หัวข้อ: โรคต่อททอนซิล มีวิธีรักษาด้วยสมุนไพรอย่างไร เเละสมุนไพรมีสรรพคุณ-ประโยชน์อย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: watamon ที่ พฤษภาคม 23, 2018, 06:26:59 pm (https://www.img.in.th/images/18ebf093f1ee5be4960161ac8ca50f42.jpg)
โรคต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) โรคต่อมทอนซิลอักเสบคืออะไร ต่อมทอนซิล เป็นอวัยวะที่อยู่ด้านในคอ ซึ่งคือต่อมคู่ซ้ายขวาใกล้กับโคนลิ้น โดยเป็นต่อมน้ำเหลืองที่ทำหน้าที่จับสิ่งแปลกปลอมจากอาหาร , น้ำกินและการหายใจ ตัวอย่างเช่น แบคทีเรียที่ไปสู่ร่างกายคล้ายกองทหารด่านหน้า รวมทั้งบ่อยมากที่ต่อมทอนซิลมักเกิดการอักเสบขึ้น ต่อมทอนซิลอักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis)หมายถึงโรคที่เกิดขึ้นจากการอักเสบติดโรคของต่อมทอนซิลซึ่งเป็นโรคมักพบโรคหนึ่ง เจอได้ในทุกอายุ แต่พบได้ทั่วไปกว่าในเด็ก และไม่ค่อยพบในคนแก่และคนชรา โอกาสกำเนิดโรคเท่ากันอีกทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ต่อมทอนซิลอักเสบพบได้ทั้งยังการอักเสบติดเชื้อโรคทันควันซึ่งเมื่อกำเนิดมักมีอาการร้ายแรงกว่า แต่ว่ารักษาหายได้ข้างใน 1 - 2 อาทิตย์ และก็อักเสบเรื้อรังที่มักจะเป็นๆหายๆอาการแต่ละครั้งร้ายแรงน้อยกว่าประเภทกะทันหัน แต่ว่ามีลักษณะอาการอักเสบฉับพลันซ้อนได้เป็นช่วงๆซึ่งนิยามของต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังดังเช่น มีต่อมต่อมทอนซิลอักเสบเกิดขึ้นขั้นต่ำ 7 ครั้งใน 1 ปีให้หลัง หรืออย่างต่ำ 5 ครั้งทุกปีต่อเนื่องกันใน 2 ปีที่ล่วงเลยไป หรือขั้นต่ำ 3 ครั้งทุกปีต่อเนื่องกันใน 3 ปีที่ล่วงเลยไป ทั้งโรคนี้เกิดได้จากหลายกรณี ดังเช่นมีต้นเหตุมาจากกรุ๊ปโรคติดเชื้อแล้วก็กลุ่มโรคไม่ติดเชื้อโรค ซึ่งในบทความนี้จะขอกล่าวถึงการอักเสบจากโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียซึ่งพบได้เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า “เบต้า-ฮีโมไลตำหนิกสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ” (Group A beta-hemolytic streptococcus) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สเตรปโตค็อกคัส ไพโอจีเนส” (Streptococcus pyogenes) ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้เจ็บป่วยมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงตามมาได้ ต้นเหตุของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การต่อว่าดเชื้อที่ต่อมทอนซิลจำนวนมากมีสาเหตุจากไวรัสหรือแบคทีเรียที่ผ่านเข้าทางปาก โดยต่อมทอนซิลจะช่วยคุ้มครองการติดเชื้อด้วยการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้กับเชื้อโรค และก็เพราะเป็นภูมิคุ้มกันด่านแรก ต่อมทอนซิลก็เลยเป็นอวัยวะที่เสี่ยงต่อการอักเสบรวมทั้งติดเชื้อโรคมาก โดยต่อมทอนซิลอักเสบโดยมาก เป็นการติดเชื้อเชื้อไวรัส ซึ่งพบได้สูงขึ้นยิ่งกว่าการตำหนิดเชื้ออื่นๆประมาณ 70 - 80% ของต่อมทอนซิลอักเสบทั้งปวง ซึ่งเชื้อไวรัสที่ก่อโรคต่อมทอนซิลอักเสบมีหลายชนิดตัวอย่างเช่น
ที่มาของต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่พบได้มากที่สุดเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการเชื้อสเต็ปโตคอคคัสกลุ่ม ที่ทำให้เกิดต่อมทอนซิลอักเสบแบบเป็นหนอง (exudative tonsil litis) ลักษณะของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ โดยธรรมดาโรคต่อมทอนซิลอักเสบมักกำเนิดร่วมกับการอักเสบติดโรคของลำคอเสมอ ลักษณะโรคต่อมทอนซิลอักเสบแยกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆเป็น
