของหญิงวัยทอง และทางผู้วิจัยยังได้ระบุอีกว่าแม้เพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็อาจจะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นให้มากขึ้นได้ ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลายประเภท หนึ่งในนั้นเป็นกรดไขมันสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) แล้วก็สารประกอบที่มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาที่ให้สตรีวัยทองร่างกายแข็งแรงจำนวน 36 ผู้รับประทานนมผึ้งขนาด 150 มก. เป็นเวลา 3 เดือน โดยตรวจปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลให้กำเนิดโรคเส้นโลหิตแล้วก็หัวใจ รวมถึงระดับไขมันในเลือดก่อนรวมทั้งข้างหลังการทดสอบ พบว่ามีการเปลี่ยนของระดับไขมันในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ไม่ดี (LDL) ลดน้อยลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) ลดน้อยลง 3.09% และระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) เพิ่มขึ้น 7.7% จากผลของการทดลองอาจกล่าวได้ว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือด และบางทีอาจเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวกับภาวะไขมันในเลือดสูง นอกเหนือจากนี้ ยังมีอีกการเล่าเรียนหนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีภาวะไขมันในเลือดสูงชนิดไม่ร้ายแรงปริมาณ 40 คน กินนมผึ้งขนาด 350 มก.วันละ 9 แคปซูล เป็นเวลา 3 เดือนก็ชี้ให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่ลดลงเช่นเดียวกัน ทั้งยังยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) และลดการเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดและก็หัวใจได้อีกด้วย ทุเลาอาการก่อนมีรอบเดือน อาการก่อนมีรอบเดือนมักส่งผลในทางลบกับสุขภาพของหญิง ครั้งคราวการดูแลรักษาโดยไม่ใช้ยาก็อาจช่วยทุเลาให้อาการต่างๆดีขึ้นได้ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้นิสิตแพทย์ปริมาณ 110 คน กินนมผึ้งขนาด 1,000 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีเมนส์ แล้วก็รับประทานสม่ำเสมอจนหมดระดูในรอบถัดไป พบว่าอาการก่อนมีรอบเดือนน้อยลง จากผลการทดลองอาจกล่าวได้ว่าการรับประทานนมผึ้งติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือน บางทีอาจช่วยทุเลาอาการก่อนมีระดูได้ รักษาแผลโรคเบาหวาน แผลโรคเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบมากในคนไข้โรคเบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี ส่วนมากจะพบแผลโรคเบาหวานที่บริเวณเท้า โดยยิ่งไปกว่านั้นนิ้วโป้งเท้าและก็ปลายอุ้งเท้า ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคทำหน้าที่ต้านทานอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณลักษณะต้านเชื้อแบคทีเรีย แล้วก็กรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต้านเชื้อจุลินทรีย์ ก็เลยคาดว่าบางครั้งก็อาจจะช่วยรักษาแผลเบาหวานได้ จากการเล่าเรียนชิ้นหนึ่งให้คนเจ็บที่มีแผลเบาหวานที่ได้รับการรักษาหลักตามธรรมดา ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลแล้วก็ปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลประเภทปลอดเชื้อโรคเป็นเวลา 3 เดือนหรือจนกว่าแผลจะหาย แล้วก็มีการประมวลผลอาทิตย์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 41 วันจึงทำให้แผลหายดี และก็ค่าถัวเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง และก็ความลึกของแผลลดน้อยลงวันละ 0.35 มม. 0.28 มม. และก็ 0.11 มม.เป็นลำดับ จากผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยอาจจะบอกได้ว่านมผึ้งอาจมีประสิทธิภาพเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาแผลเบาหวานควบคุ่ไปกับการรักษาหลัก แม้กระนั้นผลวิจัยข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดสอบเพียง 8 คน ซึ่งบางทีอาจจะเล็กเกินความจำเป็นที่จะสรุปความสามารถของนมผึ้งสำหรับการรักษาแผลโรคเบาหวาน แม้กระนั้นการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งได้บ่งบอกถึงผลสรุปของนมผึ้งที่ต่างกันออกไป โดยให้คนที่มีแผลเบาหวานทายาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลตรงเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายเช่นกัน