หัวข้อ: ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์ เริ่มหัวข้อโดย: eetnhrwm540240 ที่ สิงหาคม 11, 2018, 08:24:18 pm (https://www.img.in.th/images/e8083c46c3b2f0df606e54f23ccd7589.jpg)[/b]
ราชพฤกษ์[/size][/b] ราชพฤกษ์ ชื่อสามัญ Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree, Purging Cassia ราชพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula L. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และก็อยู่ในตระกูลย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE) สมุนไพรราชพฤกษ์ มีชื่อเขตแดนอื่นๆว่า กุเพยะ (กะเหรี่ยง-จังหวัดกาญจนบุรี), ปูโย ปีอยู เปอโซ แมะหล่าอยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ลักเกลือ ลักเคย (กะเหรี่ยง), ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ภาคกลาง), ต้นลมแล้ง (ภาคเหนือ), ราชพฤกษ์ (ภาคใต้), คูน (ทั่วๆไปเรียกและก็ชอบเขียนผิดหรือสะกดผิดเป็น “ต้นคูณ” หรือ “คูณ“) เป็นต้น คำว่า “ราชพฤกษ์” แสดงว่า “ต้นไม้ของพระราชา” ซึ่งเป็นเครื่องหมายของงานแสดงนิทรรศการพืชสวนโลกซึ่งจัดขึ้นเพื่อสังสรรค์ในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่พระเจ้าแผ่นดินของพวกเราทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี ต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติไทย เมื่อปี พ.ศ.2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้มีคำแนะนำและก็สรุปให้มีการระบุเครื่องหมายประจำชาติ 3 สิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกไม้ สัตว์ แล้วก็สถาปัตยกรรม ซึ่งจากการพินิจพิเคราะห์ได้ผลสรุปว่า ให้สัตว์ประจำชาติเป็น “ช้างไทย” ส่วนในด้านสถาปัตยกรรมประจำชาติคือ “ศาลาไทย” แล้วก็ในส่วนของดอกไม้ประจำชาติก็คือ “ดอกราชพฤกษ์” โดยมีเหตุมีผลสำหรับเพื่อการเลือกดังนี้ ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์ จัดฯลฯไม้ประจำชาติไทย (ตามประกาศของกรมป่าไม้)ต้นไม้ราชพฤกษ์ ฯลฯไม้ที่ชาวไทยทั่วๆไปรู้จักกันอย่างล้นหลาม ในนามของ “ต้นคูน” สามารถประสบพบเห็นได้ทั่วไปของทุกภาคในประเทศ ต้นราชพฤกษ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับจารีตคนไทยมาอย่างช้านาน เนื่องจากว่าเป็นพืชที่มีความมงคลนามรวมทั้งใช้เพื่อการประกอบพิธีสำคัญๆต่างๆหลายพิธีการ ตัวอย่างเช่น พิธีการลงเสาหลักเมือง ทำคทาจอมพล ใช้ทำยอดธงชัยเฉลิมพล ฯลฯ ต้นราชพฤกษ์นั้นสามารถประยุกต์ใช้ผลดีได้อย่างมากมาย เป็นต้นว่า การใช้เป็นยาสมุนไพรหรือนำมาใช้ทำเป็นเสาบ้านเสาเรือนได้ ฯลฯ ต้นราชพฤกษ์ฯลฯไม้ที่แก่ยืนนานและก็แข็งแรงทนทาน ต้นราชพฤกษ์มีทรงและพุ่มที่งดงาม มีดอกเหลืองงามเต็มต้น แลดูสวยยิ่งนัก