นอกจากนี้จะเจอผนังคอหอยแล้วก็เพดานอ่อน มีลักษณะแดงจัดแล้วก็บวม ต่อมทอนซิลบวมโตสีแดงจัด และก็มีแผ่นหรือจุดหนองสีขาวๆเหลืองๆติดอยู่บนทอนซิล นอกจากนั้น ยังบางทีอาจตรวจเจอต่อมน้ำเหลืองที่ใต้ขากรรไกรบวมโตแล้วก็เจ็บ กรรมวิธีการรักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การวินิจฉัยโรคทอนซิลอักเสบ แพทย์จะวิเคราะห์เบื้องต้นด้วยอาการแสดงรวมทั้งการตรวจลำคอโดยอาจใช้วิธีการตั้งแต่นี้ต่อไป
ถ้าเจอฝาผนังคอหอยรวมทั้งทอนซิลมีลักษณะแดงเพียงนิดหน่อยหรือไม่กระจ่าง ก็มักเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการตำหนิดเชื้อไวรัส ถ้าหากต่อมทอนซิลบวมโต แดงจัด และมีแผ่นหรือจุดหนองติดอยู่บนทอนซิล ก็ชอบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้ออนุภาคบีตาฮีโมโลว่ากล่าวกสเตรปโตค็อกคัส กรุ๊ปเอ ในรายที่ไม่มั่นใจแพทย์อาจจำต้องทำตรวจหาเชื้อจากบริเวณคอหอยและก็ต่อมทอนซิล โดยใช้วิธีที่เรียกว่า "rapid strep test" ที่สามารถรู้ผลได้ในไม่กี่นาที ถ้าหากผลของการตรวจไม่ชัดเจน ก็อาจจำเป็นต้องทำการเพาะเชื้อซึ่งจะทราบผลใน 1-2 วัน (https://www.img.in.th/images/50568bd58ab42b1ae224e404f52bf403.jpg) การดูแลรักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ หมอจะให้การรักษาตามต้นสายปลายเหตุที่พบ เป็น
ดังนี้การกินยาปฏิชีวนะจำเป็นที่จะต้องกินให้ครบตามคำแนะนำของหมอ เพื่อให้มั่นใจว่าแบคทีเรียถูกกำจัดจนหมด เพราะเหตุว่าเชื้อแบคทีเรียที่กำจัดไม่หมดอาจทำให้การติดเชื้อห่วยลงหรือแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย นอกนั้นในเด็กยังเสี่ยงเกิดภาวะสอดแทรก ดังเช่นว่า การติดเชื้ออย่างรุนแรงที่ไต และก็ไข้รูมาติกซึ่งเป็นการติดเชื้อโรคบริเวณลิ้นหัวใจร่วมกับมีไข้ตามมาได้ ยิ่งไปกว่านี้ยังมีวิธีการผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลออก (tonsillectomy) ซึ่งเป็นแนวทางรักษาทอนซิลอักเสบที่เป็นซ้ำบ่อย หรือต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หรือต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะแค่นั้น โดยดูได้จากลักษณะที่กำลังจะกล่าวต่อไปนี้
นอกเหนือจากนี้ แพทย์ยังอาจใช้การผ่าตัดทอนซิลในเรื่องที่ต่อมทอนซิลอักเสบทำให้มีการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ยากจะรักษาตามมา ดังเช่น
ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การบวมอักเสบของต่อมทอนซิลบ่อยมากหรือเรื้อรังบางทีอาจตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตัวอย่างเช่น เกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ หายใจติดขัด การตำหนิดเชื้อที่แพร่ลึกลงไปสู่เยื่อโดยรอบ ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่จะทำให้เกิดโรคต่างๆตามมา ดังเช่นว่า ในกลุ่มที่มีต้นเหตุมาจากเชื้อไวรัส ส่วนมากจะไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนผู้ที่ลักษณะของโรคร่วมกับป่วยหวัด ไข้หวัดใหญ่ ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อน ดังเช่นว่า ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ เป็นต้น รวมทั้งในกรุ๊ปที่เกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย อาจมีภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้
