หัวข้อ: หอมเเดง มีสรรพคุณเเละประโยชน์ที่น่าทึ่งมากๆ เริ่มหัวข้อโดย: แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 11:53:32 am (https://www.img.live/images/2018/07/03/dd138f5d92ac697a.jpg)[/b]
หอมแดง[/size][/b] ชื่อสมุนไพร หอมแดง ชื่ออื่นๆ/ชื่อแคว้น หอมไทย,หอมเล็ก,หอมหัว หอมแดง(ภาคกึ่งกลาง), หอมปั่ว ,แพทย์แดง (ภาคเหนือ) , หัวหอมแดง (ภาคใต้) , ฝักบั่ว (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) , ปะเซ้ส่า (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) , ปะเซอก่อ (กะเหรี่ยง-ตาก) , ซัง , ตังซัง (จีน) ชื่อสามัญ Shallot ชื่อวิทยาศาสตร์ Allium ascalonicum Linn. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Allium carneum Willd., Allium fissile Gray, Allium hierochuntinum Boiss., Porrum ascalonicum (L.) Rchb. สกุล Amaryllidaceae บ้านเกิดเมืองนอน หอมแดง เป็นพืชขนาดเล็กที่ปลูกไว้เพื่อบริโภคส่วนของหัวหรือบัลบ์ นิยมใช้สำหรับในการทำกับข้าว และเป็นสมุนไพร ดังนี้หอมแดง มีบ้านเกิดดั้งเดิมในทวีปเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ คาดการณ์ว่าอยู่ในแถบประเทศทาจิกิสถาน อัฟกานิสถาน และประเทศอิหร่าน โดยเช้าใจกันว่าหอมแดงกลายพันธุ์ตามธรรมชาติมาจากหอมหัวใหญ่แล้วก็มีการคัดชนิดเพื่อนำมาปลูกเป็นพืชอาหาร ในจีนและก็ประเทศอินเดียแล้วก็มีการกระจัดกระจายพันธุ์ไปทั่วทั้งโลก ซึ่งได้มีการจดบันทึกไว้ ในตอนคริสตวรรษที่ 12 เดี๋ยวนี้การปลูกหอมแดงได้แพร่หลายไปทั่วทั้งโลก แต่ก็ยังมีการบริโภคน้อยกว่าหอมหัวใหญ่อยู่ หอมแดง จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศในแถบเอเซียอาคเนย์ โดยในประเทศไทยพบว่ามีการปลูกมากมายทางภาคอีสานแล้วก็ทางภาคเหนือ แต่หอมแดงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหอมแดงคุณภาพดีก็ได้แก่หอมแดงจากจังหวัดศรีสะเกษ ลักษณะทั่วไป ใบ ใบแทงออกมาจากลำต้นหรือหัว มีลักษณะเป็นหลอดกลม ด้านในกลวง มีสารสีนวลเป็นไขฉาบผิวใบ ใบมีลักษณะตั้งตรงสูงราวๆ 15-50 เซนติเมตร แตกออกเป็นชั้นถี่ 5-8 ใบ ใบอ่อนสดของหอมแดงใช้สำหรับในการบริโภค ท่อนหัวหรือบัลบ์ หัวหรือบัลบ์เป็นส่วนของกาบใบที่เรียงซ้อนกันแน่นจากด้านในของหัวออกมา เป็นแหล่งสะสมอาหาร แล้วก็น้ำ มีลักษณะเป็นกระเปาะ เรียกว่า Bulbs มีลำต้นภายใน มีลักษณะเป็นก้อนเล็กๆสีขาว ซึ่งเป็นที่เกิดของหัวหอม หัวหอมจะแตกใหม่ออกมาจากหัวเดิม โดยเฉลี่ย 2 - 20 หัวต่อกอ เส้นผ่าศูนย์กลางของหัวประมาณ 1.5-3.5 ซม. ต้น ต้นที่เห็นเหนือดินเป็นส่วนที่อยู่ต่อจากบัลบ์ จัดเป็นลำต้นเทียมที่เกิดขึ้นจากกาบใบเรียงอัดกันแน่น ถัดมาก็เลยเป็นส่วนของใบ ราก รากหอมแดงเป็นระบบรากฝอยไม่น้อยเลยทีเดียว งอกออกมาจากด้านล่างของต้น มีลักษณะเป็นกลุ่มรวมกันที่ตูดหัว และแพร่ลงดินลึกในระดับตื้นประมาณ 10-15 ซม.