แม้กระนั้นยังไม่อาจจะสรุปได้ว่านมผึ้งมีประสิทธิภาพสำหรับในการรักษาแผลเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอกเนื่องจากการเรียนรู้ทั้งยัง 2 ชิ้นข้างต้นชี้ให้เห็นคำตอบของนมผึ้งที่ตรงกันข้ามกัน จึงบางทีอาจยังไม่สามารถสรุปประสิทธิภาพของนมผึ้งสำหรับในการรักษาแผลโรคเบาหวานได้อย่างเห็นได้ชัด ก็เลยจำเป็นต้องเล่าเรียนเพิ่ม ทุเลาอาการอ่อนแรงจากโรคมะเร็ง อาการเหน็ดเหนื่อยที่เป็นผลมาจากโรคมะเร็งเป็นผลมาจากการดูแลและรักษาการฉายรังสีหรือวิธีการทำเคมีบรรเทา มักมีผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย และคุณภาพชีวิตของคนไข้ ซึ่งการรับประทานยา การบำบัด หรือการออกกำลังกายอาจช่วยบรรเทาอาการลงได้ รวมทั้งการกินอาหารเสริม อย่างเช่น นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการเช่นเดียวกัน ก็เลยสอดคล้องกับการศึกษาหนึ่งที่ให้คนเจ็บโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 52 คน พบว่ากลุ่มที่รับประทานน้ำผึ้งดัดแปลงและก็นมผึ้งขนาด 5 มก. วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 4 สัปดาห์ มีลักษณะอ่อนเพลียจากโรคมะเร็งอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกรุ๊ปที่ักินน้ำผึ้งบริสุทธิ์ แม้กระนั้นยังจะต้องเรียนรู้เพิ่มอีกถึงหน้าที่ที่จริงจริงของนมผึ้งสำหรับการบรรเทาอาการอ่อนแรงจากโรคมะเร็ง รักษาไข้ละอองฟาง โรคภูมิแพ้ที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองอย่างหนักกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้คนป่วยมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ เป็นต้น ซึ่งจากการเรียนทดลองโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่เจ็บป่วยละอองฟาง จำนวน 80 คน กรุ๊ปหนึ่งรักษาด้วยการกินสินค้าที่มีส่วนผสมของนมผึ้งและก็อีกกรุ๊ปรับประทานยาหลอกเป็นเวลา 3-6 เดือน และจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่าทั้งยัง 2 กลุ่มยังคงพบลักษณะของไข้ละอองฟาง และมีระดับความรุนแรงของอาการที่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก จากผลการค้นคว้าอาจกล่าวได้ว่านมผึ้งบางทีอาจไม่มีคุณภาพต่อการดูแลและรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถทุเลาอาการต่างๆให้ดีขึ้นได้ ก็เลยยังจะต้องศึกษาเพิ่มเกี่ยวกับความสามารถของนมผึ้งสำหรับการรักษาไข้ละอองฟางที่แจ่มชัดยิ่งขึ้น ความปลอดภัยในการกินนมผึ้ง การรับประทานนมผึ้งออกจะปลอดภัยถ้ากินในจำนวนที่เหมาะสม แต่ก็มีโอกาสที่จะเป็นผลใกล้กันได้ ดังเช่นว่า เลือดออกในลำไส้ เจ็บท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด เป็นต้น บางรายถ้ามีลักษณะแพ้อย่างรุนแรงอาจจะส่งผลให้มีอาการอาการหอบหืด คอบวม หรือถึงขั้นเสียชีวิต อีกทั้งการใช้นมผึ้งทาที่รอบๆผิวหนังค่อนข้างจะไม่เป็นอันตราย แม้กระนั้นไม่สมควรทาบริเวณหนังหัวเพราะเหตุว่าอาจก่อให้กำเนิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีลักษณะอักเสบ ข้อพึงระวังในการรับประทานนมผึ้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลในกรุ๊ปดังนี้ คนที่กำลังมีท้องหรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่น่าไว้วางใจเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของนมผึ้ง ด้วยเหตุนั้นก็เลยไม่ควรรับประทานนมผึ้งถ้าเกิดกำลังท้องหรืออยู่ในช่วงให้นมลูกผู้เจ็บป่วยโรคหอบหืดหรือผู้ที่มีอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ที่มีนมผึ้งเป็นองค์ประกอบ อาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ผู้เจ็บป่วยโรคผิวหนังอักเสบ การรับประทานหรือทานมผึ้งอาจจะเป็นผลให้อาการรุนแรงมากยิ่งขึ้นผู้ป่วยความดันเลือดต่ำ การกินนมผึ้งอาจจะทำให้ระดับความดันโลหิตลดต่ำลงมากจนเกินไปคนที่อยู่ในตอนรับประทานยารักษาโรค ได้แก่ ยาวาร์ฟาริน เนื่องจากการกินนมผึ้งอาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดแผลฟกช้ำดำเขียวได้ง่าย คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : นมผึ้ง (Royal Jelly) เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.xn--12cg1cxchd0a2gzc1c5d5a.net/royal-jelly/
|