สิ่งที่น่าเบื่ออย่างหนึ่งที่คนใช้งานมือถือกลัวมากคงหนีไม่พ้นเรื่องของน้ำที่เข้ามาสัมผัสกับตัวเครื่องทั้ง จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เนื่องจากเมื่อน้ำเข้ามาแล้วมันทำให้ระบบภายในเกิดการรวนจนบ่อยครั้งถึงขั้นต้องซ่อมหรือเสียเงินซื้อใหม่กันเลย การเลือกใช้เคสกันน้ำจึงเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะคนที่ใช้มือถือแบรนด์ดังอย่าง I-Phone เหมาะอย่างยิ่งในการเลือกใช้งาน
เคสกันน้ำ CATALYST มาดูกันว่ามันน่าจัด มากแค่ไหนเมื่อเลือกใช้เคสกันน้ำแบรนด์นี้
- ใส่ง่ายมากกว่าหลายๆ แบรนด์ในท้องตลาด – สิ่งแรกที่ต้องยอมรับในการใช้งานเคสกันน้ำของ Catalyst คือสวมใส่ง่ายกว่าหลายแบรนด์ในท้องตลาดมาก ลักษณะของเคสจะทำเป็นงาน 2 ชิ้นประกบกันหน้าหลังเมื่อสวมใส่เข้าไปเสร็จแล้วก็กดปิดฝาครอบมือถือได้ทันที เช็คอีกรอบด้วยการกดรอบๆ ว่าใส่ลงไปสนิทเรียบร้อยทุกจุดไม่มีปัญหาใดๆ
- มีตัวกันน้ำเข้าตรงท้ายเครื่อง – ท้ายเครื่องจะทำเป็นแถบยาง ดึงออกง่าย ส่วนตรงช่องหูฟังกับช่อง Lighting จุกยางจะทำยื่นเข้าไปด้านในเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปตรงจุดดังกล่าว เมื่อจะใช้งานหรือรู้สึกว่าต้องไปในพื้นที่ที่มือถืออาจโดนน้ำก็กดดูหน่อยว่าจุกยางปิดสนิทเรียบร้อยดี
- ปุ่มเปิดปิดเสียงเหนือกว่าใคร – ปกติเวลาเราใช้งาน I-Phone เคสส่วนใหญ่ที่ทำลักษณะหุ้มปุ่มเปิดปิดเสียงไว้จะทำในแบบเดียวกับตัวเครื่องคือดันขึ้นลงแต่สำหรับเคสของ สาย apple watch CATALYST ล้ำหน้ากว่านั้นด้วยการทำจุกยางเป็นแบบหมุน ส่งผลให้สะดวกต่อการใช้งานมากกว่า หมดปัญหาเรื่องของการต้องมาดันไปมาย้ำๆ แล้วคิดว่าตอนนี้เปิดปิดเสียงหรือยัง
- สแกนลายนิ้วมือบนเคสได้เลย – การเลือกใช้งานเคสแบรนด์นี้ไม่ต้องห่วงเวลาใช้งานจะต้องดึงเข้าดึงออกบ่อยๆ เพราะมือถือไม่อ่านลายนิ้วมือหรือปุ่มโฮมกดไม่ค่อยติด เราสามารถใช้งานตรงนี้ได้อย่างง่ายดาย เรียกว่าใส่เคสเข้าไปครั้งเดียวก็ใช้งานได้ปกติไม่ต้องถอดเข้าถอดออกให้เสียอารมณ์
- หมดห่วงสำหรับสายลุย – เข้าใจว่าบางคนเป็นสายลุยที่ต้องบุกป่าฝ่าดง ลุยน้ำลุยโคลนบอกเลยว่าหากใช้เคสก้นน้ำตัวนี้หมดห่วงได้ เพราะต่อให้จะบู๊หนักขนาดไหนพอหยิบมือถือออกมาก็ยังใช้งานได้ปกติ ไม่มีปัญหาน้ำเข้าให้ต้องเครียดหรือหมดสนุกไปเปล่าๆ
คุ้มค่าเกินราคาจริงๆ สำหรับ
สาย apple watch CATALYST ไม่แปลกที่คนจำนวนมากเลือกใช้งานกันเพราะมันดีแบบนี้นี่เอง
Tags : CATALYST,เคสกันน้ำ CATALYST,สาย apple watch CATALYST