หัวข้อ: สมุนไพรพญายอมีรูปร่างอย่างไรเเละสรรพคุณ-ประโยชน์ดีอย่างไร..?... เริ่มหัวข้อโดย: oiksdfu01457 ที่ สิงหาคม 18, 2018, 07:21:37 pm (https://www.img.in.th/images/95d9d55a77aaef8d4932ebe158d5fbff.jpg)[/b]
พญายอ[/size][/b] พญายอเป็นไม้พุ่งแกมเลื้อย เถารวมทั้งใบมีสีเขียวใบไม้ไม่มีหนาม ใบยาวเรียวปลายแหลม ออกตรงกันข้ามเป็นคู่ ดอกออกเป็นช่อ อยู่ที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมี 3-6 ดอก กลีบดอกเป็นดอกปลายแยกสีแดงอมส้ม พญายอขึ้นได้งามในดินที่บริบูรณ์ แดดปานกลาง มักพบตามป่าในประเทศไทย หรือปลูกกันตามบ้าน ปลูกโดยใช้ลำต้นปักชำ ฯลฯไม้ที่ปลูกได้ไม่ยาก ตัดกิ่งออกมาซัก 2-3 คืบ ปักขำให้รากออกมาก็ดีก็ย้ายไปปลูกลงในแปลง ดูแลราวกับ พืชไม้ทั่วๆไป ใบ เป็นยา ให้เก็บขนาดกึ่งกลางที่สมบูรณ์ ไม่แก่หรือไม่อ่อนจนถึงเกินความจำเป็น ใบของพญายอสามารถลดอาการักเสบของหูได้ดิบได้ดี โดยเฉพาะส่วนที่สกัดด้วยสารละลาย “บิวทานอล” ตระกูลสถิต ฉั่วกุล และก็คณะได้เรียนรู้พบว่าสารสำคัญตัวหนึ่งเป็น “เฟลโวนนอยต์” ส่วนด้านที่มีการต้านทานพิษงูยังกำกวม แม้กระนั้นปลอดภัยพอที่จะใช้ ใบพญายอรักษาอาการอักเสบเฉพาะที่ (ปวด, บวม, แดง ร้อนแต่ไม่มีไข้) จากแมลงที่มีพิษกัดต่อย อาทิเช่น ตะขาบ แมงป่อง ผึ้ง ต่อ แตน รักษาโดยการเอาใบสดจากพญายอนี้มาสัก 10-15 ใบ (มากน้อยตามบริเวณที่เป็น) ล้างให้สะอาด ใส่ลงในครกตำยา ตำอย่างละเอียด เติมแอลกอฮอล์พอเพียงเปียกแฉะยา ตั้งทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ หมั่นคนยาแต่ละวัน กรองน้ำยา ใช้น้ำ และกากทาบบริเวณที่เจ็บปวดบวม หรือที่ถูกแมลงสัตว์กัดต่อย พญายอ หรือ เสมหะพังพอน เนื่องมาจากเสลดพังพอนมีตลอดตัวผู้ละตัวเมีย แต่เพศผู้ไม่นิยมประยุกต์ใช้เพราะว่ามีฤทธิ์อ่อน รวมทั้งเพื่อไม่ให้งงก็เลยเรียกเสลดพังพอนตัวเมียว่า "พญายอ" ส่วนใหญ่เอามาทำเป็นยาสมุนไพรไทยจัดอยู่ในกลุ่มพืชทำลายพิษ “พญายอ” เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นยาใช้ภายนอกรักษาด้านนอก มีคุณประโยชน์ทุเลาการอักเสบของผิวหนังเจริญ มีฤทธิ์ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส คุณสมบัติของผงพญายอสำหรับในการบำรุงผิวพรรณ - ใช้แก้สิวเม็ดผดผื่นคัน ด้วยการนำมาดองกับสุรา แล้วผสมดินสอพองใช้ทาแก้สิวแล้วก็เม็ดผื่นผื่นคัน - ใช้แก้โรคผิวหนังผื่นคัน ผสมกับเหล้าใช้เป็นยาแก้ผื่นคัน ไฟลามทุ่ง ผื่นคัน แผลไฟเผาน้ำร้อนลวก - ใช้รักษาแผลไฟเผาน้ำร้อนลวก พญายอมีสรรพคุณช่วยดับพิษร้อนก้าวหน้า - อีกตำรากล่าวว่านอกเหนือจากที่จะใช้รักษาแผลไฟลุกน้ำร้อนลวกได้แล้ว ยังช่วยรักษาแผลเปื่อยยุ่ยเพราะเหตุว่าถูกแมงกะพรุนไฟ แผลหมากัด และก็แผลที่เกิดขึ้นมาจากการเช็ดกกรดได้อีกด้วย - ใช้รักษาแผลน้ำเหลืองเสีย เอามาพอก จะรู้สึกเย็นๆซึ่งยาจะช่วยดูดน้ำเหลืองได้ดี ทำให้แผลแห้งไว - ใช้แก้ฝี ด้วยการผสมกับเกลือและเหล้า ใช้พอกรอบๆที่เป็น เปลี่ยนแปลงยาทุกตอนเช้าและเย็น - ใช้เป็นยาขับพิษ ทำลายพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย ได้แก่ งู ตะขาบ แมงป่อง มด ยุง ฯลฯ - พญายอ [/color]ใช้รักษาอาการอักเสบ รักษาแผลร้อนในปาก แก้เริม (แผลผิวหนังจำพวกเริม) อีสุกอีใส แก้งูสวัด ไฟลามทุ่ง รวมทั้งใช้เป็นยาทำลายพิษต่างๆเอาน้ำมาดื่มหรือเอาน้ำมาทาแผลแล้วก็เอากากพอกบริเวณแผล - มีฤทธิ์แก้อาการแพ้ ลดการอักเสบ สามารถลดการอักเสบเรื้อรังได้ - มีฤทธิ์ลดความเจ็บ ช่วยลดลักษณะของการปวด - มีฤทธิ์ต้านทานไวรัสก้าวหน้าและไม่เป็นพิษต่อเซลล์ (https://www.img.in.th/images/ed6ab7622d9f1f0f42f350984289db50.jpg)[/b] วิธีการพอกขัดผิวด้วยผงพญายอ
- สำหรับผิวหน้า พญายอแม้เป็นสิวอักเสบ ห้าม ขัดโดยเด็ดขาด ให้ใช้เป็นการพอกผิวแทน เพื่อไม่ให้เชื้อสิวลุกลามไปทั่วใบหน้า และเพื่อไม่ให้เป็นการก่อกวนผิวหน้ามากเกินไป พอกทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 15 นาที - ถ้าหากใช้ขัด (สำหรับคนที่ไม่เป็นสิว แล้วก็ผิวกาย) ให้ขัดให้เบามือที่สุด ประมาณแค่ลูบคลำบากบั่นจะไม่ให้นิ้วโดนผิวหน้าเลย ห้ามกดแรงลงบนนิ้วขณะขัด แล้วก็ให้ขัดเพียงแค่ 5 นาทีก็เพียงพอที่สารสำคัญจะออกฤทธิ์แล้ว เมื่อครบ 5 นาทีให้พอกทิ้งเอาไว้จนแห้ง (อาจใช้ช่วงเวลาพอกทิ้งไว้ราวๆ 15 นาที)
Tip เพื่อการบำรุงที่เพิ่มขึ้น เมื่อพอกหรือขัดผิวด้วยผงสมุนไพรแล้ว ให้เอาน้ำผึ้งผสมน้ำปกติในอัตราส่วน 1 ช้อนชาเท่ากัน ทาให้ทั่วผิวหน้า แล้วนวดวนเบาๆทั่วบริเวณใบหน้าสักน้อย ทิ้งน้ำผึ้งไว้ 10 นาที ก็ล้างออก เพื่อเป็นการคืนความสดชื่นให้แก่ผิว ทั้งยังช่วยทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่มแล้วก็กระจ่างใส มองอ่อนกว่าวัยยิ่งขึ้น http://www.disthai.com/[/b]
|