หัวข้อ: มะนาว มีสรรพคุณเเละประโยชน์ดีๆ อีกมากมายที่เรายังไม่รู้ เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ กรกฎาคม 05, 2018, 10:18:46 am (https://www.img.live/images/2018/07/03/1a3db5.jpg)[/b]
มะนาว[/size][/b] ชื่อสมุนไพร มะนาว ชื่ออื่นๆ/ชื่อแคว้น ส้มมะนาว (ภาคกึ่งกลาง),ส้มทุ่งนาว (ภาคใต้) ,สีมานีปีห์ (มลายู) ,หมากฟ้า (ไทยใหญ่) , โกรยชะม้า (เขมร) , มะเน้าเลย์ , มะนอเกละ , ปะนอเกล (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน) , ปะโหน่งกเงินลยาน (กะเหรี่ยง จังหวัดกาญจนบุรี) ชื่อสามัญ Common lime, Lime , Sour lime ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus aurantifolia (Christm. et Panz.) Swing. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Limonia aurantifolia Christm. & Panzer. ตระกูล Rutaceae บ้านเกิดเมืองนอน เช้าใจกันว่ามะนาวเป็นพืชประจำถิ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เนื่องจากว่าคนที่อยู่ในภูมิภาคนี้ รู้จักการใช้ประโยชน์จากมะนาวกันอย่างดีเยี่ยมมาตั้งแต่อดีตแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเมืองไทย แต่ว่ามีการศึกษาและทำการค้นพบอีกชิ้นหนึ่งที่เชื่อว่ามะนาวมีบ่อเกิดในอินเดียทางเหนือ และก็เขตเชื่อมต่อกับเมียนมาร์ รวมถึงทางตอนเหนือของมาเลเซีย (แต่น่าประหลาดที่ไม่พบมะนาวในป่าของไทย) ปัจจุบันนี้มีการปลูกมะนาวทั่วไปในเขตร้อน และก็เขตอบอุ่นกึ่งร้อนทั่วทั้งโลกเนื่องจากมะนาวสามารถขึ้นได้ในที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ รวมทั้งทนต่อดินเนื้อละเอียดได้ดีกว่าส้ม ลักษณะทั่วไป มะนาวเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดเล็กมีลักษณะเป็นพุ่มมีความสูงเฉลี่ย 2-5 เมตร ลำต้นมีลักษณะโค้งงอไม่ค่อยแข็งแรง เปลือกของลำต้นมีสีน้ำตาลปนเทา กิ่งอ่อนของมะนาวมีสีเขียวอ่อน เมื่อแก่ สีจะเข้มขึ้นจนเป็นสีน้ำตาลส่วนกิ่งที่แก่มากมายจะเป็นสีเทา การออกของกิ่งไม้ไม่ค่อยเป็นระเบียบ บนลำต้นแล้วก็แขนงจะมีหนาม หนามมีลักษณะแหลมมีอีกทั้งหนามสั้นรวมทั้งหนามยาวมีสีเขียวเข้มและก็สีเขียวอมเหลือง ส่วนบริเวณปลายหนามีสีน้ำตาล เมื่อแก่ขึ้นหนามจะแห้งตามไป ใบของมะนาวมีลักษณะเป็นใบลำพัง เป็นมีแผ่นใบอันเดียว ใบมีขนาดเล็กกว้างราว 3-6 เซนติเมตร ยาวราวๆ 6-12 ซม.