ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Bigbombboomz ที่ พฤษภาคม 10, 2018, 03:42:20 pm



หัวข้อ: โรคต่อททอนซิล มีวิธีรักษาด้วยสมุนไพรอย่างไร เเละสมุนไพรมีสรรพคุณ-ประโยชน์อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: Bigbombboomz ที่ พฤษภาคม 10, 2018, 03:42:20 pm
(https://www.img.in.th/images/18ebf093f1ee5be4960161ac8ca50f42.jpg)
โรคต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis)
โรคต่อมทอนซิลอักเสบเป็นอย่างไร  ต่อมทอนซิล เป็นอวัยวะที่อยู่ข้างในลำคอ ซึ่งเป็นต่อมคู่ซ้ายขวาใกล้กับโคนลิ้น โดยเป็นต่อมน้ำเหลืองที่ปฏิบัติภารกิจจับสิ่งแปลกปลอมจากอาหาร , น้ำดื่มแล้วก็การหายใจ ได้แก่ แบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกายเหมือนกองทหารด่านหน้า แล้วก็หลายครั้งที่ต่อมทอนซิลมักมีการอักเสบขึ้น
ต่อมทอนซิลอักเสบ หรือทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) คือ โรคที่เกิดขึ้นและมีสาเหตุมาจากการอักเสบติดเชื้อโรคของต่อมทอนซิลซึ่งเป็นโรคพบได้ทั่วไปโรคหนึ่ง พบได้ในทุกอายุ แต่พบบ่อยกว่าในเด็ก และไม่ค่อยเจอในคนแก่และผู้สูงวัย ช่องทางเกิดโรคเท่ากันทั้งในเพศหญิงแล้วก็เพศชาย  ต่อมทอนซิลอักเสบเจอได้ทั้งการอักเสบติดเชื้อโรคทันควันซึ่งเมื่อเกิดมักมีลักษณะอาการรุนแรงกว่า แต่รักษาหายได้ภายใน 1 - 2 อาทิตย์ แล้วก็อักเสบเรื้อรังที่ชอบเป็นๆหายๆอาการแต่ละครั้งรุนแรงน้อยกว่าประเภททันควัน แม้กระนั้นมีอาการอักเสบเฉียบพลันซ้อนได้เป็นระยะๆซึ่งนิยามของต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังอย่างเช่น มีต่อมต่อมทอนซิลอักเสบเกิดขึ้นขั้นต่ำ 7 ครั้งใน 1 ปีที่ล่วงเลยไป หรืออย่างต่ำ 5 ครั้งทุกปีต่อเนื่องกันใน 2 ปีที่ผ่านมา หรืออย่างน้อย 3 ครั้งทุกปีติดต่อกันใน 3 ปีให้หลัง
ทั้งโรคนี้เกิดได้จากหลายกรณี ดังเช่นว่าเกิดจากกรุ๊ปโรคติดเชื้อและก็กลุ่มโรคไม่ติดเชื้อโรค ซึ่งในเนื้อหานี้จะขอกล่าวถึงการอักเสบจากโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสและก็เชื้อแบคทีเรียซึ่งพบได้เป็นส่วนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า “เบต้า-ฮีโมไลติเตียนกสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ” (Group A beta-hemolytic streptococcus) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สเตรปโตค็อกคัส ไพโอจีเนส” (Streptococcus pyogenes) ซึ่งอาจจะก่อให้คนไข้มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงตามมาได้
ต้นเหตุของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การติดเชื้อที่ต่อมทอนซิลส่วนใหญ่มีต้นเหตุมาจากไวรัสหรือแบคทีเรียที่ผ่านเข้าทางปาก โดยต่อมทอนซิลจะช่วยคุ้มครองปกป้องการติดเชื้อด้วยการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้กับเชื้อโรค แล้วก็เนื่องมาจากเป็นภูมิต้านทานด่านแรก ต่อมทอนซิลก็เลยเป็นอวัยวะที่มีความเสี่ยงต่อการอักเสบและก็ติดเชื้อโรคมากมาย
โดยต่อมทอนซิลอักเสบโดยมาก เป็นการติดเชื้อโรคเชื้อไวรัส ซึ่งเจอได้สูงขึ้นมากยิ่งกว่าการตำหนิดเชื้ออื่นๆโดยประมาณ 70 - 80% ของต่อมทอนซิลอักเสบทั้งสิ้น ซึ่งเชื้อไวรัสที่ก่อโรคต่อมทอนซิลอักเสบมีหลายแบบเช่น

