ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: mmkmm25255 ที่ สิงหาคม 14, 2018, 02:48:32 pm



หัวข้อ: ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์
เริ่มหัวข้อโดย: mmkmm25255 ที่ สิงหาคม 14, 2018, 02:48:32 pm
(https://www.img.in.th/images/e8083c46c3b2f0df606e54f23ccd7589.jpg)[/b]
ราชพฤกษ์[/size][/b]
ภูมิหลังของต้นราชพฤกษ์
   จากอดีตกาลก่อนหน้าที่ผ่านมากว่า 50 ปี ทางการมีความพยายามหลายหนสำหรับการกำหนดให้มีสัญลักษณ์ประจำชาติไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนด ต้นไม้ และก็ ดอกไม้ ประจำชาติ เริ่มที่กรมป่าไม้ได้เชิญให้ประชากรพึงพอใจต้นราชพฤกษ์[/b]หรือคูณมาตั้งแต่ตอนปี พุทธศักราช2494 โดยรัฐบาลมีมติให้ถือวันที่ 24 เดือนมิถุนายน เป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ (arbour day) มีการเชิญให้ปลูกต้นไม้ที่มีประโยชน์จำพวกต่างๆล้นหลาม ในขณะเดียวกันก็ได้มีการเสนอว่า ต้นราชพฤกษ์ คงจะถือเป็นต้นไม้ประจำชาติ
ราชพฤกษ์
   จนกระทั่งในปี พุทธศักราช2506 มีการสัมมนาเพื่อระบุเครื่องหมายต้นไม้และสัตว์ประจำชาติเป็นครั้งแรก โดยกรมป่าไม้ได้เสนอให้ ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูณ พืชที่มีความเป็นสิริมงคลที่มีประโยชน์และก็รู้จักกันอย่างแพร่หลายเป็นต้นไม้ประจำชาติ สำหรับสัตว์ประจำชาติก็คือ ช้างเผือก สัตว์ที่มีคุณค่าเกี่ยวข้องกับประเพณีไทยแล้วก็ประวัติศาสตร์ไทยมายาวนาน การเสนอครั้งนั้นมิได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนี้ตลอดเวลาก่อนหน้าที่ผ่านมาเครื่องหมายที่บ่งถึงความเป็นเอกราชยจึงมีนานาประการ ตั้งแต่สถานที่สำคัญๆ สัตว์ ดอกไม้ ที่ชาวไทยรู้จักและพบเห็นหลายครั้ง ดังเช่น พระปรางค์วัดใกล้รุ่งฯ เรือสุพรรณหงส์ ดอกบัว ดอกมะลิ ดอกพุทธรักษา แมวไทย เช่นเดียวกับ ต้นราชพฤกษ์ รวมทั้ง ช้างเผือก ยังคงถูกเชิดชูให้เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติตลอดมา
            ปี พุทธศักราช2530 มีการเกื้อหนุนให้ปลูกต้นราชพฤกษ์อีกครั้ง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ โดยมีการสนับสนุนให้ปลูกต้นราชพฤกษ์ทั่วประเทศปริมาณ 99,999 ต้น เวลานี้จึงมีต้นราชพฤกษ์อยู่มากทั่วประเทศไทย
            ผลสรุปเรื่องเครื่องหมายประจำชาติดูเหมือนจะยังไม่กระจ่าง จนถึงช่วงปี พุทธศักราช2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้นำเรื่องดังที่ได้กล่าวมาแล้วกลับมาเสนออีกรอบ และมีผลสรุปเสนอให้มีการกำหนดสัญลักษณ์ประจำชาติ 3 สิ่งเป็น ดอกไม้ สัตว์แล้วก็สถาปัตยกรรม แล้วก็การพิเคราะห์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเสนอให้ระบุดอกไม้ประจำชาติคือ ดอกราชพฤกษ์ สัตว์ประจำชาติเป็นช้างไทย แล้วก็สถาปัตยกรรมประจำชาติเป็น ศาลาไทย
