ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: watamon ที่ พฤษภาคม 10, 2018, 06:40:16 pm



หัวข้อ: โรคโปลิโอ - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: watamon ที่ พฤษภาคม 10, 2018, 06:40:16 pm
(https://www.img.in.th/images/18f8c710b7077d1d00ec506d1d9af604.jpg)
โรคโปลิโอ (Poliomyelitis)
โรคโปลิโอคืออะไร โรคโปลิโอศึกษาค้นพบหนแรกเมื่อ ค.ศ. 1840 โดย Jakob Heine ส่วนไวรัสโปลิโอซึ่งเป็นสาเหตุของโรคถูกพ้นเจอเมื่อ ค.ศ. 1908 โดย Karl Landsteiner โรคโปลิโอ หรือ ไข้ไขสันหลังอักเสบ  เป็นโรคที่สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวแก่เด็กทั่วโลก ซึ่งมีผู้ป่วยในอดีตกาลมากยิ่งกว่า 350,000 รายต่อปี เพราะนำมาซึ่งความพิกลพิการ ขา หรือ แขนลีบ และก็เสียชีวิต ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นมาจากการต่อว่าดเชื้อไวรัสโปลิโอ โดยผู้ป่วยจำนวนมากมักไม่มีอาการแสดงของโรค ส่วนในกรุ๊ปคนป่วยที่มีลักษณะอาการนั้นจำนวนมากจะมีอาการเพียงเล็กน้อยอย่างไม่เจาะจงแล้วก็หายได้เองภายในช่วงระยะเวลาไม่กี่วัน แต่ว่าจะมีคนป่วยเพียงส่วนน้อยที่จะมีลักษณะของกล้ามเนื้อเมื่อยล้าและเมื่อผ่านไปหลายๆปีข้างหลังการรักษา ผู้ป่วยที่เคยมีอาการกล้ามเนื้อเหน็ดเหนื่อยนี้อาจจะเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนกำลังซ้ำขึ้นมาอีก รวมทั้งอาจเกิดกล้ามฝ่อลีบและเกิดความพิการของข้อตามมาได้ ในขณะนี้โรคนี้ยังไม่มียารักษา แต่มีวัคซีนที่ใช้ปกป้องโรคได้
โรคโปลิโอ นับเป็นโรคที่มีความจำเป็นมากมายโรคหนึ่ง เพราะเชื้อ เชื้อไวรัสโปลิโอ จะก่อให้มีการอักเสบของไขสันหลังทำให้มีอัมพาตของกล้ามเนื้อแขนขา ซึ่งในรายที่อาการร้ายแรงจะมีผลให้มีความพิกลพิการชั่วชีวิต และก็บางรายบางทีอาจถึงเสียชีวิตได้ ในปี พ.ศ. 2531 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้ทุกประเทศร่วมมือกำจัดโรคโปลิ โอ ทำให้อัตราการป่วยทั่วโลกลดน้อยลงไปๆมาๆกถึง 99% โดยต่ำลงจาก 350,000 ราย (จาก 125 ประเทศทั้งโลก) ในปี พุทธศักราช 2531 เหลือแค่ 820 รายใน 11 ประเทศในปี พศ. 2550 ซึ่งประ เทศที่ยังเจอโรคมากอยู่คือ ประเทศอินเดีย (400 กว่าราย) ปากีสถาน ไนจีเรีย แล้วก็อัฟกานิสถาน
ส่วนในประเทศไทยไม่เจอผู้ป่วยโรคโปลิโอมาตรงเวลายาวนานหลายปีแล้ว โดยพบรายสุดท้ายในปี พุทธศักราช 2540 ที่ จังหวัด เลย แม้กระนั้นเด็กทุกคนยังคงจะต้องได้เรื่องฉีดรับวัคซีนตามมาตรการกวาดล้างโรคโปลิโอร่วมกับนานาประเทศทั้งโลก เพราะว่าโปลิโอเป็นโรคร้ายแรงที่สร้างความสูญเสียอีกทั้งทางด้านร่างกายและก็เศรษฐกิจ รวมทั้งปัจจุบันนี้ถึงแม้ องค์การอนามัยโลก CWHO ได้ประกาศรับรองให้เป็นประเทศที่ปลอดโรคโปลิโอแล้วเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 แต่ประเทศไทยยังที่มีโอกาสเสี่ยงต่อโรคโปลิโออยู่ ด้วยเหตุว่ามีขอบเขตชิดกับประเทศที่มีการระบาดของโรคโปลิโออย่างเมียนมาร์รวมทั้งลาวที่พึ่งเจอเชื้อโปลิโอสายพันธุ์วัคซีนกลายพันธ์ไปเมื่อปี พ.ศ. 2558
