|
หัวข้อ: บัวบกเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเเละประโยชน์สามารถรักษาโรคได้เป็นอย่างยอดเยี่ยมา เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ มิถุนายน 01, 2018, 09:47:02 am บัวบก
ชื่อสมุนไพร บัวบก ชื่ออื่นๆ/ชื่อเขตแดน ใบบัวบก (ภาคกึ่งกลาง) ผักหนอก จำปาเครือ (ภาคเหนือ) ปะหะ เอขาเด๊าะ (กะเหรี่ยง) แว่นโคก (อีสาน) ผักแว่น (ภาคใต้) เดียกำเช่า ฮมคัก (จีน) ชื่อสามัญ Asiatic pennywort , Gotu kola , Indian pennywort , Woter pennywort ชื่อวิทยาศาสตร์ Centella asiatica (Linn.) Urban. วงศ์ UMBELLIFERAE (APIACEAE) บ้านเกิด บัวบกหรือใบบัวบก มีถิ่นเกิดเดิมในทวีปแอฟริกา ต่อมาก็เลยถูกนำเข้ามาปลูกเอาไว้ในทวีปเอเชียที่ประเทศอินเดียและก็ประเทศในแถบอเมริกาใต้ อเมริกากึ่งกลาง รวมทั้งประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งทวีปเอเชียเหนือ ตอนนี้ บัวบกได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ในประเทศเขตร้อน และเขตอบอุ่น ซึ่งพบว่ามีการแพร่ไปในประเทศแถบอเมริกา ยุโรป แอฟริกา และก็เรื่อยๆมาจนถึงทุกประเทศในเอเชีย ส่วนประเทศไทยเจอบัวบกขึ้นในทุกภาคของประเทศ ทั้งนี้บัวบกได้ถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรในวิถีชีวิตของชาวไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ซึ่งมีการกล่าวขานและก็บันทึกในหนังสือเรียนยาของไทยไว้หลายฉบับด้วยกัน ยิ่งกว่านั้นชาวไทยยังมีการนำบัวบกมาใช้เพื่อการประกอบอาหารอีกทั้งคาวแล้วก็หวานอีกด้วย ที่สามารถสะท้องถึงความใกล้ชิดของบัวบกกับแนวทางชีวิตของคนไทยตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ลักษณะทั่วไป บัวบก เป็นไม้ล้มลุกอายุยาวนานหลายปี มีลำต้นเป็นไหล(stolen) เลื้อยไปตามพื้นดินหรืออยู่ด้านล่างหน้าผิวดิน ไหลมีลักษณะทรงกลม ไหลอ่อนมีสีขาว ไหลแก่มีสีน้ำตาล ขนาดราว 0.2-0.4 มิลลิเมตร ยาวได้มากกว่า 1 เมตร ไหลมีลักษณะเป็นข้อข้อ บริเวณข้อเป็นจุดแทงออกของก้านใบ ส่วนด้านล่างของข้อมีรากกิ้งก้านแทงลึกลงดิน รวมทั้งแต่ละข้อแตกกิ่งก้านสาขาแยกไหลไปเรื่อยทำให้ต้นบัวบกขึ้นปกคลุมพื้นที่โดยรอบได้อย่างครึ้มทึบ ใบบัวบกออกเป็นใบเดี่ยว และออกเป็นกระจุกจำนวนหลายใบบริเวณข้อ แต่ละข้อมีใบ 2-10 ใบ ใบมีก้านใบที่แทงตั้งตรงจากข้อ ก้านใบสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร มีลักษณะทรงกลม สีเขียวอ่อน ต่อมาเป็นแผ่นใบที่เชื่อมใกล้กับก้านใบบริเวณกึ่งกลางของใบ ฐานใบโค้งเว้าเข้าพบกัน แผ่นใบมีทรงกลมหรือมีรูปร่างคล้ายไต ขอบใบหยัก เส้นผ่านศูนย์กลางโดยประมาณ 2-4 ซม. แผ่นใบด้านใบเรียบ สีเขียวสด แผ่นใบข้างล่างมีขนสั้นๆปกคลุม แล้วก็มีสีเขียวจางกว่าข้างบน ขอบใบหยักเป็นคลื่น ดอกบัวบกออกเป็นช่อที่ซอกใบของข้อ ช่อดอกมีทรงช่อคล้ายร่ม