ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Petchchacha ที่ มิถุนายน 30, 2018, 01:29:29 am



หัวข้อ: RENOVATE รับตกแต่งออกแบบที่อยู่อาศัย ร้านกาแฟ ภายนอก ทำร้านสปา มีภาพจำลอง3D ติดต
เริ่มหัวข้อโดย: Petchchacha ที่ มิถุนายน 30, 2018, 01:29:29 am
ให้บริการ - ค่าออกแบบ คิดตามความเหมาะสมในร้าน

Renovate, Innovate,  ออกแบบร้านกาแฟ RENOVATE รับตกแต่งออกแบบบ้าน ร้านกาแฟ ภายใน ทำร้านโชว์ห่วย มีภาพจำลอง3D ติดต่อ เรามีสำนักงาน 2 สาขาที่กรุงเทพ และหัวหิน
งานออกแบบปรับปรุงห้องชุดพักอาศัย
โครงการ : NOBLE ORA ซ.ทองหล่อ
style : MODERN CLASSIC

พื้นที่ใช้สอย : 70 ตร.ม.
ค่าออกแบบ : 390 บ./ตร.ม.
ขั้นตอนออกแบบเสร็จสิ้น กำลังดำเนินการผลิต
(https://scontent.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23915973_1672000539496932_6232951945817110267_n.jpg?oh=d52d6d9ffc98be7e455dab0dcaae99ce&oe=5A92B5AF)(https://scontent.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23844368_1672000189496967_665816635943006426_n.jpg?oh=cbaf22570594245462f372887cd3eeb7&oe=5AD64886)(https://scontent.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23844476_1672000256163627_8655933288754703924_n.jpg?oh=653f8e8fc1e712edd5adbe160befe5ed&oe=5AD74AE2)

 
ชงกาแฟให้กลมกล่อม
กาแฟอาราบิก้า ชื่อวิทยาศาสตร์ Coffea arabica L. จัดอยู่ในวงศ์เข็ม (RUBIACEAE)
ต้นกาแฟอาราบิก้า เป็นพืชพื้นเมืองของทวีปอัฟริกา รอบๆประเทศเอธิโอเปีย แต่ว่าชาวอาหรับเป็นชาติแรกที่นำกาแฟมาชงดื่ม จึงทำให้ชื่อภาษาละตินของกาแฟใช้คำว่า “อาราบิก้า” (arabica) เป้าหมายถึงชาวอาหรับ โดยต้นกาแฟจัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ที่มีความสูงของต้นโดยประมาณ 2-4 เมตร ในตอนนี้เพาะปลูกกันมากในเขตร้อนชื้นและก็ครึ่งเย็น
ใบกาแฟอาราบิก้า ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงกันข้าม ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนานหรือรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบแหลมบางส่วน ส่วนขอบของใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างโดยประมาณ 8-12 ซม. และก็ยาวราว 15-20 ซม. แผ่นใบเรียบเป็นมัน บางโอกาสเป็นคลื่น มีหูใบอยู่ระหว่างก้านใบ
ดอกกาแฟอาราบิก้า ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกไม้เป็นสีขาว ติดกันเป็นหลอด ดอกมีกลิ่นหอม
ผลกาแฟอาราบิก้า ผลเป็นผลสด รูปแบบของผลเป็นรูปไข่ปนรูปทรงกลม โดยผลอ่อนจะเป็นสีเขียว แต่ว่าเมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดงข้อดีของกาแฟอาราบิก้าเป็นมีกลิ่นหอมหวนรวมทั้งสารกาแฟสูง ทำให้เมื่อดื่มแล้วรู้สึกได้ถึงความกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า โดยกาแฟประเภทนี้จะมีปริมาณของคาเฟอีนต่ำ เป็นกาแฟที่มีคุณภาพสูง มีความหอมไม่เป็นรองคนไหน เพียงแต่ยังไม่มีชื่อเสียงมากสักเท่าไรนัก เหตุเพราะขาดการสนับสนุนแล้วก็การโฆษณาที่ดี ในประเทศไทยมีการปลูกกาแฟประเภทนี้กันมากทางภาคเหนือบนภูเขาสูง
กาแฟโรบัสต้า ชื่อสามัญ Robusta coffee