สาเหตุของโรคโปลิโอ โรคโปลิโอเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเชื้อไวรัสโปลิโอ single-stranded RNA virus ไม่มีเปลือกจัดอยู่ใน Family Picornaviridae, Genus Enterovirus มี 3 ทัยป์เป็นทัยป์ 1, 2 รวมทั้ง 3 โดยแต่ละจำพวกอาจจะทำให้เกิดอัมพาตได้ พบว่า type 1 ส่งผลให้เกิดอัมพาตและก็เกิดการระบาดได้บ่อยครั้งกว่าทัยป์อื่นๆแล้วก็เมื่อติดเชื้อโรคแล้วจะมีภูมิต้านทานถาวรเกิดขึ้นเฉพาะต่อทัยป์นั้น ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อทัยป์อื่น เพราะฉะนั้น ตามแนวความคิดนี้แล้ว คน 1 คน บางทีอาจติดโรคได้ถึง 3 ครั้ง รวมทั้งแต่ละทัยป์ของไวรัสโปลิโอ จะแบ่งย่อยได้อีก 2 สายพันธุ์ เป็น

  • สายพันธุ์รุนแรงก่อโรค (Wild strain) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังและกวาดล้าง โดยตอนนี้ยังเจอสายพันธุ์ร้ายแรงนี้ใน 2 ประเทศหมายถึงอัฟกานิสถานแล้วก็ปากีสถาน
  • สายพันธุ์วัคซีน (Vaccine strain หรือ Sabin strain) เป็นการทำให้เชื้อไวรัสโปลิโอ 3 ประเภทย่อยอ่อนฤทธิ์ลงจนกระทั่งไม่อาจจะก่อให้เกิดโรคได้ แล้วประยุกต์ใช้เป็นวัคซีนชนิดหยด หรือที่เรียกกันว่า OPV (Oral polio vaccine) เพื่อสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย แต่แต่ ไวรัสโปลิโอสายพันธุ์วัคซีนอาจมีความเคลื่อนไหวในระดับโมเลกุลจนสามารถส่งผลให้เกิดสายพันธุ์วัคซีนกลายพันธุ์ และส่งผลให้เกิดโรคโปลิโอได้ ซึ่งการเกิดนี้ชอบกำเนิดในชุมชนที่หรูหราความครอบคลุมของวัคซีนโปลิโอออกจะต่ำเป็นระยะเวลานาน

โดยเชื้อโปลิโอนี้จะอยู่ในลำไส้ของคนเท่านั้น ไม่มีแหล่งรังโรคอื่นๆเชื้อจะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้ในไส้ของคนที่ไม่มีภูมิต้านทานและอยู่ภายในลำไส้ 1-2 เดือน เมื่อถูกถ่ายออกมาข้างนอก จะไม่สามารถเพิ่มได้ แล้วก็เชื้อจะอยู่ภายนอกร่างกายในสภาพแวดล้อมมิได้นาน โดยเฉพาะในเขตร้อน อายุครึ่งชีวิตของเชื้อไวรัสโปลิโอ (half life) โดยประมาณ 48 ชั่วโมง
