หัวข้อ: ฝรั่งนั้นมีข้อดียังไง เเละสามารถนำมาทำอะไรได้บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ กรกฎาคม 04, 2018, 11:40:51 am (https://www.img.live/images/2018/07/03/1990ec.jpg)[/b]
ฝรั่ง[/size][/b] ชื่อสมุนไพร ฝรั่ง ชื่ออื่นๆ/ ชื่อแคว้น มะก้วย มะก้วยกา มะกา (เชียงใหม่) , มะปั่น (จังหวัดลำปาง) , บักสีดา (อีสาน) , สีดา (จังหวัดนครพนม) จุ่มโป่ (สุราษฎร์) , ชมพู่ (ปัตตานี) , ยามู ,ย่าหมู (ภาคใต้) ยะมูบุเตบันยา (ที่นาราธิวาส , มลายู) , ยะริง (ละว้า) , ฮวงเจี๊ยะหลิ่วกังซิวก้วยติดจีฉิ่ว (จีน) ชื่อสามัญ Guava ชื่อวิทยาศาสตร์ Psidium guajava Linn สกุล MYRTACEAE บ้านเกิดเมืองนอน ฝรั่งคือผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดหรือเป็นพืชประจำถิ่นของเมริกาเขตร้อน De Candolle มั่นใจว่าอยู่ระหว่างเม็กซิโก และเปรู รวมถึงหมู่เกาะอินดีสตะวันตกด้วยชาวสเปนนำจากฝั่งแปซิฟิคไปยังประเทศฟิลิปปินส์ และก็ประเทศโปรตุเกสนำจากฝั่งตะวันตกไปยังประเทศอินเดีย สำหรับในประเทศไทยนั้น คาดว่ามีการนำเข้ามาในประเทศไทยในตอนสมัยของสมเด็จพระทุ่งนารายณ์มหาราช ปัจจุบันเป็นพืชมีขึ้นทั่วไปในเขตร้อนและก็ครึ่งหนึ่งร้อน ปลูกเป็นไม้ผลตามบ้าน ตามสวนทั่วๆไป ลักษณะทั่วไป ฝรั่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กสูง 5-10 เมตร ลำต้นกิ่งก้านมีแก่นไม้เหนียวแข็งดี เปลือกต้นเรียบมีเหลืองอ่อนออกเทา และมีรอยลอกออกเป็นแผ่นๆก้านอ่อนมีลักษณะสี่เหลี่ยม มีขนสีขาวๆสั้น ก้านแก่ ขนร่วงไปหมด ยอดอ่อนมีขนสีขาวสั้นๆปกคลุม ใบเป็นใบโดดเดี่ยวออกตรงกันข้ามกันมีน้อยที่ออกเป็นวง (ที่ข้อเดียวกันออกเกินกว่า 2 ใบ) ใบรูปไข่ยาว 5-12 เซลเซียสมัธยม หรือกว้าง 3-5 เซลเซียสม. ขยี้ใบสูดดมดูเหมือนจะมีกลิ่นหอม ใบบางเหมือนแผ่นหนัง ปลายใบมนหรือแหลมสั้น ฐานใบค่อยๆขยายแหลมออกมายังกลางใบ ขอบใบเรียบข้างหลังใบมีสีเขียวแก่ มีรอยเส้นใบ (บุ๋มลงไปบางส่วน) ท้องใบมีขนสั้นๆสีขาวนุ่ม รวมทั้งมีเส้นใบเป็นรอยนูนออกมา มีเส้นใบ 7-11 คู่ ก้านใบยาว 4 เซนติเมตร ดอกอาจออกเป็นช่อ 1-4 ดอก มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวกลมมน กลีบดอกสาวบางๆหลุดหล่นง่าย ยาว 2-2.5 ซ.มัธยม มีเกสรตัวผู้มากมาย มีก้านเกสรตัวผู้สีขาวยาวพอกับกลีบดอก มีอับเรณูสีเหลืองอ่อน มีก้านเกสรตัวเมีย 1 อันยาวพุ่งขึ้นมาสูงยิ่งกว่าก้านเกสรตัวผู้ รังไข่อยู่ข้างล่างมี 5 ห้องและก็ลักษณะทรงกลม และก็มีกลีบเลี้ยงเหลือติดอยู่กับปลายผล ผลรูปทรงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวโดยประมาณ 3-15 ซ.ม. เนื้อผลโดยมากมีสีเหลือง ขาว หรือชมพู มีกลิ่นหอม เมล็ดแข็ง เป็นรูปไตมีเยอะๆ ขนาดเม็ด 0.3-0.5 ซม. สีขาวอ่อน มักพบปลูกตามบ้านหรือสวนทั่วไปเอาผลไว้กินหรือขาย การขยายพันธุ์ สามารถเติบโตได้ดีในทุกภาวะดิน และทนต่อความแล้ง รวมทั้งน้ำนองได้นิดหน่อย แม้กระนั้นโดยปกติมักชอบเจริญวัยได้ดีในดินร่วนคละเคล้าทราย ที่มีภาวะพื้นที่มีการระบายน้ำดี สามารถได้ผลผลิตได้โดยประมาณ 1 ปีข้างหลังปลูก ผลสามารถเก็บได้ในตอน 4-5 เดือน ข้างหลังติดดอก โดยปกติจะให้ผลได้ในช่วงปลายฤดูแล้งถึงต้นหน้าฝนหมายถึงตอนมีนาคม-มิถุนายน สำหรับในการเพาะพันธุ์ฝรั่งสามารถทำเป็นหลายแนวทาง อาทิเช่น การปลูกด้วยเม็ด การทาบกิ่ง การตำหนิดตา การปักชำ แม้กระนั้นแนวทางที่นิยมมากที่สุดเป็นการตอนกิ่ง การเตรียมดิน รวมทั้งการเตรียมแปลง ในการปลูกฝรั่งนั้น สามารถทำได้ 2 แบบอย่างตามภาวะพื้นที่ เป็น