ชื่อวิทยาศาสตร์ Coffea canephora Pierre ex A.Froehner (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Coffea robusta L.Linden)
ต้นกาแฟโรบัสต้า ลำต้นเติบโตมาจากรากแก้ว มีลักษณะเป็นข้อและบ้อง โคนใบจะอยู่ตามข้อของลำต้น เมื่อต้นโตขึ้นใบจะหล่นไป โคนใบมีตา 2 ชนิด คือ ตาบนแล้วก็ตาล่าง ตาบนจะแตกกิ่งออกมาเป็นกิ่งกิ่งก้านสาขาที่ 1 ลักษณะเป็นกิ่งนอนขนานกับพื้นดินมีข้อและบ้อง แต่ละข้อจะมีกลุ่มตาดอกที่จะติดได้ผลสำเร็จกาแฟต่อไป ส่วนตาล่างจะแตกออกเป็นกิ่งตั้ง กิ่งจะตั้งชันขึ้นไปเหมือนลำต้น และไม่ติดผล แต่ว่าสามารถสร้างกิ่งกิ้งก้านที่ให้ดอกผลได้ ซึ่งเรียกเป็นกิ่งกิ้งก้านที่ 1 ด้วยเหมือนกัน แล้วก็กิ่งกิ้งก้านที่ 1 ยังสามารถแตกกิ่งกิ่งก้านสาขาถัดไปได้อีกเป็นกิ่งแขนงที่ 2 และก็กิ่งแขนงที่ 2 ก็สามารถแตกเป็นกิ่งกิ้งก้านที่ 3 ได้อีก โดยกิ่งกิ่งก้านสาขากลุ่มนี้จะเกิดในลักษณะเป็นคู่สลับเยื้องกันบนลำต้นหรือกิ่งตั้ง เมื่อมีการตัดลำต้นกาแฟ ตาล่างบนลำต้นจะแตกกิ่งตั้งมา กิ่งก็จะแตกเป็นกิ่งกิ่งก้านสาขาที่ 1, 2 แล้วก็ 3 แล้วหลังจากนั้นก็จะมีการสร้างดอกแล้วก็ผลกาแฟต่อไป โดยต้นกาแฟนั้นจะสามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเม็ด
ใบกาแฟ ใบเป็นใบผู้เดียว กำเนิดที่ข้อเป็นคู่ตรงข้ามกัน โคนใบและก็หลายใบเรียวแหลม ส่วนขอบของใบหยักเป็นคลื่น กึ่งกลางใบกว้าง ผิวใบเรียบนุ่มวาว มีปากใบอยู่ด้านท้องใบ แต่ละใบจะมีปากใบโดยประมาณ 3 ล้านถึง 6 ล้านรู โดยปากใบโรบัสต้าจะมีขนาดเล็กกว่าปากใบของกาแฟอาราบิก้า แม้กระนั้นจะมีมากมายกว่า อายุใบประมาณ 250 วัน ส่วนก้านใบนั้นมีขนาดสั้น
ดอกกาแฟ ปกติแล้วดอกกาแฟจะออกเป็นดอกผู้เดียวสมบูรณ์เพศ มีกลีบดอกราวๆ 4-9 กลีบ ส่วนกลีบเลี้ยงมี 4-5 ใบ มีเกสร 5 อัน รวมทั้งมีรังไข่ 2 ห้อง ในแต่ละห้องของรังไข่จะมีไข่ 1 ใบ ผลกาแฟจึงมีเมล็ด 2 เม็ด ดอกจะออกเป็นกลุ่มๆรอบๆโคนใบบนข้อของกิ่งกิ้งก้านที่1, 2 หรือ 3 กรุ๊ปดอกแต่ละข้อจะมีดอกประมาณ 2-20 ดอก ดอกจะออกมาจากกิ่งแขนงจากข้อที่อยู่ใกล้กับลำต้นออกไปพบปลายกิ่งกิ่งก้านสาขา โดยปกติแล้วต้นกาแฟจะออกดอกตามข้อของกิ่ง ข้อที่ออกดอกออกผลแล้วในปีต่อไปก็จะไม่มีดอกแล้วก็ให้ผลอีก
ผลกาแฟ ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงรี ก้านผลสั้น ผลดิบเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะกลายเป็นสีเหลือง สีส้ม รวมทั้งสีแดง ผลกาแฟจะมีเปลือก เนื้อที่มีสีเหลือง (เมื่อสุกมีรสหวาน) และก็กะลาที่หุ้มห่อเม็ด ตอนระหว่างกะลากับเมล็ดจะมีเยื่อบางๆที่หุ้มห่อเม็ดอยู่ ซึ่งพวกเราเรียกว่า “เยื่อห่อหุ้มเม็ด” ในแต่ละผลจะมี 2 เม็ดแทบกันกันอยู่ ก้านที่ประกบกันจะอยู่ภายในมีลักษณะแบน มีร่องตรงกลางเม็ด 1 ร่อง ส่วนด้านนอกโค้ง รูปแบบของเมล็ดจะเป็นเมล็ดเดี่ยวหรือเม็ดโทน ในบางครั้งแม้การผสมเกสรไม่สมบูรณ์ จะมีผลให้ผลติดเมล็ดเพียงแค่เม็ดเดียว (คิดเป็นประมาณ 5-10%) ซึ่งจะมีลักษณะเป็นรูปกลมรีทั้งยังเมล็ด มีร่องตรงกลาง 1 ร่อง เมล็ดประเภทนี้จะเรียกว่า “พีเบอร์รี่“