ดอกราชพฤกษ์มีสีเหลือง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย เป็นเครื่องหมายที่พระพุทธศาสนา และยังเป็นเครื่องหมายของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชการบังเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ตามตำราไม้มงคล 9 ชนิดยังระบุไว้ว่า ต้นราชพฤกษ์เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นใหญ่ ความมีอิทธิพลบุญบารมี มีโชคมีชัย สมุนไพรราชพฤกษ์ กับการนำมาใช้รักษาโรคและก็อาการต่างๆโดยส่วนที่ประยุกต์ใช้เป็นคุณประโยชน์ทางยานั้น อาทิเช่น ส่วนของใบ ดอก เปลือก ฝัก แก่น กระพี้ ราก รวมทั้งเมล็ด ซึ่งสมุนไพรราชพฤกษ์ เป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ได้กับเด็ก สตรี รวมถึงคนวัยแก่ โดยไม่มีอันตรายใดๆก็ตาม ลักษณะของต้นราชพฤกษ์ ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน) เป็นพืชท้องถิ่นในแถบเอเชียใต้ ไล่ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถานไปจนกระทั่งอินเดีย ประเทศพม่า แล้วก็ประเทศศรีลังกา โดยจัดเป็นพรรณไม้ขนาดกึ่งกลาง มีลำต้นสีน้ำตาลปนเทาหมดจด มักขึ้นทั่วไปตามป่าผลัดใบหรือในดินที่มีการถ่ายเทน้ำดี แพร่พันธุ์ด้วยแนวทางเพาะเม็ดแล้วย้ายกล้ามาปลูกเอาไว้ภายในถุงเพาะชำ เมื่อโตพอแล้วก็ย้ายมาปลูกในพื้นที่ แต่ว่าในขณะนี้บางครั้งอาจจะใช้แนวทางการทาบกิ่งและก็เสียบยอดก็ได้ แต่ช่องทางเสร็จจะน้อยกว่ากรรมวิธีการเพาะเมล็ด ใบราชพฤกษ์ (ใบคูน) รูปแบบของใบออกเป็นช่อ ใบสีเขียวเป็นเงา ช่อหนึ่งยาวโดยประมาณ 2.5 เซนติเมตร และก็มีใบย่อยเป็นไข่หรือรูปป้อมๆราวๆ 3-6 คู่ ใบย่อยมีความกว้างโดยประมาณ 5-7 เซนติเมตร แล้วก็ยาวราว 9-15 ซม. โคนใบมนและสอบไปทางปลายใบ เนื้อใบบางหมดจด มีเส้นกิ้งก้านใบถี่และก็โค้งไปตามรูปใบ ใบราชพฤกษ์ ดอกราชพฤกษ์ (ดอกคูน) ออกดอกเป็นช่อ ยาวราวๆ 20-45 ซม. มีกลีบรองดอกรูปขอบขนาน มีความยาวราวๆ 1 เซนติเมตร กลีบมี 5 กลีบ หลุดร่วงได้ง่าย และก็กลีบดอกยาวกว่ากลีบรองดอกประมาณ 2-3 เท่า รวมทั้งมีกลีบรูปไข่ปริมาณ 5 กลีบ รอบๆพื้นกลีบจะมองเห็นเส้นกลีบกระจ่าง ที่ดอกมีเกสรตัวผู้ขนาดแตกต่างกันจำนวน 10 ก้าน มีก้านอับเรณูโค้งงอขึ้น ดอกมักจะบานในตอนมี.ค.ถึงพฤษภาคม แม้กระนั้นก็มีบางครั้งที่ออกดอกนอกฤดูเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ในช่วงธันวาคมถึงม.ค. ดอกราชพฤกษ์ดอกคูน ผลราชพฤกษ์ หรือ ฝักราชพฤกษ์ (ฝักคูณ) ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปทรงกระบอกสะอาดๆฝักยาวโดยประมาณ 20-60 ซม. และวัดเส้นผ่านศูนย์กลางได้ราว 2-2.5 เซนติเมตร ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝักแก่จัดจะมีสีดำ ในฝักจะมีฝาผนังเยื่อบางๆชิดกันอยู่เป็นช่องๆตามขวางของฝัก รวมทั้งในช่องจะมีเมล็ดสีน้ำตาลแบนๆอยู่ มีขนาดประมาณ 0.8-0.9 ซม. ฝักคูนฝักราชพฤกษ์ สรรพคุณของราชพฤกษ์ ช่วยทำนุบำรุงเลือดในร่างกาย (เปลือก) สารสกัดจากลำต้นแล้วก็ใบของราชพฤกษ์มีฤทธิ์ช่วยต้านทานอนุมูลอิสระ (ลำต้น, ใบ) สารสกัดจากเมล็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (เม็ด) ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือถุงน้ำดี (ราก) ราชพฤกษ์มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ (ราก) ฝักราชพฤกษ์มีสรรพคุณทางยาช่วยแก้ไข้ไข้มาลาเรีย (ฝัก) ช่วยแก้ไข้รูมาติกด้วยการใช้ใบอ่อนเอามาต้มกับน้ำดื่ม (ใบ) ฝักอ่อนมีรสหวานอมเปรี้ยวนิดหน่อย มีกลิ่นเหม็นเบื่อ เย็นจัด คุณประโยชน์สามารถใช้ขับเสลดได้ (ฝักอ่อน) ช่วยแก้อาการอยากกินน้ำ (ฝัก) เปลือกเมล็ดและก็เปลือกฝักมีสรรพคุณช่วยทำลายพิษ ทำให้อ้วก หรือจะใช้เม็ดประมาณ 5-6 เม็ด เอามาบดเป็นผุยผงแล้วรับประทานก็ได้ (เมล็ด, ฝัก) ต้นราชพฤกษ์ สรรพคุณของกระพี้ใช้แก้ลักษณะของการปวดฟัน (กระพี้) ในอินเดียมีการใช้ฝัก เปลือก ราก ดอก และก็ใบมาทำเป็นยา ใช้เป็นยาแก้ไข้และหัวใจ แก้อาการหายใจขัด ช่วยถ่ายของเสียออกมาจากร่างกาย แก้อาการซึมเซา หนักศีรษะ หนักตัว ทำให้สดชื่นทรวงอก (เปลือก, ราก, ดอก, ใบ, ฝัก) คุณประโยชน์ราชพฤกษ์ช่วยแก้โรครำมะนาด (กระพี้, แก่น) ช่วยรักษาเด็กเป็นต้นตานขโมยด้วยการใช้ฝักแห้งประมาณ 30 กรัมนำมาต้มกับน้ำกิน (ฝัก) ช่วยทุเลาอาการแน่นหน้าอก (เนื้อในฝัก) ฝักแก่ใช้เป็นยาระบาย ช่วยสำหรับเพื่อการขับถ่าย ทำให้ถ่ายได้สะดวก ไม่มวนท้อง แก้อาการท้องผูก เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำรวมทั้งสตรีท้อง เนื่องจากว่ามีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone glycoside) เป็นตัวช่วยระบาย สำหรับวิธีการใช้ ให้ใช้ฝักแก่ขนาดก้อนเท่าหัวแม่มือ (หนักโดยประมาณ 4 กรัม) รวมทั้งน้ำอีก 1 ถ้วยแก้วใส่หม้อต้ม แล้วผสมเกลือบางส่วน ใช้ดื่มก่อนอาหารยามเช้าหรือช่วงก่อนนอนเพียงแค่ครั้งเดียว (ฝักแก่, ดอก, เนื้อในฝัก, ราก, เม็ด) เม็ดมีรสฝาดเมา สรรพคุณช่วยแก้ท้องเสีย (เมล็ด) ช่วยหล่อลื่นลำไส้ รักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและแผลเรื้อรัง (ดอก) ช่วยรักษาโรคบิด (เม็ด) สรรพคุณของราชพฤกษ์ ฝักช่วยแก้อาการจุกเสียด (ฝัก) ช่วยให้กำเนิดลมเบ่ง ด้วยการใช้เมล็ดฝนกับต้นหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ และน้ำตาล แล้วเอามารับประทาน (เม็ด) ฝักรวมทั้งใบมีคุณประโยชน์ช่วยขับพยาธิ ด้วยการใช้ฝักแห้งราว 30 กรัมเอามาต้มกับน้ำกิน (ใบ, ฝัก, เนื้อในฝัก) ต้นคูณมีคุณประโยชน์ช่วยขับพยาธิไส้เดือนในท้อง (แก่น) เปลือกฝักมีรสขื่นเมา ช่วยขับรกที่ค้าง ทำให้แท้งลูก (เปลือกฝัก) สารสกัดจากใบคูนมีฤทธิ์ช่วยต้านทานการเกิดพิษที่ตับ (ใบ) คุณประโยชน์ของคูน รากใช้แก้โรคโรคกุฏฐัง (ราก) ใบสามารถนำมาใช้สำหรับการฆ่าเชื้อโรค เชื้อโรคบนผิวหนังที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อราได้ (ใบ) ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง (ใบ) รากเอามาฝนใช้ทารักษาขี้กลากโรคเกลื้อน รวมทั้งใบอ่อนก็ใช้แก้กลากได้ด้วยเหมือนกัน (ราก, ใบ) เปลือกและใบนำมาบดผสมกันใช้ทาแก้เม็ดผดผื่นตามร่างกายได้ (เปลือก, ใบ) เปลือกมีสรรพคุณช่วยแก้ฝี แก้บวม หรือจะใช้เปลือกรวมทั้งใบเอามาบดผสมกันใช้ทารักษาฝี (เปลือก, ใบ) คูน สรรพคุณของดอกช่วยแก้รอยแผลเรื้อรัง รักษาแผลเรื้อรัง (ดอก) เปลือกราชพฤกษ์ สรรพคุณช่วยสมานบาดแผล (เปลือก) ฝักคูณมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อาการปวดข้อ (เนื้อในฝัก) คนแขกใช้ใบเอามาตำ นำมาพอกแล้วนวด ช่วยแก้โรคปวดข้อแล้วก็อัมพาต (ใบ) ช่วยกำจัดหนอนและแมลง โดยฝักแก่มีสารออกฤทธิ์ที่มีผลต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมกับน้ำทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน แล้วก็ใช้สารละลายที่กรองได้มาฉีดพ่นจะช่วยในการกำจัดรอยคราบแมลงแล้วก็หนอนในแปลงผักได้ (ฝักแก่) สารสกัดจากรากราชพฤกษ์มีฤทธิ์ยั้งเอนไซม์ Acetylcholinesterase นอกเหนือจากนี้ยังมีการนำสมุนไพรราชพฤกษ์มาแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมาก ดังเช่น น้ำมันนวดราชพฤกษ์ ที่ต้มมาจากน้ำมันจากใบคูน เป็นน้ำมันนวดสูตรร้อนหรือสูตรเย็น ที่ใช้นวดแก้อัมพฤกษ์อัมพาต รวมทั้งไขปัญหาเรื่องเส้น ลูกประคบราชตารู เป็นลูกประคบสูตรโบราณ ที่ใช้ใบคูนเป็นตัวยาตั้งต้น ประกอบไปด้วย ขมิ้นอ้อย เทียนดำ กระวาน และอบเชยเทศ โดยลูกประคบสูตรนี้จะใช้ปรุงตามอาการ โดยจะดูตามโรคและความจำเป็นเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนจะได้ต่างกัน ผงพอกคูนคาดข้อ ทำมาจากใบคูนที่เอามาบดเป็นผุยผง ช่วยแก้อาการปวดเส้น อัมพฤกษ์อัมพาต โดยนำมาพอกบริเวณที่เป็นจะช่วยทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือด บรรเทาลักษณะของการปวดข้อ รักษาโรคเกาต์ และก็ยังช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งสูตรนี้สามารถใช้กับคนไข้ที่เป็นอัมพาตบริเวณใบหน้าครึ่งด้าน ตาไม่หลับ มุมปากตกได้ด้วย ชาสุวรรณาค้าง ทำจากใบคูน คุณประโยชน์ช่วยในด้านสมอง ขจัดปัญหาเส้นโลหิตตีบในสมอง ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนในร่างกายดียิ่งขึ้น ช่วยแก้อัมพฤกษ์อัมพาต โดยเป็นตัวยาที่มีไว้ชงดื่มพร้อมกันไปกับการดูแลรักษาแบบอื่นๆ (https://www.img.in.th/images/5042a2cec47101e4da06f950cf40edd6.jpg)[/b] ข้อควรระวัง ! :การทำเป็นยาต้ม ควรต้มให้พอสมควรจึงจะได้ประสิทธิภาพที่ดี แม้ต้มนานเกินความจำเป็นหรือเกินกว่า 