หัวข้อ: จำหนาย ล้อแม็ก ยางรถยนต์ คุณลักษณะถูกใจ มีให้เลือกต่างๆนาๆตัวอย่าง พร้อมกับโปรโมชั่นดีๆอ เริ่มหัวข้อโดย: raraymondas ที่ เมษายน 28, 2015, 03:10:08 pm ยุคปัจจุบันความนิยมในการทำสวยให้รถด้วยการใส่ล้อแม็กวงโตๆ ควบคู่ไปกับยางซีรี่ส์ต่ำๆ กำลังเป็นที่นิยมกันมาก ซึ่งเดี๋ยวนี้ ขนาดของวงล้อนั้น "เลยเถิด ไปจนถึงระดับ 20 นิ้วขึ้นไปกันแล้ว แต่นั่นก็จัดว่าเป็นเพียงการเล่นกันเพียงในเจาะจงบางกลุ่ม เพราะล้อ และ ยางขนาดที่ว่ามานั้น 1 ชุดมีค่าแพงมากระดับที่สามารถจะซื้อรถยนต์มือสองมาขับเคลื่อนเล่นกันได้สบายๆ ซึ่งในเกรดโดยทั่วไปแล้ว ที่ชาวบ้าน เล่นกันนั้น ก็จะอยู่ประมาณ 16-17 ไปจน 18 นิ้ว ตามสูตร "บวกสอง" จากขนาดโดยทั่วไปที่ทางโรงงานให้มา ซึ่งเป็นความจุ ที่จัดว่า "เล่นได้" และให้ความสละสลวยกับตัวรถในแบบที่คุ้มค่าลงตัวเป็นที่สุด
หลายท่านอาจจะเคยสับสนว่าเพราะอะไรต้องเรียกล้อรถที่ไม่ใช่ล้อรถเหล็กปั๊มจาก โรงงานว่า "ล้อแม็ก" นั่นก็เนื่องจากว่า "ล้อแม็ก" ในสมัยโบราณถูกกำเนิดขึ้นมาโดยมี "แมกนีเซียม" เป็นวัตถุดิบต้นฉบับในการผลิต เพื่อเป้าหมายในการลดความหนักเบาของ กระทะล้อ ให้ลดน้อยลง ล้อแม็กจึงมีน้ำหนักเบากว่าล้อเหล็กแบบเดิม จากคุณลักษณะของ แม็กนีเซียม ที่เป็นโลหะน้ำหนักเบา และนั่นจึงเป็นแหล่งเกิดของคำว่า "ล้อแม็ก" ที่เรียกกัน ต่อๆ มาจนถึงปัจจุบันนี้ (http://www.thaimazda2.net/pic-mazda2/bakkung.cm_bakkung.cm_SCA_BKF.jpg) แต่ด้วยข้อด้อยของล้อแมกนีเซียมในด้านทุนเดิมการผลิตที่แพงมาก รวมกับคุณค่าของเนื้อแมกนีเซียม ที่ง่ายๆต่อการผุพัง เมื่อประยุกต์ใช้งานกับรถที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ค่านิยมในตัวล้อแมกนีเซียมแท้ๆ จึงค่อยๆ จืดจางไป พร้อมกับการเข้ามาผลัดเปลี่ยนของ ล้ออลูมินั่มอัลลอย ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่า ผลิตได้ไม่ยากกว่า ความก้าวหน้าของล้อแม็กนั้น เปิดตัวขึ้นในแวดวงรถแข่ง จากความต้องการที่จะให้กระทะล้อที่มีน้ำหนักเบา เพื่อให้ลดแรงขัดขวาง การควง ให้ได้มากที่สุด รวมทั้งคุณสมบัติปลีกย่อยต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นผลพลอยได้ที่ตามมาก็คือ การลดภาระให้กับระบบกันกระเทือน และ บังคับเลี้ยวซึ่งจะมีผลกระทบให้การบังคับคุมรถเป็นไปได้อย่างเร่งด่วน รถมีการสนองต่อคำสั่งได้ดี และเร็วไวขึ้น สุดท้ายก็คือ เรื่องการช่วยถ่ายเทความร้อนจากคุณค่าของตัววัตถุคือแม็กนีเซียม