จุดเด่นของกาแฟโรบัสต้า โดยส่วนมากแล้วเราจะนำกาแฟโรบัสต้ามาผลิตเป็นกาแฟสำเร็จรูป หรือเอามาผสมกับกาแฟอาราบิก้าเล็กน้อย เพื่อผลิตเป็นกาแฟคั่วบดให้มีรสชาติที่ผิดแผกแตกต่างออกไป สำหรับกาแฟโรบัสต้านั้นมีลักษณะเด่นในเรื่องของบอดี้ เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกได้ถึงความนิ่ม เปียกแฉะคอ กาแฟชนิดนี้จะมีปริมาณของคาเฟอีนสูงยิ่งกว่ากาแฟอาราบิก้าเป็น 2 เท่า กาแฟโรบัสต้าในประเทศไทยจะมีการเพาะกันมากทางภาคใต้บนพื้นที่ราบ ดังเช่นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและก็จังหวัดชุมพร
Drip : กรรมวิธีนี้เกิดขึ้นมาราวๆปี คริสต์ศักราช 1905 ในเยอรมันนีซึ่งต่อมาในปี คริสต์ศักราช 1908 ก็ได้มีชื่อเสียงอย่างแพร่หลายของผู้บริโภค โดยเฉพาะคนที่ชอบชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน
วิธีการชงกาแฟแบบ Drip : จะทำโดยการใช้น้ำร้อนหรือหยดน้ำร้อนผ่านกาแฟบด หลังจากนั้นให้ของเหลวผ่านกระดาษกรอกหรือ filter สำหรับที่ใช้ชงกาแฟแบบ drip ลงไปยังภาชนะรองรับ ซึ่งเมื่อผ่าน filter อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการเสียรสชาติไปบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งนับได้ว่าเป็นแนวทางที่ง่ายเหมาะสำหรับทำที่บ้านได้ด้วยตัวเอง สามารถใช้ได้กับการชงกาแฟในจำนวนมากกว่า 1 แก้วได้อย่างสบาย โดยจะมีเครื่องต้มกาแฟ ชื่อ drip maker หรือ coffee machine ที่หาซื้อได้อย่างง่ายดาย
French Press : กระบวนการนี้เกิดขึ้นประมาณปี 1850 โดยดีไซน์เนอร์ชาวอิตาเลียน การชงกาแฟโดยแนวทางนี้นั้น ควรจะมีเครื่องชงกาแฟแบบ French press ซึ่งหาซื้อได้ง่ายๆตามตลาด ทำให้ได้รสชาติของกาแฟที่จริงจริงแต่ไม่ต้องกังวลกับเศษหรือกากกาแฟที่หลุดลอดออกมานะด้วยเหตุว่าโน่น คือเสน่ืห์ของวิธีนี้ ซึ่งกาแฟที่ได้จะไม่ clean เท่าแบบ Drip ก็ไม่ต้องสะดุ้ง
แนวทางการชงกาแฟแบบ French Press : ก็ไม่ยุ่งยาก
ขั้นที่ 1 : เราควรมีกาแฟบดก่อนซึ่งจำต้องใช้กาแฟบดที่หยาบคายหน่อยนะด้วยเหตุว่าถ้าเกิดเราบดละเอียดมากเลย ผงกาแฟจะหลุดลอดตะแกรงของเครื่องชงได้
ขั้นที่ 2 : เติมผงกายุบดลงไปในเครื่องชง ใช้กาแฟโดยประมาณ 7 กรัม
ขั้นที่ 3 : เพิ่มน้ำร้อนลงไปราวๆ 1/3 ของแก้วรอคอยให้กาแฟซึมน้ำซัก 30-40 วินาที แล้วต่อจากนั้นเพิ่มเติมน้ำร้อนเข้าไปจนกระทั่งเต็ม
ขั้นที่ 4 : เอาฝามาปิด อย่าลืมนะก่อนปิดฝาให้ดึงที่กรองขึ้นจนกระทั่งสุดก่อน ปิดฝาทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 4 นาที
ขั้นที่ 5 : กดที่กรองลงมาเพื่อดันเศษกาแฟลงไปด้านล่างหลังจากนั้นก็รินใส่ถ้วยกินได้โดยทันทีเลย
Espresso : กระบวนการนี้เกิดขึ้นราวๆปี ค.ศ. 1901 ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี หลายๆท่านบางครั้งก็อาจจะคุ้นเคยกับชื่อนี้อย่างใหญ่โต และอาจจะเกิดความสับสนเหมือนผมในครั้งก่อนว่า มันเป็น ชื่อประเภทกาแฟ หรือไม่ก็สูตรกาแฟดำที่ชื่อ เอสเปรสโซ่ จริงๆแล้ว Espresso ชื่อนี้เป็นแนวทางการชงกาแฟ มาจากภาษาละตินที่มีความหมายว่า ดัน หรือ กด แล้วก็กาแฟที่ได้จากเครื่องนี้ก็จะเรียกว่า “กาแฟเอสเปรสโซ่” ซึ่งก็จะเป็นต้นทางของวิธีการทำกาแฟสูตรต่างๆอย่างเช่น Latte, Mocha, Cappuccino, Macchiato หรือ Espresso con Panna เป็นต้น