สำหรับไข้รูมาติก มีโอกาสเกิดขึ้นโดยประมาณปริมาณร้อยละ 0.3-3 ของคนที่ไม่ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้อง แต่ทั้งนี้การคุ้มครองป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถทำเป็นกล้วยๆด้วยการกินยาปฏิชีวนะให้ครบ 10 วัน (แม้ว่าอาการจะดีขึ้นกว่าเดิมหลังกินยาได้ 2-3 วันไปแล้วหลังจากนั้นก็ตาม) การติดต่อของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบติดต่อได้เหมือนกันกับในหวัดทั่วไปแล้วก็ในโรคไข้หวัดใหญ่เป็น เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของดรคอยู่ในน้ำลายแล้วก็เสลด (รวมถึงสารคัดเลือกหลั่งอื่นๆ) ของผู้ป่วย แล้วก็จะติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโรคดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจากผู้ป่วย จากการไอ จาม หายใจ หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งจากจมูกและโพรงปากเช่น น้ำมูก น้ำลายผู้เจ็บป่วย และจากใช้ของใช้ส่วนตัวที่สัมผัสสารคัดเลือกหลั่งดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ การบวมอักเสบของต่อมทอนซิลบ่อยครั้งหรือเรื้อรังบางทีอาจตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนอื่นๆยกตัวอย่างเช่น เกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ หายใจลำบาก การตำหนิดเชื้อที่แพร่ลึกลงไปสู่เนื้อเยื่อรอบๆ ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่จะก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมา อาทิเช่น ในกลุ่มที่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเชื้อไวรัส ส่วนใหญ่จะไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนคนที่อาการของโรคร่วมกับเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อน ดังเช่นว่า ภูมิแพ้ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ เป็นต้น แล้วก็ในกลุ่มที่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเชื้อแบคทีเรีย อาจมีภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้
สำหรับไข้รูมาติก ได้โอกาสเกิดขึ้นราวๆปริมาณร้อยละ 0.3-3 ของคนที่ไม่ได้รับการดูแลและรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างแม่นยำ แต่ว่าทั้งนี้การปกป้องคุ้มครองภาวะแทรกซ้อนรุนแรงดังที่กล่าวมาแล้วสามารถทำได้กล้วยๆด้วยการกินยาปฏิชีวนะให้ครบ 10 วัน (ถึงแม้ว่าอาการจะดีขึ้นข้างหลังรับประทานยาได้ 2-3 วันไปและจากนั้นก็ตาม) การติดต่อของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบติดต่อได้เช่นเดียวกับในโรคไข้หวัดทั่วไปและในไข้หวัดใหญ่คือ เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของดรคอยู่ในน้ำลายและเสลด (รวมถึงสารคัดหลั่งอื่นๆ) ของคนไข้ และจะติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโรคดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจากผู้เจ็บป่วย จากการไอ จาม หายใจ หรือการสัมผัสสารคัดเลือกหลั่งจากจมูกรวมทั้งโพรงปากได้แก่ น้ำมูก น้ำลายคนไข้ และก็จากใช้ของใช้ส่วนตัวที่สัมผัสสารคัดเลือกหลั่งดังกล่าวมาแล้วข้างต้น สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครองปกป้อง/รักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ฟ้าทะลายโจร ชื่อวิทยาศาสตร์ Andropraphis paniculata (Burm.f.) Wall. EX Nees ชื่อพ้อง Justicia paniculata Burm.f. ชื่อสกุล Acanthaceae คุณประโยชน์: ตำรายาไทย: มีการใช้ส่วนเหนือดินเก็บก่อนจะมีดอก เพื่อรักษาไข้ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ดับพิษร้อน หยุดอักเสบในอาการไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ขับเสมหะ ลดบวม แก้ติดเชื้อ รูปแบบแล้วก็ขนาดวิธีการใช้ยา:.