  • ไรโนไวรัส (Rhinoviruses) เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคหวัดทั่วไป
  • เชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza) ไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดใหญ่
  • เชื้อไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (Parainfluenza) กระตุ้นให้เกิดโรคกล่องเสียงอักเสบแล้วก็กรุ๊ปอาการครู้ป
  • เชื้อไวรัสเอนเทอร์โร (Enteroviruses) ต้นเหตุของโรคมือเท้าปาก
  • ไวรัสรูบิโอลา (Rubeola) ทำให้เกิดโรคหัด
  • ไวรัสอะดีโน (Adenovirus) เชื้อไวรัสที่มักเป็นต้นเหตุ ที่มา : wikipedia           ของอาการท้องเดิน
  • เชื้อไวรัสเอ็บสไตน์บาร์ (Epstein-Barr) ที่สามารถนำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคโมโนนิวคลีโอสิส แม้กระนั้นต่อมทอนซิลอักเสบที่เกิดจากแบคทีเรียประเภทนี้จะพบได้นานๆครั้ง
  • รวมทั้งอีกสาเหตุหนึ่งเป็นการติดเชื้อโรคแบคทีเรียโดยประมาณ 15 - 20 %

สาเหตุของต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปที่สุดมีเหตุที่เกิดจากการเชื้อสเต็ปโตคอคคัสกลุ่ม  ที่นำมาซึ่งต่อมทอนซิลอักเสบแบบเป็นหนอง (exudative tonsil litis)
อาการโรคต่อมทอนซิลอักเสบ โดยทั่วไปแล้วโรคต่อมทอนซิลอักเสบมักกำเนิดร่วมกับการอักเสบติดโรคของลำคอเสมอ
อาการโรคต่อมทอนซิลอักเสบแยกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ

  • กรุ๊ปที่มีเหตุมาจากเชื้อไวรัส มีลักษณะเจ็บคอนิดหน่อยถึงปานกลาง และไม่เจ็บเยอะขึ้นเรื่อยๆตอนกลืน อาจมีอาการเป็นหวัด น้ำมูกใส ไอ เสียงแหบ มีไข้ ปวดศีรษะนิดหน่อย ตาแดง บางคนอาจมีอาการท้องร่วงหรือถ่ายเหลวร่วมด้วย  การตรวจสอบคอจะพบฝาผนังคอหอยแดงเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ ทอนซิลอาจโตนิดหน่อยมีลักษณะแดงเพียงนิดหน่อย
  • กลุ่มที่มีต้นเหตุมาจากแบคทีเรีย จะมีลักษณะอาการไข้สูงเกิดขึ้นฉับพลัน หนาวสั่น  ปวดศีรษะ  ปวดเมื่อยตามตัว  อ่อนแรง  ไม่อยากกินอาหาร  เจ็บคอมากจนกระทั่งกลืนน้ำลายหรือของกินตรากตรำ  อาจมีอาการปวดร้าวขึ้นไปที่หู  บางบุคคลอาจมีอาการปวดท้อง  หรืออ้วกแล้วก็มีกลิ่นปากร่วมด้วย  มักจะไม่มีอาการน้ำมูกไหล ไอ  หรือตาแดง  แบบการติดเชื้อจากไวรัส