Chemex : วิธีแบบนี้เกิดขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1931 ซึ่ง ไม่ค่อยแพร่หลายเท่าใด โดย Chemexหมายถึงกรวยชงกาแฟ โดยลักษณะซึ่งคล้ายๆกับการ Drip ที่ใช้น้ำร้อนเทใส่ผงกาแฟและก็ผ่านกระดาษกรองลงไป แต่ว่ากรรมวิธีการนี้เป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ทุกขั้นตอนจะทำด้วยมือตั้งแต่การบดจะไปถึงการเทน้ำร้อนใส่ผงกาแฟ
Cupping : กรรมวิธีการนี้ใช้สำหรับนักชิมกาแฟ หรือ Master Taster โดยก่อนที่จะผู้สร้างกาแฟจะส่งขายไปยังคนซื้อจะต้องมีการลองกาแฟก่อน ซึ่งผู้ชิมกาแฟก็จะชงกาแฟด้วยวิธี Cupping คือ บดกาแฟที่อยากได้ชิมรสชาติ อย่างเช่น กาแฟ 1 ชนิดก็จะคั่ว 3 ระดับคือ อ่อน กลาง และ เข้ม แล้วหลังจากนั้นก็เอามาบดแล้วใส่ผงกาแฟลงในถ้วยแก้ว 3 ถ้วยหลังจากนั้นก็เพิ่มเติมน้ำร้อนลงไป เพียงพอถึงขั้นตอนการชิม เค้าก็จะเอาช้อนปาดหรือตักผงกาแฟที่ลอยอยู่ออกและเริ่มกระทำการชิมกาแฟได้เลย
สรรพคุณของกาแฟ

  • ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ คาเฟอีนในกาแฟมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด จึงช่วยระงับอาการปวดได้เช่นเดียวกับยาแก้ปวด อีกทั้งกาแฟยังช่วยละลายไขมันในเส้นเลือด บรรเทาอาการปวดศีรษะเนื่องจากการเมาสุรา อาการปวดศีรษะเนื่องจากเส้นประสาท รวมถึงอาการปวดศีรษะข้างเดียวหรือไมเกรน,
  • มีงานวิจัยที่ระบุว่าคาเฟอีนสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้พลังงานของร่างกาย ทำให้ไขมันเกิดการสลายตัวมากขึ้น การดื่มกาแฟจึงอาจช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักได้ อีกทั้งคาเฟอีนและสารอื่น ๆ ที่มีอยู่ในกาแฟยังช่วยกระตุ้นการหลั่งของกรดและน้ำย่อย จึงช่วยในการย่อยอาหาร ด้วยเหตุนี้เอง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้คนจำนวนมากหันมาดื่มกาแฟหลังอาหารในแต่ละมื้อ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันได้ว่าคาเฟอีนสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเมตาบอลิซึมและอาจทำให้น้ำหนักลดลงได้ และล่าสุดได้มีผลการวิจัยที่ได้ข้อสรุปว่า คาเฟอีนในเมล็ดกาแฟสดคั่วบดมีผลต่อการลดน้ำหนักในผู้หญิงได้จริง โดยสามารถลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 7.7 กิโลกรัม ภายใน 22 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาจากชาวอเมริกันจำนวน 58,000 ราย โดยติดตามผลเป็นเวลา 12 ปี พบว่ากลุ่มตัวอย่างทั้งหญิงและชายที่ดื่มกาแฟมากขึ้น กลับมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น สาเหตุคงจากนม น้ำตาล และครีมเทียมที่ใส่ลงไปในกาแฟนั่นเอง
  • ช่วยลดโอกาสเป็นโรคเก๊าท์ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเก๊าท์ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป แนะนำให้ดื่มกาแฟวันละ 3-6 แก้วอย่างต่อเนื่อง เพราะจากผลการวิจัยของสถาบันการแพทย์แห่งหนึ่ง ที่ได้ยืนยันว่าคาเฟอีนมีส่วนช่วยบรรเทาอาการอักเสบของข้ออันเนื่องมาจากกรดยูริกที่เกินขนาดอย่างได้ผล โดยผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 6 แก้ว จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเก๊าท์ได้ถึง 60%
