หัวข้อ: โรคต่อททอนซิล มีวิธีรักษาด้วยสมุนไพรอย่างไร เเละสมุนไพรมีสรรพคุณ-ประโยชน์อย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: Bigbombboomz ที่ พฤษภาคม 10, 2018, 03:42:20 pm (https://www.img.in.th/images/18ebf093f1ee5be4960161ac8ca50f42.jpg)
โรคต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) โรคต่อมทอนซิลอักเสบเป็นอย่างไร ต่อมทอนซิล เป็นอวัยวะที่อยู่ข้างในลำคอ ซึ่งเป็นต่อมคู่ซ้ายขวาใกล้กับโคนลิ้น โดยเป็นต่อมน้ำเหลืองที่ปฏิบัติภารกิจจับสิ่งแปลกปลอมจากอาหาร , น้ำดื่มแล้วก็การหายใจ ได้แก่ แบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกายเหมือนกองทหารด่านหน้า แล้วก็หลายครั้งที่ต่อมทอนซิลมักมีการอักเสบขึ้น ต่อมทอนซิลอักเสบ หรือทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) คือ โรคที่เกิดขึ้นและมีสาเหตุมาจากการอักเสบติดเชื้อโรคของต่อมทอนซิลซึ่งเป็นโรคพบได้ทั่วไปโรคหนึ่ง พบได้ในทุกอายุ แต่พบบ่อยกว่าในเด็ก และไม่ค่อยเจอในคนแก่และผู้สูงวัย ช่องทางเกิดโรคเท่ากันทั้งในเพศหญิงแล้วก็เพศชาย ต่อมทอนซิลอักเสบเจอได้ทั้งการอักเสบติดเชื้อโรคทันควันซึ่งเมื่อเกิดมักมีลักษณะอาการรุนแรงกว่า แต่รักษาหายได้ภายใน 1 - 2 อาทิตย์ แล้วก็อักเสบเรื้อรังที่ชอบเป็นๆหายๆอาการแต่ละครั้งรุนแรงน้อยกว่าประเภททันควัน แม้กระนั้นมีอาการอักเสบเฉียบพลันซ้อนได้เป็นระยะๆซึ่งนิยามของต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังอย่างเช่น มีต่อมต่อมทอนซิลอักเสบเกิดขึ้นขั้นต่ำ 7 ครั้งใน 1 ปีที่ล่วงเลยไป หรืออย่างต่ำ 5 ครั้งทุกปีต่อเนื่องกันใน 2 ปีที่ผ่านมา หรืออย่างน้อย 3 ครั้งทุกปีติดต่อกันใน 3 ปีให้หลัง ทั้งโรคนี้เกิดได้จากหลายกรณี ดังเช่นว่าเกิดจากกรุ๊ปโรคติดเชื้อและก็กลุ่มโรคไม่ติดเชื้อโรค ซึ่งในเนื้อหานี้จะขอกล่าวถึงการอักเสบจากโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสและก็เชื้อแบคทีเรียซึ่งพบได้เป็นส่วนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า “เบต้า-ฮีโมไลติเตียนกสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ” (Group A beta-hemolytic streptococcus) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สเตรปโตค็อกคัส ไพโอจีเนส” (Streptococcus pyogenes) ซึ่งอาจจะก่อให้คนไข้มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงตามมาได้ ต้นเหตุของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การติดเชื้อที่ต่อมทอนซิลส่วนใหญ่มีต้นเหตุมาจากไวรัสหรือแบคทีเรียที่ผ่านเข้าทางปาก โดยต่อมทอนซิลจะช่วยคุ้มครองปกป้องการติดเชื้อด้วยการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้กับเชื้อโรค แล้วก็เนื่องมาจากเป็นภูมิต้านทานด่านแรก ต่อมทอนซิลก็เลยเป็นอวัยวะที่มีความเสี่ยงต่อการอักเสบและก็ติดเชื้อโรคมากมาย โดยต่อมทอนซิลอักเสบโดยมาก เป็นการติดเชื้อโรคเชื้อไวรัส ซึ่งเจอได้สูงขึ้นมากยิ่งกว่าการตำหนิดเชื้ออื่นๆโดยประมาณ 70 - 80% ของต่อมทอนซิลอักเสบทั้งสิ้น ซึ่งเชื้อไวรัสที่ก่อโรคต่อมทอนซิลอักเสบมีหลายแบบเช่น
สาเหตุของต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปที่สุดมีเหตุที่เกิดจากการเชื้อสเต็ปโตคอคคัสกลุ่ม ที่นำมาซึ่งต่อมทอนซิลอักเสบแบบเป็นหนอง (exudative tonsil litis) อาการโรคต่อมทอนซิลอักเสบ โดยทั่วไปแล้วโรคต่อมทอนซิลอักเสบมักกำเนิดร่วมกับการอักเสบติดโรคของลำคอเสมอ อาการโรคต่อมทอนซิลอักเสบแยกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ
นอกเหนือจากนั้นจะเจอผนังคอหอยและเพดานอ่อน มีลักษณะแดงจัดและบวม ทอนซิลบวมโตสีแดงจัด รวมทั้งมีแผ่นหรือจุดหนองสีขาวๆเหลืองๆติดอยู่บนต่อมทอนซิล ยิ่งกว่านั้น ยังอาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองที่ใต้ขากรรไกรบวมโตรวมทั้งเจ็บ กรรมวิธีรักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ[/size][/b] การวินิจฉัยโรคต่อมทอนซิลอักเสบ หมอจะวิเคราะห์เบื้องต้นด้วยอาการแสดงและก็การตรวจลำคอโดยอาจใช้กรรมวิธีต่อไปนี้
ถ้าเกิดเจอฝาผนังคอหอยแล้วก็ต่อมทอนซิลมีลักษณะแดงเพียงเล็กน้อยหรือเปล่าแจ้งชัด ก็มักเกิดขึ้นจากการตำหนิดเชื้อไวรัส หากทอนซิลบวมโต แดงจัด และมีแผ่นหรือจุดหนองติดอยู่บนต่อมทอนซิล ก็ชอบเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้ออนุภาคบีตาฮีโมโลติเตียนกสเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ ในรายที่ไม่แน่ใจหมออาจต้องทำตรวจหาเชื้อจากบริเวณคอหอยและก็ต่อมทอนซิล โดยใช้แนวทางที่เรียกว่า "rapid strep test" ที่สามารถทราบผลตอบแทนในไม่กี่นาที ถ้าหากผลของการตรวจกำกวม ก็บางทีอาจจำเป็นต้องทำเพาะเชื้อซึ่งจะทราบผลใน 1-2 วัน (https://www.img.in.th/images/50568bd58ab42b1ae224e404f52bf403.jpg) การรักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ แพทย์จะให้การรักษาตามต้นเหตุที่เจอ คือ
ดังนี้การรับประทานยาปฏิชีวนะจำเป็นจะต้องกินให้ครบตามคำแนะนำของหมอ เพื่อแน่ใจว่าแบคทีเรียถูกกำจัดจนถึงหมด เนื่องมาจากเชื้อแบคทีเรียที่กำจัดไม่หมดอาจจะเป็นผลให้การตำหนิดเชื้อแย่ลงหรือแพร่ขยายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย นอกจากนั้นในเด็กยังเสี่ยงเกิดภาวะแทรก ตัวอย่างเช่น การตำหนิดเชื้ออย่างรุนแรงที่ไต แล้วก็ไข้รูมาติกซึ่งเป็นการติดเชื้อรอบๆลิ้นหัวใจร่วมกับจับไข้ตามมาได้ ยิ่งกว่านั้นยังมีวิธีการผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลออก (tonsillectomy) ซึ่งเป็นแนวทางรักษาทอนซิลอักเสบที่เป็นซ้ำบ่อยมาก หรือต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หรือต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่ไม่สนองตอบต่อการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเท่านั้น โดยพิจารณาได้จากอาการดังกล่าวต่อไปนี้
นอกเหนือจากนี้ หมอยังบางทีอาจใช้การผ่าตัดทอนซิลในกรณีที่ต่อมทอนซิลอักเสบกระตุ้นให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ยากจะรักษาตามมา อาทิเช่น
ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การบวมอักเสบของต่อมทอนซิลบ่อยมากหรือเรื้อรังอาจตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนอื่นๆเป็นต้นว่า เกิดภาวะหยุดหายใจขณะกำลังหลับ หายใจไม่สะดวก การตำหนิดเชื้อที่แพร่ลึกลงไปสู่เนื้อเยื่อรอบๆ ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่จะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมา ได้แก่ ในกลุ่มที่มีเหตุมาจากไวรัส ส่วนใหญ่จะไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนคนที่ลักษณะโรคร่วมกับเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ภูมิแพ้ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ เป็นต้น แล้วก็ในกลุ่มที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย อาจมีภาวะแทรกซ้อนดังนี้