                นอกเหนือจากนั้นจะเจอผนังคอหอยและเพดานอ่อน  มีลักษณะแดงจัดและบวม  ทอนซิลบวมโตสีแดงจัด  รวมทั้งมีแผ่นหรือจุดหนองสีขาวๆเหลืองๆติดอยู่บนต่อมทอนซิล  ยิ่งกว่านั้น       ยังอาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองที่ใต้ขากรรไกรบวมโตรวมทั้งเจ็บ
กรรมวิธีรักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ[/size][/b]
การวินิจฉัยโรคต่อมทอนซิลอักเสบ หมอจะวิเคราะห์เบื้องต้นด้วยอาการแสดงและก็การตรวจลำคอโดยอาจใช้กรรมวิธีต่อไปนี้

  • ใช้ไฟฉายส่องมองรอบๆลำคอ แล้วก็บางทีอาจมองบริเวณหูรวมทั้งจมูกร่วมด้วย เหตุเพราะเป็นบริเวณที่ออกอาการติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน
  • ตรวจตราผื่นแดงที่เป็นอาการโรคไข้อีดำอีแดงซึ่งเกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรียตัวเดียวกับกับโรคคออักเสบ
  • ตรวจด้วยการคลำสัมผัสเบาๆที่คอเพื่อดูว่าต่อมน้ำเหลืองบวมไหม
  • ใช้เครื่องสเต็ทโทสวัวปฟังเสียงจังหวะการหายใจของผู้เจ็บป่วย

ถ้าเกิดเจอฝาผนังคอหอยแล้วก็ต่อมทอนซิลมีลักษณะแดงเพียงเล็กน้อยหรือเปล่าแจ้งชัด ก็มักเกิดขึ้นจากการตำหนิดเชื้อไวรัส   หากทอนซิลบวมโต แดงจัด และมีแผ่นหรือจุดหนองติดอยู่บนต่อมทอนซิล  ก็ชอบเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้ออนุภาคบีตาฮีโมโลติเตียนกสเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ  ในรายที่ไม่แน่ใจหมออาจต้องทำตรวจหาเชื้อจากบริเวณคอหอยและก็ต่อมทอนซิล  โดยใช้แนวทางที่เรียกว่า "rapid strep test" ที่สามารถทราบผลตอบแทนในไม่กี่นาที ถ้าหากผลของการตรวจกำกวม  ก็บางทีอาจจำเป็นต้องทำเพาะเชื้อซึ่งจะทราบผลใน 1-2 วัน
(https://www.img.in.th/images/50568bd58ab42b1ae224e404f52bf403.jpg)
การรักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ แพทย์จะให้การรักษาตามต้นเหตุที่เจอ คือ

  • มีเหตุมาจากเชื้อไวรัส ก็จะให้การรักษาแบบทะนุถนอมตามอาการ ดังเช่นว่า ยาลดไข้ แก้ไอ แก้หวัด ไม่มีการให้ยายาปฏิชีวนะ เพราะเหตุว่าไม่อาจจะฆ่าเชื้อโรคไวรัสได้ ซึ่งลักษณะของโรคมักจะหายได้ข้างใน 1 อาทิตย์
  • มีต้นเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย นอกเหนือจากให้ยาทุเลาตามอาการแล้ว ก็จะให้ยายาปฏิชีวนะรักษาด้วยการใช้ ตัวอย่างเช่น เพนิซิลลินวี (Penicillin V) อะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin) อีริโทรไมซิน (Erythromyin)  อาการมักทุเลาข้างหลังกินยาปฏิชีวนะ 48-72 ชั่วโมง  โดยหมอจะให้รับประทานยาต่อเนื่องจนกระทั่งครบ 10 วัน เพื่อคุ้มครองภาวะแทรกซ้อนต่างๆตามมา