ขั้นตอนง่ายๆที่จะเป็นแถวทางสู่บ้านในฝัน
การออกแบบด้วยคนเขียนแบบนั้นนับเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากสำหรับในการสร้างบ้าน คนเขียนแบบที่เก่ง จะช่วยขจัดปัญหาการจัดสรรพื้นที่ ช่วยทำให้บ้านของเราสวยสดงดงาม มีสไตล์ แถมยังอยู่สบายสอดคล้องกับการใช้ชีวิตของผู้อาศัยในบ้าน แต่ว่าถ้าต้องการสร้างบ้านข้างหลังเล็ก เน้นย้ำการอาศัยอย่างง่าย การออกแบบบ้านด้วยตนเองเป็นอีกหนึ่งแนวทางซึ่งสามารถทำได้ จุดเด่นคือการติดต่อสื่อสารกับช่างก่อสร้างให้ได้ทราบถึงสิ่งที่ต้องการของพวกเราเอง และก็กระบวนการสื่อสารที่ง่ายที่สุดสำหรับในการก่อสร้างบ้าน โน่นเป็นการวาดแปลนบ้านนั่นเองนะครับ สำหรับวันนี้ “บ้านไอเดีย” ขอนำแนวทางออกแบบบ้านด้วยตัวเองอย่างง่าย โดยจะย้ำไปถึงการจัดสรรพื้นที่ พร้อมทั้งวาดผังแบบแปลนภายในบ้านด้วยตนเอง เพื่อนำแบบแปลนดังกล่าวไปให้ผู้รับเหมา หรืออาจส่งต่อให้นักออกแบบเขียนแบบแปลนมาตรฐาน เพื่อจะได้นำไปต่อยอดเป็นแบบแปลนบ้านใช้งานจริงกันขอรับ
1. ตรวจที่ดิน : ก่อนจะถึงขั้นตอนการออกแบบบ้าน อย่างแรกที่สำคัญมากมายก่ายกองคือการศึกษาแปลงที่ดินของเราเองให้รอบคอบ ที่ดินมีหน้ากว้างกี่เมตร ลึกกี่เมตร ทิศไหนอยู่ด้านไหนบ้าง การสำรวจทิศทางนี้เพื่อที่จะให้เราได้วางแผนผังบ้านได้อย่างเหมาะควร สอดคล้องกับสภาพอากาศ ลมและแสงแดด ขนาดของที่ดินยังบอกถึงขนาดแล้วก็รูปทรงของบ้าน เป็นต้นว่า มีที่ดิน 40 ตำรวจม. แม้กระนั้นอยากพื้นที่ใช้สอย 200 ตำรวจม แน่ๆว่าต้องออกแบบเป็นบ้าน 2 ชั้นเพียงแค่นั้น รวมทั้งการออกแบบจะต้องเผื่อขอบเขตระยะร่นโดยชอบด้วยกฎหมายกำหนดไว้ (อ่านกฎหมายระยะร่น)
2. กำหนดสไตล์ : การเลือกสไตล์ของบ้าน เป็นการกำหนดขอบเขต เป้าหมาย เพื่อให้จินตนาการของความต้องการมีความแน่ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ คนอ่านบางทีอาจขับขี่รถท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆพักรีสอร์ท เลิศบ้านเพื่อน หรือหากให้สบายหน่อยก็เพียงแต่คลิกเข้าชมเว็บบ้านไอเดีย แบบอย่างบ้านกลุ่มนี้เราสามารถเอามาปรับใช้ ระบุวิธีการวางแบบบ้านในฝันของพวกเราได้ แต่จำต้องขอย้ำให้รู้กันก่อนว่า พวกเราสามารถนำวางแบบมาดัดแปลงได้ แต่ว่าไม่อาจจะไปจำลองแบบได้ครับผม ยกเว้นจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านหรือผู้ครอบครองแบบโดยตรง ปกติแล้วสไตล์ของบ้านมีค่อนข้างนานัปการ ไทยประยุกต์ , Vintage , Loft , Minimal , Tropical , หรือบางทีอาจเลือกเอกลักษณ์ของบ้านจากต่างประเทศ ดังเช่นว่า บ้านสไตล์ทัสคานี เป็นต้น ทั้งปวงนี้ไม่มีความจำเป็นต้องมีส่วนประกอบที่แบบเดียวกัน ไม่มีความจำเป็นต้องเป๊ะ พวกเราบางทีอาจประสมประสานรวมแต่ละสไตล์ เลือกจุดที่ถูกใจนำมาปรับใช้เพื่อให้เปลี่ยนเป็นสไตล์ของพวกเราเองได้เหมือนกันนะครับ พบเจอที่ไหน ถ่ายภาพเก็บไว้ หรือถ้าหากชอบแบบอย่างแบบบ้านในเว็บบ้านไอเดีย ก็บางครั้งอาจจะเซฟลิงค์เก็บไว้ เผื่อตอนใช้งานจริงจะได้ค้นหาข้อมูลเจอ การเลือกสไตล์บ้านที่ดี นอกจากความชอบพอส่วนตัวแล้ว สถานที่ก่อสร้างเป็นสิ่งที่จำเป็น ควรวางแบบบ้านให้สมควร ใกล้เคียงหรือมองเข้ากับสถานที่ ชุมชนที่พักอาศัยด้วยครับผม