อาจมีช่อผู้เดียวหรือมีโดยประมาณ 2-5 ช่อ แต่ละช่อมีราว 3-4 ดอก มีก้านช่อดอกยาวทรงกลม ขนาดเล็ก ราวๆ 0.5-5 เซนติเมตร ส่วนกลีบมีสีขาว กึ่งกลางมีเกสรตัวผู้ขนาดสั้น ผลมีขนาดเล็ก มีลักษณะกลมแบน ยาวโดยประมาณ 3 มม. เปลือกเมล็ดแข็ง มีสีเขียวหรือม่วงน้ำตาล การขยายพันธุ์ การปลูกบัวบกตอนแรกใช้วิธีปลูกด้วยเมล็ด โดยเอามาเพาะในกระบะ เมื่อต้นกล้าแข็งแรงก็ดีแล้ว หรือแก่ 15-25 วัน ก็เลยย้ายกล้าลงปลูกลงในแปลงแล้ว กระทำรักษา ใส่ปุ๋ย ให้น้ำ ต่อมาได้พัฒนาเป็นการปลูกให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ลำต้นของบัวบกที่แตกจากต้นแม่ ซึ่งจะกระทำการขุดไหลหรือลำต้นนั้นให้ติดดิน จากนั้นนำดินมาพอกที่รากให้เป็นก้อนแล้วเก็บพักไว้ในที่ร่ม แล้วประพรมน้ำน้อย จึงเก็บไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง พอวันที่ 2 สามารถจะนำกิ่งก้านสาขานั้นไปปลูกได้เลย หรือหากไม่สบายที่จะเก็บพักไว้ก็สามารถจะขุดกิ้งก้านมาแล้วปลูกในทันทีเลยก็ได้ สำหรับแนวทางการปลูกนั้นมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ การเตรียมดิน ควรจะไถยกร่องเพื่อตากดินแล้วทิ้งไว้ราว 15 วัน โดยไถพรวนดินให้ร่วนซุยแล้วก็เลยขุดแต่งให้เป็นรูปแปลง ชูร่องเป็นแปลงปลูกกว้าง 3 เมตร ระหว่างแปลงปลูกจัดเป็นร่องน้ำหรือฟุตบาทกว้าง 50 เซนติเมตร ลึก 15 ซม. เพื่อมีการระบายน้ำทิ้งได้ดี เมื่อทำแปลงเสร็จให้ใส่อินทรียวัตถุหว่านลงบนแปลงให้ทั่ว แล้วรดน้ำให้เปียก การปลูก ขุดหลุมลึก 3-4 เซนติเมตร แล้วนำต้นกล้าบัวบก ปลูกหลุมละ 1 ต้น โดยให้ระยะห่างระหว่างต้นรวมทั้งระยะระหว่างแถว 15 x 15 เซนติเมตร ซึ่งก็จะได้บัวบกปริมาณต้นต่อไร่โดยประมาณ 70000-72000 ต้น เมื่อปลูกเสร็จแล้วให้ทำการรดน้ำให้เปียกแฉะ การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคราวแรกภายหลังปลูก 15 – 20 วัน โดยให้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 อัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ปุ๋ยครั้งลำดับที่สองจะห่างจากการใส่คราวแรก 15 – 20 วันโดยกลายเป็นให้ปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 3 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ปุ๋ยครั้งลำดับที่สามจะห่างจาการใส่ครั้งสอง 15 – 20 วัน โดยเปลี่ยนเป็นให้ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ในอัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่ ทุกครั้งที่มีการใส่ปุ๋ยเสร็จแล้วต้องรดน้ำให้ชุ่ม การให้น้ำ สามารถให้น้ำได้ 2 วิธีคือ ระบบไม่นิสปริงเกอร์ ซึ่งเปิดให้น้ำเช้าตรู่และก็เย็น ช่วงละ 10-15 นาที แม้คือการใช้สายยางเดินฉีดน้ำให้รดจนกระทั่งจะเปียกด้วยเหตุว่าใบบัวบกจะเจริญวัยก้าวหน้าเมื่อได้รับความชื้นที่สมควร ค่าทางโภชนาการใบบัวบก (ใบสด 100 กรัม) น้ำ 86 กรัม พลังงาน 54 