อาการของโรคโปลิโอ  เมื่อเชื้อโปลิโอเข้าสู่ร่างกายของผู้ที่ไม่มีภูมิต้านทาน เชื้อไวรัสจะเข้าไปเพิ่มจำนวนในบริเวณ pharynx และก็ไส้ สองสามวันต่อมาก็จะกระจัดกระจายไปสู่ต่อมน้ำเหลืองรอบๆคอที่ทอนซิล และก็ที่ไส้แล้วก็ไปสู่กระแสโลหิตทำให้มีลักษณะไข้เกิดขึ้น ส่วนน้อยของเชื้อไวรัสจะผ่านจากกระแสเลือดไปยังไขสันหลังแล้วก็สมองโดยตรง หรือบางส่วนบางทีอาจผ่านไปไขสันหลังโดยทางเส้นประสาท เมื่อไวรัสเข้าไปยังไขสันหลังแล้วมักจะไปที่ส่วนของไขสันหลังหรือสมองที่ควบคุมลักษณะการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อเซลล์สมองในส่วนที่    ติดโรคมีลักษณะอาการอักเสบมากจนถูกทำลายไป กล้ามที่ควบคุมโดยเซลล์ประสาทนั้นก็จะมีอัมพาตและฝ่อไปสุดท้าย
         ดังนี้สามารถแบ่งคนไข้โปลิโอตามกรุ๊ปอาการได้เป็น 4 กรุ๊ป คือ

  • กรุ๊ปผู้เจ็บป่วยที่ไม่มีอาการ คนไข้กลุ่มนี้มีราว 90 – 95% ของผู้ติดโรคโปลิโอทั้งสิ้น มีความหมายทางด้านระบาดวิทยา เพราะเหตุว่าเชื้อไวรัสโปลิโอที่เข้าไปจะไปเพิ่มในลำไส้ รวมทั้งขับถ่ายออกมาตรงเวลา 1-2 เดือน นับเป็นแหล่งแพร่โรคที่สำคัญในชุมชน
  • กรุ๊ปคนไข้ที่มีลักษณะน้อยมาก (Abortive poliomyelitis) หรือที่เรียกว่า abortive case หรือ minor illness ซึ่งจะพบได้โดยประมาณ 5-10% ของผู้ติดเชื้อโรคโปลิโอทั้งสิ้น มักจะมีลักษณะไข้ต่ำๆเจ็บคอ อ้วก เจ็บท้อง เบื่ออาหาร และอ่อนแรง อาการจะเป็นอยู่ 3-4 วัน ก็จะหายเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยไม่มีอาการอัมพาต ซึ่งจะวินิจฉัยโรคแยกจากโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสอื่นมิได้
  • กรุ๊ปผู้เจ็บป่วยที่มีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อไวรัสโปลิโอ (Nonparalytic poliomyelitis) กลุ่มนี้จะพบได้เพียงแค่ 1% ของผู้ติดเชื้อโปลิโอทั้งผอง จะมีอาการเหมือนกับที่เกิดจากเชื้อไวรัสอื่นๆผู้เจ็บป่วยจะมีลักษณะคล้าย abortive case แม้กระนั้นจะตรวจเจอคอแข็งกระจ่าง มีอาการปวดหัว ปวดตามกล้ามเนื้อ เมื่อตรวจน้ำไขสันหลังก็จะเจอแตกต่างจากปกติแบบการต่อว่าดเชื้อไวรัส มีเซลล์ขึ้นไม่มากมายจำนวนมากเป็นลิมโฟซัยท์ ระดับน้ำตาลรวมทั้งโปรตีนปกติ หรือเปลี่ยนแปลงเพียงนิดหน่อย
  • กลุ่มคนป่วยที่มีลักษณะกล้ามเหน็ดเหนื่อย (Paralytic poliomyelitis) เป็นอัมพาต กลุ่มนี้เจอได้น้อยมากจะมีลักษณะอาการแบ่งได้ 2 ระยะ ระยะแรกคล้ายกับใน abortive case หรือเป็น minor illness เป็นอยู่ 3-4 วัน หายไป 3-4 วัน เริ่มจับไข้กลับมาใหม่ พร้อมกับมีลักษณะปวดกล้ามเนื้ออาจมีการเกร็งตัวของกล้ามก่อนที่จะมีอัมพาตเกิดขึ้น กล้ามจะเริ่มมีอัมพาตและเพิ่มกล้ามเนื้อที่มีอัมพาตอย่างเร็ว จำนวนมากจะเกิดสุดกำลังภายใน 48 ชั่วโมง รวมทั้งจะไม่ขยายเพิ่มขึ้นตอนหลัง 4 วัน เมื่อตรวจสอบรีเฟลกซ์บางคราวจะพบว่าหายไปก่อนที่จะกล้ามเนื้อจะมีอัมพาตสุดกำลัง

