หัวข้อ: โรคมือเท้าปาก - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร เริ่มหัวข้อโดย: watamon ที่ พฤษภาคม 11, 2018, 10:33:07 am (https://www.img.in.th/images/9cd86b1b740e69145d8352166d1af692.md.jpg)
โรคมือเท้าปาก (Hand Foot and Mouth disease – HFMD) โรคมือเท้าปาก คืออะไร โรคมือ-เท้า-ปาก เจ็บป่วยเป็นผื่นประเภทหนึ่งที่ต่อเนื่องกันง่าย แต่ว่ามักไม่รุนแรงรวมทั้งหายได้เองเป็นส่วนใหญ่ ส่วนน้อยที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง ซึ่งโรค มือเท้าปาก เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในเด็กเล็ก โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน มักมีเหตุที่เกิดจากไวรัสกลุ่ม Enterovirus แต่ว่าในแถบร้อนเปียกชื้น พบได้ทั่วไปได้ทั้งปีโดยส่วนมากแล้ว มักพบในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปีแม้กระนั้นบางทีอาจเจอในเด็กอายุมากกว่านี้ก็ได้ รวมทั้งถ้าหากมีการกำเนิดโรคในสถานเลี้ยงเด็กหรือในโรงเรียนอนุบาล ก็จะเจอคนไข้เยอะแยะขึ้นเพราะว่าโรคนี้ระบาดได้ง่าย อนึ่งโรคนี้เป็นโรคคนละจำพวกกับโรคปากยุ่ยเท้าเปื่อยยุ่ยที่เจอได้ในสัตว์กีบคู่ ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่ติดต่อมาสู่คน นอกจากในกรณีที่คนไปสัมผัสคลุกคลีอยู่กับสัตว์ที่เจ็บไข้หรือผู้ที่ดำเนินงานในห้องแลปเกี่ยวกับโรคในสัตว์พวกนี้ ที่อาจมีรายงานการติดเชื้อได้บ้าง อันที่จริงแล้ว โรคมือ เท้า ปาก ว่าไม่ใช่โรคใหม่ แต่ว่ารู้จักกันมานานมากกว่า 50 ปีแล้ว โดยมีประวัติที่มาที่ไปของโรค ดังนี้
ต่อจากนั้นก็มีรายงานการระบาดจากประเทศต่างๆทั่วทั้งโลก ซึ่งไวรัสที่ก่อให้เกิดกลุ่มอาการมือ เท้า ปาก ไม่ได้เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวแม้กระนั้นมีมากกว่า 10 สายพันธุ์ สำหรับการระบาดใหญ่ของกลุ่มอาการโรคมือ เท้า ปาก พบว่ามีรายงานตั้งแต่ พ.ศ.2540-2555 มีดังนี้
สำหรับเหตุการณ์โรคมือเท้าปากในประเทศไทย อ้างอิงข้อมูลที่ได้มาจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในปี 2558 มีผู้เจ็บป่วยทั้งปวง 40,417 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 62.21 ต่อราษฎร 1 แสนคน แล้วก็มีคนไข้เสียชีวิต 3 ราย ส่วนในปี 2559 ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 28 เดือนมีนาคม 2559 มีผู้เจ็บป่วย 8,973 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 13.78 ต่อประชาชน 1 แสนคน และยังไม่มีคนเสียชีวิต ตั้งแต่เริ่มมีการตรวจเจอเชื้อ EV71 ในผู้ป่วยโรค HFMD ในปี2541 ในประเทศไทยก็เริ่มมีการเฝ้าระวังรายงานรวมทั้งไต่สวนคนไข้สงสัยติดเชื้อ EV71 รวมทั้งคุ้มครองป้องกันควบคุมโรคหลังจากนั้นมา พบว่าคนป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำลงมากยิ่งกว่า 2 ปีและราวๆกึ่งหนึ่งติดโรค EV71 ที่มีอาการไม่รุนแรง ส่วนในด้านรายงานการแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากจากสำนักระบาดวิทยา พบว่า เมื่อวันที่ 1 มกราคม ถึง 1 เมษายน 2559 มีการระบาดเป็นกลุ่มเป็นก้อนอีกทั้งตามโรงเรียนและในชุมชน 8 เรื่อง จากจำนวนคนป่วย 22 ราย ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำให้โรงเรียนประพฤติตามมาตรการที่กรมควบคุมโรคระบุ เพื่อคุ้มครองป้องกันการเกิดโรคและการแพร่ระบาดของโรค ที่มาของโรคมือเท้าปาก โรคมือเท้าปากเกิดขึ้นจากการตำหนิดเชื้อกลุ่มเชื้อไวรัสเอนเทอโร (Enterovirus) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันนานัปการสาย ดังเช่นว่า ค็อกแซคกีเอและบี (Coxsackie A, B), เชื้อไวรัสเอนเทอโรจำพวก 71 (Enterovirus 71 – EV71) ต้นสายปลายเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือการระบาดจากการต่อว่าดเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 16 (Coxsackievirus A 16) ซึ่งอาการชอบไม่ร้ายแรง แล้วก็คนป่วยมักจะหายได้เองเป็นส่วนใหญ่ ส่วนมูลเหตุที่พบได้น้อยรวมทั้งมีลักษณะร้ายแรง คือ การตำหนิดเชื้อไวรัสเอนเทอโรจำพวก 71 ซึ่งอาจจะส่งผลให้คนป่วยเกิดภาวะสอดแทรกร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ นอกจากนั้นโรคมือเท้าปากยังอาจกำเนิดได้จากเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 5, 7, 9, 10 แล้วก็เชื้อไวรัสค็อกแซคกีบีชนิด 2 และ 5 ได้บ้าง ซึ่งโรคนี้จำนวนมากชอบติดต่อกันที่เกิดจากการกินของกิน น้ำ การดูดเลียนิ้วมือ หรือของเล่นที่แปดเปื้อนเชื้อที่ออกมากับอุจจาระ น้ำเหลืองจากตุ่มน้ำที่ผิวหนัง หรือละอองน้ำมูก น้ำลายของคนเจ็บ ส่วนน้อยที่ติดต่อโดยการสูดเอาฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายที่คนเจ็บไอหรือจามรด ซึ่งเมื่อเชื้อไปสู่ร่างกายแล้ว ราวๆ 3-6 วัน คนไข้จึงจะมีลักษณะ อาการโรคมือเท้าปาก ภายหลังจากติดเชื้อ 3-7 วัน ผู้ป่วยจะเริ่มออกอาการเริ่มหมายถึงจับไข้ตํ่าๆประมาณ 38-39o C และก็มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเวลานี้จะมีระยะเวลา ราว 1-2 วัน ต่อจากนั้นจะเริ่มมีลักษณะเจ็บปาก ตรวจร่างกายจะเจอมีรอยโรคในบริเวณปาก มือรวมทั้งเท้าได้ดังนี้
ร้อยละ 80 ของคนป่วยลักษณะของการเจ็บปากจะไม่รุนแรงและหายได้เองโดยไม่ต้องรักษาข้างใน 5-10 วัน
อาจเกิดขึ้นพร้อมรอยโรคที่ปาก หรือจากนั้นบางส่วนจํานวนตั้งแต่ 2-3 แห้งไปจนกระทั่ง 100 ที่ พบ ที่มือบ่อยมากกว่าเท่า ลักษณะเป็นรอยแดงๆบางทีอาจนูนน้อยขนาด 2-10 มม. กึ่งกลางสีเทา บางรอยโรคมี ลักษณะเป็นตุ่มนํ้าใสขอบแดง มีกระจายขนานไปกับแนวของผิวหนังบางทีอาจเจ็บหรือไม่ก็ได้ต่อจากนั้น 2-3 วัน จะ เริ่มเป็นสะเก็ด และก็ค่อยๆหายไปภายใน 7-10 วัน โดยไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลือ บริเวณอื่นๆที่อาจเจอรอยโรคได้ด้วยเหมือนกัน คือ ตูด แขน ขา รวมทั้งอวัยวะสืบพันธุ์ในทารกอาจพบ กระจัดกระจายทั่วตัวได้ โดยทั่วไปโรคมือเท้า ปากตลาดว่ามีลักษณะอาการน้อยส่วนมากมักมีเพียงแต่ไข้ปวดเหมื่อยตามตัวและก็เจ็บปาก แต่ว่า ในคนป่วยบางรายบางทีอาจพบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการต่อว่าดเชื้อ enterovirus 71 ปัจจัยเสี่ยงต่อ การพบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง คือ
ซึ่งปัจจัยเสี่ยงในข้อ 2 แล้วก็ 3 จากการศึกษาวิจัยที่โรงหมอเด็ก Chang Gung ประเทศไต้หวัน พบว่า ชมรมกับการติดเชื้อ EV มากกว่า Cox A โดยชอบทำให้เกิดภาวะเข้าแทรก/ทางระบบประสาท ระบบหัวใจ รวมทั้งปอดได้สูง ทำให้คนไข้เสียชีวิตอย่างเร็วจากภาวการณ์ปอดอักเสบน้ำ เลือดออกในปอด แล้วก็ภาวการณ์ช็อก แม้กระนั้นเชื้อคอกแซคก็ไวรัส เอ 16 ก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเป็น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อห่อหัวใจอักเสบ และก็ภาวะช็อกได้ แต่เจอได้น้อยกว่าจากเชื้อ เอนเทอโรไวรัส 71 มาก ปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมือเท้าปาก
การตรวจรอยโรคที่ผิวหนัง (cutaneous lesion) ทางพยาธิวิทยา(histology) จะพบเม็ดเลือดขาวชนิด neutrophil และ lymphocyte เพิ่มขึ้น แต่จะไม้พบmultinucleated giant cell หรือ inclusion body 11 สําหรับในกรณีที่ต้องการทราบชนิดของเชื้อไวรัสที่ก้อโรค สามารถทําได้โดยการแยกเชื้อไวรัส หรือตรวจ ร่องรอยการติดเชื้อจากนํ้าเหลือง สําหรับประเทศไทยใช้วิธี micro-neutralization หากพบผู้ป่วยในข่ายสงสัยให้ เก็บตัวอย่างดังนี้
โรคมือเท้าปากไม่มีวัคซีนหรือยาสำหรับรักษาโรคโดยตรง การรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการ เช่นการให้ยาลดไข้ paracetamol หรือให้ยาบ้วนปากเพื่อช่วยลดอาการเจ็บของแผลในช่องปาก ถ้าตุ่มกลายเป็นหนองหรือพุพองก็จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี อะม็อกซีซิลลิน อีริโทรไมซิน เป็นต้น ถ้ามีภาวะขาดน้ำเนื่องจากกินและดื่มไม่ได้ ก็จะให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ก็จำเป็นต้องรับเด็กไว้รักษาในโรงพยาบาลหรือส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลต่อไป อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ.2539 มีการศึกษาที่ Medical College of Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการทดลองใช้ acyclovir ในการรักษาผู้ป่วยโรคมือเท้า ปาก 13 รายซึ่ง 12 รายเป็นเด็กอายุ 1-5 ปีและอีก 1 รายเป็นผู้ใหญ่ โดยเริ่มใช้ยา acyclovir ภายใน 1-2 วัน หลังเริ่มมีรอยโรคพบว่าอาการของผู้ป่วยดีขึ้น และรอยโรคเปลี่ยนแปลงดี ขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังเริ่มรักษา ได้ให้ acyclovir ต่ออีก 5 วันจนรอยโรคหายไปหมด ผู้ศึกษาเชื่อว่า acyclovir อาจไปยับยั้งเอนไซม์ thymidine kinase ของ Cox A16แต่ก็อาจมีประโยชน์ ด้านอื่นด้วยเช่น อาจทําให้ผู้ป่วยสร้าง interferon เพื่อยับยั้งไวรัสมากขึ้น15 อย่างไรก็ดียังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้ acyclovir ในการ ลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง และหลังจากการติดเชื้อผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสที่ก่อโรค แต่อาจเกิดโรคมือเท้า ปากซํ้าได้จาก enterovirus ตัวอื่นๆ การติดต่อของโรค มือ เท้า ปาก โรคมือเท้าปากสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากตุ่มน้ำใส หรือสารคัดหลั่งจากจมูกและปากอันได้แก่ น้ำมูก เสมหะ หรือน้ำลาย นอกจากนี้แล้วไวรัสยังสามารถพบได้ในอุจจาระ โดยไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ตั้งแต่ในระยะแรกที่แสดงอาการโดยช่วงที่มีการแพร่กระจายมากที่สุด