ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: mmhaloha ที่ มิถุนายน 26, 2018, 09:09:29 pm



หัวข้อ: ตัดสินใจซื้อแอร์เช่นใด เพื่อที่จะประหยัดเงินในกระเป๋ามากที่สุด
เริ่มหัวข้อโดย: mmhaloha ที่ มิถุนายน 26, 2018, 09:09:29 pm
เมื่ออากาศมันร้อน มันก็เลยต้องหาอะไรเพื่อมาดับอบอ้าวกันนิดนึง คนถนัดบริโภค ก็หาอะไรกินดับร้อนกันไป แต่ถ้าใครต้องการให้อากาศภายในที่พักไม่อบอ้าวอย่างนรก ก็คงต้องพึ่ง “แอร์” หรือ “เครื่องปรับอากาศ” แล้วละ แต่ถ้าใช้งานเครื่องปรับอากาศ บางท่านก็ต้องไม่สบายใจในเรื่องของรายจ่ายค่าไฟฟ้าที่มันจะตามมาทีหลัง แล้วทุกคนจะมีเกณฑ์การซื้อยังไง เพื่อจะได้ทั้งสินค้าดี แต่ก็ยังประหยัดด้วย ไปดูกันเลย
อย่างแรกเราจะต้องนึกถึงชนิดของแอร์จำเป็นต้องให้เหมาะสมกับที่ตั้งในการใช้งาน เพราะตอนนี้นั้นมีหลายรูปแบบให้เลือกสรร โดยแต่ละรูปแบบก็มีคุณลักษณะต่างกันออกไป ถ้าสมมติเลือกซื้อผิดนั้น ก็อาจจะส่งผลให้อาจจะผลเสียต่อเครื่องปรับอากาศ และยังทำให้เปลืองพลังงานไปโดยใช่เหตุ หลักๆ แล้ว เครื่องปรับอากาศจะแยกออกเป็นหลายแบบ ตัวอย่างเช่น เครื่องปรับอากาศติดผนัง, เครื่องปรับอากาศตั้งพื้น, เครื่องปรับอากาศฝังเพดาน รวมทั้ง เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ โดยแต่ละอย่าง มีรูปลักษณ์อย่างไรบ้าง ไปพิจารณากันเลย
อันแรกคือเครื่องปรับอากาศติดกำแพง โดยที่แอร์ลักษณะนี้ เป็นที่ชื่นชอบกันอยู่แล้ว หรือว่าต้องคุ้นตากันอยู่เป็นประจำ นั่นแหละ ซึ่งการทำงานที่หลากหลาย มีลักษณะการดีไซน์ที่ตามสมัยนิยม รวมทั้งก็มีสัดส่วนพอดี แล้วยังยังทำให้ลดการใช้ไฟฟ้า รวมถึงสามารถดูแลรักษาง่าย โดยแอร์ลักษณะนี้ เหมาะสำหรับห้องพื้นที่เล็ก หรือที่พัก หรือคอนโดทั่วไป ทำให้ตรงตามกับความต้องการในการใช้งานได้แบบหลายแบบ
ถัดมาเป็นเครื่องปรับอากาศตั้งขึ้นพื้น โดยเครื่องปรับอากาศรุปแบบนี้เป็นชนิดที่มีการกระจายความเย็นฉ่ำได้มาก สามารถสร้างความเย็นได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงทนทานต่อการทำงาน รวมถึงทนกับมลพิษอีกด้วย โดยที่ลักษณะของเครื่องปรับอากาศจะเป็นแบบติดตั้งกับพื้น เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ใหญ่ โรงงาน หรือมีประชากรมากมาย  ซึ่งแอร์ชนิดนี้จะทำงานใช้อึกทึก จึงทำให้เปลืองไฟฟ้ามากกว่าเครื่องปรับอากาศชนิดอื่นๆ
ชนิดต่อไปคือชนิดแอร์ฝังฝ้าเพดาน โดยลักษณะนี้จะคือเครื่องปรับอากาศ 4 ทาง ตัวเครื่องเครื่องปรับอากาศ ท่อน้ำยา และท่อน้ำเสีย สามารถติดตั้งด้านในฝ้าเพดาน ทำให้สามารถเก็บรูปทรงความสวยหรูของห้องได้ตามเดิม ตัดทอนขีดจำกัดในการติด ซึ่งเหมาะกับห้องที่เน้นในเรื่องความสวยงาม ทำให้ภายในบ้านสวยงามเหมือนเดิม  แต่ว่าแอร์แบบนี้มักมีสนนราคามักจะสูงมากกว่าแอร์อย่างอื่นๆ