          ลักษณะของอัมพาตในโรคโปลิโอมักจะเจอที่ขามากยิ่งกว่าแขนและก็จะเป็นข้างเดียวมากกว่า 2 ข้าง (asymmetry) ชอบเป็นกล้ามเนื้อต้นขา หรือต้นแขนมากกว่าส่วนปลาย เป็นแบบอ่อนปวกเปียก (flaccid) โดยไม่มีความเคลื่อนไหวในระบบความรู้สึก (sensory) ที่พบได้ทั่วไปคือเป็นแบบ spinal form ที่มีอัมพาตของแขน ขา หรือกล้ามลำตัว ในรายที่เป็นมากอาจมีอัมพาตของกล้ามเนื้อส่วนลำตัวที่ทรวงอกและก็หน้าท้อง ซึ่งมีความสำคัญสำหรับในการหายใจ ทำให้หายใจเองมิได้ อาจจนตายได้ถ้าช่วยไม่ทัน
สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะนำไปสู่โรคโปลิโอ โรคโปลิโอพบมากได้ในเด็กมากกว่าคนแก่ โดยทั้งเพศชายและเพศหญิงได้โอกาสติดโรคนี้ได้เสมอกัน และก็มีโอกาสติดโรคโปลิโอได้ง่าย แม้กระนั้นมีผู้เจ็บป่วยน้อยมากที่จะมีลักษณะกล้ามอ่อนเพลีย เชื้อไวรัสชนิดนี้จะเติบโตอยู่ในไส้ เชื้อก็เลยถูกขับออกจากร่างกายมาพร้อมกับอุจจาระรวมทั้งแพร่ไปสู่ผู้อื่นผ่านการกินของกินหรือดื่มน้ำที่แปดเปื้อนเชื้อจากอุจจาระของคนเจ็บ ซึ่งมีเหตุที่เกิดจากการขับถ่ายที่ผิดความถูกอนามัยและไม่ล้างมือก่อนอาหาร โรคนี้จึงพบได้บ่อยมากในประเทศที่ด้อยความเจริญแล้วก็กำลังพัฒนาที่ขาดการดูแลเรื่องสุขอนามัยที่ดี
ทั้งคนที่มิได้รับการฉีดวัคซีนโปลิโอนั้น จะยิ่งเสี่ยงต่อการตำหนิดเชื้อยิ่งขึ้นถ้าเกิดอยู่ในภายในกรุ๊ปเสี่ยงดังต่อไปนี้
           หญิงมีท้องรวมทั้งผู้ที่มีภูมิต้านทานอ่อนแอ ได้แก่ ผู้ติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง และก็เด็กเล็กซึ่งจะมีความไวต่อการได้รับเชื้อโปลิโอ
           เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโปลิโอหรือเพิ่งจะมีการระบาดของโรคเมื่อไม่นานมานี้
           เป็นผู้ดูแลหรืออาศัยอยู่กับผู้ติดโรคโปลิโอ
           ดำเนินการในห้องทดลองที่สัมผัสใกล้ชิดกับเชื้อไวรัส
           คนที่ผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลออกไป
กรรมวิธีการรักษาโรคโปลิโอ หมอจะวินิจฉัยโรคโปลิโอด้วยการถามไถ่อาการจากคนป่วยว่ารู้สึกเจ็บปวดรอบๆหลังและคอ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการกลืนหรือหายใจไหม ตรวจสอบปฏิกิริยาสะท้อนกลับของร่างกาย รวมทั้งการตรวจทางน้ำเหลือง โดยเก็บตัวอย่างในตอนระยะรุนแรงแล้วก็ระยะแอบแฝงของโรค ตรวจสารภูมิคุ้มกัน IgM หรือ IgG นอกจากนั้นเพื่อยืนยันให้มั่นใจอาจมีการตรวจค้นเชื้อไวรัสโปลิโอด้วยการเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างสารคัดเลือกหลั่งจากคอ อุจจาระ หรือน้ำหล่อเลี้ยงสมองและก็ไขสันหลังส่งตรวจทางห้องทดลอง ในกรณีคนไข้ที่มีอาการกล้ามเนื้ออัมพาตแบบอ่อนปวกเปียก (acute flaccid paralysis : AFP) แพทย์จะจัดการสอบสวนโรค พร้อมด้วยเก็บอุจจาระส่งตรวจเพื่อ    แยกเชื้อโปลิโอ การวินิจฉัยที่แน่นอนเป็น แยกเชื้อโปลิโอได้จากอุจจาระ และก็ทำการตรวจว่าเป็นทัยป์ใดเป็นสายพันธุ์ wild strain หรือ vaccine strain (Sabin strain)