รูปร่างเป็นแบบรีหรือทรงไข่ ฐานใบมีลักษณะกลม ปลายใบมีรูปแหลม ป้าน ขอบใบเป็นคลื่น หรือเป็นหยักละเอียด ก้านใบสั้นรวมทั้งมีปีกใบแคบหรืออาจไม่มีปีกใบก็ได้ ดังนี้ขึ้นอยู่กับชนิดมะนาว ใบอ่อนมีสีเขียวจางเกือบจะเป็นสีขาว ใบแก่มีสีเขียวเข้ม ผิวใบข้างบนละเอียดวาวส่วนผิวใบด้านล่างค่อนข้างจะหยาบรวมทั้งมีสีจางกว่า เมื่อทำขยี้ใบจะมีกลิ่นฉุน ดอกมะนาวบางทีอาจเกิดเป็นดอกผู้เดียวหรือช่อก็ได้ มีในขณะที่เป็นดอกสมบูรณ์และไม่บริบูรณ์ ดอกจะออกบริเวณซอกใบและปลายกิ่ง ดอกมะนาวมีขนาดเล็ก ดอกที่ตูมจะมีขนาดความยาว 1-2 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงมีสีเขียวเป็นรูปถ้วยมี 4-6 หยัก ส่วนกลีบดอกมีสีขาว แล้วก็ด้านท้องกลีบดอกอาจมีสีม่วงอมแดงเจืออยู่ด้วย กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปถ้วย มีปริมาณ 4-5 อัน จำนวนกลีบในและกลีบนอกมีปริมาณเท่าๆกัน แต่ละกลีบมีขนาด 0.8-1.2 เซนติเมตร ดอกมะนาวมีเกสรตัวผู้ล้นหลามถึง 20-40 อัน เชื่อมติดกันเป็นกลุ่ม กรุ๊ปละ 4-8 อัน เกสรตัวเมียมีรังไข่รูปร่างเป็นทรงกระบอก ใน 1 ดอก จะมีรังไข่โดยประมาณ 9-12 อัน ผลมะนาวมีรูปร่างนาๆประการตามจำพวกของชนิด มีทั้งยังรูปร่างยาวรี รูปไข่ และรูปร่างกลม ที่ตูดผลมีลักษณะเป็นจุกหรือปุ่มเล็กๆผลโดยธรรมดามีขนาดความยาว 3-12 เซนติเมตร เปลือกมักษณะขรุขระ แล้วก็มีต่อมน้ำมันเปลือกผิว ผิวเปลือกเมื่อแหลม ใส่อยู่เป็นจำนวนมาก เนื้อมะนาวมีสีเหลืองอ่อน มีรสเปรี้ยวแล้วก็มีกลิ่นหอมสดชื่นเมล็ด ขนาดเล็กเหมือนรูปไข่ ด้านปลายหัวจะแหลม ด้านในเมล็ดมีเยื่อสีขาว การขยายพันธุ์ มะนาวเป็นพืชซึ่งสามารถปลูกได้ดิบได้ดีในดินดูเหมือนจะทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ดินเหนียว ดินปนทราย แม้กระนั้นหากต้องการจะปลูกมะนาว ให้เจริญงอกงามดี มี ผลดก รวมทั้งคุณภาพดี ก็น่าจะปลูกภายในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนซุย มีการระบาย น้ำดี มีอินทรียวัตถุผสม อยู่มาก และก็ควรที่จะทำการเลือกพื้นที่ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ ส่วนการขยายพันธุ์มะนาวนั้นสามารถทำเป็นหลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น การตอนกิ่ง การทาบกิ่ง แล้วก็การตำหนิดตา แต่วิธีที่ได้รับความนิยมสำหรับการขยายพันธุ์มะนาวสูงที่สุดคือ การตอนกิ่ง โดยมีวิธีดังต่อไปนี้
ควรปลูกเอาไว้ภายในช่วงต้นฤดูฝน ควรจะขุดหลุมปลูก ให้มีขนาดกว้างและก็ลึกราวๆ 50 ซม. ผสมดิน ปุ๋ยธรรมชาติ และก็ปุ๋ยร็อคฟอสเฟตเข้าด้วยกัน ในหลุมให้ สูงประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม ชูถุงกล้า ต้นไม้วางในหลุม โดยให้ระดับของดินในถุงสูงกว่า ระดับดินปากหลุมบางส่วน ใช้มีดที่คม กรีดถุง จากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุง 2 ด้าน (ช้ายและก็ขวา) ดึงถุงพลาสติกออก โดยระวังอย่าให้ดินแตก กลบดินที่เหลือลงในหลุม กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น