3. เขียนสิ่งที่จำเป็นลงไป : ก่อนการดีไซน์ของจำเป็นเป็นอย่างมาก คือการวิเคราะห์ความจำเป็น ขั้นตอนนี้ต้องคุยกันทั้งครอบครัว มีสมาชิกกี่คน อยากได้อะไรบ้าง อยากได้แบบไหน มีเฉียง เฉลียงระเบียง มีกี่ห้องนอน กี่ส้วม เป็นคนมักจะทำครัวหรือเปล่า ห้องรับแขก ห้องดูโทรทัศน์ ห้องทำงาน โจทย์พวกนี้แต่ละบ้านย่อมมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะความปรารถนาหลักฐานราก อย่างเช่น ปริมาณห้องนอน ห้องสุขา เป็นต้น
4. กำหนดขนาด : เมื่อทราบสิ่งที่ต้องการแล้ว กำหนดขนาดพื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องลงไป อยากให้กว้าง ยาว กี่เมตร การกำหนดขนาดแต่ละห้องจะช่วยให้สามารถพินิจพิจารณาหาพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมดได้ ผลพินิจพิจารณานี้จะทำให้การออกแบบบ้านเด่นชัดยิ่งขึ้น และก็ยังช่วยทำให้พวกเรารู้อีกว่า พวกเราควรจะสร้างบ้านกี่ชั้นถึงจะเหมาะสม หากมีที่ดินอยู่แล้วควรต้องออกแบบให้สอดคล้องกับที่ดิน แม้กระนั้นถ้าเกิดยังไม่มีที่ดิน การกำหนดขนาดพื้นที่ใช้สอย จะมีผลให้พวกเราหาซื้อที่ดินได้ตามขนาดที่อยากได้ การกำหนดขนาดนี้ยังสามารถนำไปอิงกับการประเมินราคาก่อสร้างได้อีกด้วยครับผม
5. ระบุตำแหน่ง แนวทาง : การออกแบบแผนผังบ้านที่ดีควรดีไซน์ให้สอดคล้องกับธรรมชาติ เพื่อให้การอาศัยด้านในภายเป็นไปอย่างเหมาะสมที่สุด โดยรวมแล้วจะคิดถึงทิศทางของแสงแดด แล้วก็ทิศทางลม โดยแสงแดดจะส่องมากในทิศตะวันตก ทิศใต้ ห้องที่ต้องการแสงมาก เป็นห้องที่ต้องการกำจัดความชุ่มชื้น เช่น ส้วม ห้องครัว ห้องชะล้าง ส่วนห้องที่อยากได้แสงพอเพียงเหมาะสม เช่น ห้องนอน , ห้องนั่งเล่น , ห้องทำงาน , ห้องดูหนัง เพราะว่าหากแสงสว่างมากจนเกินไปอาจเป็นความร้อนที่มากขึ้นเหมือนกันครับ
6. สำหรับทิศทางลม ลมมีสองแนวทางหลัก ทิศเหนือรวมทั้งทิศใต้ขึ้นกับฤดู (ทิศใต้มีลมเข้า 8-9 เดือน ทิศเหนือ 2-3 เดือน) ซึ่งถ้าเกิดอ้างอิงร่วมกับแนวทางแดด แดดทางใต้จะออกจะแรงเกือบจะทั้งวัน ส่วนทิศเหนือแดดจะร่มแทบตลอดวัน ชาวไทยจึงนิยมก่อสร้างบ้านให้หันหน้าไปทางทิศเหนือ แต่ว่าก็มีจำนวนมากเหมือนกันที่เลือกหันหน้าไปทางด้านทิศใต้ เพื่ออยากรับกระแสลมเกือบตลอดทั้งปี ดังนี้ก็ไม่ได้เป็นข้อกำหนดอะไร เพราะว่าการใช้งานของแต่ละบ้านนั้นแตกต่าง บางคนอาจวางแบบเพื่อย้ำการใช้ข้างบ้าน , ข้างหลังบ้าน ก็ขึ้นกับการใช้แรงงานจริงด้วยนะครับ
7. ทดลองวาด : อุปกรณ์ฐานรากที่สุดที่ใช้เพื่อการวาดแปลน คือ ดินสอ + กระดาษ A4 หรือนักอ่านถนัดใช้เครื่องมือใดก็สามารถเลือกได้ตามอยาก ทั้งยังวาดด้วยมือหรือใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาช่วยก็สามารถทำได้ด้วยเหมือนกันครับ แนวทางวาดแบบแปลน วาดเป็นมุมภาพ 2D โดยให้นึกถึงการมองภาพที่นำมาจากบนหลังคาบ้าน ซึ่งอาจจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับเครื่องหมายเบื้องต้นกันนิดหน่อย ตัวอย่างเช่น ประตู หน้าต่าง ส่วนห้องอื่นๆสามารถวาดเป็นสี่เหลี่ยมในแบบห้องทั่วๆไป ดังนี้ถ้าหากผู้อ่านไม่เข้าใจเครื่องหมาย ก็ไม่เป็นปัญหาใด เพียงวาดและเขียนคำอธิบายประกอบร่วมด้วย ให้เพียงพอสื่อสารได้ตรงกัน เพียงเท่านี้ก็สามารถนำไปคุยกับช่างรับเหมาได้แล้วครับ
 