          การเก็บอุจจาระส่งไปทำการตรวจจะเก็บ 2 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จะต้องเก็บให้เร็วข้างใน 1-2 สัปดาห์ภายหลังที่เจอมีลักษณะ AFP ซึ่งเป็นช่วงที่มีปริมาณเชื้อไวรัสในอุจจาระมากกว่าระยะอื่นๆการจัดส่งอุจจาระเพื่อส่งไปตรวจจะต้องให้อยู่ในอุณหภูมิ 4-8๐ ซ ตลอดระยะเวลา มิฉะนั้นเชื้อโปลิโออาจตายได้ ปัจจุบันนี้โรคโปลิโอยังไม่มีแนวทางรักษาให้หายขาด หมอสามารถให้การดูแลรักษาคนป่วยตามอาการ  และขณะนี้ก็ยังไม่มียารักษาโรคโปลิโอโดยยิ่งไปกว่านั้น การดูแลรักษาจะเป็นแบบเกื้อกูล อาทิเช่น ให้ยาลดไข้ และลดอาการปวดของกล้าม ในรายที่มีลักษณะอาการอัมพาตของกล้ามเนื้อแขน ขา วิธีการทำกายภาพ บำบัดรักษาจะช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของกล้ามเนื้อให้ดีขึ้น
สำหรับเพื่อการรักษาผู้ป่วยกลุ่มอาการข้างหลังเกิดโรคโปลิโอ (Post-polio syndrome – PPS) การรักษาหลักจะย้ำไปที่แนวทางการทำกายภาพบำบัดมากยิ่งกว่า อย่างเช่น การใส่เครื่องมือช่วยยึดลำตัว วัสดุอุปกรณ์ช่วยสำหรับเพื่อการเดิน เครื่องมือที่ช่วยคุ้มครองข้อบิดผิดรูปหรือบางทีอาจใช้การผ่าตัดช่วย การฝึกหัดพูดและก็ฝึกกลืนในผู้ป่วยที่มีปัญหา การออกกำลังกายที่ย้ำการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อภายใต้ข้อเสนอแนะที่ถูกต้องจากแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด การใช้เครื่องช่วยหายใจในขณะหลับแม้คนเจ็บมีปัญหาหัวข้อการหยุดหายใจในขณะหลับ รวมถึงการดูแลทางด้านอารมณ์และจิตใจของผู้เจ็บป่วยร่วมด้วย
(https://www.img.in.th/images/ecb52da55bc6ce9453747ea3c308ae99.jpg)
การกระทำตนเมื่อป่วยเป็นโรคโปลิโอ

  • ถ้าได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคโปลิโอไม่ว่ามีอาการอยู่ในกรุ๊ปใด หากหมอให้กลับบ้านเครือญาติต้องระวังการแพร่เชื้อสู่บุคคลในบ้าน เพราะเหตุว่าคนเจ็บจะสามารถขับเชื้อออกมาทางอุจจาระได้นานถึงประมาณ 3 เดือนข้างหลังติดโรค และถ้าหากว่าผู้ป่วยมีสภาวะภูมิต้านทานต้าน ทานโรคขาดตกบกพร่องด้วยแล้วจะสามารถแพร่ระบาดได้นานถึงโดยประมาณ 1 ปี โดยให้ญาติดูแลประเด็นการขับ ถ่ายของคนป่วยให้ถูกสุขลักษณะ การล้างมือทุกคราวหลังเข้าส้วมแล้วก็ก่อนหยิบจับอาหารเข้าปาก การกินของกินปรุงสุกใหม่เสมอ การล้างผักผลไม้ให้สะอาดแล้วก็ปอกผลไม้ก่อนรับประทาน แล้วก็ถ้าบุคคลในบ้านคนไหนยังไม่เคยรับวัคซีนโปลิโอ ก็ให้ขอความเห็นหมอเพื่อรับวัคซีนให้ครบ
  • ให้คนไข้กินอาหารที่มีคุณประโยชน์ครบทั้ง 5 กลุ่ม