สำหรับไข้รูมาติก ได้โอกาสเกิดขึ้นประมาณจำนวนร้อยละ 0.3-3 ของคนที่มิได้รับการดูแลและรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างแม่นยำ แม้กระนั้นทั้งนี้การคุ้มครองภาวะแทรกซ้อนรุนแรงดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้ง่ายๆด้วยการกินยาปฏิชีวนะให้ครบ 10 วัน (ถึงแม้อาการจะทุเลาหลังกินยาได้ 2-3 วันไปและจากนั้นก็ตาม) การติดต่อของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบติดต่อได้เช่นเดียวกับในโรคหวัดทั่วไปและในโรคไข้หวัดใหญ่เป็น เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของดรคอยู่ในน้ำลายแล้วก็เสมหะ (รวมถึงสารคัดเลือกหลั่งอื่นๆ) ของผู้ป่วย และก็จะติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโรคดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจากผู้ป่วย จากการไอ จาม หายใจ หรือการสัมผัสสารคัดเลือกหลั่งจากจมูกแล้วก็โพรงปากตัวอย่างเช่น น้ำมูก น้ำลายผู้เจ็บป่วย แล้วก็จากใช้ของใช้ส่วนตัวที่สัมผัสสารคัดหลั่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การบวมอักเสบของต่อมทอนซิลบ่อยหรือเรื้อรังอาจตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตัวอย่างเช่น เกิดภาวะหยุดหายใจขณะกำลังหลับ หายใจลำบาก การต่อว่าดเชื้อที่แพร่ลึกลงไปสู่เนื้อเยื่อโดยรอบ ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่จะก่อเกิดโรคต่างๆตามมา ยกตัวอย่างเช่น ในกรุ๊ปที่เป็นผลมาจากไวรัส โดยมากจะไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนคนที่ลักษณะโรคร่วมกับไม่สบายหวัด ไข้หวัดใหญ่ ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ เป็นต้น และก็ในกรุ๊ปที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเชื้อแบคทีเรีย อาจมีภาวะแทรกซ้อนดังนี้
สำหรับไข้รูมาติก มีโอกาสเกิดขึ้นราวๆร้อยละ 0.3-3 ของคนที่มิได้รับการดูแลและรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้อง แต่ว่าทั้งนี้การคุ้มครองป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงดังกล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถทำได้ง่ายๆด้วยการกินยาปฏิชีวนะให้ครบ 10 วัน (ถึงแม้ว่าอาการจะดีขึ้นกว่าเดิมข้างหลังรับประทานยาได้ 2-3 วันไปแล้วก็ตาม) การติดต่อของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบติดต่อได้เหมือนกับในโรคไข้หวัดทั่วๆไปและในโรคไข้หวัดใหญ่เป็น เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของดรคอยู่ในน้ำลายรวมทั้งเสมหะ (รวมทั้งสารคัดหลั่งอื่นๆ) ของคนป่วย รวมทั้งจะติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโรคดังกล่าวจากคนเจ็บ จากการไอ จาม หายใจ หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งจากจมูกรวมทั้งช่องปากเช่น น้ำมูก น้ำลายผู้ป่วย และจากใช้ของใช้ส่วนตัวที่สัมผัสสารคัดเลือกหลั่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครองป้องกัน/รักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ฟ้าทะลายมิจฉาชีพ ชื่อวิทยาศาสตร์ Andropraphis paniculata (Burm.f.) Wall. EX Nees ชื่อพ้อง Justicia paniculata Burm.f. ชื่อสกุล Acanthaceae สรรพคุณ: ตำราเรียนยาไทย: มีการใช้ส่วนเหนือดินเก็บก่อนที่จะมีดอก เพื่อรักษาไข้ หวัด ไข้หวัดใหญ่ ดับพิษร้อน หยุดอักเสบในอาการไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ขับเสมหะ ลดบวม แก้ติดโรค แบบอย่างรวมทั้งขนาดวิธีการใช้ยา:.