แล้วก็แผ่รอยต้นราวๆ 5-10 เซนติเมตร การขยายพันธุ์ หอมแดงสามารถแพร่พันธุ์ได้ 2 แนวทางหมายถึงการใช้ท่อนหัวจำพวก (sets) รวมทั้งการใช้เมล็ดพันธุ์ (seeds) การใช้หัวชนิด (sets) เป็นแนวทางของเกษตรกรที่นิยมปฏิบัติกันมานาน หัวหอมแดงที่จะปลูกจำเป็นต้องผ่านการพักตัวมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน จึงจะปลูกได้ การใช้เมล็ดพันธุ์ (seeds) เป็นวิธีที่ลดเงินลงทุนสำหรับในการผลิตสำหรับเพื่อการซื้อหัวชนิดที่แพงแพง สำหรับวิธีการปลูกหอมแดงนั้นมีดังนี้ การเตรียมแปลงปลูก หอมแดงเป็นพืชที่มีระบบรากสั้น มีขอบเขตรากลึกราว 10-15 ซม. ด้วยเหตุนั้น ในระดับความลึกนี้ หอมแดงจึงอยากหน้าดินซึ่งร่วนซุย รวมทั้งมีความชื้นบ่อย มีการระบายน้ำ แล้วก็อากาศดี ไม่ต้องการดินแน่น โดยเฉพาะระยะที่มีการแตกหัวใหม่ การเตรียมดินให้ร่วนซุยจะช่วยให้หอมแดงเติบโตได้ดิบได้ดี ด้วยการไถพรวนดินคราวแรก ลึก 20 ซม. พร้อมกำจัดวัชพืช ตากแดดทิ้งไว้ 7-15 วัน หลังจากนั้น ไถพรวนดินให้ร่วนด้วยเขาหินนที่เล็กลง ลึก 20-30 เซนติเมตร และก็ตากดินก่อนปลูก 3-7 วัน ก่อนไถกระพรวนครั้งที่ให้หว่านปุ๋ยหมัก อัตรา 2-3 ตัน/ไร่ ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 20-30 กิโลกรัม/ไร่ ในฤดูฝนแปลงปลูกหอมแดงจะต้องยกร่องกว้างราวๆ 1-1.2 เมตร ความยาวขึ้นอยู่กับพื้นที่สำหรับทำการเพาะปลูกเพื่อให้น้ำฝนระบายออกได้ ระยะห่างระหว่างแปลงจะเว้นไว้ราวๆ 30-50 ซม. เพื่อเป็นทางเท้าสำหรับการให้น้ำหรือกำจัดวัชพืช ก่อนปลูก 1-3 วัน ควรจะให้น้ำในแปลงให้ชุ่มก่อน ขั้นตอนการปลูก นำหัวประเภทที่พักตัวการแล้วหรือหัวประเภทที่เก็บไว้นาน 2-4 เดือนภายหลังจากเก็บเกี่ยว มาตัดรากแห้งออก แยกหัวออกจากกันให้เป็นหัวคนเดียวๆแล้วฝังหัวลงไปในดินให้ปลายของหัวอยู่เป็นประจำผิวดิน ระยะปลูกที่ 15 x 15 ซม. ปิดฟางหนาประมาณ 1 เซนติเมตร เมื่อหอมแดงแตกออกได้ประมาณ 15 วัน จึงหว่านปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต 21% อัตรา 10 กก./ไร่ แล้วให้น้ำยามเช้าเย็นหรือวันละครั้ง สุดแท้แต่ภาวะความชุ่มชื้นของผิวดิน หอมแดงที่ปลูกจากหัวเก็บเกี่ยวเมื่ออายุประมาณ 60 วัน หอมแดงที่สมควรสำหรับการเก็บเกี่ยวจะต้องแก่จัด มีใบแห้งตามธรรมชาติ โดยห้ามใช้สารกำจัดวัชพืชพ่นบังคับให้ใบแห้ง เพราะว่าหัวหอมบางทีอาจบูดเน่าหายหรือมีอายุเก็บไว้บริโภคสั้น ก่อนการเก็บเกี่ยวราว 10-15 วัน จะต้องงดให้น้ำ และให้น้ำอีหนก่อนเก็บเกี่ยว 24 ชั่วโมง เพื่อให้หอมแดงถอนได้ง่าย การเก็บเกี่ยวจะใช้กรรมวิธีมือถอนหรือใช้จอบหรือเสียมขุดร่วมด้วย หลังการเก็บเกี่ยว หอมแดงจะเก็บได้ไม่เกิน 6 เดือน ภายหลังเก็บเกี่ยวบนแปลง ถ้าเกิน 6 เดือน หัวหอมแดงจะฝ่อไม่อาจจะกินและไม่สามารถนำไปเพาะปลูกได้ ทั้งนี้หอมแดงสามารถผสมข้ามประเภทได้ กับหอมหัวใหญ่ ลูกผสมที่เกิดขึ้นมีลักษณะรูปร่างจัดเข้าอยู่ในกรุ๊ปของหอมหัวใหญ่ (A.cepa) ส่วนชนิดหอมแดงที่นิยมปลูกในประเทศไทยมีอยู่ 3 พันธุ์ ซึ่งลักษณะที่คล้ายกดกันมากมาย ประเภทจังหวัดศรีสะเกษ เปลือกหัวนอกดก มีสีม่วงแดง หัวมีลักษณะกลมป้อม มีกลิ่นฉุน ให้รสหวาน ใบเขียวเข้มมรกต มีนวลจับเล็กน้อย ประเภทบางช้าง มีลักษณะคล้ายกับชนิดจังหวัดศรีสะเกษ แม้กระนั้นสีเปลือกจางกว่า หัวมีลักษณะกลมป้อม ใบสีเขียวเข้ม มีนวลจับนิดหน่อย เป็นจำพวกที่ได้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้นมากยิ่งกว่าทุกพันธุ์ จำพวกจังหวัดเชียงใหม่ มีเปลือกบาง สีส้มอ่อน หัวมีลักษณะกลมรี กลิ่นไม่ฉุนเหมือนประเภทอื่น ให้รสหวาน หัวจะแบ่งเป็นกลีบแน่ชัด ไม่มีเปลือกหุ้ม ใบสีเขียวมีนวลจับ องค์ประกอบทางเคมี หัวหอมมีน้ำมันระเหยง่ายที่มีกำมะถัน diallyl disulphide เป็นองค์ประกอบร่วมกับสารอื่นๆอีกได้แก่ Ethanol, Acetonc, methyl Ethyl, Methyl Disulfide, Methyl, Methyl Trisulfide, Methyl I-propyl Trisulfide, I-propyl Trisulfide, Ketone, I-propanol, 2 – propanol, Methanol, I-butanol, Hydrogen Sulfidc, I-propanethiol, I-propyl Disulfide , Thioalkanal-S-oxide, di-n- propyl Disulfide, n- propyl-allyl Disulfide, Dithiocarbonate และก็ Thiuram Sulfidc ,Linoleic , flavonoid Glycoside , pectin , alliin ส่วนสารที่นำไปสู่กลิ่นในหัวหอมมีอยู่ 3 จำพวกเป็นdipropyl trisulfide, methylpropyl disulfide , methylpropyl disulfide และก็ methylpropyl trisulfide ส่วนคุณประโยชน์ทางโภชนาการของหอมแดงนั้นมีดังนี้ (https://www.img.live/images/2018/07/03/3cd4fcd6e9ee4824.jpg) คุณประโยชน์ทางโภชนาการของหอมแดงดิบต่อ 100 กรัม
คุณประโยชน์/สรรพคุณ สำหรับการใช้ประโยชน์จากหอมแดงนั้นส่วนใหญ่กว่า 80% ชอบนิยมนำไปเข้าครัวอีกทั้งของคาว รวมทั้งของว่าง รวมทั้งนำไปเป็นเครื่องเคียง ของของกินต่างๆอย่างเช่น ข้าวซอย สเต๊ ฯลฯ รวมถึง หัวหอม ใบและช่อดอกอ่อน รับประทานเป็นผักสดแล้วก็ปรุงเป็นของกิน หอมอีกทั้งหัวแล้วก็ใบ ดอกเปรี้ยวกินเป็นผักจิ้ม ส่วนในการใช้หัวหอมในด้านคุณประโยชน์รักษาโรคนั้นมีดังนี้ ตามคุณประโยชน์โบราณของไทยบอกว่า ใบมีรสเค็มหวาน เป็นมูก ใช้แก้หวัดแล้วก็เลือดกำเดาออก หัวหอมรสเผ็ดร้อน แก้ไข้มีเสมหะ ใช้ในจำนวนน้อย ดูแลรักษาผมให้เจริญงอกงาม ทำให้ผิวหนังสดชื่น แก้ไข้ เช็ดทาผิวหนังทำให้ร้อน ขับเสลด แก้โรคในปาก บำรุงธาตุ ใช้ด้านนอก การศึกษาทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์คุ้มครองตับรวมทั้งไต การเรียนความรู้ความเข้าใจในการป้องกันความทรุดโทรมของตับแล้วก็ไตจากการตำหนิดเชื้อมาลาเรีย โดยจัดเตรียมสารสกัดหอมแดงอย่างหยาบด้วยน้ำ แล้วต่อจากนั้นนำไปทดลองฤทธิ์ในหนูถีบจักร