  • ถ้าหากผู้เจ็บป่วยมีลักษณะอาการกล้ามเนื้อเมื่อยล้าให้เครือญาติช่วยทำกายภาพบำบัดเพื่อช่วยเหลือทักษะการเคลื่อนไหว แล้วก็เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตามข้อแนะนำของนักกายภาพบำบัด
  • ญาติควรดูแลและก็ใส่ใจคนป่วย รวมทั้งดูแลทางด้านสภาพการณ์จิตใจ สภาพการณ์ทางอารมณ์ของผู้ป่วยและให้กำลังใจแก่คนไข้ด้วย
  • พี่น้องควรจะพาคนไข้ไปพบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด หรือ แม้มีอาการไม่ดีเหมือนปกติที่เป็นอันตราย ก็ควรจะพาไปพบหมอโดยเร่งด่วน
การคุ้มครองโรคโปลิโอ

  • โรคโปลิโอสามารถปกป้องได้ด้วยวัคซีน ซึ่งวัคซีนที่มีใช้ ทั่วโลกมี 2 ชนิดเป็น


  • วัคซีนโปลิโอจำพวกรับประทาน (Oral Poliomyelitis Vaccine: OPV, Sabin) การกวาดล้าง ในประเทศไทย โรคโปลิโอ H T กรุ๊ปโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน สำนักโรคติดต่อทั่วๆไป Albert Bruce Sabin M.D. Jonas Edward Salk M.D. เป็นวัคซีนประเภทเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ (attenuated live oral poliomyelitis vaccine) สายพันธุ์ Sabin สร้างสรรค์โดย Albert Bruce Sabin ชาวอเมริกัน เมื่อปี พุทธศักราช 2504 วัคซีนมีเชื้อ ไวรัสโปลิโอ 3 ทัยป์หมายถึงทัยป์ 1, 2 แล้วก็ 3 ให้วัคซีนโดยการกินเป็นการเลียนแบบการต่อว่าดเชื้อ ตามธรรมชาติ ที่สามารถกระตุ้นภูมิต้านทานที่เยื่อบุลำคอและก็ไส้ของผู้รับวัคซีน แล้วก็สามารถแพร่เชื้อ วัคซีนไปกระตุ้นภูมิต้านทานให้กับผู้สัมผัสสนิทสนมได้อีกด้วย ปัจจุบันนี้วัคซีนโปลิโอประเภทกินนี้ถือได้ว่าเป็น เครื่องมือสำคัญในการกวาดล้างโรคโปลิโออย่างมาก ด้วยเหตุว่าสามารถคุ้มครองรวมทั้งกำจัดเชื้อโปลิโอสายพันธุ์ ก่อโรคได้อย่างดีเยี่ยม ราคาแพงถูกรวมทั้งมีวิธีการให้วัคซีนง่าย แต่ว่ามีข้อเสีย เป็นอาจจะก่อให้กำเนิดอาการข้างๆ เหมือนโรคโปลิโอ (Vaccine Associated Paralytic Polio: VAPP) ซึ่งเกิดขึ้นน้อยมาก ราว 1 ใน 2.7 ล้านโด้ส หรือบางทีอาจมีการกลายพันธุ์ (Vaccine Derive Polio Virus: VDPV) จนก่อ โรคได้ในพื้นที่ที่มีความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนต่ำ
  • วัคซีนโปลิโอจำพวกฉีด (Inactivated Poliomyelitis Vaccine: IPV, Salk) เป็นวัคซีนที่ทำจากเชื้อไวรัสโปลิโอที่ตายแล้ว (kill vaccine) สร้างสรรค์โดย Jonas Edward Salk ชาว อเมริกัน เมื่อปี พุทธศักราช 2498 วัคซีนชนิดนี้มีเชื้อโปลิโอ 3 ทัยป์ ให้วัคซีนโดยการฉีด

ในขณะนี้ประเทศไทยมีการใช้วัคซีนโปลิโอในแผนงานเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค โดยให้วัคซีน OPV 5 ครั้ง เมื่ออายุ 2, 4, 6 เดือน 1 ปีครึ่ง รวมทั้ง 4 ปี รวมทั้งให้วัคซีน IPV 1 ครั้ง เมื่ออายุ 4 เดือน