ปักไม้หลักรวมทั้งผูกเชือกยึด เพื่อคุ้มครองป้องกันลมพัดโยก หาวัสดุปกคลุมดินรอบๆโคนต้น อย่างเช่น ฟางข้าว ต้นหญ้าแห้ง รดน้ำให้โชก ทำร่มเงา เพื่อช่วยซ่อนแสงแดด การปฏิบัติดูแลรักษา การให้น้ำ ควรจะมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะ ในตอน ที่ปลูกใหม่ๆควรให้น้ำวันละครั้งเป็นอย่างน้อย (กรณีฝนไม่ตก) ภายหลังปลูกประมาณ 15 วัน มะนาวสามารถตั้งตัวได้แล้ว ให้น้ำเดือนละ 2-3 ครั้ง รวมทั้งควรหา สิ่งของมาหุ้มดินรอบๆโคนต้น เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้น ควรเริ่มงดเว้นให้น้ำ ตั้งแต่ตอนมี.ค. เป็นต้นไป จนถึงตอนมีดอก เพื่อให้มะนาวสะสม ของกินให้สูงถึงระดับซึ่งสามารถสร้างตาดอกได้ ปกติมะนาวจะมีดอก เมษายน-พฤษภาคม หลังจากมะนาวมีดอก รวมทั้งกำลังติดผลอ่อน เป็นตอนๆที่มะนาวต้องการน้ำมาก เพื่อใช้เพื่อการเจริญเติบโต ของผล (https://www.img.live/images/2018/07/03/2f58e1.md.jpg)[/b] ส่วนประเภทมะนาวที่มีการปลูกกันมากมายในไทย อย่างเช่น
องค์ประกอบทางเคมี น้ำจากผลมีกรด citric acid, malic acid, ascorbic acid, ผิวมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยที่มาจากการกลั่นผิวผล ร้อยละ 0.3-0.4 ประกอบด้วยสารต่างๆอาทิเช่น d-limonene (42-64%), alpha-berpineol (6.81%), bergamotene ผสมกับ terpinen-4-ol (3%), alpha-pinene citric acid (1.69%), geraniol (0.31%), linalool, terpineol, camphene, bergapten (furanocoumarin) ใบมะนาวเมื่อเอามาสกัดน้ำมันหอมระเหยโดยการ camphene ต้มกลั่น (hydrodistillation) ได้น้ำมันหอมระเหยร้อยละ 0.27 องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันประกอบด้วยสารต่างๆอย่างเช่น 6-methyl-5-hepten-2-one (3.19), limonene (44.82), neral (4.95), geranial (7.66) , geranyl acetate (8.98), caryophyllene oxide (2.31) ส่วนข้อมูลทางโภชนาการของมะนาวมีดังนี้
น้ำมะนาวมีคุณค่าในการเป็นสารให้ความเปรี้ยว ผิวมะนาวมีกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย มะนาวเป็นเครื่องปรุงรสอาหารไทยที่ขาดเสียมิได้ เป็นส่วนประกอบรสเปรี้ยวหลักของน้ำพริก ตำส้ม ยำทุกประเภท ลาบและอาหารไทยอีกอีกเยอะมาก ต่างชาติใช้มะนาวทั้งในอาหารคาวหวาน ได้แก่ ในพายมะนาวของเมืองฟลอริด้า อเมริกา น้ำมะนาวนอกจากใช้แต่งรสเปรี้ยวในอาหารหลาย ชนิดแล้ว ยังนำมาใช้เป็นเครื่องดื่ม ผสมเกลือ รวมทั้งน้ำตาล เป็นน้ำมะนาว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอีกทั้งในประเทศไทย และต่างชาติทั่วทั้งโลก ยิ่งกว่านั้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางจำพวกยังนิยมฝานมะนาวเป็นชิ้นบางๆแทงไว้กับขอบแก้ว