ดังนี้การรับประทานยาปฏิชีวนะจำเป็นจะต้องกินให้ครบตามคำแนะนำของหมอ เพื่อแน่ใจว่าแบคทีเรียถูกกำจัดจนถึงหมด เนื่องมาจากเชื้อแบคทีเรียที่กำจัดไม่หมดอาจจะเป็นผลให้การตำหนิดเชื้อแย่ลงหรือแพร่ขยายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย นอกจากนั้นในเด็กยังเสี่ยงเกิดภาวะแทรก ตัวอย่างเช่น การตำหนิดเชื้ออย่างรุนแรงที่ไต แล้วก็ไข้รูมาติกซึ่งเป็นการติดเชื้อรอบๆลิ้นหัวใจร่วมกับจับไข้ตามมาได้
ยิ่งกว่านั้นยังมีวิธีการผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลออก (tonsillectomy) ซึ่งเป็นแนวทางรักษาทอนซิลอักเสบที่เป็นซ้ำบ่อยมาก หรือต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หรือต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่ไม่สนองตอบต่อการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเท่านั้น โดยพิจารณาได้จากอาการดังกล่าวต่อไปนี้

  • ต่อมทอนซิลอักเสบมากกว่า 7 ครั้งในรอบหนึ่งปี
  • ต่อมทอนซิลอักเสบมากกว่า 4-5 ครั้งในรอบหนึ่งปีเป็นระยะเวลา 2 ปีให้หลัง
  • ต่อมทอนซิลอักเสบมากยิ่งกว่า 3 ครั้งในรอบหนึ่งปีเป็นระยะเวลา 3 ปีให้หลัง

นอกเหนือจากนี้ หมอยังบางทีอาจใช้การผ่าตัดทอนซิลในกรณีที่ต่อมทอนซิลอักเสบกระตุ้นให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ยากจะรักษาตามมา อาทิเช่น

  • ภาวการณ์หยุดหายใจขณะกำลังนอนหลับ (นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการนอนกรมเพราะต่อมทอนซิลโต)
  • หายใจไม่สะดวก (ด้วยเหตุว่าต่อมทอนซิลโตมากจนอุดกั้นทางเดินหายใจ)
  • กลืนลำบาก โดยเฉพาะเมื่อกลืนเนื้อหรืออาหารชิ้นครึ้มๆ
  • เป็นฝีที่ใช้ยาปฏิชีวนะแล้วยังไม่ดีขึ้น
  • มีต่อมทอนซิลโตด้านเดียว ซึ่งอาจเป็นอาการของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (ต่อมทอนซิล)

ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ  การบวมอักเสบของต่อมทอนซิลบ่อยมากหรือเรื้อรังอาจตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนอื่นๆเป็นต้นว่า เกิดภาวะหยุดหายใจขณะกำลังหลับ หายใจไม่สะดวก การตำหนิดเชื้อที่แพร่ลึกลงไปสู่เนื้อเยื่อรอบๆ
ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่จะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมา ได้แก่  ในกลุ่มที่มีเหตุมาจากไวรัส ส่วนใหญ่จะไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนคนที่ลักษณะโรคร่วมกับเป็นไข้หวัด  ไข้หวัดใหญ่  ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ภูมิแพ้ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ  ปอดอักเสบ เป็นต้น แล้วก็ในกลุ่มที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย อาจมีภาวะแทรกซ้อนดังนี้

  • เชื้อบางทีอาจลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง ทำให้เป็นหูชั้นกลางอักเสบ จมูกอักเสบ ภูมิแพ้ ปอดอักเสบ ฝีที่ต่อมทอนซิล
  • เชื้อบางทีอาจเข้ากระแสเลือดแพร่ไปยังที่ต่างๆ ทำให้เป็นข้ออักเสบชนิดกะทันหัน กระดูกอักเสบเป็นหนอง  เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • นำมาซึ่งการก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูเขาไม่ต้านทานตนเอง (autoimmun reaction) กล่าวคือหลังจากติดเชื้อแบคทีเรียประเภทนี้ ร่างกายจะสร้างสารภูมิคุ้มกัน (แอนติบอดี) ต่อเชื้อขึ้นมา แล้วไปก่อปฏิกิริยาขัดขวางเนื้อเยื่อของตัวเอง นำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคแทรกร้ายแรง ตัวอย่างเช่น ไข้รูมาติก (มีการอักเสบของข้อและหัวใจ แม้ปลดปล่อยให้เป็นเรื้อรัง อาจก่อให้เกิดโรคลิ้นหัวใจทุพพลภาพ หัวใจวายได้) และ หน่วยไตอักเสบทันควัน (จับไข้ บวม ปัสสาวะสีแดง อาจจะทำให้เกิดภาวะไตวายได้) โรคแทรกพวกนี้มักเกิดข้างหลังต่อมทอนซิลอักเสบ 1-4 อาทิตย์