การให้น้ำ เริ่มให้น้ำหนแรกหลังการปลูกเสร็จให้เปียกชุ่ม หลังจากนั้น ให้น้ำทุก 2 ครั้ง/วัน รุ่งเช้า-เย็น จนถึงต้นฝรั่งตั้งตัวได้ โดยอาจเลือกใช้ระบบการให้น้ำที่มีประสิทธิภาพ ต่อจากนั้นอาจกระทำให้น้ำน้อยลง ขึ้นอยู่กับภาวะภูมิอากาศ แล้วก็ความชุ่มชื้นของดิน ซึ่งไม่สมควรปลดปล่อยให้ดินแห้ง ขาดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนติดผล แต่ในตอนติดดอกไม่ควรให้น้ำมากซึ่งในช่วงนี้เพียงแต่ระวังไม่หน้าดินแห้งก็ พอเพียง โดยสายพันธุ์ของฝรั่งที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เช่น จำพวก แป้นสีทองคำ , ประเภทกิมจู , ชนิดกลมสาลี่ , จำพวกไม่มีเม็ด , ชนิดเวียดนาม เป็นต้น ส่วนประกอบทางเคมี quercetin, quercetin-3-arabinoside , quercetin 3-O-b-L-arabinoside (guajavarin), quercetin 3-O-b-D-glucoside (isoquercetin), quercetin 3-O-b-D-galactoside (hyperin), quercetin 3-O-b-L-rhamnoside (quercitrin) รวมทั้ง quercetin 3-O gentiobioside , Tannin ในผิวฝรั่งเมื่อเอามาสกัดน้ำมันระเหย เจอสารต่างๆเป็นต้นว่า 1,8-cineole , a-copaene, trans-caryophyllene , humulene , a-amorphene , nerolidol , caryophyllene oxide , epigiobulol, longitorenedehyde , aromaden dendrene , helifdenolC ฯลฯ รวมทั้งสำหรับคุณประโยชน์ทางโภชนาการของฝรั่งต่อ (165 กรัม) คือ
ประโยชน์/สรรพคุณ ฝรั่งเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่เหมาะกับคนที่อยากได้ลดความอ้วน ลดความอ้วน หรือผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะฝรั่งอุดมไปด้วยกากใยอาหาร เมื่อรับประทานแล้วจะทำให้อิ่มนาน ช่วยกำจัดท้องร้อง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ช่วยปรับระดับการใช้อินซูลินของร่างกายให้สมควร และยังช่วยล้างพิษโดยรวมได้อีกด้วย ก็เลยมีผลทำให้ผิวพรรณดูสดใสสดใส โดยฝรั่งจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกชนิด แล้วก็ยังมีวิตามินซีสูงกเงินว่าส้มถึง 5 เท่า แล้วก็ยังนิยมนำฝรั่งไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆตัวอย่างเช่น ฝรั่งดอง ฝรั่งแช่บ๊วย พายฝรั่ง แล้วก็ของหวานอีกหลายประเภท รวมถึงนำมาใช้ทำเป็นยาแคปซูลแก้ท้องร่วงจากใบฝรั่ง ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ซึ่งใส่แคปซูลละ 250 มก. นอกเหนือจากนี้น้ำมันหอมระเหยในใบฝรั่งยังมีการใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอาหาร ดังเช่น หมากฝรั่ง ลูกอม รวมทั้งนำมาผสมหรือแต่งกลิ่นในน้ำยาบ้วนปากได้อีกด้วย ส่วนคุณประโยชน์ทางยาของฝรั่งนั้นมีดังนี้ แบบเรียนยาไทยบอกว่า เปลือกต้น, ราก รสฝาด อ่อนโยน ใช้แก้แผลมีพิษ แก้ปวดฟัน โรคลักปิดลักเปิด แก้อาการเลือดกำเดา แก้น้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง ใบรสฝาดเปียก สุขุมไม่มีพิษ ใช้เป็นยาฝาดสมาน แก้ท้องร่วง บิดเรื้อรัง ผื่นคัน ผื่นคัน รอยแผลที่มีเลือดออก ผลที่ยังไม่สุก รสเปรี้ยว ฝาดสุขุม ใช้แก้ท้องเสีย บิด กำจัดกลิ่นปาก แก้ปวดฟัน ผลหมูสหวานหอมใช้เป็นยาระบาย แก้อาการท้องผูก ใช้ห้ามเลือดต้านทานการอักเสบ ลดน้ำตาลในเลือด โดยใช้เปลือกแห้งหนัก 10 กรัม ต้มน้ำกิน ใบแห้งหนัก 3-5 กรัม ถ้าเกิดเป็นใบสดใช้หนัก 15-30กรัม ต้มน้ำกิน แม้ใช้ด้านนอกต้มเอาน้ำชำระล้างหรือตำพอก ผลที่ยังไม่สุก แห้งหนัก 6-10 กรัม ต้มน้ำดื่ม แบบ/ขนาดการใช้
ฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ แก้ท้องเสีย จากการศึกษาวิจัยฤทธิ์ทางยาของฝรั่งพบว่าการให้ยาเม็ดแคปซูลใบฝรั่งครั้งละ 500 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 วัน กับผู้เจ็บป่วยที่เป็นโรคอุจจาระตก 122 คน สามารถลดปริมาณครั้งของการขี้ ระยะเวลาที่ถ่ายอุจจาระ และปริมาณน้ำเกลือที่ให้ตอบแทนได้ การให้ยาเม็ดแคปซูลฝรั่งขนาด 500 มก. (ที่มีสารฟลาโวนอยด์ 1 มิลลิกรัม/แคปซูล 500 มก.) ทุก 8 ชั่วโมง ตรงเวลา 3 วันในผู้ป่วยที่มีอาการท้องเดิน ปวดท้อง จำนวน 50 คน จะสามารถลดการบีบตัวของไส้รวมทั้งลดระยะเวลาเจ็บท้องได้ การให้ยาต้มของฝรั่งในคนป่วยเด็กที่เป็นโรคลำไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส (Rota virus) 62 คน ทำให้อาการด้านใน 3 วัน ระยะเวลาท้องเดินสั้นลง และไม่พบเชื้อ Rota virus ในอุจจาระมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม สารสกัดใบฝรั่งด้วยคลอโรฟอร์ม เฮกเซน เมทานอล รวมทั้งน้ำ สามารถลดการเคลื่อนไหว รวมทั้งการหดเกร็งของลำไส้เล็กของหนูตะเภาและหนูแรทที่ถูกเหนี่ยวนำให้มีการขยับเขยื้อนเยอะขึ้นเรื่อยๆด้วยอะเซทิลโคลีน สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอลจำนวนร้อยละ 50 สามารถยั้งการยุบตัวของลำไส้เล็กส่วนปลายของหนูเม้าส์ที่ถูกรั้งนำให้หดตัวด้วยกระแสไฟ อะเซทิลโคลีน รวมทั้งแบเรียมคลอไรด์ได้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งสามารถยับยั้งอาการท้องเสียในหนูเม้าส์ที่ถูกชักพาให้เกิดอาการท้องเสียด้วยน้ำมันละหุ่ง โดยฝรั่งจะไปเพิ่มการดูดซึมน้ำในลำไส้และก็ลดการบีบตัวของไส้ สารสกัดด้วยน้ำของใบฝรั่งสดสามารถยั้งอาการท้องร่วงได้ โดยลดปริมาณครั้งของการอุจจาระในหนูซึ่งถูกรั้งนำให้กำเนิดอาการท้องเสียด้วยยา microlax ได้ ส่วนสกัดของสารกรุ๊ป polyphenolic, saponin และ alkaloid จากใบฝรั่ง สามารถยั้งการหดเกร็งของลำไส้เล็กของหนูตะเภาที่รั้งนำให้หดเกร็งด้วยอะเซทิลโคลีนและโปแตสเซียมคลอไรด์ได้ สาร quercetin แล้วก็ quercetin-3-arabinoside จากใบฝรั่ง สามารถต้านทานการหดตัวของลำไส้เล็กที่ถูกรั้งนำด้วยอะเซทิลโคลีน ทำให้ไส้มีการเคลื่อนน้อยลง นอกนั้นสาร quercetin ในใบฝรั่งยังสามารถยั้งการหดเกร็งของลำไส้เล็กในหนูแรทรวมทั้งหนูตะเภาซึ่งรั้งนำให้กำเนิดอาการหดเกร็งด้วยสารละลายโปตัสเซียม อะเซทิลโคลีน