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 1.8 กรัม ไขมัน 0.9 กรัม คาร์โบไฮเดรต 9.6 กรัม ใยอาหาร 2.6 กรัม เถ้า 1.7 กรัม แคลเซียม 146 มก. ฟอสฟอรัส 30 มิลลิกรัม เหล็ก 3.9 มิลลิกรัม แอสคอบิด (วิตามิน C) 15 มิลลิกรัม ไทอะมีน (วิตามิน B1) 0.24 มก. ไรโบฟลาวิน (วิตามิน B2) 0.09 มิลลิกรัม ไนอะซีน (วืตามิน B3) 0.8 มก. เบต้า แคโรทีน 2,428 ไมโครกรัม วิตามิน A 405 ไมโครกรัม คุณประโยชน์ / คุณประโยชน์ คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากบัวบกที่เราพบเจอกระทั่งคุ้นหน้าก็คือ การนำใบของบัวบกมาทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรหรือนำมาทำเป็นชาชงรวมไปถึง การนำใบและก็เถาบัวบกมารับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ลาบ ก้อย แกงเผ็ด ยำใบบัวบก ซุปหน่อไม้ ฯลฯ แต่ในขณะนี้มีการนำสิ่งใหม่ใหม่ๆมาแปรรูปให้บัวบก เป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆอีกเยอะมาก อาทิเช่น มีการทำสารสกัดจากใบบัวบกเพื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำหรับในการผลิตเครื่องสำอาง ใช้ทำเป็นวัสดุปิดแผล รวมทั้งเอามาผลิตเป็นสบู่ใบบัวบก ซึ่งผู้ผลิตบอกว่าช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างขาวใส ผิวหน้าเต่งตึงได้ อีกทั้งยังมีการนำมาสร้างเป็นแคปซูลวางจำหน่าย ซึ่งเจาะจงถึงคุณประโยชน์ว่าสำหรับการช่วยบำรุงรักษาสมองเป็นหลัก (Brain tonic) ส่วนสรรพคุณทางยาของบัวบกนั้นมีดังนี้ คุณประโยชน์ตามตำรายาไทยใช้บัวบกแก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้บอบช้ำใน ใช้เป็นยาข้างนอกรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็ว เป็นยาบำรุงรวมทั้งยาอายุวัฒนะ ช่วยเสริมสร้างความจำ บรรเทาลักษณะของการปวดศีรษะ แก้อาการมึนศีรษะ ช่วยทำนุบำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง ทุเลาลักษณะของการปวดตามข้อ ตามกล้ามเนื้อ แก้ท้องผูก กระตุ้นระบบขับถ่าย แก้อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย แก้โรคซาง แก้โรคดีซ่านในเด็ก ช่วยบำรุงตับ และก็ไต แก้โรคตับอักเสบ ช่วยทำนุบำรุงสายตา แก้ตามัวมัว เป็นยาขับเลือดเสีย แก้หิวน้ำ บรรเทาอาการไอ ลักษณะการเจ็บคอ แก้ลักษณะการเจ็บคอ รักษาโรคหลอดลมอักเสบ รักษาอาการหืดหอบ แก้โรคลมชัก ช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดฟัน รักษาโรคปากเปื่อย ช่วยขับฉี่ แก้โรคนิ่วในระบบฟุตบาทฉี่ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยขับระดู กระตุ้นรอบเดือนให้มาปกติ รวมทั้งแก้อาการปวดเมนส์ รักษาฝี ช่วยให้ฝียุบ ส่วนทางด้านการแพทย์แผนปัจจุบันบอกว่า ข้อมูลที่ได้รับมาจากการศึกษาเรียนรู้ในคนพบว่าบัวบกมีฤทธิ์รักษาความเปลี่ยนไปจากปกติของหลอดโลหิตดำ ช่วยให้คลายความกังวลใจ รักษาแผลที่ผิวหนัง