ข้อควรจะรู้ก่อนที่จะมีการสร้างบ้าน
สถานที่ตั้งบ้าน จุดสำคัญของสถานที่ตั้งบ้านนั้นเป็นความสำคัญอันดับแรกที่พวกเราจะต้องคิดก่อนจะสร้างบ้าน เนื่องด้วยเราต้องคิดถึงการเดินทางระหว่าง บ้านไปยัง สถานที่ทำงาน,สถานศึกษา ,ตลาด,ศุนย์การค้าขาย,สถานีรถไฟฟ้า,ราคาที่ดิน ฯลฯ ในอดีตสมัยทำเลที่ดีคือทำเลที่จะต้องอยู่กลางเมืองเพราะระบบรถสาธารณะยังไม่ครอบคลุมราวกับอย่างปัจจุบันนี้ ทำให้ผู้คนต่างก็ไปกระจุกกันอยู่ในเมืองเพียงอย่างเดียว ไม่ถูกกับตอนนี้ที่ทำเลที่ตั้งที่ดีคือทำเลที่ตั้งที่อยู่ไกล้รถไฟฟ้า, ก่อนที่เราจะนึกถึงการสร้างบ้านเราจำเป็นต้องมองหาบริเวณที่เราสามาถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะกลุ่มนี้ได้อย่างสะดวกที่สุด รวมถึงความปลอดภัยของเขตที่อยู่ที่จะต้องไม่มองเปลี่ยวจนกระทั่งเหลือเกิน ในค่ำคืนอีกด้วย เป็นต้นว่าการซื้อบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านบางทีก็อาจจะรู้สึกอุ่นใจกว่าการสร้างบ้านเดียวที่แต่ละข้างหลังตั้งอยู่ห่างกันจำนวนมากเป็นต้น และอย่ามุ่งมาดกับแผนการต่างๆที่ยังไม่ทราบว่าจะเกิดเมื่อไหร่หรือเกิดจริงๆหรือไม่ก็ไม่รู้ดังเช่น รอบๆนั้นจะมีรถไฟฟ้าสายใหม่ๆผ่าน ทางด่วน หรือ ถนนผ่าน ด้วยเหตุว่าเราไม่อาจรับประกันได้ว่ามันจะกำเนิดเมื่อไร(นอกจากการซื้อเพื่อเก็งกำไร) ควรที่จะเลือกจากภาวะตอนนี้ที่เหมาะสมที่สุด จะดียิ่งกว่าขอรับ
จะกลบดินสูงขนาดไหนดีนะ อันนี้เป็นปริศนายอดฮิตก่อนจะมีการก่อสร้างบ้านเลยทีเดียว บางคนบอก 50 ซม บ้างก็ว่า 30 ซม ก็พอแล้วบางบุคคลบอก 1 เมตรไปเลย แล้วจริงๆมันควรจะถมเท่าไหร่หละ คำตอบของหัวข้อนี้เป็น สุดแต่ความชอบครับผมไม่มีการกำหนดที่แน่นอนเพียงแค่มันจะต้องสูงขึ้นมากยิ่งกว่าระดับถนนคอนกรีตหรือถนนลาดยางหน้าบ้านพวกเรา ราวๆ 50 ซม ก็พอเพียง แต่ถ้าถนนหนทางหน้าบ้านเป็นถนนหนทางดินแดงก็ให้เพิ่มความสูงของระดับดินถมเป็น 1 มัธยมเพื่อเป็นการรองรับความสูงของถนนที่จะเพิ่มสูงมากขึ้นจากการลาดยางหรือทำถนนคอนกรีตในอนาคตนั้นเอง อีกปัจจัยนึงเป็นระดับน้ำท่วมสูงสุดในบริเวณนั้น ถ้าสามารถหาข้อมูลได้เราก็ควรถมที่ดินให้สูงขึ้นมากยิ่งกว่าระดับดังที่กล่าวถึงมาแล้วประมาณ 50 ซม.ขึ้นไป
การกลบดินเพื่อสร้างบ้านเจ้าของบ้านจึงควรเผื่อการยุบตัวของดินด้วยนะครับ เป็นเพื่มปริมาณดินกลบสูงขึ้นไปอีก 30 % เพื่อเผื่อให้ดินได้เซ็ตตัวหรือยุบ นั้นเอง ดังเช่นว่า จะกลบดินสูง 50 ซม แม้กระนั้นให้ถมดินไว้ที่ระดับ65 ซมนั้นเอง แล้วก็ควรกลบดินไว้ก่อนการสร้างบ้านอย่างน้อย 4-6 เดือนยิ่งทิ้งเอาไว้ผ่านหน้าฝนซักครั้งจะยิ่งทำให้ดินแน่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทำให้ลดปัญหาดินทรุดหลังก่อสร้างบ้านได้เป็นอย่างดี
ทิศทางแดดลม กับ การกำหนดตำแหน่งบ้าน คนไม่ใช่น้อยบางครั้งก็อาจจะรู้สึกว่าไอ้เรื่องพวกนี้ มันจะสำคัญอะไรมากไม่น้อยเลยทีเดียวนักจะปลูกเรือนที่ไหนมันก็มีลมทั้งนั้นล่ะ และก็ที่สำคัญพวกเราก็เปิดแอร์ทั้งวันอยู่แล้วมองไม่เห็นมีอะไรน่าวิตก คนใดกันกำลังมีความนึกคิดแบบนี้มั้งนะครับ ถ้าหากมีเสนอแนะว่าให้อ่านประเด็นนี้ก่อนและก็หลังจากนั้นจึงค่อยมาคิดอีกทีนะครับ
