หัวข้อ: สุขภาพแข็งแรงสำคัญมากกว่าความรวยอย่างแน่แท้มาดูแลสุขภาพกันเลยดีกว่า เริ่มหัวข้อโดย: itopinter_111 ที่ กรกฎาคม 18, 2018, 04:29:53 pm สิ่งที่เราควรตระหนักไว้เสมอว่า รวยสุขภาพดีกว่าร่ำรวยเงิน ทั้งสุขภาพเกี่ยวกับร่างกายแล้วก็สุขภาพทางจิตการบรรลุเป้าหมายด้านการเงินจะไร้สาระอะไรเลยถ้าเสียสุขภาพไป แล้วก็บางเวลาจำต้องนำเงินที่หามาได้จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลจนหมดคนบางบุคคลพยายามเก็บเงินมาตลอดชีวิต แต่ว่าปลดปล่อยให้สุขภาพชำรุด แล้วหลังจากนั้นก็พบว่าเงินทั้งหมดทั้งปวงที่หามาไม่สามารถซื้อสุขภาพไว้ได้จึงจะต้องเสียชีวิตไปอย่างปวดร้าวทรมาณแสนสาหัสโดยทั่วไปแล้วถ้าเกิดได้รับพรยอดเยี่ยม 3 ข้อให้อธิษฐานได้ตามความฝันสิ่งที่คนเรามักจะอธิษฐานกันก็คือขอให้มีสุขภาพดีจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตขอให้แต่งงานที่ดีและก็ขอให้รวยแม้กระนั้นถ้าเกิดมีพรให้เลือกอธิษฐานได้เพียงข้อเดียวสิ่งที่จะต้องเลือกเป็นลำดับแรกๆเป็นการมีสุขภาพที่ดี ด้วยเหตุว่าถ้ามีโรครุมเร้า การจะมีคู่ที่ดีหรือมีเงินมีทองแค่ไหนก็ไม่มีสาระ ซ้ำยังเป็นภาระหน้าที่ให้คู่แต่งงานหรือครอบครัวจะต้องมาคอยดูแลรักษาอีกสุขภาพที่ดี เป็นความสำเร็จที่ประเมินคุณค่าไม่ได้ แต่ว่าหาได้น้อยมากที่ผู้ใดกันแน่จะหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายอย่างเป็นจริงเป็นจัง กระทั่งจะเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาจึงค่อยเริ่มรู้สึกแต่ก็ชอบสายเกินความจำเป็นการบรรลุเป้าหมายในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านคู่ครอง การเรียนงานการ การคลัง ฯลฯ จะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าเกิดปราศจากสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ปัญหาด้านสุขภาพสามารถทำลายการบรรลุผลทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่เคยมีมาไดภายในช่วงระยะเวลาอันรวดเร็ว
ความสำราญของคนที่ยังอยู่ในโลกของโลกียะก็คือ ความสบายที่ได้มาจากการเร่งเร้าประสาทสัมผัสนั่นเอง รูป รส กลิ่นเสียง สัมผัส หรือนามธรรมทั้งหลายที่เข้ามากระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ดวงใจ ก่อเกิดสุขเวทนา ราคะ อุปาทานด้วยเหตุนี้เมื่อทวารใดทวารหนึ่งเสียหาย ความสุขที่ได้รับจากทวารนั้นจะหมดไปในทันที จะเป็นประโยชน์อะไรถ้าเกิดมีเงินซื้อหน้าจอแอลซีดี (LCD) สามมิติราคาหลายแสนบาทแต่ว่าตามองไม่เห็นจะเป็นประโยชน์อะไรกับการท่องเที่ยวต่างประเทศ ในขณะที่ตัวเองเดินไม่ได้ จะมีสาระอะไรกับการมีครอบครัวที่อบอุ่น ถ้าเกิดตนเองมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง คือการบรรลุเป้าหมายที่สำคัญที่สุดคนสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงจะมองสดชื่น ใบหน้าผ่องใส มีพลังกายกำลังใจสูง ซึ่งจะส่งผลทางอ้อมไปสู่การบรรลุเป้าหมายด้านอื่น ๆ อีกด้วยมนุษย์เรามักไม่ค่อยทราบดีว่า สิ่งที่ตัวเราเองถือครองอยู่มีค่ามากแค่ไหนกระทั่งจะสูญเสียมันไป สุขภาพเป็นของล้ำค่าที่สุดในชีวิต แต่บางคนไม่เคยฟูมฟักและดูแลเลย จนกระทั่งเมื่อป่วยหนักขึ้นมาจึงค่อยตระหนัก แต่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นก็ยากเกินที่จะเยียวยาหรือแม้จะเยียวยารักษาได้ ก็จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายไปจำนวนมากบางเวลาอาจเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตเลยก็ได้ แม้ว่าโรคภัยไข้เจ็บบางจำพวกจะมีต้นเหตุมาจากกรรมพันธุ์ ซึ่งมียีนแอบแฝงที่กระตุ้นให้เกิดโรคซ่อนอยู่ (Initiator Gene) แม้กระนั้นยีนนี้จะไม่ทำงาน ถ้าปราศจากการกระตุ้นจากสภาพแวดล้อม (Promoter) เช่น ผู้ที่มียีนโรคมะเร็งปอดแฝงอยู่ แต่ว่าถ้าหากใช้ชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะไม่ดูดบุหรี่ พยายามหลบหลีกควันพิษ ไอระเหยต่าง ๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยีนโรคมะเร็งที่มีอยู่ก็จะฝ่อไปในที่สุด ไม่สามารถแสดงผลได้ โรคจำนวนมากมิได้มีผลมาจากพันธุกรรมร้อยเปอร์เซ็นต์ สิ่งแวดล้อมก็เป็นสาเหตุก่อโรคได้เช่นเดียวกัน หากรู้ตัวว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคใดโรคหนึ่ง ดังเช่นว่า เบาหวาน ความดัน หัวใจ ไต ตับ หรือแม้แต่โรคประสาท เนื่องจากมีประวัติคนภายในครอบครัวเจ็บไข้ก็จำต้องเฝ้าระวัง บากบั่นเรียนรู้หาข้อมูลการปฏิบัติตน เพื่อหลบหลีกสิ่งที่จะทำให้มีการเกิดโรค ถึงแม้มีโรคประจำตัวที่เลี่ยงไม่ได้ก็สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้การจริงแล้วธรรมชาติสร้างอวัยวะให้พวกเราไว้อย่างแกร่งมาก ชู ได้แก่ “ฟัน” สามารถบดบดได้เป็นเวลา 70 ปีโดยที่จะเกิดการสึกเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ หากนำเหล็กขนาดพอๆกับฟันมาสีกัน น่าเชื่อถือว่าไม่เกิน 2 ปีเหล็กนั้นจะกุดกระทั่งหมดไป แต่เวลานี้ก็มีคนที่ฟันผุ ฟันเสียกันจำนวนมาก ไม่ใช่เพราะเหตุว่าธรรมชาติวางแบบมาไม่ดี แม้กระนั้นเพราะเหตุว่าคนที่ใช้ปล่อยทิ้งดูแล เหมือนกับอวัยวะอื่น ๆ หัวใจ ไต ตับ ปอด หรือแม้กระทั้งเส้นโลหิต นับได้ว่าเป็นประติมากรรมลำดับสูงสุดของธรรมชาติที่สร้างมาให้ใช้งานได้ขั้นต่ำ 100 ปี แม้กระนั้นด้วยการดำรงชีวิตอย่างประมาท ทำให้อายุขัยของอวัยวะสั้นลง อีกสิ่งหนึ่งซึ่งสามารถมีผลเสียต่อสุขภาพได้อย่างกะทันหันทันทีทันใดคืออุบัติเหตุแม้จะมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงเพียงใดแต่เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จะมีปัญหาด้านของสุขภาพโดยทันที แล้วก็บางโอกาสถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ เป็นเจ้าชายนิทรา เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต อื่นๆอีกมากมาย การดำรงชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะจะช่วยคุ้มครองปกป้องได้ พากเพียรหมั่นฝึกเจริญรุ่งเรืองสติอยู่เป็นประจำ ๆ อุบัติเหตุต่าง ๆที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแม้กระนั้นเกิดขึ้นจากกรรมเก่า มนุษย์เราสามารถเอาชนะบาปได้ด้วยสติ ดังที่หลวงพ่อชาเคยกล่าวไว้ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกฎแห่งกรรมยังมีวิปัสสนาการเข้าฌาน”ตามทฤษฎีของ อับราฮัม มาสโลว์ ปรมาจารย์ทางจิตวิทยาบอกไว้ว่า มนุษย์จะมีความต้องการทางด้านร่างกายเป็นขั้นแรก เป็นต้นว่า อาหาร ยารักษาโรค การหายใจ การขับถ่ายการนอน ฯลฯ ตราบเท่าที่ความอยากในระดับค่อนข้างต่ำสุดนี้ยังมิได้รับการตอบสนอง จะไม่มีความปรารถนาไปถึงความมั่นหมายในระดับที่สูงขึ้น และแม้ว่าจะบรรลุเป้าหมายในชีวิตเท่าใด ถ้าหากสิ่งที่มีความต้องการเบื้องต้นนี้ไม่ได้รับการตอบสนองก็จะใส่ความสุขมิได้ ตัวอย่างเช่น มาริลีน มอนโร, เอลวิส เพรสลีย์, ไมเคิล แจ็กสัน อื่นๆอีกมากมาย ที่ล้วนเสียชีวิตด้วยการกินยานอนหลับเกินขนาด จะเห็นได้ว่า แม้กระทั้งสิ่งที่จำเป็นขั้นต้นอย่างการนอนให้หลับยังทำไม่ได้ การร่ำรวยเป็นพันล้านแต่ว่ามีปัญหาสุขภาพไม่ว่ากายหรือดวงใจ สุดท้ายเงินที่มีก็ซื้อความสบายมิได้ ความสุขที่แท้จริงมาจากสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งคำว่า “สุขภาพ” แปลตรงตัวก็ได้ความหมายว่า สภาพที่สุข เมื่อแก่ขึ้นจะรู้ว่าสุขภาพที่ดีมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมดทั้งปวง แม้มีชีวิตที่ไม่ได้รวยอะไร แต่ว่ามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงก็จะมีความสุข ชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ในปัจจุบัน ถ้าเกิดเทียบแล้ว สะดวกแล้วก็ดีมากยิ่งกว่าฮ่องเต้ในสมัยก่อนด้วย ยุคนั้นไม่มีสุขาแบบบ้านในตอนนี้ จำเป็นต้องใช้กระโถน ไม่มีระบบท่อ พัดลม แอร์ ทีวี คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ยารักษาโรคยิ่งไม่ต้องเอ๋ยถึง มีแต่ว่าสมุนไพรซึ่งให้ผลการดูแลและรักษาไม่แน่นอนซึ่งผู้ที่ทุกข์ยากลำบากที่สุดในโลกตอนนี้ก็ยังสามารถเข้าถึงยารักษาโรคที่มีคุณภาพได้มากกว่าใครๆก็อยากได้มีสุขภาพดี อายุยืนยาว แล้วก็ดูอ่อนกว่าวัย ก็เลยค้นหาเคล็ดลับสำหรับในการชะลอวัย และเสริมความแข็งแรงด้วยวิธีต่างๆนานา ตอนที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยอาจตั้งคำถามว่า ที่พวกเรากินวิตามินหรืออาหารเสริมเข้าไปมหาศาลนั้น แท้จริงแล้วเราได้รับวิตามินมากจนเกินไป หรือวิตามินนั้นไปเสริมส่วนที่ขาดใช่หรือไม่ขอทําความเข้าใจก่อนว่า ความชื่นชอบสำหรับในการกินวิตามินเริ่มขึ้นในยุโรปและอเมริกา ด้วยเหตุว่าผู้คนมีพฤติกรรมการกินของกินที่ไม่เหมาะสมกับสุขภาพ จนมีผู้เจ็บป่วยมากมาย ก็เลยพอๆกับเปิดช่องทางให้บริษัทอาหารเสริมทั้งหลายแหล่ใช้จุดอ่อนนี้เป็นแผนการตลาด โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายคนป่วยโดยตรง รวมทั้งในที่สุดก็เลยขยายมาสู่กลุ่มของผู้คนธรรมดาทั่วๆไป โดยอ้างว่าจำเป็นต้องได้รับอาหารเสริมแค่นั้นเท่านี้เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยไม่กล่าวว่ามูลเหตุของวิตามินเหล่านั้นมาจากการกินอาหารอะไรบ้าง เมื่อหลายปีที่ผ่านมาคุณอาจจะเคยได้ฟังข่าวสะเทือนแวดวงอาหารเสริมในอเมริกาอย่างยิ่ง เมื่อนักกีฬาซีอดังเสียชีวิตไม่รู้จักต้นเหตุขณะซ้อม ซึ่งเขามีอายุเพียงแต่ 23 ปีเพียงแค่นั้น และเจออาหารเสริมประเภทหนึ่งที่มีส่วนผสมของ Ephedro อยู่ในล็อกเกอร์ของเขา ก็เลยทําให้องค์การของกินและก็ยา ทบทวนการใช้อาหารเสริมดังกล่าวมาแล้วข้างต้นฉะนั้น หากคุณอยากทานอาหารเสริมก็อย่าได้เชื่อเพียงแค่คำชวนเชื่อถึงประโยชน์อันเยอะมาก ควรควรระวังผลกระทบในทางร้ายด้วย ด้วยเหตุว่าถ้ากินมากรวมทั้งรับประทานติดต่อนานเกินความจำเป็น บางทีอาจทำให้เป็นอันตรายได้ ยกตัวอย่างการกินวิตามินบี 6 วันแล้ววันเล่าเกินวันละ 10 มิลลิกรัม อาจทําให้สูญเสียความรู้สึกที่มือแล้วก็เท้าได้ หรือกินสารเบต้าแคโรที่มีขนาดสูง โดยรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานๆก็อาจกระตุ้นโรคมะเร็งในผู้สูบบุหรี่ได้เหมือนกัน อย่างที่เราทราบกันดีว่าถ้ารับประทานอาหารให้นานาประการ จะพบว่าการขาดสารอาหารนั้นมีน้อยมาก รวมทั้งแทบจะไม่มีความจําเป็นสำหรับในการกินอาหารเสริมเลย ขณะที่ฝูงคนที่ขาดสารอาหาร มักเกิดในกรุ๊ปผู้มีรายได้น้อย เพราะว่าไม่สามารถเลือกรับประทานอาหารได้ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือบางรายก็กินอาหารเดิมๆโดยเฉพาะอาหารจานด่วนทั้งหลาย มาถึงตรงนี้ผู้คนจำนวนมากบางทีอาจคิดสงสัยว่า แล้วพวกเราจะรู้ได้เช่นไรว่าร่างกายของพวกเราควรได้รับวิตามินใดบ้าง ง่ายสุดเลยก็ต้องใคร่ครวญจากของกินที่เราเลือกกิน ควรรับประทานให้นานาประการ แล้วก็ผักสดและผลไม้ (วิธีกล้วยๆกินให้ครบ 5 สี) แม้กระนั้นหากไม่สามารถที่จะเลือกได้ ก็ให้เลือกกินวิตามินที่ไม่สะสมภายในร่างกาย เพราะว่าถ้าเกิดเกินความปรารถนาจะสามารถขับทิ้งได้ ดังเช่น วิตามิน B รวมทั้ง C แต่ว่าวิตามินที่รับประทานแล้วสะสมได้ก็คือวิตามิน A, D, E, K จ้ะ สำหรับคนที่กินวิตามินเป็นประจํา อย่าลืมลองพิจารณาจำนวนที่ควรกินต่อวันด้วย ดังเช่น วิตามินซีในปริมาณ 500-1,000 มก.ต่อวัน เป็นขนาดเหมาะเจาะที่ร่างกายควรได้รับในทุกวัน หรือแคลเซียม 2000 มิลลิกรัมต่อวัน เหมาะสมสําหรับสตรีวัยหมดประจําเดือน เพราะช่วยคุ้มครองกระดูกพรุนได้ หรือสาวขึ้นมาอีกนิดและก็กําลังมีครรภ์ เสนอแนะว่าให้รับประทาน 1,500 มก.กำลังพอดีค่ะ ส่วนธาตุเหล็กนั้น โดยปกติในคนปกติควรจะได้รับ วันละ 8-15 มิลลิกรัม ส่วนคนป่วยโลหิตจางที่ขาดธาตุเหล็ก ควรได้รับวันละ 50-100 มก.ค่ะ คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : วิธีทานอาหารเสริม ที่ถูกต้อง ขอบคุณบทความจาก : https://thaihealth108.wixsite.com/mysite Tags : อาหารเสริม วิตามิน,อาหารเสริม
|