และรักษาแผลในทางเดินของกิน ช่วยเสริมสร้างรวมทั้งกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและก็อีลาสติน มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านทานการเสื่อมของเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย ช่วยทำนุบำรุงประสาทรวมทั้งสมองเสมือนใบแปะก๊วย ช่วยเสริมหลักการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ จึงช่วยผ่อนคลายรวมทั้งทำให้หลับง่ายมากยิ่งขึ้น ช่วยกระตุ้นการผลิตเยื่อใหม่ ใบบัวบกมีสารยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์ของมะเร็ง แบบอย่าง/ขนาดวิธีการใช้ แก้ไข้ แก้ร้อนใน บอบช้ำใน จำพวกแคปซูล (รพ.), จำพวกชง(โรงพยาบาล) จำพวกชง กินทีละ 2 – 4 กรัม ชงน้ำร้อนราวๆ 120 – 200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร จำพวกแคปซูล กินครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง หลังรับประทานอาหาร ใช้บัวบกรักษาแมลงกัดต่อย แล้วก็รักษาแผล ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ให้ใช้ใบขยี้ทาแก้แมลงกัดต่อย หรือใช้ส่วนใบสด พอกที่แผลสด วันละ 2 ครั้ง ยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ครีมใบบัวบก ชำระล้างแผลด้วยยาฆ่าเชื้อก่อนทาครีมที่มีสารสกัดจากบัวบกสดร้อยละ 7 โดยน้ำหนัก ทาบริเวณที่เป็นแผลวันละ 1 – 3 ครั้ง หรือตามหมอสั่ง ถ้าใช้แล้วไม่ดีขึ้นภายใน 2 อาทิตย์ ให้หยุดใช้ ควรที่จะเก็บครีมใบบัวบกในที่เย็น อุณหภูมิไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส แก้อาการเยี่ยวติดขัด ด้วยการใช้ใบบัวบกราวๆ 50 กรัม นำมาตำแล้วพอกรอบๆสะดือ เมื่อถ่ายปัสสาวะคล่องดีแล้วค่อยคัดออก ใช้เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ด้วยการใช้ใบสดราวๆ 20 ใบนำมาล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด แก้อาการบวมช้ำ ด้วยการกางใบบัวบกมาทุบให้แหลกแล้วนำมาโปะบริเวณที่ฟกช้ำดำเขียว หรือจะใช้ใบบัวบกโดยประมาณ 40 กรัม ต้มกับเหล้าแดงราวๆ 250 cc. ราวๆ 1 ชั่วโมงแล้วเอามาดื่ม การศึกษาทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดเอทานอล (2-4) และสารสกัดด้วยน้ำร้อน จากส่วนเหนือดิน มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus (2-5), b-Streptococcus group A รวมทั้ง Pseudomonas aeruginosa สารสกัดเฮกเซน สารสกัดไดคลอโรมีเทน สารสกัดเอทิลอะซีเตท สารสกัดอีเทอร์ และก็สารสกัดเมทานอลจากใบ มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ S. aureus แต่ว่าไม่เป็นผลต่อเชื้อ P. aeruginosa สารสกัดจากส่วนราก ใบและก็ส่วนเหนือดิน รวมถึงน้ำมันหอมระเหยจากบัวบก มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น Bacillus subtilis, Escherichia coli, Proteus vulgaris แล้วก็ Pseudomonas cichorii