สำหรับไข้รูมาติก ได้โอกาสเกิดขึ้นประมาณจำนวนร้อยละ 0.3-3 ของคนที่มิได้รับการดูแลและรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างแม่นยำ แม้กระนั้นทั้งนี้การคุ้มครองภาวะแทรกซ้อนรุนแรงดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้ง่ายๆด้วยการกินยาปฏิชีวนะให้ครบ 10 วัน (ถึงแม้อาการจะทุเลาหลังกินยาได้ 2-3 วันไปและจากนั้นก็ตาม)
การติดต่อของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบติดต่อได้เช่นเดียวกับในโรคหวัดทั่วไปและในโรคไข้หวัดใหญ่เป็น เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของดรคอยู่ในน้ำลายแล้วก็เสมหะ (รวมถึงสารคัดเลือกหลั่งอื่นๆ) ของผู้ป่วย และก็จะติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโรคดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจากผู้ป่วย จากการไอ จาม หายใจ หรือการสัมผัสสารคัดเลือกหลั่งจากจมูกแล้วก็โพรงปากตัวอย่างเช่น น้ำมูก น้ำลายผู้เจ็บป่วย แล้วก็จากใช้ของใช้ส่วนตัวที่สัมผัสสารคัดหลั่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น

  • มีต่อมทอนซิลโตข้างเดียว ซึ่งอาจเป็นอาการโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (ต่อมทอนซิล)

ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ  การบวมอักเสบของต่อมทอนซิลบ่อยหรือเรื้อรังอาจตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตัวอย่างเช่น เกิดภาวะหยุดหายใจขณะกำลังหลับ หายใจลำบาก การต่อว่าดเชื้อที่แพร่ลึกลงไปสู่เนื้อเยื่อโดยรอบ
ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่จะก่อเกิดโรคต่างๆตามมา ยกตัวอย่างเช่น  ในกรุ๊ปที่เป็นผลมาจากไวรัส โดยมากจะไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนคนที่ลักษณะโรคร่วมกับไม่สบายหวัด  ไข้หวัดใหญ่  ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ  ปอดอักเสบ เป็นต้น และก็ในกรุ๊ปที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเชื้อแบคทีเรีย อาจมีภาวะแทรกซ้อนดังนี้

  • เชื้ออาจแผ่ขยายไปยังรอบๆใกล้เคียง ทำให้เป็นหูชั้นกึ่งกลางอักเสบ จมูกอักเสบ ไซนัสอักเสบ ปอดอักเสบ ฝีที่ต่อมทอนซิล
  • เชื้อบางทีอาจเข้ากระแสเลือดแพร่ไปยังที่ต่างๆ ทำให้เป็นข้ออักเสบจำพวกรุนแรง กระดูกอักเสบเป็นหนอง  เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • ส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาภูเขาไม่ต้านทานตัวเอง (autoimmun reaction) กล่าวคือภายหลังติดเชื้อแบคทีเรียประเภทนี้ ร่างกายจะสร้างสารภูมิต้านทาน (แอนติบอดี) ต่อเชื้อขึ้นมา แล้วไปก่อปฏิกิริยาต้านเนื้อเยื่อของตน นำไปสู่โรคแทรกร้ายแรง ตัวอย่างเช่น ไข้รูมาติก (มีการอักเสบของข้อแล้วก็หัวใจ ถ้าหากปลดปล่อยให้เป็นเรื้อรัง อาจก่อให้กำเนิดโรคลิ้นหัวใจพิการ หัวใจวายได้) และก็ หน่วยไตอักเสบกระทันหัน (มีไข้ บวม ฉี่สีแดง อาจจะก่อให้เกิดภาวะไตวายได้) โรคแทรกซ้อนกลุ่มนี้มักเกิดข้างหลังทอนซิลอักเสบ 1-4 อาทิตย์