สายพันธุ์ ICR ที่ติดโรคไข้จับสั่น Plasmodium berghei ANKA จำนวน 6x106เซลล์ ต่อหนูทดลอง โดยให้หนูทดลองได้รับสารสกัดทางหลอดอาหารวันละครั้ง เป็นเวลา 4 วันต่อเนื่องกัน และก็ทำการวัดค่าระบุความเสียหาย เช่น ระดับเอนไซม์ตับ aspartate aminotransferase (AST), alanine aminotransferase (ALT) และก็ตัวบ่งชี้ลักษณะการทำงานของไต ดังเช่น blood urea nitrogen (BUN) แล้วก็ creatinine โดยใช้ชุดตรวจสำเร็จรูป ผลการทดสอบพบว่าความเข้มข้นสูงสุดของสารสกัดหอมแดงที่ไม่ส่งผลให้เกิดความเป็นพิษหมายถึง3,000 มก.ต่อกิโลกรัม และตอนที่มีการติดเชื้อไข้มาลาเรียนั้นจะพบความเสียหายของตับ รวมทั้งไตเกิดขึ้นในวันที่ 10 ภายหลังติดเชื้อโดยมองได้จากระดับของ AST, ALT, BUN และก็ creatinine ที่สูงที่สุด แต่สารสกัดหอมแดงที่ขนาด 3,000 มิลลิกรัมต่อกก. สามารถคุ้มครองความเสื่อมโทรมของตับและก็ไต จากการตำหนิดเชื้อไข้มาลาเรียได้โดยดูจากตัวบ่งชี้ที่หรูหราปกติ จากผลการศึกษาสามารถสรุปได้ว่าสารสกัดหอมแดงมีฤทธิ์คุ้มครองความทรุดโทรมของตับรวมทั้งไตจากการต่อว่าดเชื้อไข้จับสั่นในหนูทดลองได้ ฤทธิ์ต้านอักเสบ ทดสอบฤทธิ์ต้านทานการอักเสบของส่วนสกัดหัวหอมแดงในเอทานอลในหลอดทดสอบ กระทำทดลองความมีชีวิตรอดของเซลล์ด้วยแนวทาง 3-4,5-dimethylthiazol-2-yl-2,5-dyphenyl tetra-zolium bromide (MTT) เล่าเรียนผลของส่วนสกัดต่อการแสดงออกของยีนที่เป็นสื่อกลางการอักเสบเป็นต้นว่า inducible nitric oxide synthase (iNOS), cyclooxygenase (COX)-2, COX-1, tumor necrosis factor (TNF)-α, interleukin (IL)-1β แล้วก็ IL-6 ในเซลล์เพาะเลี้ยงมาโครฟาจ (RAW 264.7) ที่ได้รับการกระตุ้นด้วยสาร Lipopolysaccharide (LPS) โดยวัดจำนวนยีนที่แสดงออกด้วยวิธี reverse transcription polymerase chain reaction (RT-PCR) พินิจพิจารณาหาจำนวนฟีนอลรวม รวมทั้งฟลาโวนอยด์รวม ของส่วนสกัดโดยใช้ปฏิกิริยาการเกิดสีกับสาร Folin-Ciocalteu และก็สารอลูมิเนียมคลอไรด์ ตามลำดับ ผลการศึกษาพบว่าที่ความเข้มข้น 62.5, 125 และ 250 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ส่วนสกัดหอมแดงในเอทานอลไม่มีความเป็นพิษต่อเซลล์ และมีฤทธิ์ยั้งการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวพันกับการอักเสบเช่น iNOS, TNF-α, IL-1β และก็ IL-6 เพิ่มขึ้นตามความเข้มข้น ส่วนสกัดหอมแดงไม่เป็นผลต่อการแสดงออกของยีน COX-2 แต่ยับยั้งการแสดงออกของยีน COX-1 อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีจำนวนสารฟีนอลรวมคิดเป็น 15.964±0.122 สมมูลกับกรดแกลลิก/กรัม และมีปริมาณสารฟลาโวนอยด์รวม 11.742 ±0.012 มก. สมมูลกับสารเคอร์ซิทิน/กรัม การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ การทดสอบสารสกัดบิวทานอลจากหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มิลลิลิตร/แผ่น