เพราะเหตุไรต้องดูทิศทางแดด-ลม ก่อนจะมีการวางตำแหน่งบ้าน ก็เพราะว่าเราอาจไม่อยากนอนในห้องนอนที่แสนจะร้อนในตอนกลางคืนหรือต้องอับอึดอัดอยู่ในบ้านที่ไม่มีลมระบายเลย เรื่องพวกนี้ออกจะประณีตบรรจงและละเอียดลออ มีข้อสังเกตุหลายประเภทสำหรับการวางตำแหน่งบ้านเพื่อให้บ้านอีกทั้งข้างหลังเป็นบ้านที่อยู่อย่างสบาย มีความสุข และประหยัดพลังงาน
ปกติแดดของบ้านพวกเราจะวิ่งเป็นแนวทิศตะวันออกแล้วอ้อมโค้งไปตอนใต้ก่อนที่จะตกในทิศตะวันตก จะก่อให้ทิศใต้ไปจนกระทั่งทิศตะวันตกได้รับแสงเยอะที่สุดของวันเป็นตั้งแต่หลังเที่ยงตรงไปจนถึงห้าโมงเย็น ด้านนี้ควรต้องเป็นส่วนหลังบ้านและส่วนล้างหรือกิจกรรมอื่นที่อยากได้แสงจำนวนไม่น้อยๆส่วนทางทิศตะวันออกจะได้รับแสงอ่อนๆในตอนเวลาเช้าแล้วก็แสงจะแรงมากมายแค่เพียงช่วง 10 นาฬิกาเช้าตรู่จนถึงเที่ยงซึ่งก็แค่เพียง 3 ดู ยิ่งทิศเหนือแล้วยิ่งได้รับแดดต่ำที่สุด 2 ด้านนี้จึงเหมาจะวางตำแหน่งของห้องพักผ่อนที่อยากได้แสงก่อกวนน้อย ดังเช่น ห้องนอนแล้วก็ห้องรับแขก
เรานิยมวางแนวด้านแคบของตัวบ้านหันไปทางแนวทางรับแดด เพื่อให้ฝาผนังที่รับแดดมีน้อยที่สุด ทำให้ผนังสามาถดูดกลืนความร้อนในจำนวนน้อยรวมทั้งทำให้ด้านในภายไม่ร้อนจนเกินความจำเป็นในค่ำคืน เพราะว่าธรรมชาติของผนังปูนนั้นจะดูดความร้อนเมื่อแดดส่องแล้วก็จะถ่ายเทความร้อนออกมาในช่วงเวลาค่ำคืน ด้วยเหตุดังกล่าวถ้าฝาผนังบ้านถูกแดดตะวันตกน้อยก็จะมีผลให้ความร้อนที่จะถ่ายออกมาตอนกลางคืนมีน้อยเหมือนกัน
ส่วนลมนั้นลมประจำฤดูของบ้านพวกเราจะพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะพัดพาลมหนาวจากจีนมาในตอนหน้าหนาว และ จากทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่จะพัดพาความชื้นจากสมุทรมาในฤดูร้อนรวมทั้งฤดูฝน บ้านที่ดีด้านยาวของบ้านจำเป็นต้องหันเข้าหาทิศทางลมเพื่อลมธรรมชาติพัดเข้าตัวบ้านเพื่อระบายความร้อนออกไปให้ได้มากที่สุดและทำให้อดออมค่าไฟสำหรับเครื่องปรับอากาศข้างในบ้านฯลฯ
 
 
ออกแบบ เพื่อนำเสนอห้าง
โครงการ : ร้านอาหาร / เครื่องดื่ม
style : cottage style

พื้นที่ใช้สอย : 40 ตร.ม.
ค่าออกแบบ : 220 บ./ตร.ม.
(https://scontent.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/v/t31.0-8/22861798_1646698002027186_1523681800247270995_o.jpg?oh=36b0f5c6357873ca419cdeba06e63c77&oe=5A97A183)(https://scontent.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/v/t31.0-8/23000402_1646697858693867_1417914445273787163_o.jpg?oh=b2b7fde86a9cca98c83a0bcb38181638&oe=5A94DDD9)(https://scontent.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/v/t31.0-8/22829723_1646698065360513_8222756933322651231_o.jpg?oh=e51195335c0844bf7725a727809722c9&oe=5AD0CA38)

รับทำออกแบบ Design & RE-NOVATE BUILD มีจำลอง3D ติดต่อ
สาขากทม. 098 292 4496 หัวหิน 094 982 2636

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.alldecorate.com/

Tags : รับออกแบบร้านอาหาร,ออกแบบคอนโด,รับออกแบบบ้าน
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