บรรเทาลักษณะของการเจ็บคอ รับประทานทีละ 3-6 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังรับประทานอาหารและก็ก่อนนอน ทุเลาอาการหวัด รับประทานครั้งละ 1.5-3 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารรวมทั้งก่อนนอน ส่วนประกอบทางเคมี: สารชนิดแลคโตน andrographolide,neoandrographolide,deoxyandrographolide, deoxy-didehydroandrographolide สารกลุ่มฟลาโวน เป็นต้นว่า aroxylin, wagonin, andrographidine A จากการเรียนรู้ความสามารถของสารสกัดจากฟ้าทะลายมิจฉาชีพในคนเจ็บระบบทางเดินหายใจส่วนบนไม่ร้ายแรง 223 คน แบ่งเป็นกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากฟ้าทะลายมิจฉาชีพ 200 มก.ต่อวัน แล้วก็อีกกรุ๊ปกินยาหลอกเป็นระยะเวลา 5 วัน ซึ่งจะประเมินผลด้วยการประเมินอาการจากตัวผู้ป่วยเองในด้านต่างๆได้แก่ อาการไอ เสมหะ มีน้ำมูก ปวดหัว จับไข้ เจ็บคอ อาการอ่อนเพลียง่าย และก็ปัญหาในการนอน ผลพบว่า ทั้ง 2 กรุ๊ปมีอาการดีตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งจบการทดลอง แต่กรุ๊ปที่กินสารสกัดจากฟ้าทะลายมิจฉาชีพเห็นผลได้อย่างแจ่มแจ้งในช่วงวันที่ 3-5 มากยิ่งกว่ากรุ๊ปที่กินยาหลอก แม้กระนั้น ยังเจอผลข้างเคียงเล็กน้อยในทั้งยัง 2 กลุ่ม จากการทดสอบจึงมั่นใจว่าฟ้าทะลายโจรบางทีอาจช่วยรักษาหรือทุเลาอาการติดเชื้อในทางเดินหายใจช่วงต้น โตงเตง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Physalis angulata L. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ : Physalis minima ชื่อสามัญ : Hogweed, Ground Cherry ชื่อสกุล : SOLANACEAE คุณประโยชน์โตงเตง : แบบเรียนยาไทย ผลรสเปรี้ยวเย็น แก้ต่อมน้ำลายอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้ฝีในคอ แก้อักเสบในคอ แก้ร้อนในอยากกินน้ำ ตำพอกแก้ปวดบวม ส่วนประโยชน์ที่สำคัญของโตงเตงที่ ใช้รักษาอาการทอนซิลอักเสบ โดยหมอพื้นเมืองนั้นจะใช้ต้นตำให้แหลกละลายกับสุรา เอาสำลีชุบเอาน้ำยาใช้อมไว้ข้างแก้ม กลืนน้ำผ่านลำคอนิด แก้ทอนซิลอักเสบ หรือที่เรียกว่าต่อมน้ำลายอักเสบ แก้ฝีในคอ ใช้แก้อาการอักเสบในลำคอเจริญ หรือผู้ที่แพ้แอลกอฮอล์ก็ใช้ละลายกับน้ำส้มสายชูแทน ใช้ข้างในแก้ร้อนในหิวน้ำ ใช้ข้างนอกแก้ฟกบวมอักเสบทำให้เย็น แล้วก็อีกตำรายาหนึ่งกล่าวว่าแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ ให้ใช้ต้นนี้ใหม่ๆ(หรืออย่างแห้งก็ใช้ได้) 3 หัว แผ่น ฝักชุบน้ำตาล 2 แผ่น ใส่น้ำ 1 ถ้วย ต้มให้เหลือครึ่งถ้วย กินครั้งเดียวหมด เด็กก็รับประทานลดลงตามส่วน จากการรักษาคนป่วยร้อยกว่าราย บางคนรับประทาน 4-10 ครั้งก็หาย บางบุคคลรับประทานต่อเนื่องกันถึง 2 เดือนก็เลยหาย ปลาไหลเผือก ชื่อวิทยาศาสตร์ : EURYCOMA LONGIFOLIA Jack. ตระกูล : SIMAROUBACEAE คุณประโยชน์ทางยา : ราก ต่อต้านโรคมะเร็ง รักษาโรคอัมพาต ช่วยขับถ่ายน้ำเหลือง ขับพยาธิ แก้ท้องผูก แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้อาการเจ็บคอ วิธีการใช้ตามตำราไทย : ต้านทานโรคมะเร็ง ช่วยถ่ายน้ำเหลือง ขับพยาธิ แก้อาการท้องผูก แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้ลักษณะการเจ็บคอ นำรากแห้งโดยประมาณ 8-15 กรัม นำมาต้มเอาน้ำดื่มก่อนที่จะกินอาหารทุกเช้าตรู่แล้วก็เย็น (2 เวลา) เอกสารอ้างอิง
|