ส่วนชนิดสุดท้ายก็คือแอร์เคลื่อนที่ โดยที่เครื่องปรับอากาศอย่างนี้จะไม่ยุ่งยากเหมือนกับอย่างก่อนหน้า ก็เพราะว่าเพียงแค่เสียบปลั๊ก ก็ใช้งานได้เลย โดยที่แอร์แบบนี้ใช้งานได้อย่างเดียวกันกับเครื่องปรับอากาศบ้านทั่วๆ ไป แต่ไม่เหมือนแบบอื่นก็ตรงที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และก็ไม่จำเป็นต้องติดเข้ากับบ้านด้วย เหมาะสมกับคนที่อาศัยหอพัก อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม ทำนุบำรุงก็สะดวกมาก เหมือนกับเครื่องปรับอากาศทั่วไปเลย
กลับมาที่หลักเกณฑ์การเลือกกันต่อ ถัดมาก็ควรจะตัดสินใจสัดส่วนแอร์ให้เหมาะกับพื้นที่ห้อง เพราะถ้าทราบพื้นที่ห้องเรียบร้อยแล้วนั้น มันก็จะสะดวกกับการเลือกขนาดของแอร์และการคำนวณค่า BTU นั่นเอง เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและช่วย
ประหยัดไฟฟ้า โดยที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า BTU คืออะไร โดยมันหมายถึง ขนาดทำความเย็นของแอร์ โดยย่อมาจากคำว่า British Thermal Unit โดย 1 ตันความเย็น จะเท่ากับ 12000 BTU ต่อชั่วโมง เพราะฉะนั้นการเลือก BTU ย่อมมีความสำคัญ เพราะจะเกี่ยวข้องกับ การประหยัดพลังงานและอายุการใช้งานของแอร์นั่นเอง หากตัดสินใจแอร์ที่มี BTU สูงเกินไป ก็จะทำให้ใช้งานของคอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย เนื่องจากมีการทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว จะทำให้ความสามารถข้างในลดลง รวมทั้งยังมีผลให้ให้เกิดความชื้นในห้องมาก อาจทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยป่วย หรือไม่ก็เจ็บป่วยได้ อีกทั้งยังทำให้เปลืองพลังงานอีกด้วย หรือสมมติว่าตัดสินใจเครื่องปรับอากาศที่มี BTU น้อยเกินไปก็จะทำให้คอมเพรสเซอร์ถูกใช้งานทุกเมื่อรวมถึงมากจนเกินควร  เพราะอุณหภูมิความเย็นไม่ตรงกับที่ปรับหรือกำหนดไว้  ซึ่งจะทำให้ทำให้เครื่องปรับอากาศพังได้ง่ายๆ และเปลืองไฟฟ้าอีกด้วย
                ถัดไปก็เป็นหลักการไม่ยุ่งยาก เกินที่ไม่ว่าใคร ก็คงจะช่วยให้ตัดสินใจซื้อแน่นอน ก็คือ การเลือกเครื่องปรับอากาศที่ได้รับสลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะนั่นหมายความว่า ประสิทธิภาพในการใช้งานพลังงานที่คุ้มค่าที่สุด เลยจะทำให้ประหยัดพลังงานและประหยัดเงินได้นั้นเอง

Tags : แอร์,เครื่องปรับอากาศ,แอร์ ราคา
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