เพื่อใช้แต่งรส โดยข้างในผลมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยถึงร้อยละ 7 น้ำมะนาวจึงมีประโยชน์สำหรับใช้เป็นส่วนผสมน้ำยาที่ใช้ในการทำความสะอาด เครื่องหอม การบำบัดด้วยกลิ่น (aromatherapy) หรือน้ำยาล้างจาน นอกเหนือจากนั้นยังมีการใช้ประโยชน์จากมะนาวด้านอื่นๆอีกอย่างเช่น หุงข้าวให้ขาวและก็อร่อยขึ้น ด้วยการใช้น้ำมะนาวราวๆ 2-3 ช้อนนำไปซาวข้าว ทอดไข่ให้ฟูรวมทั้งนุ่ม มะนาว 4-5 หยดจะช่วยได้ มะนาวช่วยลดเหม็นกลิ่นคาวจากปลาเมื่อทำกับข้าวแล้วก็ทำให้ปลาอาจจะรูปไม่เหลว เมื่อใช้มีดผ่าปลี มีดจะมีสีม่วงคล่ำ ล้างออกทุกข์ยากลำบาก เอามาที่นาวที่ผ่าแล้วมาเช็ดตามใบมีด จะช่วยให้มีดสะอาดอย่างเดิม การเชื่อมกล้วยหักมุกให้น่ารับประทาน เมื่อน้ำตาลเดือดเป็นยางมะตูมแล้ว ให้บีบมะนาวครึ่งส่วนลงไป จะช่วยให้กล้วยใส น่าอร่อยมากขึ้น มะนาว 2-3 ลูกใส่เอาไว้ข้างในถังข้าวสารช่วยคุ้มครองป้องกันมอดได้ ส่วนการแปรรูปมะนาว มะนาวแปรรูปได้ ได้แก่ น้ำมะนาวทำอาหาร มะนาวแช่อิ่มตากแห้ง น้ำมะนาวเข้มข้น มะนาว ผง เครื่องดื่มผสมน้ำมะนาว แยมมะนาว เยลลีมะนาว แยมเปลือกของมะนาว แยมนะท้องนาวดอง มะนาวดองเค็ม มะนาวหวาน กิมจ้อมะนาว เปลือกมะนาวสามรส เปลือกของมะนาวเส้นแต่งรส เปลือกของมะนาวเชื่อม เปลือกของมะนาวแช่อิ่ม มาร์มาเลดมะนาว ฯลฯ ส่วนคุณประโยชน์ทางยานั้นระบุว่า แบบเรียนยาไทยผิวมะนาวจัดอยู่ใน “เปลือกส้ม 8 ประการ” ประกอบด้วย ผิวส้มเขียวหวาน ผิวส้มจีน ผิวส้มซ่า ผิวส้มโอ ผิวส้มตรังกานู ผิวมะงั่ว ผิวมะกรูด และก็ผิวมะนาว (หรือผิวส้มโอมือ) มีคุณประโยชน์แก้ลมกองละเอียด กองหยาบคาย แก้เสมหะโลหะ ใช้ปรุงยาหอม แก้ทางลม ยิ่งไปกว่านี้บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์วิชาความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ปรากฏการใช้ผิวมะนาว ในยารักษาอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏตำรับ”ยาหอมเทพจิตร” มีส่วนประกอบของผิวมะนาว อยู่ใน ”เปลือกส้ม 8 ประการ” ร่วมกับสมุนไพรจำพวกอื่นๆในตำรับ มีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน คลื่นไส้ แก้ลมจุกแน่นในท้อง ส่วนในทางการแพทย์แผนปัจจุบันระบุถึงสรรพคุณของมะนาวว่า สารดี-ลิโมนิน (d-limonin) เป็นสารที่นำมาซึ่งความขมในน้ำมะนาว น้ำมันผิวมะนาว (lime oil) พบได้บ่อยรอบๆผิวเปลือกของมะนาวมีสารดี-ลิโมนิน เป็นส่วนประกอบหลักเกินกว่าปริมาณร้อยละ 90 พบว่าน้ำมันผิวมะนาว มีคุณลักษณะคุ้มครองและก็รักษาโรคมะเร็งหลายประเภท ฝรั่งทั่วไปมักดื่มน้ำส้ม หรือน้ำจากผลพืชตระกูลส้ม ดังเช่น ส้มโอ หรือมะนาว