มีแถลงการณ์ว่าอนุพันธ์บางชนิดของ asiaticoside สามารถยับยั้งการเติบโตของเชื้อวัณโรคในหลอดทดสอบ และก็ลดร่องรอยโรคที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเชื้อวัณโรคในตับ ปอด ปมประสาทของหนูตะเภาที่ทำให้เป็นวัณโรคได้ ฤทธิ์ลดการอักเสบ สารสกัดเอทานอลจากใบมีฤทธิ์ลดการอักเสบอย่างอ่อนในหนูขาว โดยไปยับยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี cyclooxygenase-1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ prostraglandin สาร saponin ขนาด 1 ไมโครโมล จะลดการอักเสบและก็อาการบวมในหนูถีบจักรที่ถูกรั้งนำให้เกิดอาการบวมที่หูด้วย croton oil ขี้ผึ้ง Madecassol ซึ่งประกอบด้วยสาร asiatic acid, madecassic acid และก็ asiaticoside สามารถลดการอักเสบ เมื่อใช้ทาที่ผิวหนังหนูซึ่งมีการอักเสบจากการฉายรังสี ผงแห้งจากส่วนเหนือดินของบัวบก ให้คนรับประทาน สามารถลดอาการอักเสบได้ ฤทธิ์รักษาแผลสารสกัด 95% เอทานอลจากใบ ขนาด 1 มล./โล พบว่ามีผลเพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์เยื่อบุผิว เพิ่มการสร้างคอลลาเจน เมื่อให้ทางปากและทาที่แผลของหนูขาว สารสกัดจากบัวบก (titrated extract) ซึ่งประกอบด้วยสาร asiatic acid, made cassic acid และ asiaticoside มีฤทธิ์รักษาแผลในหนูขาว โดยจะเร่งการผลิต connective tissue เพิ่มปริมาณคอลลาเจน และก็กรด uronic เมื่อนำสารสกัดมาใช้ทาด้านนอกเพื่อรักษาแผลในหนูขาว พบว่าทำให้แผลหายเร็วขึ้น โดยทำให้มีการกระจายตัวของหนองในบาดแผล และแผลมีขนาดเล็กลง แต่ถ้าหากใช้กินจะไม่ได้เรื่อง ตอนที่รายงานบางฉบับพบว่า เมื่อให้หนูขาวกินสารสกัดในขนาดวันละ 100 มก./กิโลกรัม มีผลในการรักษาแผลโดยทำให้การสร้างผิวหนังชั้นนอกเร็วขึ้น รวมทั้งรอยแผลมีขนาดเล็กลง ครีม ขี้ผึ้งและก็เจลที่มีสารสกัดน้ำจากบัวบก 5% เมื่อใช้ทาที่แผลของหนูขาว 3 ครั้ง/วัน นาน 24 วัน พบว่ามีผลเพิ่มการเติบโตของเยื่อบุผิว เพิ่มการผลิตคอลลาเจนและก็เพิ่ม tensile strength ซึ่งสูตรที่อยู่ในรูปเจลจะเห็นผลดีกว่าขี้ผึ้งรวมถึงครีม สาร asiaticoside มีฤทธิ์รักษาแผล รีบการหายของแผลเมื่อทดสอบในหนูขาว หนูถีบจักร และก็ในคน เมื่อให้สาร asiaticoside ขนาด 1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทางปากแก่หนูตะเภาและก็ใช้ทาที่ผิวหนังในหนูตะเภาธรรมดาแล้วก็หนูขาวที่เป็นโรคเบาหวานซึ่งแผลหายช้า ที่ความเข้มข้น 0.2% แล้วหลังจากนั้นก็ 0.4% เป็นลำดับ พบว่าส่งผลเพิ่ม tensile strength เพิ่มปริมาณของคอลลาเจน แล้วก็ลดขนาดของแผล tincture ที่มี asiaticoside เป็นองค์ประกอบ 89.5% จะเร่งการหายของแผล เมื่อใช้ทาที่แผลของหนูตะเภา ในการทดสอบในคน มีรายงานว่าครีมที่มีสารสกัดอัลกอฮอล์จากบัวบกเป็นองค์ประกอบ 0.25-1% สามารถช่วยรักษาแล้วก็สร้างผิวหนังในคนวัยชรา