หัวข้อ: บัวบกเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเเละประโยชน์สามารถรักษาโรคได้เป็นอย่างยอดเยี่ยมา เริ่มหัวข้อโดย: promiruntee ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 02:05:12 pm บัวบก
ชื่อสมุนไพร บัวบก ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ใบบัวบก (ภาคกลาง) ผักหนอก จำปาเครือ (ภาคเหนือ) ปะหะ เอขาเด๊าะ (กะเหรี่ยง) แว่นโคก (อีสาน) ผักแว่น (ภาคใต้) เดียกำเช่า ฮมคัก (จีน) ชื่อสามัญ Asiatic pennywort , Gotu kola , Indian pennywort , Woter pennywort ชื่อวิทยาศาสตร์ Centella asiatica (Linn.) Urban. วงศ์ UMBELLIFERAE (APIACEAE) บ้านเกิด บัวบกหรือใบบัวบก มีถิ่นกำเนิดเดิมในทวีปแอฟริกา ต่อมาจึงถูกนำเข้ามาปลูกลงในทวีปเอเชียที่ประเทศอินเดียและประเทศในแถบอเมริกาใต้ อเมริกากลาง รวมถึงประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และก็ทวีปเอเชียเหนือ ปัจจุบันนี้ บัวบกได้แพร่ไปทั่วทั้งโลก ทั้งยังในประเทศเขตร้อน และเขตอบอุ่น ซึ่งพบว่ามีการแพร่ไปในประเทศแถบอเมริกา ยุโรป แอฟริกา และก็บ่อยมาจนถึงทุกประเทศในทวีปเอเชีย ส่วนประเทศไทยพบบัวบกขึ้นในทุกภาคของประเทศ ดังนี้บัวบกได้ถูกประยุกต์ใช้เป็นสมุนไพรในวิถีชีวิตของคนประเทศไทยมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ซึ่งมีการกล่าวขานและบันทึกในแบบเรียนยาของไทยไว้หลายฉบับร่วมกัน นอกนั้นคนไทยยังมีการนำบัวบกมาใช้สำหรับการปรุงอาหารอีกทั้งคาวและหวานอีกด้วย ซึ่งสามารถสะท้องถึงความสนิทสนมของบัวบกกับแนวทางชีวิตของชาวไทยตั้งแต่อดีตกาลจนกระทั่งปัจจุบันนี้ได้เป็นอย่างดี ลักษณะทั่วไป บัวบก เป็นพืชล้มลุกอายุนับเป็นเวลาหลายปี มีลำต้นเป็นไหล(stolen) เลื้อยไปตามพื้นดินหรืออยู่ด้านล่างหน้าผิวดิน ไหลมีลักษณะทรงกลม ไหลอ่อนมีสีขาว ไหลแก่มีสีน้ำตาล ขนาดประมาณ 0.2-0.4 มม. ยาวได้มากกว่า 1 เมตร ไหลมีลักษณะเป็นข้อบ้อง รอบๆข้อเป็นจุดแทงออกของก้านใบ ส่วนข้างล่างของข้อมีรากกิ่งก้านสาขาแทงลึกลงดิน รวมทั้งแต่ละข้อแตกแขนงแยกไหลไปเรื่อยๆทำให้ต้นบัวบกขึ้นปกคลุมพื้นที่รอบๆได้อย่างครึ้มทึบ ใบบัวบกออกเป็นใบลำพัง รวมทั้งออกเป็นกระจุกปริมาณหลายใบรอบๆข้อ แต่ละข้อมีใบ 2-10 ใบ ใบมีก้านใบที่แทงตั้งตรงจากข้อ ก้านใบสูงโดยประมาณ 10-15 ซม. มีลักษณะทรงกลม สีเขียวอ่อน ถัดมาเป็นแผ่นใบที่เชื่อมติดกับก้านใบรอบๆกึ่งกลางของใบ ฐานใบโค้งเว้าเข้าพบกัน แผ่นใบมีรูปทรงกลมหรือมีรูปร่างเหมือนไต ขอบของใบหยัก เส้นผ่าศูนย์กลางราว 2-4 ซม. แผ่นใบด้านใบเรียบ สีเขียวสด แผ่นใบข้างล่างมีขนสั้นๆปกคลุม รวมทั้งมีสีเขียวจางกว่าด้านบน ขอบใบหยักเป็นคลื่น ดอกบัวบกออกเป็นช่อที่ซอกใบของข้อ ช่อดอกมีรูปทรงช่อคล้ายร่ม อาจมีช่อโดดเดี่ยวหรือมีประมาณ 2-5 ช่อ แต่ละช่อมีโดยประมาณ 3-4 ดอก มีก้านช่อดอกยาวทรงกลม ขนาดเล็ก ราว 0.5-5 ซม. ส่วนกลีบดอกไม้มีสีขาว ตรงกลางมีเกสรตัวผู้ขนาดสั้น ผลมีขนาดเล็ก มีลักษณะกลมแบน ยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร เปลือกเมล็ดแข็ง มีสีเขียวหรือม่วงน้ำตาล การขยายพันธุ์ การปลูกบัวบกแรกเริ่มใช้แนวทางปลูกด้วยเมล็ด โดยนำมาเพาะในกระบะ เมื่อต้นกล้าแข็งแรงดีแล้ว หรือมีอายุ 15-25 วัน จึงย้ายกล้าลงปลูกลงในแปลงแล้ว ทำการรักษา ใส่ปุ๋ย ให้น้ำ ต่อมาได้พัฒนาเป็นการปลูกให้มีความรวดเร็วเพิ่มขึ้น ลำต้นของบัวบกที่แตกจากต้นแม่ ซึ่งจะทำการขุดไหลหรือลำต้นนั้นให้ติดดิน แล้วต่อจากนั้นนำดินมาพอกที่รากให้เป็นก้อนแล้วเก็บพักเอาไว้ในที่ร่ม แล้วพรมน้ำนิดหน่อย ก็เลยเก็บไว้ขั้นต่ำ 1 วัน เพียงพอวันที่ 2 สามารถจะนำกิ่งก้านสาขานั้นไปปลูกได้เลย หรือถ้าหากไม่สบายที่จะเก็บพักไว้ก็สามารถจะขุดแขนงมาแล้วปลูกในทันทีเลยก็ได้ สำหรับวิธีการปลูกนั้นมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ การเตรียมดิน ควรไถยกร่องเพื่อตากดินแล้วทิ้งเอาไว้ราว 15 วัน โดยไถพรวนดินให้ร่วนซุยแล้วก็เลยขุดแต่งให้เป็นรูปแปลง ยกร่องเป็นแปลงปลูกกว้าง 3 เมตร ระหว่างแปลงปลูกจัดเป็นร่องน้ำหรือทางเท้ากว้าง 50 เซนติเมตร ลึก 15 เซนติเมตร เพื่อให้มีการระบายน้ำเสียได้ดิบได้ดี เมื่อทำแปลงเสร็จให้ใส่สารอินทรีย์หว่านลงบนแปลงให้ทั่ว แล้วรดน้ำให้เปียก การปลูก ขุดหลุมลึก 3-4 ซม. แล้วนำต้นกล้าบัวบก ปลูกหลุมละ 1 ต้น โดยให้ระยะห่างระหว่างต้นและก็ระยะระหว่างแถว 15 x 15 ซม. ซึ่งก็จะได้บัวบกปริมาณต้นต่อไร่ราวๆ 70000-72000 ต้น เมื่อปลูกเสร็จแล้วให้กระทำรดน้ำให้ชุ่ม การใส่ปุ๋ย ควรจะให้ปุ๋ยหนแรกหลังจากปลูก 15 – 20 วัน โดยให้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 อัตรา 5 กิโลต่อไร่ การใส่ปุ๋ยครั้งลำดับที่สองจะห่างจากการใส่คราวแรก 15 – 20 วันโดยเปลี่ยนเป็นให้ปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 3 โลต่อไร่ การใส่ปุ๋ยครั้งที่สามจะห่างจาการใส่ครั้งสอง 15 – 20 วัน โดยเปลี่ยนเป็นใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ในอัตรา 50 กิโล/ไร่ ครั้งใดก็ตามมีการให้ปุ๋ยเสร็จแล้วจะต้องรดน้ำให้ชุ่ม การให้น้ำ สามารถให้น้ำได้ 2 แนวทางเป็น ระบบไม่นิสปริงเกอร์ ซึ่งเปิดให้น้ำรุ่งเช้าแล้วก็เย็น ช่วงละ 10-15 นาที แม้คือการใช้สายยางเดินฉีดน้ำให้รดจนกระทั่งจะเปียกแฉะเพราะใบบัวบกจะเติบโตก้าวหน้าเมื่อได้รับความชุ่มชื้นที่เหมาะสม ค่าทางโภชนาการใบบัวบก (ใบสด 100 กรัม) น้ำ 86 กรัม พลังงาน 54 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 1.8 กรัม ไขมัน 0.9 กรัม คาร์โบไฮเดรต 9.6 กรัม ใยอาหาร 2.6 กรัม เถ้า 1.7 กรัม แคลเซียม 146 