ทุเลาลักษณะของการเจ็บคอ รับประทานทีละ 3-6 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังรับประทานอาหารแล้วก็ก่อนนอน ทุเลาอาการหวัด รับประทานครั้งละ 1.5-3 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังรับประทานอาหารและก่อนนอน องค์ประกอบทางเคมี: สารประเภทแลคโตน andrographolide,neoandrographolide,deoxyandrographolide, deoxy-didehydroandrographolide สารกรุ๊ปฟลาโอ้อวดน ยกตัวอย่างเช่น aroxylin, wagonin, andrographidine A จากการเรียนรู้คุณภาพของสารสกัดจากฟ้าทะลายโจรในคนป่วยระบบฟุตบาทหายใจส่วนบนไม่ร้ายแรง 223 คน แบ่งเป็นกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากฟ้าทะลายขโมย 200 มก.ต่อวัน และก็อีกกรุ๊ปกินยาหลอกเป็นระยะเวลา 5 วัน ซึ่งจะประเมินผลด้วยการประมาณอาการจากตัวผู้ป่วยไข้เองในด้านต่างๆอาทิเช่น อาการไอ เสมหะ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ มีไข้ เจ็บคอ อาการเมื่อยล้าง่าย และก็ปัญหาในการนอน ผลพบว่า ทั้ง 2 กลุ่มมีอาการดีตั้งแต่เริ่มจนถึงจบการทดลอง แต่ว่ากรุ๊ปที่กินสารสกัดจากฟ้าทะลายมิจฉาชีพได้ผลได้อย่างแจ่มแจ้งในช่วงวันที่ 3-5 มากกว่ากลุ่มที่กินยาหลอก แต่ ยังพบผลกระทบบางส่วนในทั้งยัง 2 กลุ่ม จากการทดลองก็เลยเชื่อว่าฟ้าทะลายมิจฉาชีพอาจช่วยรักษาหรือทุเลาอาการติดเชื้อในทางเดินหายใจตอนต้น โตงเตง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Physalis angulata L. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ : Physalis minima ชื่อสามัญ : Hogweed, Ground Cherry ชื่อสกุล : SOLANACEAE คุณประโยชน์โทงเทง : หนังสือเรียนยาไทย ผลรสเปรี้ยวเย็น แก้ต่อมน้ำลายอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้ฝีในคอ แก้อักเสบในคอ แก้ร้อนในอยากดื่มน้ำ ตำพอกแก้ปวดบวม ส่วนประโยชน์ที่สำคัญของโตงเตงที่ ใช้รักษาอาการทอนซิลอักเสบ โดยหมอท้องถิ่นนั้นจะใช้ทั้งต้นตำให้แหลกละลายกับเหล้า เอาสำลีชุบเอาน้ำยาใช้อมไว้ข้างแก้ม กลืนน้ำผ่านคอครั้งละนิด แก้ทอนซิลอักเสบ หรือที่เรียกว่าต่อมน้ำลายอักเสบ แก้ฝีในคอ ใช้แก้อาการอักเสบในคอก้าวหน้า หรือแพ้แอลกอฮอล์ก็ใช้ละลายกับน้ำส้มสายชูแทน ใช้ด้านในแก้ร้อนในกระหายน้ำ ใช้ข้างนอกแก้ฟกบวมอักเสบทำให้เย็น แล้วก็อีกหนังสือเรียนยาหนึ่งระบุว่าแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ ให้ใช้ต้นนี้ใหม่ๆ(หรืออย่างแห้งก็ใช้ได้) 3 หัว แผ่น ฝักชุบน้ำตาล 2 แผ่น ใส่น้ำ 1 ถ้วย ต้มให้เหลือครึ่งถ้วย รับประทานครั้งเดียวหมด เด็กก็กินลดลงตามส่วน จากการดูแลและรักษาคนเจ็บร้อยกว่าราย บางคนกิน 4-10 ครั้งก็หาย บางบุคคลรับประทานติดต่อกันถึง 2 เดือนก็เลยหาย ปลาไหลเผือก ชื่อวิทยาศาสตร์ : EURYCOMA LONGIFOLIA Jack. สกุล : SIMAROUBACEAE สรรพคุณทางยา : ราก ต้านทานโรคมะเร็ง รักษาโรคอัมพาต ช่วยขับถ่ายน้ำเหลือง ขับพยาธิ แก้ท้องผูก แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้อาการเจ็บคอ วิธีการใช้ตามตำราไทย : ต้านโรคมะเร็ง ช่วยขับถ่ายน้ำเหลือง ขับพยาธิ แก้ท้องผูก แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้อาการเจ็บคอ นำรากแห้งโดยประมาณ 8-15 กรัม นำมาต้มเอาน้ำดื่มก่อนกินอาหารทุกตอนเช้าและก็เย็น (2 เวลา) เอกสารอ้างอิง
Tags : โรคต่อมทอนซิลอักเสบ
|