ประกอบกับข้าวเช้า น้ำผลไม้เหล่านี้มีวิตามินซี รวมทั้งมีสารกรุ๊ปฟลาโวนอยด์ (flavonoid) มีสารเฮสเพอริดิน (hesperidin) รูทิน (rutin) และก็ทุ่งนาริงจิน (naringin) รวมทั้งลิโมนิน เป็นฟลาโวนอยด์หลักของพืชเครือญาติส้ม จากนี้จะเรียกสารกลุ่มนี้ว่าฟลาโวนอยด์ส้ม (citrus bioflavonoid) สารกลุ่มฟลาโวนอย์ส้มนี้มีรายงานทางการแพทย์ตะวันตกว่าใช้ในการรักษามาลาเรีย โรครูมาตำหนิสม์เรื้อรังและก็โรคเกาต์ ใช้เพื่อการคุ้มครองป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน คุ้มครองปกป้องการตกเลือดข้างหลังคลอด และก็ช่วยทุเลาอาการระคายคอจากการต่อว่าดเชื้อรวมทั้งโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งโรคที่มีสาเหตุเนื่องมาจากการได้รับวิตามินซีในของกินน้อยเกินไป ซึ่งอาจจะก่อให้มีลักษณะของโรคเกิดขึ้นภายใน 8-12 สัปดาห์ ผู้เจ็บป่วยมักมีลักษณะอาการเหมือนป่วย อ่อนแรง ง่วงซึม โลหิตจาง ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บกระดูก มีแผลบวมช้ำหรือบวมง่าย มีจุดเลือดออกแดงๆตามผิวหนัง เกิดโรคทางปริทันต์ เป็นแผลแล้วหายยาก อารมณ์ผันแปร หรือมีภาวการณ์เศร้าหมอง สำหรับคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากน้ำมะนาวต่อโรคนี้ มีการค้นคว้าแต่ก่อนที่ให้ผู้ป่วยโรคนี้กินส้มกับมะนาวเหลือง พบว่าคนไข้สามารถฟื้นได้อย่างสมบูรณ์และรวดเร็วทันใจ เมื่อเทียบกับคนเจ็บอีกกรุ๊ปที่รับประทานอาหารประเภทอื่น นอกจากนี้ในน้ำมะนาวยังมีกรด citric ซึ่งมีรสเปรี้ยว จะกระตุ้นให้มีการขับน้ำลายออกมาทำให้เปียกแฉะคอ จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ แบบ/ขนาดวิธีใช้ อาการไอ ระคายคอจากเสลดใช้น้ำจากผลที่โตสุดกำลัง เพิ่มเติมเกลือเล็กน้อย จิบบ่อยๆหรือ จะทำน้ำมะนาวเพิ่มเติมเกลือแล้วก็น้ำตาลบางส่วน อาการท้องอืดท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ใช้เปลือกผลสด 1/2-1 ผล ฝานเป็นชิ้นเล็กๆบางๆชงด้วยน้ำเดือด ปิดฝาทิ้งเอาไว้ 5-10 นาที ดื่มแม้กระนั้นน้ำขณะมีอาการ หรือหลังรับประทานอาหาร 3 เวลาใช้มะนาว 1 ผล บีบเอาน้ำมะนาวมาชงกับน้ำร้อนดื่มหรือใช้มะนาวฝานบางๆจิ้มเกลือกินจะช่วยขับเสลดได้รุ่งเช้าหลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้ว ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว บีบมะนาว 1/4 ผล (หรือใส่เกลือนิดหน่อย) จะช่วยทุเลาท้องผูก และช่วยขจัดสารพิษออกมาจากร่างกายน้ำมะนาวผสมผงกำมะถันใช้ทาก่อนนอน แก้อาการขี้กลาก โรคเกลื้อน หิดใช้น้ำมะนาวทาที่ตุ่มคัน ทิ้งไว้ให้แห้ง ล้างน้ำสบู่แล้วขัดให้แห้ง แล้วก็ใช้แป้งทาตุ่มคัน แก้น้ำกัดเท้าในด้านความสวยงาม ผลัดเซลล์ผิว