หัวข้อ: ผ้าซิ่นผ้าไหม เริ่มหัวข้อโดย: Navaphon11991 ที่ พฤษภาคม 10, 2015, 04:24:25 pm “อยากรู้จักผู้หญิงให้เริ่มมองที่หน้า แต่หากอยากได้ภรรยาต้องดูจากผ้าซิ่น”คำกล่าวนี้คงนิยาม ความหมายผ้าซิ่นให้ทุกท่านได้เข้าใจมากขึ้น ซึ่งในอดีตกาลผ้าซิ่นสำหรับชาวลาว หรือชาวไทยทางล้านนาและ อีสานถือว่าผ้าซิ่นเป็นอาภรณ์หลักของผู้หญิงที่บ่งบอกถึงตัวบุคคลได้อย่างดี ทุกท่านคงสงสัยกันไม่น้อย แล้วว่า “ผ้าซิ่นนั้นสำคัญไฉน” ด้านล่างนี้มีคำตอบ (http://www.prou-d.com/images/content/original-1424366178741.jpg) คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผ้าทอด้วยอดีตผู้หญิงจะเย็บผ้าซิ่นไว้เป็นถุงใช้สำหรับนุ่งเปรียบคล้ายกับกระโปรง สำหรับการแต่งกาย ที่จะต้องแตกต่างกันไปเพื่อให้เข้ากับสภาวการณ์และกาลเทศะนั้นสำหรับผู้หญิงก็จะนุ่งซิ่นที่มีลวดลายและเนื้อผ้า แตกต่างกันไป โดยหลักแล้วจะมีสองแบบคือ นุ่งอยู่บ้านปกติก็อาจจะนุ่งผ้าซิ่นที่เป็นผ้าฝ้ายธรรมดาไม่มี ลวดลาย และอีกแบบคือ นุ่งสำหรับออกงานสังคมผ้าซิ่นก็จะมีต้องตาต้องใจมากขึ้น ไม่ว่าด้านความประณีตใน การทอ การตกแต่งลวดลาย เพิ่มสีสัน รวมถึงคุณภาพของเนื้อผ้าที่มีราคายิ่งขึ้น ทั้งนั้นงานทอผ้าในโบราณกาลนั้นถือเป็นหน้าที่ของลูกผู้หญิง โดยทุกๆบ้านจะมีการปลูกฝังและฝึกฝนลูกสาวให้ รู้จักทอผ้าให้ชำนาญและมีการทอไว้สำหรับโอกาสพิเศษของตนเอง สำหรับบางผืนอาจจะใช้เวลานานหลายปีขึ้นอยู่กับ ความสวยงามของลวดลายการทอ เมื่อถึงวันออกงานสาวๆบ้านไหนที่นุ่งผ้าซิ่นที่สวยงามสวยงามนั้น เมื่อผู้อื่นได้พบเห็นก็จะที่ถูก กล่าวถึงเป็นที่ภูมิใจ ในด้านฝีมือการทอผ้า ทั้งนั้นตัวผ้าซิ่นจะบ่งบอกความเป็นกุลสตรี ในด้านความประณีตด้านงาน ฝีมือ ความสุขุมและสมาธิ และอีกทั้งยังบ่งบอกถึงสถานะทางสังคมอีกด้วย อาจกล่าวง่ายๆได้ว่า “สำเนียงต่อภาษา ส่วน เนื้อผ้าส่อสกุล” ได้เลยทีเดียว สำหรับองค์ประกอบของผ้าซิ่นนั้นสามารถแยกประเภทได้เป็น 3 ส่วนหลัก คือ 1.หัวซิ่น จะเป็นส่วนที่อยู่ด้านบนสุดของผ้า ซิ่น โดยที่ในขณะที่นุ่งใส่จะอยู่บริเวณช่วงเอวและอยู่ใต้ชายเสื้อทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก อีกทั้ง ส่วนมากนั้นไม่มีการแต่งเติมลวดลายในส่วนนี้ 2.ตัวซิ่น เป็นส่วนที่กว้างมากที่สุดของผ้าซิ่นและเป็นส่วนหลักๆที่สามารถ มองเห็นได้ในขณะสวมใส่ตั้งแต่ใต้เอวจนถึงบริเวณหน้าแข้งทีเดียว ส่วนมากมักมีการถักให้มีสีสันและลวดลายบ้าง เล็กน้อยแต่จะเป็นแบบเดียวกันตลอดทั้งตัวผ้าซิ่น เพื่อความเป็นเนื้อเดียวกันและไม่ให้เป็นจุดเด่น 3.ตีนซิ่น ส่วนนี้นั้นจะอยู่ด้าน ล่างสุดตามชื่อเรียก ซึ่งจะเป็นส่วนที่มีลวดลายที่โดดเด่นเป็นพิเศษทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเฉพาะของท้องถิ่น ผ้าซิ่นแต่ละประเภทนั้นจะถูกเรียกชื่อตามจารีตท้องถิ่นและแหล่งต้นกำเนิดของผ้าซิ่น โดยประเภทของผ้าซิ่นก็ จะขึ้นอยู่กับความแตกต่างของรายละเอียดขององค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนที่กล่าวไปในข้างต้น ที่จะต่างกันไปในแต่ละพื้นเมือง เช่น ความกว้างแคบของตีนผ้าซิ่น ภาคเหนือมักมีความกว้างของตีนซิ่นที่มากกว่าฝั่งอีสานที่มักนิยมตีนซิ่นที่แคบ หรือ กระทั่งความแตกต่างกันในเรื่องของลวดลายก็จะเป็นตัวแบ่งกลุ่มของผ้าซิ่น ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดๆ การเลือกผ้าซิ่น ต้องคำนึงรูปร่างและทรวดทรงของผู้สวมใส่โดยต้องมีความกว้างที่พอดีกับความสูง และมีความยาวหรือเส้นรอบวงที่พอดีกับ ช่วงลำตัวเพื่อความงดงามและเหมาะสม หวังว่าจะทุกท่านจะได้ความรู้เกี่ยวกับผ้าซิ่นกันพอสังเขปนะครับ เครดิต : http://www.prou-d.com/15127400/ผ้าซิ่น-sinh-fabric-textiles-silk (http://images.thaiza.com/177/177_20100510151947..jpg) Tags : sinh fabric,ผ้าซิน,ผ้าไหม หัวข้อ: Re: ผ้าซิ่นผ้าไหม เริ่มหัวข้อโดย: Navaphon11991 ที่ มิถุนายน 22, 2015, 11:02:12 pm ขออนุญาตดันกระทู้ครับ
|