            เหตุที่เลือก ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติเนื่องจากว่ามีความเหมาะสมในหลายๆด้าน คือ เป็นดอกไม้จากต้นไม้ที่ถูกเสนอให้เป็นต้นไม้ประจำชาติเมื่อครั้งที่กรมป่าไม้เสนอไว้ ฯลฯไม้ที่มีอายุยืน ทนทาน ปลูกขึ้นก้าวหน้าทั่วทุกภาคของประเทศ ฯลฯไม้ท้องถิ่นที่รู้จักแพร่หลาย มีชื่อเรียกหลายชื่อไม่เหมือนกันในแต่ละภาค อาทิเช่น ราชพฤกษ์ คูน อ๋อดิบ ราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลใช้ประโยชน์ในพิธีการสำคัญๆยกตัวอย่างเช่น ลงหลักเมือง ลงเสาเอก ทำคฑาจอมพลแล้วก็ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ในฤดูร้อนราชพฤกษ์จะออกดอกสะพรั่งต้น ช่อดอกมีทรงสวย สีเหลืองสวยงามเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธอันเป็นศาสนาประจำชาติ รวมทั้งเป็นสีเดียวกับวันพระราชการบังเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นอกเหนือจากนี้ความสวยของช่อดอก และก็ความหมายที่ดียังถูกจำลองแบบเสริมแต่งไว้บนอินทรธนูของข้าราชการอีกด้วย
ดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติไทย
ส่งดอกไม้ประจำชาติไทยเป็นดอกราชพฤกษ์ (Golden shower) หรือ ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของ ดอกราชพฤกษ์เป็นCassia fistula
           ดอกไม้สีเหลืองงามที่พบได้ทั่วไปเห็นได้ทั่วไปตามริมถนนสายต่างๆคือสีสันของ ดอกราชพฤกษ์ หรือ ดอกคูน ต้นไม้มงคลที่ได้รับการชมเชยให้เป็น ดอกไม้ประจำชาติไทย ทั้งมั่นใจว่าเป็นต้นไม้ที่ปลูกไว้แล้วจะเสริมให้คนภายในบ้านมีเกียรติตำแหน่งชื่อ เสียงมากยิ่งขึ้นด้วย ยิ่งใกล้ไปสู่เวลาแห่งการเปิดประตูต้อนรับเพื่อนบ้านอาเซียนกันแล้ว ในวันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำเนื้อหาเกี่ยวกับดอกไม้ประจำชาติไทยอย่าง ดอกราชพฤกษ์ มาให้ทำความรู้จักกันแรง
ประวัติความเป็นมาดอกราชพฤกษ์
           ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูน เป็นต้นไม้ประจำถิ่นของทวีปเอเชียใต้ ตั้งแต่ประเทศปากีสถาน อินเดีย พม่า และศรีลังกา โดยนิยมปลูกกันมากในเขตร้อน สามารถเติบโตได้ดิบได้ดีในที่โล่งแจ้ง รวมทั้งมีชื่อเสียงในประเทศไทยมาหลายสิบปี โดยมีการเสนอให้ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 แม้กระนั้นก็ยังมิได้ผลสรุปกระจ่างแจ้ง ตราบจนกระทั่งมีการลงนามให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย เมื่อวันที่ 26 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2544
(https://www.img.in.th/images/5042a2cec47101e4da06f950cf40edd6.jpg)[/b]
ดอกไม้ประจำชาติไทย