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 30 มก. เหล็ก 3.9 มก. แอสคอบิด (วิตามิน C) 15 มิลลิกรัม ไทอะมีน (วิตามิน B1) 0.24 มก. ไรโบฟลาวิน (วิตามิน B2) 0.09 มก. ไนอะซีน (วืตามิน B3) 0.8 มก. เบต้า แคโรทีน 2,428 ไมโครกรัม วิตามิน A 405 ไมโครกรัม คุณประโยชน์ / คุณประโยชน์ คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากบัวบกที่เราพบเห็นจนคุ้นหน้าก็คือ การนำใบของบัวบกมาทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรหรือนำมาทำเป็นชาชงรวมถึง การนำใบรวมทั้งเถาบัวบกมารับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ลาบ ก้อย แกงเผ็ด ยำใบบัวบก ซุปหน่อไม้ เป็นต้น แต่ว่าในขณะนี้มีการนำของใหม่ใหม่ๆมาดัดแปลงให้บัวบก เป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆอีกเยอะมาก อาทิเช่น มีการทำสารสกัดจากใบบัวบกเพื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำหรับการผลิตเครื่องสำอาง ใช้ทำเป็นสิ่งของปิดแผล รวมถึงนำมาสร้างเป็นสบู่ใบบัวบก ซึ่งผู้ผลิตบอกว่าช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างขาวใส ผิวหน้าเต่งตึงได้ ทั้งยังมีการนำมาผลิตเป็นแคปซูลวางขาย ซึ่งเจาะจงถึงสรรพคุณว่าในการช่วยบำรุงสมองเป็นหลัก (Brain tonic) ส่วนคุณประโยชน์ทางยาของบัวบกนั้นมีดังนี้ คุณประโยชน์ตามตำรายาไทยใช้บัวบกแก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้ช้ำใน ใช้เป็นยาข้างนอกรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็ว เป็นยาบำรุงแล้วก็ยาอายุวัฒนะ ช่วยสร้างเสริมความจำ บรรเทาลักษณะของการปวดหัว แก้อาการมึนศีรษะ ช่วยบำรุงรักษาหัวใจ ชูกำลัง บรรเทาลักษณะของการปวดตามข้อ ตามกล้ามเนื้อ แก้ท้องผูก กระตุ้นระบบขับถ่าย แก้อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย แก้โรคซาง แก้โรคดีซ่านในเด็ก ช่วยบำรุงตับ และไต แก้โรคตับอักเสบ ช่วยบำรุงรักษาสายตา แก้ตามัวมัว เป็นยาขับเลือดเสีย แก้หิวน้ำ บรรเทาอาการไอ ลักษณะการเจ็บคอ แก้ลักษณะการเจ็บคอ รักษาโรคหลอดลมอักเสบ รักษาอาการหืดหอบ แก้โรคลมชัก ช่วยทุเลาอาการปวดฟัน รักษาโรคปากเปื่อย ช่วยขับปัสสาวะ แก้โรคนิ่วในระบบทางเท้าเยี่ยว ช่วยรักษาแผลในกระเพาะ ช่วยขับรอบเดือน กระตุ้นเมนส์ให้มาปกติ แล้วก็แก้ลักษณะของการปวดระดู รักษาฝี ช่วยให้ฝียุบ ส่วนทางการแพทย์แผนปัจจุบันบอกว่า ข้อมูลจากการค้นคว้าวิจัยในคนพบว่าบัวบกมีฤทธิ์รักษาความเปลี่ยนไปจากปกติของหลอดโลหิตดำ ช่วยทำให้ความวิตกกังวลลดลง รักษาแผลที่ผิวหนัง และก็รักษาแผลในทางเดินอาหาร ช่วยสร้างเสริมแล้วก็กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและก็อีลาสติน มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านทานการเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย ช่วยบำรุงประสาทและก็สมองราวกับใบแปะก๊วย ช่วยเสริมลักษณะการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ จึงช่วยผ่อนคลายและทำให้หลับง่ายขึ้น ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ใบบัวบกมีสารยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์ของโรคมะเร็ง แบบอย่าง/ขนาดการใช้ แก้ไข้ แก้ร้อนใน ช้ำใน ชนิดแคปซูล (โรงพยาบาล), จำพวกชง(โรงพยาบาล) จำพวกชง กินทีละ 2 – 4 กรัม ชงน้ำร้อนโดยประมาณ 120 – 200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร ชนิดแคปซูล กินครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง หลังรับประทานอาหาร ใช้บัวบกรักษาแมลงกัดต่อย และรักษาแผล ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ให้ใช้ใบขยี้ทาแก้แมลงกัดต่อย หรือใช้ส่วนใบสด พอกที่แผลสด วันละ 2 ครั้ง ยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ครีมใบบัวบก ชำระล้างแผลด้วยยาฆ่าเชื้อก่อนทาครีมที่มีสารสกัดจากบัวบกสดร้อยละ 7 โดยน้ำหนัก ทาบริเวณที่เป็นแผลวันละ 1 – 3 ครั้ง หรือตามแพทย์สั่ง แม้ใช้แล้วไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ ให้หยุดใช้ ควรที่จะเก็บครีมใบบัวบกในที่เย็น อุณหภูมิไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส แก้อาการปัสสาวะขัดข้อง ด้วยการใช้ใบบัวบกโดยประมาณ 50 กรัม เอามาตำแล้วพอกรอบๆสะดือ เมื่อปัสสาวะคล่องแคล่วก็ดีแล้วค่อยเอาออก ใช้เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 20 ใบเอามาล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด แก้อาการฟกช้ำ ด้วยการใช้ใบบัวบกมาทุบให้แหลกแล้วเอามาโปะบริเวณที่ฟกช้ำดำเขียว หรือจะใช้ใบบัวบกประมาณ 40 กรัม ต้มกับเหล้าแดงราว 250 cc. ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วเอามาดื่ม การศึกษาทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดเอทานอล (2-4) และก็สารสกัดด้วยน้ำร้อน จากส่วนเหนือดิน มีฤทธิ์ยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus (2-5), b-Streptococcus group A แล้วก็ Pseudomonas aeruginosa สารสกัดเฮกเซน สารสกัดไดคลอโรมีเทน สารสกัดเอทิลอะซีเตท สารสกัดอีเทอร์ และสารสกัดเมทานอลจากใบ มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ S. aureus แต่ว่าไม่มีผลต่อเชื้อ P. aeruginosa สารสกัดจากส่วนราก ใบและส่วนเหนือดิน รวมถึงน้ำมันหอมระเหยจากบัวบก มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียหลายอย่าง อาทิเช่น Bacillus subtilis, Escherichia coli, Proteus vulgaris แล้วก็ Pseudomonas cichorii มีกล่าวว่าอนุพันธ์บางประเภทของ asiaticoside สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อวัณโรคในหลอดทดสอบ และลดร่องรอยโรคที่เกิดขึ้นจากเชื้อวัณโรคในตับ ปอด ปมประสาทของหนูตะเภาที่ทำให้เป็นวัณโรคได้ ฤทธิ์ลดการอักเสบ สารสกัดเอทานอลจากใบมีฤทธิ์ลดการอักเสบอย่างอ่อนในหนูขาว โดยไปยับยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase-1 ซึ่งเกี่ยวกับการสังเคราะห์ prostraglandin สาร saponin ขนาด 1 ไมโครโมล จะลดการอักเสบแล้วก็อาการบวมในหนูถีบจักรที่ถูกรั้งนำให้กำเนิดอาการบวมที่หูด้วย croton oil ขี้ผึ้ง Madecassol ซึ่งมีสาร asiatic acid, madecassic acid และ asiaticoside สามารถลดการอักเสบ เมื่อใช้ทาที่ผิวหนังหนูซึ่งมีการอักเสบจากการฉายรังสี ผงแห้งจากส่วนเหนือดินของบัวบก ให้ผู้รับประทาน สามารถลดอาการอักเสบได้ ฤทธิ์รักษาแผลสารสกัด 95% เอทานอลจากใบ ขนาด 1 มิลลิลิตร/กิโลกรัม พบว่ามีผลเพิ่มการเติบโตของเซลล์เยื่อบุผิว เพิ่มการผลิตคอลลาเจน เมื่อให้ทางปากรวมทั้งทาที่แผลของหนูขาว สารสกัดจากบัวบก (titrated extract) ซึ่งมีสาร asiatic acid, made cassic acid และก็ asiaticoside มีฤทธิ์รักษาแผลในหนูขาว โดยจะรีบการสร้าง connective tissue เพิ่มปริมาณคอลลาเจน และจากนั้นก็กรด uronic เมื่อนำสารสกัดมาใช้ทาภายนอกเพื่อรักษาแผลในหนูขาว พบว่าทำให้แผลหายเร็วขึ้น โดยทำให้มีการกระจายตัวของโรคหนองในรอยแผล และก็แผลมีขนาดเล็กลง แต่ถ้าหากใช้รับประทานจะไม่ได้เรื่อง เวลาที่รายงานบางฉบับพบว่า เมื่อให้หนูขาวกินสารสกัดในขนาดวันละ 100 มก./กก. มีผลสำหรับเพื่อการรักษาแผลโดยทำให้การสร้างหนังกำพร้าเร็วขึ้น และจากนั้นก็บาดแผลมีขนาดเล็กลง ครีม ขี้ผึ้งและเจลที่มีสารสกัดน้ำจากบัวบก 5% เมื่อใช้ทาที่แผลของหนูขาว 3 ครั้ง/วัน นาน 24 วัน พบว่าส่งผลเพิ่มการเติบโตของเยื่อบุผิว เพิ่มการผลิตคอลลาเจนรวมทั้งเพิ่ม tensile strength ซึ่งสูตรที่อยู่ในรูปเจลจะได้ผลดีกว่าขี้ผึ้งรวมทั้งครีม สาร asiaticoside มีฤทธิ์สมานแผล รีบการหายของแผลเมื่อทดลองในหนูขาว หนูถีบจักร และในคน เมื่อให้สาร asiaticoside ขนาด 1 มก./กก. ทางปากแก่หนูตะเภาและก็ใช้ทาที่ผิวหนังในหนูตะเภาธรรมดาแล้วหลังจากนั้นก็หนูขาวที่เป็นเบาหวานซึ่งแผลหายช้า ที่ความเข้มข้น 0.2% รวมทั้ง 0.4% เป็นลำดับ พบว่ามีผลเพิ่ม tensile strength เพิ่มปริมาณของคอลลาเจน และก็ลดขนาดของแผล tincture ที่มี asiaticoside เป็นส่วนประกอบ 89.5% จะรีบการหายของแผล เมื่อใช้ทาที่แผลของหนูตะเภา ในการทดลองในคน มีกล่าวว่าครีมที่มีสารสกัดอัลกอฮอล์จากบัวบกเป็นองค์ประกอบ 0.25-1% สามารถช่วยรักษาแล้วก็สร้างผิวหนังในคนวัยแก่ ครีมที่มีสารสกัดจากบัวบก 1% สามารถรักษาแผลอักเสบแล้วก็แผลแยกข้างหลังผ่าตัดในคนไข้จำนวน 14 ราย ภายใน 2-8 อาทิตย์ โดยพบว่าได้ผลลัพธ์ที่ดี 28.6% ผลปานกลาง 28.6% และผลปานกลาง 35.7% ไม่เป็นผล 1 ราย และรักษาแผลเรื้อรังที่เกิดขึ้นมาจากอุบัติเหตุ ในผู้ป่วยจำนวน 22 ราย ข้างใน 224 ชั่วโมง พบว่าขนาดของแผลจะลดน้อยลง มีแผลหายสนิท 17 ราย ยังไม่หายสนิท 5 ราย tincture ที่อยู่ในรูป aerosol ซึ่งมี asiaticoside 89.5% เมื่อใช้ฉีดที่แผลของคนเจ็บซึ่งเป็นแผลจำพวกต่างๆจำนวน 20 ราย พบว่าสามารถรักษาแผลหายได้ 16 ราย (64%) รวมทั้งทำให้อาการ 4 ราย (16%) โดยมีลักษณะข้างๆเป็น การไหม้ของผิวหนัง (burning sensation) เมื่อให้ผู้ป่วยที่เป็น post-phlebitic syndrome รับประทานสารสกัด triterpenoid ในขนาด 90 มก./วัน นาน 3 อาทิตย์ พบว่าจะลดการเพิ่มปริมาณของ circulating endothelial cell ฤทธิ์แก้ปวดสารสกัด 60% เอทานอลจากใบ ขนาด 20 มิลลิกรัม/กิโล และสารสกัด 95% เอทานอลจากทั้งยังต้น ขนาด 100 มิลลิกรัม/กก. มีฤทธิ์แก้ปวดในหนูขาวและหนูถีบจักร แต่ว่าสารสกัด 50% เอทานอลจากต้นในขนาด 125 มก./กิโลกรัม ไม่มีฤทธิ์แก้ปวด เมื่อฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร ฤทธิ์ลดไข้ สารสกัด 95% เอทานอลสามารถลดไข้ได้ 1.20F เมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องของหนูขาว แต่ว่าถ้าหากฉีดสารสกัด 50% เอทานอล ขนาด 125 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เข้าช่องท้องหนูถีบจักรจะไม่เป็นผล สารสกัดเมทานอลจากส่วนเหนือดินแล้วก็ใบ ขนาด 2 กรัม/โล ไม่มีฤทธิ์ลดอุณหภูมิของร่างกาย เมื่อทดลองในหนูถีบจักร ฤทธิ์ต้านฮีสตามีนสารสกัดใบบัวบกด้วยแอลกอฮอล์ผสมน้ำในอัตราส่วน 1:1 ใช้ทาด้านนอกจะสามารถลดการแพ้ได้ และก็ช่วยทุเลาลักษณะการเจ็บปวด หรืออักเสบเนื่องจากแมลงกัดต่อย ฤทธิ์ขัดขวางเชื้อราสารสกัดเอทานอลจากทั้งต้น มีผลยับยั้งเชื้อราที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดโรคกลาก อาทิเช่น Trichophyton mentagrophytes และก็ T. rubrum ในเวลาที่สารสกัดด้วยน้ำร้อน ไม่พบว่าส่งผลต้านเชื้อราทั้งยัง 2 ชนิดนี้ ส่วนน้ำมันหอมระเหยจะมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อรา Aspergillus niger, Rhizopus oryzae, Fusarium solani, Candida albicans รวมทั้ง Colletotrichum musae รักษาแผลในกระเพาะจากการทดสอบในหนูแรทพบว่า สารสกัดด้วยเอทานอล แล้วก็สารสกัดด้วยน้ำจากต้นและก็จากใบ มีฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะในหนูที่ถูกรั้งนำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารด้วยความตึงเครียดแล้วก็กรดเกลือในเอทานอล โดยจะลดขนาดของแผล เพิ่มจำนวนของหลอดเลือดขนาดเล็กในเยื่อ เพิ่มจำนวนแล้วก็การกระจายของเซลล์ที่รอบๆแผล ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองในคนที่รับประทานสารสกัดจากบัวบก (Madecassol) พบว่าช่วยรักษาแผลในกระเพาะแล้วก็ไส้ได้ การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา การทดสอบความเป็นพิษ ไม่เจอความเป็นพิษของสารสกัดด้วย 50% เอทานอล เมื่อฉีดเข้าทางท้องของหนูถีบจักร ขนาด 250 มิลลิกรัม/กก. แล้วก็ฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือให้ทางปากของหนูขาว ขนาด 10 ก./กก. สารสกัด 70% เอทานอลมีค่า LD50 เท่ากับ 675 มก./กก. ในหนูขาวเพศผู้ (ไม่เจาะจงกรรมวิธีการให้) แม้กระนั้นมีรายงานการแพ้รวมทั้งอักเสบต่อผิวหนังในคน เมื่อใช้ผงแห้ง สารสกัดที่มีกลัยโคไซด์จากบัวบกร้อยละ 2 สารสกัดด้วยน้ำ สารสกัดจากทั้งยังต้นในความเข้มข้นร้อยละ 2 และก็สารสกัด Madecassol ที่ประกอบด้วย asiatic acid, madecassic acid รวมทั้ง asiaticoside ทาข้างนอก พิษต่อเซลล์ น้ำคั้นจากบัวบกเป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัด 50% เอทานอลเป็นพิษต่อเซลล์ 9KB สารสกัดเมทานอลและสารสกัดอะซีโตน มีความเป็นพิษต่อเซลล์ CA-Ehrich, Dalton’s lymphoma รวมทั้ง L929 แต่ว่าไม่เป็นพิษต่อเซลล์ human lymphocyte สารไทรเทอร์ปีนป่ายส์จากทั้งต้น มีความเป็นพิษต่อเซลล์ fibroblast ของคน ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์สารสกัดอัลกอฮอล์มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ในแบบที่อยากโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีจากตับกระตุ้นการออกฤทธิ์ต่อเชื้อ Salmonella typhimurium TA98, TA100 โดยมีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์แบบ frameshift แค่นั้น ไม่พบแบบ base-pair substitution สารสกัดน้ำจากส่วนเหนือดิน ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ต่อเชื้อ S. typhimurium TA98, TA100 พิษต่อระบบแพร่พันธุ์ น้ำคั้นจากต้น ขนาด 0.5 มล. มีผลคุมกำเนิดในหนูถีบจักร 55.60% สารสกัดจากบัวบกขนาด 0.2 มิลลิลิตร ฉีดเข้าใต้ผิวหนังของหนูถีบจักร พบว่าไม่เป็นผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อน สาร saponin จากต้น ขนาด 2% ไม่มีผลฆ่าเชื้อน้ำเชื้อของคน ทำให้เกิดอาการแพ้ สารสกัด 30% อีเทอร์ กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการระคายเคืองอย่างอ่อนต่อผิวหนังหนูตะเภา ในคนมีรายงานการแพ้และอักเสบต่อผิวหนัง เมื่อใช้ผงแห้ง สารสกัดกลัยวัวไซด์ 2% สารสกัดน้ำ สารสกัดจากทั้งต้น 2% (ไม่ระบุประเภทสารสกัด) รวมทั้งสารสกัด Madecassol ที่ประกอบด้วย asiatic acid, madecassic acid รวมทั้ง asiaticoside oinment ที่มีบัวบกเป็นส่วนประกอบ 1% นำมาซึ่ง acute erythemato-bullous การระคายเคืองต่อผิวหนังกำเนิดได้ทั้งยังการใช้พืชสดหรือแห้ง อาการระคายเคืองต่อผิวหนังของบัวบกมีผลค่อนข้างจะต่ำ ข้อเสนอ / ข้อควรตรึกตรอง
|