และ อลูมินั่มอัลลอยที่มีการอมความร้อนน้อยกว่าเหล็ก โดยจะส่งผ่านความร้อน ทั้งที่ปรากฏจากล้อยาง ถูกันกับพื้นถนนเวลาวิ่ง ตลอดจนความร้อนที่เกิดจาก การเบรคออกสู่ข้างนอก ได้รวดเร็วกว่า กระทะเหล็กปกติ ซึ่งคุณค่าต่างๆ ของล้อเม็กที่บอกมานี้ ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่มองข้ามไป มิได้ ในวงการนักแข่งรถ แต่สำหรับรถที่ใช้งานบนท้องถนนทั่วไป การคัดเลือกซื้อล้อแม็ก อาจจะคำนึงถึง ความงดงาม ขนาดแบบและแนวทางผลิตเป็นสำคัญก่อน โดยเรื่องความงดงามนั้น ก็ขึ้นอยู่ ความชอบของแต่ละคนซึ่งคนเป็นส่วนใหญ่ ค่อนข้างใช้เป็นกฏเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกซื้อเป็นหลักอยู่แล้ว เรื่องขนาดก็ถือว่าสำคัญไม่แพ้กันเนื่องจากล้อแม็กวงโตๆ จะช่วยขับให้รถดูงดงามโดดเด่นขึ้นมาทันทีทันใด (หากเลือกสรรซื้อได้เหมาะสม) แต่ โปรดรับทราบว่าการใส่ล้อรถที่มีขนาดใหญ่กว่าพื้นๆจนเกินพอดีนั้น จะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี เริ่มจากช่วงล่าง หรือระบบกันสะเทือนของรถยนต์ ที่ต้องรับภาระหน้าที่มากกว่าทั่วๆ ไปกินกำลังของเครื่องยนต์จากความหนักเบาที่เพิ่มมากขึ้น และหน้าสัมผัสของยางที่โตขึ้น ซึ่งจะมีผลให้อัตราเร่ง และ ความเร็วสูงสุดของรถยนต์ลดลงไป ช่วง PCD หรือ "Pitch Circle Diameter" คือ ช่องว่างของรูน็อต ที่ตัวล้อแม็ก และดุมล้อต้องมีที่ว่างที่ทัดเทียม มีหน่วยวัดเป็นมิลลิเมตร โดยส่วนใหญ่ รถรุ่นใหม่ๆ ที่มีน็อตล้อรูปแบบ 4 รูจะมีช่วง PCD 100 มิลลิเมตร แต่ก็มีอีกมากมาย หลายรุ่นที่ใช้ค่า PCD ขนาดอื่นๆ เช่น 98, 108, 110, 114.3 ซึ่งต้องเลือกสรรดู ให้ดี พร้อมทั้งอีกค่าที่มีความสำคัญไม่ด้อยไปกว่ากันก็คือ "ค่าอ๊อฟเซ็ท" ซึ่งก็คือ ค่าที่บอกตำแหน่งของหน้าแปลนด้านในของล้อแม็ก ที่สัมผัสกับดุมล้อเมื่อเปรียบวัดกับตอนกลางของล้อแม็กในด้านข้าง มีหน่วยเป็น มิลลิเมตร เช่นกัน ดูไม่ซับซ้อน คือ ถ้าล้อแม็กมีค่าอ๊อฟเซ็ท เป็น บวก เมื่อใส่เข้าไปแล้วล้อนั้นจะยื่นออกมาต่ำกว่าล้อแม็กที่มีค่าอ๊อฟเซ็ทเป็นลบ ซึ่งตัวแปรอีกประเภทที่จะบอกว่าเมื่อใส่ล้อแม็กชุดนั้น เข้าไปแล้ว ล้อจะ "ล้นแผ่ออกมา" หรือจะ "ซุก" เข้าไปในอุโมงค์ล้อก็คือ ความกว้างของล้อแม็ก ซึ่งเวลาควักกระเป๋าก็ควรจะต้องทำการเทียบวัดให้ถูกใจเสียก่อน ตัดสินใจ สนใจสั่งซื้อล้อแม็กสวยๆได้ที่ http://goo.gl/4DmmY4 Tags : ยางรถ,วีลเสปค,ล้อแม็กซ์,michelin,bridgestone
|