แบเรียมคลอไรด์ ฮีสตามีน แล้วก็ซีโรโทนินได้ แล้วก็สามารถลดความสามารถสำหรับในการซึมผ่านของๆเหลวของเส้นเลือดฝอยบริเวณท้องซึ่งส่งผลช่วยรักษาอาการท้องร่วง สาร quercetin 3-O-b-L-arabinoside (guajavarin), quercetin 3-O-b-D-glucoside (isoquercetin), quercetin 3-O-b-D-galactoside (hyperin), quercetin 3-O-b-L-rhamnoside (quercitrin) แล้วก็ quercetin 3-O-gentiobioside จากใบฝรั่ง สามารถลดการหดเกร็งของลำไส้เล็กหนูเม้าส์ได้ สาร asiatic acid จากใบฝรั่งมีผลทำให้กล้ามเนื้อของลำไส้เล็กส่วนปลายของกระต่ายคลายตัว สารสกัดผลฝรั่งดิบด้วยเมทานอลมีฤทธิ์ต้านการหลั่งอะเซทิลโคลีนในลำไส้เล็กของหนูแรทแล้วก็หนูตะเภาได้ แม้กระนั้นมีฤทธิ์น้อยกว่าอะโทรไต่ โดยฝรั่งส่งผลทำให้ลำไส้มีการขยับเขยื้อนน้อยลง ทำให้รักษาอาการท้องเสียได้ สารสกัดฝรั่ง (ไม่กำหนดส่วน) สามารถลดการบีบตัวของลำไส้เล็กของหนูแรทได้ ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียมีการเรียนการต้านเชื้อแบคทีเรียหลายรายงาน อย่างเช่น สารสกัดเอทานอลของฝรั่ง สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli, Salmonella enteritidis, Shigella flexneri ได้ สารสกัดน้ำ ความเข้มข้น 10-5 มคล./มิลลิลิตร ทดสอบในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ พบว่าสามารถยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Shigella dysenteriae ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคบิดได้ สารสกัดเปลือกต้น ด้วย 70% เอทานอล ความเข้มข้น 250 มก./มิลลิลิตร ทดลองในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ พบว่าสามารถยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคอุจจาระตกหมายถึงStaphylococcus aureus, Vibrio cholerae รวมทั้ง V. parahaemolyticus แม้กระนั้นไม่เป็นผลต่อเชื้อ E. coli, Shigella flexneri, Salmonella typhimurium สารสกัดราก กิ่ง แล้วก็ใบฝรั่งด้วย 50% เอทิลอัลกอฮอล์ ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ พบว่าสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย E. coli, Sh. dysenteriae, Sh. flexneri, S. typhimurium ที่เป็นต้นเหตุนำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร แต่ไม่เป็นผลต่อเชื้อ Salmonella enteritidis สารสกัดกิ่งฝรั่งด้วยเอทานอล:น้ำ อัตราส่วน 1:1 ความเข้มข้น 50 มคล. สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Sh. dysenteriae, Sh. flexneri (ซึ่งทำให้มีการเกิดโรคบิด) E. coli (แบคทีเรียในลำไส้) S. typhimurium (ทำให้เกิดโรคไข้รากสาดน้อย) แม้กระนั้นไม่เป็นผลต่อเชื้อ S. enteritidis สารสกัดทิงเจอร์ของฝรั่ง สามารถยั้งเชื้อแบคทีเรีย V. chlorea ที่เป็นสาเหตุของอหิวาตกโรค ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้แม้กระนั้นได้ผลปานกลาง น้ำมันหอมระเหยของใบฝรั่ง สามารถยั้งเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus แม้กระนั้นไม่เป็นผลต่อเชื้อ Bacillus subtilis, E. coli, S. typhimurium ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ สารสกัดใบฝรั่งด้วยปิโตรเลียมอีเทอร์ ความเข้มข้น 1,000 มคก./มิลลิลิตร สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย Enterococcus faecalis ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ แต่ว่าไม่มีผลต่อเชื้อ E. coli, S. typhimurium, S. aureus สารสกัดใบฝรั่งด้วยน้ำ ความเข้มข้น 20 มก./มล. พบว่าสามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย S. dysenteriae 1 (ส่งผลให้เกิดโรคบิด) และก็ V. chlorea (นำมาซึ่งอหิวาตกโรค) ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ ซึ่งขนาดความเข้มข้นต่ำสุดที่ยับยั้งได้ (MIC) มีค่าพอๆกับ 1.25, 5 มิลลิกรัม/มล. ตามลำดับ สารสกัดผลดิบของฝรั่งด้วยเมทานอล ในขนาด 50,100, 300 มก./กิโลกรัม สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Sh. dysenteriae 1, Sh. dysenteriae 2, Sh. dysenteriae 4, Sh. dysenteriae 8 และก็ V. chlorea 1350 ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ ซึ่งความเข้มข้นต่ำสุดที่ยับยั้งได้ (MIC) มีค่าพอๆกับ 100-200 มคกรัม/มิลลิลิตร สารสกัดหยาบของใบฝรั่ง สามารถยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Vibrio ที่แยกได้จากกุ้งว่าวกุลาดำที่เป็นโรค 23 สายพันธุ์ ซึ่งความเข้มข้นต่ำสุดที่ยับยั้งได้ (MIC) มีค่าพอๆกับ 1.25-5.00 มิลลิกรัม/มล. สารสกัดใบฝรั่งด้วยอะซีโตน และ 95% เอทานอล สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย Salmonella B, S. newport, S. typhimurium, Sh. flexneri นอกเหนือจากนี้สารสกัดใบ ลำต้นฝรั่งด้วย 95% เอทานอล ยังสามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย E. coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้อีกด้วย สารสกัดใบ ลำต้นฝรั่งด้วยน้ำ สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย E. coli, Sh. flexneri, S. aureus แต่ว่าไม่มีผลต่อเชื้อ Salmonella B, S. newport แล้วก็ S. typhimurium ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ สารสกัดใบฝรั่งด้วยเมทานอล สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Sh. flexneri ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ ซึ่งความเข้มข้นต่ำสุดที่ยั้งได้ (MIC) มีค่าพอๆกับ 10 มก./วัน แม้กระนั้นสำเร็จไม่แน่นอนต่อเชื้อ E. coli, S. typhimurium สารสกัดใบฝรั่งด้วย 95% เอทานอล ความเข้มข้น 1,000 มคกรัม/มล. พบว่าสามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระตก ตัวอย่างเช่น Salmonella D, Sh. dysenteriae 1, Sh. flexneri 2A, Sh. flexneri 4A ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ แต่ว่าไม่มีผลต่อเชื้อ Salmonella B, S. typhimurium type 2, Shigella bodyii, Sh. bodyii 5, Sh. dysenteriae 2, Sh. flexneri 3A, Sh. sonnei ส่วนสกัดแทนนินจากใบฝรั่ง ความเข้มข้น 85, 95, 95, 100, 110 มคกรัม/มิลลิลิตร สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Sh. flexneri, S. enteritidis, S. aureus , Escherichia piracoli, E. coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ เป็นลำดับ สารสกัดใบฝรั่งด้วยเมทานอล สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Salmonella spp. ได้ 2 สายพันธุ์ รวมทั้งต่อต้านเชื้อ Sh. flexneri, Sh. virchow, Sh. dysenteriae และก็เชื้อ E. coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอล:น้ำ(1:1)รวมทั้งอะซีโตน สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย E. coli ที่เป็นสาเหตุของโรคอุจจาระหล่นได้ สารสกัดลำต้นฝรั่งด้วย 95% เอทานอล สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย S. newport และก็ S. typhimurium, Sh. flexneri ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ แต่ไม่เป็นผลต่อเชื้อ Salmonella B, S. aureus น้ำคั้นจากผลฝรั่ง ไม่สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย Bacillus typhosus ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคไทฟอยด์ได้ สารสกัดส่วนที่อยู่เหนือดินด้วยอัลกอฮอล์ รวมทั้งน้ำ (1:1) ความเข้มข้นมากกว่า 25 มคกรัม/มล. ไม่อาจจะต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย B. subtilis, E. coli, S. typhosa มีการทำการศึกษาเรียนรู้โดย ปัญจางค์ ธนังฉันล และก็แผนก ในผู้เจ็บป่วย 122 คน ที่เป็นโรคอุจจาระร่วง เป็นชาย 64 คน แล้วก็หญิง 58 คน ซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 16-55 ปี ทำการศึกษาเรียนรู้เปรียบเทียบโดยวิธีการสุ่มตัวอย่าง โดยนำใบฝรั่งอบแห้งแล้วบดเป็นผง ใส่แคปซูล ขนาด 250 มิลลิกรัม ลักษณะเดียวรวมทั้งขนาดเดียวกับ tetracyclin และก็บริหารการรับประทานยาเช่นเดียวกันหมายถึง500 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 วัน ทั้งคู่กรุ๊ป พบว่าใบฝรั่งสามารถลดปริมาณอุจจาระ ระยะเวลาที่ขี้ และจำนวนน้ำเกลือที่ให้ตอบแทนได้ มีการศึกษาในผู้ป่วยเด็ก 62 คน ที่เป็นโรคไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส (Rota virus) โดยให้รับประทานยาต้มของฝรั่ง พบว่าอาการดีขึ้นข้างใน 3 วัน แล้วก็ช่วงเวลาท้องเดินสั้นลงกว่ากรุ๊ปควบคุมอย่างเป็นจริงเป็นจัง (p<0.05) จำนวนโซเดียมและกลูโคสในอุจจาระลดลง แล้วก็ผลของการตรวจอุจจาระไม่พบเชื้อ Rota virus สูงถึง 87.1% ในระหว่างที่กลุ่มควบคุมไม่พบเชื้อ Rota virus 58.1% มีความหมายว่ายาต้มของฝรั่งมีประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการรักษาอาการท้องเสียในคนไข้ไส้อักเสบจากเชื้อ Rota virus ได้ ฤทธิ์ต้านทานการอักเสบ จากการเล่าเรียนทางสถานพยาบาลในผู้ป่วย 70 คน ที่มีเหงือกอักเสบ พบว่าน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบฝรั่งสามารถลดการอักเสบได้จำนวนร้อยละ 19.8 และก็ลดรอยโรคที่ความรุนแรง ได้จำนวนร้อยละ 40 เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบฝรั่ง หลังจากใช้เป็นเวลา 3 สัปดาห์ สารสกัดใบฝรั่งด้วยน้ำขนาด 50-800 มิลลิกรัม/กก. เมื่อฉีดเข้าท้องพบว่ามีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบแบบฉับพลัน เมื่อทดสอบกับอุ้งเท้าหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบด้วยไข่ขาวสด นอกจากนั้นเมื่อฉีดน้ำมันหอมระเหยจากใบฝรั่งเข้าทางช่องท้องของหนูแรทในขนาด 0.8 มิลลิลิตร/กิโลกรัม พบว่าสามารถยับยั้งการอักเสบที่ถูกรั้งนำด้วยสาร carrageenan ได้ สารสกัดจากผลฝรั่งด้วยเมทานอลเมื่อฉีดเข้าทางท้องของหนูแรท พบว่าสามารถยั้งการอักเสบของอุ้งเท้าหนูที่ถูกรั้งนำให้เกิดการอักเสบด้วยสาร carrageenan, kaolin แล้วก็ formaldehyde ได้ นอกเหนือจากนี้สารสกัดผลฝรั่งด้วยเมทานอลเมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องของหนูเม้าส์จะสามารถยั้งการอักเสบและก็ลดลักษณะของการเจ็บปวดที่ถูกเหนี่ยวนำด้วย acetic acid ได้ดีมากว่าแอสไพรินที่ให้ในขนาดเสมอกันนิดหน่อย เมื่อนำใบฝรั่งมาหมักกับราและก็แบคทีเรียได้แก่ Phellinus linteus (ส่วนเส้นใย) Lactobacillus plantarum แล้วก็ Saccharomyces cerevisiae แล้วนำมาสกัดด้วยเอทานอล พบว่าสารสกัดที่ได้มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบโดยยั้งการสร้างสารที่นำมาซึ่งการอักเสบคือ ไนตริกออกไซด์รวมทั้ง พรอสต้าเอ็งรนดิน อี 2 ในหลอดทดสอบ นอกจากนั้นสารสกัดฝรั่งด้วยเอทานอลแล้วก็น้ำยังออกฤทธิ์ยับยั้งการผลิตไนตริกออกไซด์ สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทิลอะซีเตตมีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบ และแก้แพ้โดยยับยั้งการโต้ตอบต่อแอนติเจนที่ชักจูงให้มีการแพ้และก็การอักเสบ ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอลมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูแรทที่ถูกชักนำให้เป็นโรคเบาหวานด้วยการฉีด alloxan เข้าหลอดโลหิตดำขึ้นรถสกัดใบฝรั่งออกฤทธิ์ใน 2 ชั่วโมง มีฤทธิ์สูงสุดในชั่วโมงที่ 6 และก็หมดฤทธิ์ใน 1 วัน ฤทธิ์ต้านเซลล์ของมะเร็ง สารสกัดใบฝรั่งมีความเป็นพิษต่อเซลล์ของโรคมะเร็ง murine fibrosarcoma รวมทั้งเซลล์ของมะเร็งเต้านม (https://www.img.live/images/2018/07/03/cc91e2aa1fe593cf.jpg)[/b] การเรียนทางพิษวิทยา การทดสอบความเป็นพิษ พิษเฉียบพลัน สารสกัดด้วยน้ำจากใบ LD50 มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 20 ก./กิโลกรัม เมื่อให้ทางปากในหนูถีบจักรทั้ง 2 เพศ และมีค่ามากยิ่งกว่า 5 ก./กก. เมื่อฉีดเข้าทางท้อง สารสกัดเอทานอล (50%) จากส่วนเหนือดิน LD50 มีค่าพอๆกับ 0.188 เมื่อฉีดเข้าช่องท้องในหนูถีบจักร พิษเรื้อรัง การให้สารสกัดน้ำจากใบทางปาก ขนาด 0.2, 2 รวมทั้ง 20 ก./กก. ทุกวันต่อเนื่องกันตรงเวลา 6 เดือน พบว่าอัตราการเพิ่มของน้ำหนักตัวลดลง ในกรุ๊ปที่ได้รับสารสกัด เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับน้ำ ขณะที่ไม่เจอความไม่เหมือนของจำนวนอาหารที่รับประทานในทุกกรุ๊ป การกระทำทั่วไปธรรมดาในทุกกรุ๊ป หนูเพศผู้มีระดับ ALP, SGPT (การทำงานของตับ), BUN (รูปแบบการทำงานของไต) รวมทั้ง WBC สูงมากขึ้น ในขณะที่ระดับของโซเดียมและก็คลอเลสเตอรอลในเลือดลดน้อยลง น้ำหนักของตับรวมทั้งไตมากขึ้น การตรวจทางจุลทัศน
|