           เนื่องด้วย ต้นราชพฤกษ์ มีดอกสีเหลืองยกช่อ ดูสง่างาม อีกทั้งยังมีสีตรงกับ สีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็เลยถูกตั้งชื่อว่าเป็น "ต้นไม้ของในหลวง" แล้วก็มีการลงนามให้ต้นราชพฤกษ์ เป็นเลิศใน 3 เครื่องหมายประจำชาติไทย โดยมี 1. ช้าง เป็นสัตว์ประจำชาติไทย 2. ศาลาไทย เป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติไทย แล้วก็ 3. ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย
เหตุผลเลือกเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย

  • ด้วยเหตุว่าฯลฯไม้พื้นเมืองที่รู้จักกันอย่างมากมาย แล้วก็มีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย
  • มีประวัติเกี่ยวโยงกับจารีตหลักๆในไทยรวมทั้งเป็นต้นไม้มงคลที่นิยมนำมาปลูก
  • ใช้ประโยชน์ได้นานัปการ ดังเช่น ใช้เป็นยารักษาโรค ทั้งยังยังคงใช้ลำต้นเป็นเสาเรือนได้ ฯลฯ
  • มีสีเหลืองแพรวพราว พุ่มงามเต็มต้น เปรียบเทียบเป็นเครื่องหมายแห่งพุทธศาสนา
  • แก่ยืนนาน และแข็งแรง
ลักษณะทั่วไป
           ฯลฯไม้ขนาดกลาง สูงประมาณ 10-20 เมตร มีดอกเป็นช่อสีเหลืองงาม แต่ละช่อยาวโดยประมาณ 20-40 ซม. โดยกลีบจะเป็นสีเหลือง 5 กลีบ ส่งผลยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตร มีกลิ่นแรง และก็มีเมล็ดที่เป็นพิษ
การปลูกดอกราชพฤกษ์
           นิยมปลูกด้วยเม็ด โดยจะมีการเจริญเติบโตช้าในช่วง 1-3 ปีแรก แต่ว่าต่อจากนั้นจะมีการเติบโตเร็วขึ้น และมีดอกตอนอายุโดยประมาณ 4-5 ปี
การดูแลรักษา
           แสงสว่าง : อยากได้แดดจัด หรือที่โล่งแจ้ง และก็เจริญเติบโตเจริญในเป็นพิเศษ
           น้ำ : ชอบน้ำน้อย ควรจะรดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง สามารถทนกับสภาพภูมิอากาศร้อนได้ดี
           ดิน : สามารถเติบโตได้ดิบได้ดีในดินซึ่งร่วนซุย ดินร่วนซุยผสมทราย หรือดินเหนียว
           ปุ๋ย : นิยมใส่ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยหมัก ในอัตรา 2-3 กิโลกรัมต่อต้น แล้วก็ควรจะให้ปุ๋ยปีละ 3-4 ครั้ง
การขยายพันธุ์
           แนวทางแพร่พันธุ์ต้นราชพฤกษ์[/b]ที่นิยม คือ การเพาะเม็ด โดยใช้เมล็ดใหม่ๆมาขลิบด้วยกรรไกรตัดเล็บ แม้กระนั้นจำเป็นต้องเลือกขลิบบริเวณด้านป้าน ด้วยเหตุว่าด้านแหลมจะมีต้นอ่อนอยู่ จากนั้นนำไปแช่น้ำสะอาดทิ้งเอาไว้ผ่านวัน จึงค่อยเทน้ำออกให้เหลือปริมาณพอเพียงหล่อเลี้ยงเมล็ดได้ แล้วต่อจากนั้นทิ้งไว้อีกคืนก็จะเจอรากผลิออก และก็สามารถนำลงปลูกได้เลย
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นราชพฤกษ์
           เชื่อว่าเป็นต้นพืชที่มีความมงคล ที่ควรจะปลูกเอาไว้ภายในทิศตะวันตกเฉียงใต้ รวมทั้งแม้ปลูกเอาไว้ในบ้านจะช่วยทำให้มีเกียรติขั้น ศักดิ์ศรี แล้วก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางไสยเวท โดยใช้ใบทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ ด้วยเหตุว่าเป็นพืชที่มีความมงคลนาม http://www.disthai.com/[/b]
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