8 ชั่วโมง ยาจะไม่มีฤทธิ์ระบาย แต่จะก่อให้ท้องผูกแทน แล้วก็ควรที่จะเลือกใช้ฝักที่ไม่มากเกินไป รวมทั้งยาต้มที่ได้ถ้าหากกินมากจนเกินไปอาจทำให้คลื่นไส้ได้ คุณประโยชน์ซึ่งมาจากราชพฤกษ์ นิยมนำมาปลูกไว้ฯลฯไม้ประดับตามสถานที่ต่างๆอย่างเช่น สถานที่ราชการ บริเวณริมถนนข้างทาง และก็สถานที่อื่นๆ ต้นราชพฤกษ์กับความเชื่อ ต้นราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลนามที่ชาวไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดที่ปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะช่วยทำให้มีเกียรติรวมทั้งศักดิ์ศรี ต้นเหตุเพราะคนให้การเห็นด้วยว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้ที่มีคุณค่าสูงแล้วก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วย และยังมั่นใจว่าจะมีผลให้ผู้อาศัยนั้นก้าวหน้า โดยจะนิยมนำมาปลูกต้นราชพฤกษ์ในวันเสาร์แล้วก็ปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน (อาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากทิศดังที่กล่าวถึงแล้วได้รับแสงอาทิตย์จัดในตอนตอนบ่าย เลยปลูกไว้เพื่อช่วยลดความร้อนในบ้านรวมทั้งช่วยลดการใช้พลังงาน) ต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลและศักดิ์สิทธิ์ ใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ในพิธีการต่างๆทางศาสนา ดังเช่น พิธีวางศิลาฤกษ์ ใช้ทำเสาหลักเมือง เสาฤกษ์สำหรับเพื่อการก่อสร้างพระตำหนัก ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร คทาจอมพล ส่วนใบของต้นราชพฤกษ์จะใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ไว้สะเดาะเคราะห์ได้ประสิทธิภาพที่ดีนัก เป็นต้น เนื้อไม้ใช้ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ด้ามเครื่องมือต่างๆหรือทำเป็นไม้ไว้ใช้สอยอื่นๆดังเช่น ใช้ทำเสา เสาสะพาน ทำสากตำข้าว ล้อเกวียน คันไถ เป็นต้น เนื้อของฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้แทนกากน้ำตาลสำหรับเพื่อการทำเป็นหัวเชื้อจุลอินทรีย์และจุลชีวันขยายได้ ฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการหุงด้วยเตาเศรษฐกิจที่มีขนาดพอดี โดยไม่ต้องผ่า ตัด หรือเลื่อย แหล่งอ้างอิง : เว็บไซต์ที่ทำการโครงการรักษากรรมพันธุ์พืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, เว็บกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า แล้วก็พันธุ์พืช, เว็บไทยโพส, สำนักงานปรับปรุงเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน), งานมหกรรมแสดงนิทรรศการพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554, ที่ทำการกองทุนช่วยเหลือการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) http://www.disthai.com/[/b]
|