ครีมที่มีสารสกัดจากบัวบก 1% สามารถรักษาแผลอักเสบและแผลแยกหลังผ่าตัดในคนไข้ปริมาณ 14 ราย ข้างใน 2-8 อาทิตย์ โดยพบว่าได้ผลดี 28.6% ผลปานกลาง 28.6% และผลพอได้ 35.7% ไม่ได้การ 1 ราย และก็รักษาแผลเรื้อรังที่เกิดขึ้นมาจากอุบัติเหตุ ในผู้ป่วยปริมาณ 22 ราย ด้านใน 21 วัน พบว่าขนาดของแผลจะลดน้อยลง มีแผลหายสนิท 17 ราย ยังไม่หายสนิท 5 ราย tincture ที่อยู่ในรูป aerosol ซึ่งมี asiaticoside 89.5% เมื่อใช้ฉีดที่แผลของคนไข้ซึ่งเป็นแผลชนิดต่างๆปริมาณ 20 ราย พบว่าสามารถรักษาแผลหายได้ 16 ราย (64%) แล้วก็ทำให้อาการ 4 ราย (16%) โดยมีลักษณะใกล้กันเป็น การไหม้ของผิวหนัง (burning sensation) เมื่อให้ผู้ป่วยที่เป็น post-phlebitic syndrome กินสารสกัด triterpenoid ในขนาด 90 มก./วัน นาน 3 อาทิตย์ พบว่าจะลดการเพิ่มจำนวนของ circulating endothelial cell ฤทธิ์แก้ปวดสารสกัด 60% เอทานอลจากใบ ขนาด 20 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แล้วก็สารสกัด 95% เอทานอลจากต้น ขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม มีฤทธิ์แก้ปวดในหนูขาวรวมทั้งหนูถีบจักร ถึงแม้สารสกัด 50% เอทานอลจากทั้งยังต้นในขนาด 125 มก./กก. ไม่มีฤทธิ์แก้ปวด เมื่อฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร ฤทธิ์ลดไข้ สารสกัด 95% เอทานอลสามารถลดไข้ได้ 1.20F เมื่อฉีดเข้าทางท้องของหนูขาว แม้กระนั้นถ้าฉีดสารสกัด 50% เอทานอล ขนาด 125 มิลลิกรัม/กก. เข้าท้องหนูถีบจักรจะไม่ได้การ สารสกัดเมทานอลจากส่วนเหนือดินรวมทั้งใบ ขนาด 2 กรัม/กิโลกรัม ไม่มีฤทธิ์ลดอุณหภูมิของร่างกาย เมื่อทดสอบในหนูถีบจักร ฤทธิ์ต่อต้านฮีสตามีนสารสกัดใบบัวบกด้วยแอลกอฮอล์ผสมน้ำในอัตราส่วน 1:1 ใช้ทาภายนอกจะสามารถลดการแพ้ได้ และก็ช่วยทุเลาอาการเจ็บปวด หรืออักเสบเพราะเหตุว่าแมลงกัดต่อย ฤทธิ์ต้านเชื้อราสารสกัดเอทานอลจากทั้งต้น ส่งผลขัดขวางเชื้อราที่กระตุ้นให้เกิดโรคกลาก ตัวอย่างเช่น Trichophyton mentagrophytes แล้วหลังจากนั้นก็ T. rubrum ในขณะที่สารสกัดด้วยน้ำร้อน ไม่พบว่ามีผลต้านเชื้อราทั้ง 2 ชนิดนี้ ส่วนน้ำมันหอมระเหยจะมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา Aspergillus niger, Rhizopus oryzae, Fusarium solani, Candida albicans รวมทั้ง Colletotrichum musae รักษาแผลในกระเพาะจากการทดสอบในหนูแรทพบว่า สารสกัดด้วยเอทานอล และก็สารสกัดด้วยน้ำจากทั้งยังต้นแล้วก็จากใบ มีฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะในหนูที่ถูกรั้งนำให้เกิดแผลในกระเพาะด้วยความเคร่งเครียดแล้วหลังจากนั้นก็กรดเกลือในเอทานอล โดยจะลดขนาดของแผล เพิ่มจำนวนของเส้นเลือดขนาดเล็กในเยื่อ เพิ่มจำนวนและผู้ที่ทำระจายของเซลล์ที่รอบๆแผล ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองในผู้ที่รับประทานสารสกัดจากบัวบก (Madecassol) พบว่าช่วยรักษาแผลในกระเพาะรวมทั้งไส้ได้ การศึกษาทางพิษวิทยา การทดสอบความเป็นพิษ ไม่พบความเป็นพิษของสารสกัดด้วย 50% เอทานอล เมื่อฉีดเข้าทางท้องของหนูถีบจักร ขนาด 250 มก./กิโลกรัม และก็ฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือให้ทางปากของหนูขาว ขนาด 10 ก./กก. สารสกัด 70% เอทานอลมีค่า LD50 เท่ากับ 675 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ในหนูขาวเพศผู้ (ไม่เจาะจงกรรมวิธีให้) แต่ว่ามีรายงานการแพ้แล้วก็อักเสบต่อผิวหนังในคน เมื่อใช้ผงแห้ง สารสกัดที่มีกลัยวัวไซด์จากบัวบกจำนวนร้อยละ 2 สารสกัดด้วยน้ำ สารสกัดจากต้นในความเข้มข้นจำนวนร้อยละ 2 แล้วก็สารสกัด Madecassol ที่มี asiatic acid, madecassic acid และ asiaticoside ทาด้านนอก พิษต่อเซลล์ น้ำคั้นจากบัวบกเป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัด 50% เอทานอลเป็นพิษต่อเซลล์ 9KB สารสกัดเมทานอลและก็สารสกัดอะซีโตน มีความเป็นพิษต่อเซลล์ CA-Ehrich, Dalton’s lymphoma แล้วก็ L929 แม้กระนั้นไม่เป็นพิษต่อเซลล์ human lymphocyte สารไทรเทอร์ปีนป่ายส์จากทั้งยังต้น มีความเป็นพิษต่อเซลล์ fibroblast ของคน ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์สารสกัดอัลกอฮอล์มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ในแบบที่อยากโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีจากตับกระตุ้นการออกฤทธิ์ต่อเชื้อ Salmonella typhimurium TA98, TA100 โดยมีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์แบบ frameshift เพียงแค่นั้น ไม่เจอแบบ base-pair substitution สารสกัดน้ำจากส่วนเหนือดิน ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ต่อเชื้อ S. typhimurium TA98, TA100 พิษต่อระบบแพร่พันธุ์ น้ำคั้นจากทั้งยังต้น ขนาด 0.5 มิลลิลิตร ส่งผลคุมกำเนิดในหนูถีบจักร 55.60% สารสกัดจากบัวบกขนาด 0.2 มิลลิลิตร ฉีดเข้าใต้ผิวหนังของหนูถีบจักร พบว่าไม่เป็นผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อน สาร saponin จากอีกทั้งต้น ขนาด 2% ไม่มีผลทำลายเชื้อน้ำอสุจิของคน ทำให้เกิดอาการแพ้ สารสกัด 30% อีเทอร์ นำไปสู่การระคายเคืองอย่างอ่อนต่อผิวหนังหนูตะเภา ในคนมีรายงานการแพ้รวมทั้งอักเสบต่อผิวหนัง เมื่อใช้ผงแห้ง สารสกัดกลัยโคไซด์ 2% สารสกัดน้ำ สารสกัดจากทั้งยังต้น 2% (ไม่เจาะจงประเภทสารสกัด) และสารสกัด Madecassol ที่มี asiatic acid, madecassic acid รวมทั้ง asiaticoside oinment ที่มีบัวบกเป็นองค์ประกอบ 1% กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิด acute erythemato-bullous การระคายเคืองต่อผิวหนังกำเนิดได้ทั้งการใช้พืชสดหรือแห้ง อาการระคายต่อผิวหนังของบัวบกมีผลค่อนข้างจะต่ำ ข้อเสนอ / ข้อควรตรึกตรอง
|