หรือความเข้มข้นอื่นๆกับ Bacillus subtilis M-45 (Rec-) ในจานเพาะเชื้อ พบว่าไม่มีฤทธิ์ แล้วก็เมื่อเปลี่ยนแปลงมาใช้สารสกัดเอทานอล (95%) จากหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มิลลิลิตร/แผ่น กับ B. subtilis H-17 (Rec+) ในจานเพาะเชื้อ พบว่าไม่มีฤทธิ์ด้วยเหมือนกัน นอกเหนือจากนั้นการทดสอบน้ำสกัดหรือน้ำต้มหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มล./แผ่น กับ B. subtilis M-45 (Rec-) รวมทั้งการทดสอบ B. subtilis H-17 (Rec+) ด้วยน้ำสกัดหอมสด ก็พบว่าสารสกัดเหล่านี้ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ แม้กระนั้นหากใช้ส่วนสกัดจาก chromatography (undiluted) หรือการใช้ oleoresin จากหอม (undiluted) มาทดสอบกับ Salmonella typhimurium TA100 ในจานเพาะเชื้อ พบว่ามีฤทธิ์ แม้กระนั้นเมื่อเอามาทดสอบกับ S. typhimurium TA98 กลับไม่มีฤทธิ์ ใช้สารสกัดเมทานอลทดลองกับ S. typhimurium TA98 พบว่าสารสกัดนี้มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์แรง และเมื่อศึกษาเล่าเรียนกลไกการเมตา-โบไลท์สารก่อกลายพันธุ์ของหอมในร่างกาย พบว่ากลูตาธัยโอน กลูคิวโรนายด์ ไดธัยโอธรีธอล สามารถลดฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของหอมได้ แม้กระนั้นไวตามินซีไม่มีผลต่อฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของหอมอะไร มีการทดลองฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของเครื่องเทศที่ใช้จัดเตรียมน้ำพริกแกง ใน S. typhimurium พบว่าสารสกัดจากหอมมีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ถึง 100% ซึ่งมีสาเหตุจากสารสำคัญที่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ซึ่งมีอยู่แล้วตามธรรมชาติในหอม เมื่อกระทำแยกและพินิจพิจารณาสารสำคัญนั้นพบว่า เป็นสารชนิด ฟลาโวนอยด์ เคอร์ซิติเตียนน (quercetin) โดยสารสำคัญที่แยกบริสุทธิ์ได้ 1 ตัว พบว่าเป็นquercetin-4-0-glycoside สารนี้เป็นสารก่อกลายพันธุ์ฤทธิ์อ่อน ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของมันจะสูงมากขึ้นเมื่อถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีภายในร่างกาย เมื่อสลายสารนี้ด้วยโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี b-glucuronidase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่พบที่ลำไส้ใหญ่ พบว่าฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์จะร้ายแรงเพิ่มขึ้น พิษต่อเซลล์ ทดลองสารสกัดเมทานอลจากรากหอมสด ความเข้มข้น 200 มคก./มิลลิลิตร กับ macrophage cell line raw 264.7 พบว่าสารสกัดนี้ไม่มีพิษต่อเซลล์ดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว ข้อแนะนำ/ข้อควรพิจารณา
Tags : หอมแดง
|