คือ สัปดาห์แรกที่ผู้ป่วยมีอาการและอาจจะยังพบได้อีกหลายสัปดาห์ในอุจจาระของผู้ป่วยที่หายจากอาการของโรคแล้ว นอกจากนี้แล้วในผู้ใหญ่อาจจะสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้โดยไม่แสดงอาการใดๆ ซึ่งการได้รับไวรัสอาจเป็นการได้รับโดยตรงเช่นจากการไอหรือจาม หรืออาจจะได้รับไวรัสโดยอ้อมโดยการสัมผัสกับพื้นผิวหรือสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสอยู่ เช่นในสถานรับเลี้ยงเด็กซึ่งอาจมีของเล่นหรือของใช้เด็กที่ปนเปื้อนน้ำลายเนื่องจากเด็กเล็กมักชอบนำสิ่งของเข้าปาก ดูดเลียนิ้วมือ รวมถึงจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ มือของผู้เลี้ยงดูเด็กที่ไม่สะอาด เป็นต้น เนื่องจากโรคมือเท้าปากมักพบในเด็กเล็ก ดังนั้นการระบาดมักพบในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือตามโรงเรียนอนุบาล เชื้อเอนเทอโรไวรัสสามารถทนสภาวะกรดในทางเดินอาหารมนุษย์ได้ และมีชีวิตอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ 2-3วัน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเย็นหรือชื้นแฉะเชื้ออาจอยู่ได้เป็นเดือน นอกจากนี้ การทำลายเชื้อต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม น้ำยาฆ่าเชื้อทั่วๆ ไปบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ ๗๐ เปอร์เซ็นต์และแอลกอฮอล์เจลใช้ป้องกันไวรัสไข้หวัดได้ แต่สำหรับเชื้อไวรัสเอนเทอโร แอลกอฮอล์ไม่มีผลโดยตรง การปฏิบัติตนเมื่อป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่จำเป็นต้องให้ยารักษาจำเพาะ เพียงแต่ให้การดูแลตามอาการ และเฝ้าติดตามอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด โดยมีวิธีปฏิบัติ ดังนี้
การปกป้องตัวเองจากโรคมือเท้าปาก
สมุนไพรที่ใช้รักษา/ทุเลาอาการของโรคมือเท้าปาก สมุนไพรซึ่งสามารถประยุกต์ใช้บรรเทาอาการของโรคมือเท้าปากนั้นมีดังนี้ ถ้าหากมีแผลในปากก็สามารถใช้กลีเซอรีนพญายอหยอดรอบๆแผลได้ เพราะในใบพญายอมีสารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ทำให้แผลหายเร็วขึ้นและไม่มีอันตราย ไม่มีผลข้างเคียง สมุนไพรในโรค มือ-เท้า-ปากเป็นฟ้าทลายโจร (Andrographis paniculata (Burm.F.) Nees.) เป็นงานศึกษาเรียนรู้วิจัยที่ทำในประเทศจีน โดยนักวิจัยได้สกัดสารสำคัญของฟ้าทลายขโมยและทำให้อยู่ในรูปแบบของยาฉีดเป็นAndrographolide Sulfonate injection การวิจัยนี้ทำในเด็กที่เป็นโรค มือ-เท้า-ปาก อายุ 1-13 ปี จำนวน 230 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะได้รับการดูแลและรักษาแบบแผนเดิมร่วมกับ สารสกัดฟ้าทะลายขโมยในแบบบาฉีด (Andrographolide Sulfonate injection) อีกกรุ๊ปจะได้รับการดูแลรักษาแบบแผนเดิม โดยติดตามผล 7-10 วัน ผลการศึกษาพบว่า กรุ๊ปแรกจะเจออาการแทรกซ้อนแบบร้ายแรงน้อยกว่ากรุ๊ปลำดับที่สองอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังส่งผลให้ไข้ลดน้อยลงได้เร็วขึ้น ทำให้แผลที่ผิวหนังรวมทั้งแผลในปากหายมากยิ่งกว่ากลุ่มหวานใจษาแบบแผนเดิม และไม่พบการเสียชีวิตรวมถึงผลกระทบที่ร้ายแรงในกลุ่มทดลองอีกด้วย เอกสารอ้างอิง
|