ลดรอยด่างดำ ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ คนจนเข้ากัน ทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งเอาไว้สักประเดี๋ยว ล้างออกโดยการใช้นำที่สะอาดแล้วดูดซึมให้แห้ง ทำสัปดาห์ละครั้ง ผิวหน้าจะดูแจ่มใส หรือใช้น้ำมะนาวผสมน้ำแช่อาบใช้ในการแก้ไข้ทับรอบเดือน ด้วยการเอาใบมะนาวประมาณ 100 ใบมาต้มรับประทานช่วยแก้ลิ้นเป็นฝ้า ด้วยการใช้สำลีชุบน้ำมะนาวเช็ดที่ลิ้นวันละ 2-3 ครั้ง การศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา การศึกษาเล่าเรียนสัตว์ทดสอบในหนู พบว่าเมื่อให้สารเฮสเพอริดินซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์หลักจากเปลือกในพืชเครือญาติส้มกับหนูไขมันสูง ส่งผลเพิ่มไขมันที่ดี (เอชดีแอล-คอเลสเตอรอล) ลดไขมันไม่ดี (แอลดีแอล-คอเลสเตอรอล) ลดจำนวนไขมันรวมและก็ไตรกลีเซอไรด์ ในหนูดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น รวมทั้งส่งผลลดระดับความดันเลือดแล้วก็ขับปัสสาวะในหนูความดันสูง การทดลองในห้องปฏิบัติในแคนที่นาดาการพบว่า ฤทธิ์ดังที่กล่าวถึงมาแล้วของฟลาโวนอยด์ส้มมีเหตุที่เกิดจากผลของการกระตุ้นหลักการทำงานของยีนรีเซปเตอร์ไขมันไม่ดี (แอลดีแอล) ในตับ ณ ตำแหน่งที่ควบคุมโดยสเตอรอล (sterol regulatory element, SRE) ในสหรัฐอเมริกา งานศึกษาวิจัยในสัตว์ทดลองพบว่า ฟลาโวนอยด์ส้มสองกลุ่ม ดังเช่นว่ากรุ๊ปเฮสเพอริดิน รวมทั้งกลุ่มโพลีเมททอกสิเลตฟลาโอ้อวดน (PMFs) มีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลในพลาสม่าของสัตว์ทดลอง ซึ่งส่งเสริมผลที่เกิดจากงานวิจัยในหนูถีบจักรของแคนาดา สาธารณรัฐประชาชนจีน การค้นคว้าวิจัยพบว่า ท้องนาริงจิน และก็เฮสเพอริดินซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ส้มมีฤทธิ์กระตุ้นรูปแบบการทำงานของยีนอะดีโพเนกทิน (adiponectin) ซึ่งเป็นยีนสำคัญในเมตาบอลิซึมของเดกซ์โทรสและก็ไขมันที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตพลัคตันของหลอดเลือดและก็ขั้นตอนการอักเสบ ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยพูดว่าฟลาโวนอยด์ส้ม 2 จำพวกแสดงผลต่อต้านการเกิดพลัคโดยกระตุ้น perovisome proliferator-activated receptor (PPAR) แล้วก็ยีนอะดีโพเนกทินในเซลล์ไขมันอะดีโพไซต์ นอกเหนือจากนั้น สารทั้งสองยังมีฤทธิ์เอสโทรเจนอย่างอ่อน มีผลต่อการผลิตไนตริกออกไซด์ในเซลล์ผนังเส้นเลือดผ่านการกระตุ้นรีเซปเตอร์ของเอสโทรเจน ก็เลยมีฤทธิ์คุ้มครองปกป้องการเกิดโรคเส้นโลหิตหัวใจ เป็นเหตุให้เกื้อหนุนการกินมะนาว รวมทั้งฟลาโวนอยด์ส้มเพื่อลดจำนวนคอเลสเตอรอลในเลือด คุ้มครองโรคเส้นเลือดหัวใจ โดยเฉพาะในหญิงวัยทอง งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งพบว่า น้ำมะนาวเข้มข้น (concentrated lime juice, CLJ) มีฤทธิ์กระตุ้นเซลล์โมโนปรมาณูในระบบภูมิต้านทาน และโปรตีนในน้ำมะนาวเข้มข้นมีฤทธิ์ต่อต้านการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง การศึกษาในห้องแลปในมลรัฐเท็กซัสรวมทั้งแคลิฟอเนีย อเมริกาพบว่า สารกรุ๊ปฟลาโวนอยด์ส้มมีฤทธิ์ต่อต้านออกซิเดชั่นพอประมาณ แต่ว่าต่ำกว่าฟลาโวนอยด์ในพืชตระกูลขิง มีบทความด้านการแพทย์กล่าวว่า ฟลาโวนอยด์ส้มยั้งการเจริญก้าวหน้าของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ ปอด โพรงปาก กระเพาะอาหาร และก็โรคมะเร็งเต้านมจากการทดสอบในห้องทดลองรวมทั้งในสัตว์ทดสอบหลากหลายประเภท แต่ว่ายังไม่เจอผลการศึกษาวิจัยทางสถานพยาบาล ส่วนฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของมะนาวที่เกี่ยวกับแก้เจ็บคอมีดังต่อไปนี้ ฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรีย มีการทำการค้นคว้าผลของทั้งน้ำมันหอมระเหยแล้วก็สารสกัด พบว่า น้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ Bacillus cereus แล้วก็ E. coli สารสกัด 80% เอทานอลจากเปลือกผิว มีฤทธิ์ยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus และ Bacillus cereus สารสกัดจากเม็ดมีฤทธิ์ยั้งเชื้อ Bacillus subtilis, E. coli. Pseudomanas cichorii รวมทั้ง Salmonella typhimurium สารสกัดเอทานอลจากส่วนกิ่ง (branches) ความเข้มข้น 20 มก./มล. ไม่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus, Bacillus subtilis แล้วก็ Streptococcus faecalis การเรียนรู้ทางพิษวิทยา การทดสอบความเป็นพิษ เมื่อให้น้ำสกัดจากใบมะนาวทางปาก หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนูเม้าส์ ด้วยขนาด 10 กรัม/กก.น้ำหนักตัว (เสมอกันกับ 1,852 เท่าของขนาดที่ใช้ในคน) ไม่พบความไม่ดีเหมือนปกติอะไรก็แล้วแต่เมื่อป้อนสารสกัดรากมะนาวด้วยน้ำครั้งเดียวทางปาก ในขนาด 5 กรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว ให้หนูแรทไม่พบว่าเป็นพิษอีกทั้งแบบรุนแรงรวมทั้งกึ่งเรื้อรัง แม้กระนั้นพบว่าในหนูที่ได้รับสารสกัด 1.2 กรัม/กิโลน้ำหนักตัว/วัน มีเอ็นไซม์ในตับเพิ่มขึ้นแม้กระนั้นยังอยู่ในช่วงปกติ และไม่เจอความไม่ดีเหมือนปกติของอวัยวะภายใน ส่วนสารสกัดจากเปลือกผิวมะนาวมีผลยั้งฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ แล้วก็การทดสอบฤทธิ์ระคายโดยแนวทางการ Patch test พบว่าสารสกัดจากมะนาวได้ผล positive ข้อเสนอ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง
|