สำหรับไข้รูมาติก มีโอกาสเกิดขึ้นราวๆร้อยละ 0.3-3 ของคนที่มิได้รับการดูแลและรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้อง แต่ว่าทั้งนี้การคุ้มครองป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงดังกล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถทำได้ง่ายๆด้วยการกินยาปฏิชีวนะให้ครบ 10 วัน (ถึงแม้ว่าอาการจะดีขึ้นกว่าเดิมข้างหลังรับประทานยาได้ 2-3 วันไปแล้วก็ตาม)
การติดต่อของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบติดต่อได้เหมือนกับในโรคไข้หวัดทั่วๆไปและในโรคไข้หวัดใหญ่เป็น เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของดรคอยู่ในน้ำลายรวมทั้งเสมหะ (รวมทั้งสารคัดหลั่งอื่นๆ) ของคนป่วย รวมทั้งจะติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโรคดังกล่าวจากคนเจ็บ จากการไอ จาม หายใจ หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งจากจมูกรวมทั้งช่องปากเช่น น้ำมูก น้ำลายผู้ป่วย และจากใช้ของใช้ส่วนตัวที่สัมผัสสารคัดเลือกหลั่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครองป้องกัน/รักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ
ฟ้าทะลายมิจฉาชีพ ชื่อวิทยาศาสตร์ Andropraphis paniculata (Burm.f.) Wall. EX Nees ชื่อพ้อง Justicia paniculata Burm.f. ชื่อสกุล Acanthaceae สรรพคุณ: ตำราเรียนยาไทย: มีการใช้ส่วนเหนือดินเก็บก่อนที่จะมีดอก เพื่อรักษาไข้ หวัด ไข้หวัดใหญ่ ดับพิษร้อน หยุดอักเสบในอาการไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ขับเสมหะ ลดบวม แก้ติดโรค แบบอย่างรวมทั้งขนาดวิธีการใช้ยา:.บรรเทาลักษณะของการเจ็บคอ                   รับประทานทีละ 3-6 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังรับประทานอาหารและก็ก่อนนอน ทุเลาอาการหวัด รับประทานครั้งละ 1.5-3 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารรวมทั้งก่อนนอน  ส่วนประกอบทางเคมี: สารชนิดแลคโตน andrographolide,neoandrographolide,deoxyandrographolide, deoxy-didehydroandrographolide สารกลุ่มฟลาโวน เป็นต้นว่า aroxylin, wagonin, andrographidine A 
จากการเรียนรู้ความสามารถของสารสกัดจากฟ้าทะลายมิจฉาชีพในคนเจ็บระบบทางเดินหายใจส่วนบนไม่ร้ายแรง  223 คน แบ่งเป็นกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากฟ้าทะลายมิจฉาชีพ 200 มก.ต่อวัน แล้วก็อีกกรุ๊ปกินยาหลอกเป็นระยะเวลา 5 วัน ซึ่งจะประเมินผลด้วยการประเมินอาการจากตัวผู้ป่วยเองในด้านต่างๆได้แก่ อาการไอ เสมหะ มีน้ำมูก ปวดหัว จับไข้ เจ็บคอ อาการอ่อนเพลียง่าย และก็ปัญหาในการนอน ผลพบว่า ทั้ง 2 กรุ๊ปมีอาการดีตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งจบการทดลอง แต่กรุ๊ปที่กินสารสกัดจากฟ้าทะลายมิจฉาชีพเห็นผลได้อย่างแจ่มแจ้งในช่วงวันที่ 3-5 มากยิ่งกว่ากรุ๊ปที่กินยาหลอก แม้กระนั้น ยังเจอผลข้างเคียงเล็กน้อยในทั้งยัง 2 กลุ่ม จากการทดสอบจึงมั่นใจว่าฟ้าทะลายโจรบางทีอาจช่วยรักษาหรือทุเลาอาการติดเชื้อในทางเดินหายใจช่วงต้น