  • คุ้มครองป้องกันการตำหนิดเชื้อและการแพร่ระบาดของเชื้อโปลิโอ ด้วยการรับประทานอาหารแล้วก็ดื่มน้ำสะอาดถูกสุขลักษณะ รวมถึงการอุจจาระลงส้วมที่ถูกสุขลักษณะทุกหน
  • คราวหลังเข้าไปคลุกคลีสนิทสนมผู้เจ็บป่วยโรคโปลิโอ หรอเข้าไปดูแลเปลี่ยนผ้าให้แก่คนเจ็บควรล้ามือด้วยสบู่ทุกคราว
  • เมื่ออยู่ภายในเขตพื้นที่มีการระบาดของโรคโปลิโอ ควรจะดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงประพฤติตามหลักสุขข้อกำหนดให้ครัดเคร่ง

สมุนไพรที่ใช้รักษา/ทุเลาโรคโปลิโอ เพราะว่าโรคโปลิโอเป็นโรคที่ติดต่อจากเชื้อไวรัสที่มีการติดต่อได้ง่าย และก็ในผู้เจ็บป่วยที่มีความร้ายแรงของโรคนั้นอาจจะเป็นผลให้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพได้ ซึ่งในปัจจุบันนั้นยังไม่มียาที่ใช้รักษาโรคโปลิโอให้หายได้ รวมทั้งยังไม่มีข้อมูลว่ามีสมุนไพรจำพวกไหนที่ใช้รักษาหรือบรรเทาอาการของโรคโปลิโอได้เหมือนกัน
เอกสารอ้างอิง

  • การกวาดล้างโรคโปลิโอในประเทศไทย.กลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนสำนักโรคติดต่อทั่วไป.วารสาร ดร.สัมพันธ์.ปีที่ 3.ฉบับที่ 4.เมษายน-พฤษภาคม 2559.หน้า 2-3
  • โปลิโอ.อาการ,สาเหตุ,การรักษา.พบแพทย์.
  • หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2. “โปลิโอ (Poliomyelitis)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 571-572.
  • Paul JR (1971). A History of Poliomyelitis. Yale studies in the history of science and medicine. New Haven, Conn: Yale University Press. pp. 16– ISBN 0-300-01324-8. http://www.disthai.com/[/b]
  • Cohen JI (2004). "Chapter 175: Enteroviruses and Reoviruses". In Kasper DL, Braunwald E, Fauci AS, et al. (eds.). Harrison's Principles of Internal Medicine (16th ed.). McGraw-Hill Professional. p. ISBN 0-07-140235-7.
  • โรคโปลิโอ(Poliomyelitis).ความรู้เรื่องโรคติดต่อ.สำนักโรคติดต่อทั่วไป.กรมควบคุมโรค.กระทรวงสาธารณสุข
  • Ryan KJ, Ray CG (eds.) (2004). "Enteroviruses". Sherris Medical Microbiology (4th ed.). McGraw Hill. pp. 535– ISBN 0-8385-8529-9.
  • Jeffrey I. Cohen, enteroviruses and reoviruses, in Harrison’s Principles of Internal Medicine, 15th edition, Braunwald , Fauci, Kasper, Hauser, Longo, Jameson (eds). McGrawHill, 2001
  • โรคโปลิโอ(Polio).สำนักโรคติดต่อทั่วไป.กรมควบคุมโรค.กระทรวงสาธารณสุข.
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