หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็งได้จริงหรือ?.. เริ่มหัวข้อโดย: xcooiuty015s44 ที่ สิงหาคม 08, 2018, 11:04:01 am (https://www.picz.in.th/images/2018/07/25/NmvBmz.jpg)[/b]
เห็ดหลินจือ[/size][/b] เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็ง อีกหนึ่งงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่ศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่กล่าวถึงมาแล้วมีส่วนสำหรับการยัยยั้งแนวทางการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว จากการค้นคว้ามากถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจมีผลต่อการต้านการอักเสบในผู้เจ็บป่วยมะเร็งปอดบางราย แม้กระนั้นยังคงไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบด้านการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่ช่วยเหลือให้ใช้เห็ดหลินจือในการรักษามะเร็งอย่างเป็นทางการ เมื่อวิเคราะห์เปรียบจากการรวบงานศึกษาเรียนรู้ที่เล่าเรียนประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้จะพบว่าคนไข้ตอบสนองต่อการดูแลและรักษาด้วยเคมีบรรเทาหรือรังสีบำบัดรักษาได้ดีขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่เมื่อตรวจสอบและลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับเพื่อการทำให้โรคมะเร็งลดขนาดลงประการใด ยิ่งกว่านั้น จาการทบทวนงานวิจัยพบว่ามีงานค้นคว้าวิจัย 4 ชิ้นที่มีผลลัพธ์สนับสนุนว่าเห็ดหลินจืออาจชมรมต่อการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนป่วยให้ดียิ่งขึ้น และในเวลาเดียวกัน ก็มีผลลัพธ์จากงานศึกษาเรียนรู้วิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้แล้วก็นอนไม่หลับด้วย โดยเหตุนี้ จึงอาจพูดได้ว่า เครื่องพิสูจน์ทางคุณลักษณะและคุณประโยช์จากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยเป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพพอเพียง หรือเป็นเพียงแต่การทดสอบในผู้เจ็บป่วยบางกลุ่มแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นเรื่องการค้นคว้าที่ควรปฏิบัติงานทดสอบต่อไปเพื่อได้สำเร็จลัพ์ที่แจ้งชัดแล้วก็มีประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลและรักษาคนป่วยมะเร็งได้ในอนาคต ภาวะต่อมลูกหมากโต แล้วก็การเจ็บป่วยในระบบทางเท้าปัสสาวะ มีกรรมวิธีทดสอบหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในผู้เจ็บป่วยเพศ 88 รายซึ่งแก่เกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะอาการปัสสาวะติดขัด หลังการทดสอบกว่า 12 สัปดาห์ ผลสรุปที่ได้เป็น คนเจ็บต่างมีระดับคะแนน IPSS ที่ดีขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับการวัดปัญหาในระบบทางเท้าปัสวะของคนเจ็บจากการตอบปัญหา แต่กลับไม่ปรากฏผลในเชิงความเคลื่อนไหวคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากแต่อย่างใด โดยเหตุนี้ การทดสอบดังที่ได้กล่าวมาแล้วก็เลยยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่กระจ่างแจ้งพอเพียง จะต้องมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่กระจ่างสำหรับการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการรักษาภาวการณ์ต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาสุขภาพอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวพัน ลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ จากการวิเคราะห์ผลของการทดลองทางด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีผู้เจ็บป่วยเบาหวานชนิด 2 เข้าร่วมทดสอบกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพพอเพียงจะช่วยเหลือผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการรับรองด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาเรียนรู้วิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลกระทบจากการบริโภคเห็ดหลินจือในคนไข้บางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องร่วง หรือท้องผูก โดยเหตุนี้จะต้องมีการค้นคว้าทดสอบถึงสมรรถนะของเห็ดหลินจือสำหรับการลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆกลุ่มนี้เพื่อป้องกันแล้วก็การรักษาโรคเส้นโลหิตหัวใจถัดไป และก็ให้ได้เรื่องเด่นชัดชัดดเจนในด้านดังที่ได้กล่าวมาแล้วเพิ่มมากขึ้น อันเป็นคุณประโยชน์ต่อกรรมวิธีการรักษาคุ้มครองปกป้องโรคเส้นโลหิตหัวใจแล้วก็อาการต่างๆที่เกี่ยวพันถัดไปในอนาคต จำนวนที่สมควรสำหรับในการบริโรคเห็ดหลินจืออย่างแจ่มชัด เนื่องประสิทธิผลรวมทั้งผลข้างคียงจากการบริโภค ด้วยเหตุนี้ ผู้บริโภค ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าเนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และขอความเห็นหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโรค เพราะว่าแม้เห็ดหลินจือในแต่ละแบบอย่างจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่ว่าสารเคมีและส่วนประต่างอาจส่งผลใกล้กันที่เป็นโทษต่อสภาพทางด้านร่างกายได้เช่นเดียวกัน (https://www.picz.in.th/images/2018/07/25/NmvkbR.jpg)[/b] โดยธรรมดา จำนวนการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันอาทิเช่น -เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่สมควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน -ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม -สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1 มล./วัน ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือ แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ถึงคุณค่าในบางด้านที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แต่ผู้ใช้ก็ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และก็ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการบริโภค โดยเฉพาะ ควรรอบคอบในด้านจำนวนรวมทั้งรูปแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เนื่องจากว่าอาจเป็นผลข้างๆต่อร่างกายได้ในตอนหลัง โดยข้อควรปฏิบัติตามสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือยกตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคทั่วๆไป....... -ควรจะบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณที่พอดี -การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะส่งผลให้ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ -การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะเป็นผลให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ -การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจก่อเกิดผลกระทบได้ ดังเช่น ปากแห้ง คอแห้งผาก คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ปั่นป่วน ถ่ายเป็นเลือด -การดื่มไวน์เห็ดหลินจืออาจก่อให้เกิดผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน -การดมหายใจเอาเซลล์สืบพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ คนที่ควรจะระวังในการบริโภคเป็นพิษ ผู้ที่ครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ยังไม่มีการรับรองผลข้างเคียงที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้ในกลุ่มลูกค้านี้แม้กระนั้นผู้ที่มีครรภ์รวมทั้งคนที่กำลังให้นมบุตรควรจะหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายของตนเองรวมทั้งลูกน้อย ผู้ที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนป่วยบางรายที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยง คนไข้ควรหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ ขั้นต่ำ 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ความดันเลือดต่ำ เห็ดหลินจืออาจส่งผลให้ความดันเลือดต่ำลง ด้วยเหตุนี้ คนเจ็บภาวการณ์ความดันโลหิตต่ำจึงควรเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมากอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ด้วยเหตุผลดังกล่าวผู้ป่วยภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำจึงไม่ควรบริโภคเห็ดหลินจือ ภาวการณ์มีเลือดออกแตกต่างจากปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนไข้บางราย โดยเฉพาะในคนที่มีภาวการณ์เลือกออกเปลี่ยนไปจากปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/[/b]
|