โตงเตง ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Physalis angulata  L. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ : Physalis minima ชื่อสามัญ :   Hogweed, Ground Cherry ชื่อสกุล :   SOLANACEAE คุณประโยชน์โตงเตง : แบบเรียนยาไทย ผลรสเปรี้ยวเย็น แก้ต่อมน้ำลายอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้ฝีในคอ แก้อักเสบในคอ แก้ร้อนในอยากกินน้ำ ตำพอกแก้ปวดบวม
ส่วนประโยชน์ที่สำคัญของโตงเตงที่ ใช้รักษาอาการทอนซิลอักเสบ โดยหมอพื้นเมืองนั้นจะใช้ต้นตำให้แหลกละลายกับสุรา เอาสำลีชุบเอาน้ำยาใช้อมไว้ข้างแก้ม กลืนน้ำผ่านลำคอนิด แก้ทอนซิลอักเสบ หรือที่เรียกว่าต่อมน้ำลายอักเสบ แก้ฝีในคอ ใช้แก้อาการอักเสบในลำคอเจริญ หรือผู้ที่แพ้แอลกอฮอล์ก็ใช้ละลายกับน้ำส้มสายชูแทน ใช้ข้างในแก้ร้อนในหิวน้ำ ใช้ข้างนอกแก้ฟกบวมอักเสบทำให้เย็น แล้วก็อีกตำรายาหนึ่งกล่าวว่าแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ ให้ใช้ต้นนี้ใหม่ๆ(หรืออย่างแห้งก็ใช้ได้) 3 หัว แผ่น ฝักชุบน้ำตาล 2 แผ่น ใส่น้ำ 1 ถ้วย ต้มให้เหลือครึ่งถ้วย กินครั้งเดียวหมด เด็กก็รับประทานลดลงตามส่วน จากการรักษาคนป่วยร้อยกว่าราย บางคนรับประทาน 4-10 ครั้งก็หาย บางบุคคลรับประทานต่อเนื่องกันถึง 2 เดือนก็เลยหาย
ปลาไหลเผือก ชื่อวิทยาศาสตร์ :  EURYCOMA LONGIFOLIA Jack. ตระกูล : SIMAROUBACEAE คุณประโยชน์ทางยา : ราก ต่อต้านโรคมะเร็ง รักษาโรคอัมพาต ช่วยขับถ่ายน้ำเหลือง ขับพยาธิ แก้ท้องผูก แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้อาการเจ็บคอ วิธีการใช้ตามตำราไทย : ต้านทานโรคมะเร็ง ช่วยถ่ายน้ำเหลือง ขับพยาธิ แก้อาการท้องผูก แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้ลักษณะการเจ็บคอ นำรากแห้งโดยประมาณ 8-15 กรัม นำมาต้มเอาน้ำดื่มก่อนที่จะกินอาหารทุกเช้าตรู่แล้วก็เย็น (2 เวลา)
เอกสารอ้างอิง

  • พรพิมล พฤกษ์ประเสริฐ.(2550). การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน. ใน ประยงค์ เวชวนิชสนอง และวนพร อนันตเสรี. กุมารเวชศาสตร์ทั่วไป (หน้า214-216).หน่วยผลิตตำราคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  • รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ.ทอนซิลอักเสบ.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่324.คอลัมน์สารานุภาพทันโรค.เมษายน.2549
  • ศ.พญ.นวลอนงค์ วิศิษฎสุนทร.คออักเสบและตอ่มทอนซิลอกัเสบปัญหาของหนูน้อย.ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล.
  • ทอนซิลอักเสบ-อาการ,สาเหตุ,การรักษา.พบแพทย์ดอทคอม. http://www.disthai.com/[/b]
  • หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 410-413.
  • วิทยา บุญวรพัฒน์.”โทงเทง” หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย.หน้า284.
  • ฟ้าทะลายโจร.ฐานข้อมูลเครื่องยา.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
  • โทงเทง สมุนไพรหยุดการอักเสบในลำคอ.ศูนย์ข้อมูลสมุนไพร.สถาบันวิจัยสมุนไพร.กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