หัวข้อ: พญายอเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณ-ประโยชน์ที่น่าทึ่ง เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ สิงหาคม 22, 2018, 08:16:56 am (https://www.img.in.th/images/95d9d55a77aaef8d4932ebe158d5fbff.jpg)[/b]
สมุนไพรพญายอ[/size][/b] ชื่อสมุนไพร พญายอ ชื่อวิทยาศาสตร์ Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau ชื่อตระกูล ACANTHACEAE ชื่อพ้อง Clinacanthus burmanni Nees ชื่ออังกฤษ ไม่มี ชื่อเขตแดนผักมันไก่ ผักลิ้นเขียด พญาบ้องคำ พญาข้อดำ พญายอ โพะโซ่จาง เสมหะพังพอนตัวเมีย ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้พุ่มรอเลื้อย ลำต้นรวมทั้งกิ่งไม้หมดจดวาว สูงได้ถึง 3 เมตร ใบผู้เดียวออกเรียงตรงกันข้าม รูปขอบขนานหรือขอบขนานแกมใบหอก กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 7-9 เซ็นติเมตร โคนใบมน ปลายใบแหลม ก้านใบยาว 0.5 เซ็นติเมตร ดอกเป็นช่อ ออกเป็นกลุ่มที่ปลายยอด กลีบดอกสีส้มแดงเชื่อมชิดกันเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น 2 ปาก ยาว 3-4 เซนติเมตร ไม่ติดฝัก ส่วนที่ใช้เป็นยาแล้วก็สรรพคุณ -ส่วนใบ รักษาอาการเพราะเหตุว่าแมลงกัดต่อยและก็โรคเริม สารสำคัญที่ออกฤทธิ์ สารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ลดการอักเสบ สารกรุ๊ป monoglycosyl diglycerides ยกตัวอย่างเช่น 1,2-O-dilinolenoyl-3-O-b-d-glucopyranosyl-sn-glycerol และก็สารกรุ๊ป glycoglycerolipids จากใบ มีฤทธิ์ยับยั้งไวรัสเริม ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์ลดการอักเสบ เมื่อป้อนสารสกัดจากใบด้วยเอ็นบิวทานอลให้หนูแรท หรือฉีดสารสกัดด้วยน้ำจากใบเข้าท้องของหนูแรท จะลดการอักเสบของข้อเท้าหนูแรทที่ทำให้บวมด้วยสารคาราจีแนน (carrageenan) ได้ ตำรับยาที่มีพญายอจำนวนร้อยละ 5 ใน cold cream และก็สารสกัดด้วยเอทานอลจากใบ เมื่อเอามาทาเฉพาะที่ให้หนูแรท จะสามารถลดการอักเสบเรื้อรังได้ แต่ว่าเมื่อใช้สารสกัดด้วยนเอ็นบิวทานอลทาที่ผิวหนังจะไม่ได้ผล ฤทธิ์ลดลักษณะของการปวด เมื่อให้หนูเม้าส์กินสารสกัดด้วยเอ็นบิวทานอลจากใบ จะลดความเจ็บของหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้ปวดด้วยกรดอะซีว่ากล่าวค โดยสารสกัดความแรง 90 มก./กิโลกรัม จะมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับเฟนนิวบิวทาโซนขนาด 100 มก./กิโลกรัม (5) ส่วนสารสกัดด้วยคลอโรฟอร์ม (2) สารสกัดด้วยน้ำ และสารสกัดด้วยเอทานอล 50% จากใบ (3) ไม่เป็นผลลดความเจ็บ (https://www.img.in.th/images/95d9d55a77aaef8d4932ebe158d5fbff.jpg)[/b] ฤทธิ์ต้านทานเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสเริม พญายอสารสกัดด้วยเฮกเซน บิวทานอล รวมทั้งเอทิลอะซิเตทจากใบ มีฤทธิ์ต่อต้านไวรัสเชื้อเริม HSV-1 รวมทั้งเมื่อนำไปทำเป็นตำรับเจลโดยใช้สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้นจำนวนร้อยละ 4 และก็ใช้ carbopol 940 เป็นสารก่อเจล พบว่า มีฤทธิ์ต้านทานไวรัสได้ดิบได้ดีและไม่เป็นพิษต่อเซลล์ ในขณะเมื่อใช้สารก่อเจล poloxamer 407 จะมีพิษต่อเซลล์ จากรายงานการดูแลและรักษาผู้เจ็บป่วยโรคเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์ประเภทเป็นซ้ำด้วยยาจากสารสกัดพญายอ เปรียบเทียบกับยา acyclovir และยาหลอก โดยให้ผู้ป่วยทายาวันละ 4 ครั้ง ตรงเวลา 6 วัน พบว่าไม่ได้แตกต่างในระยะเวลาการตกสะเก็ดของแผลคนไข้ที่ใช้ยาจากสารสกัดใบพญายอรวมทั้งยา acyclovir โดยแผลจะเป็นสะเก็ดข้างใน 3 วัน และก็หายสนิทข้างใน 7 วัน ซึ่งต่างกันกับยาหลอกอย่างเป็นจริงเป็นจัง ยาที่สกัดจากใบพญายอไม่นำไปสู่การอักเสบ ระคายเคือง ในตอนที่ acyclovir ทำให้แสบ นอกจากนี้มีการใช้ยาที่ทำจาก[url=http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2]พญายอ [/url]ในคนเจ็บโรคเริม งูสวัด และก็แผลอักเสบในปาก พบว่าสามารถรักษาแผลและก็ลดการอักเสบเจริญ ไวรัส Varicella zoster สารสกัดจากใบพญายอออกฤทธิ์ทำลายไวรัส Varicella zoster ที่เป็นต้นเหตุโรคงูสวัดและก็อีสุกอีใสได้โดยตรงก่อนที่จะเชื้อไวรัสจะเข้าสู่เซลล์ จากรายงานการดูแลรักษาคนเจ็บโรคงูสวัดด้วยยาจากสารสกัดใบพญายอเปรียบเทียบกับยาหลอก โดยให้ทายาวันละ 5 ครั้ง ตรงเวลา 7-14 วัน จนกระทั่งแผลจะหาย พบว่าผู้ป่วยหวานใจษาด้วยสารสกัดจากใบพญายอ แล้วมีแผลเป็นสะเก็ดข้างใน 3 วัน และก็หายด้านใน 7-10 วัน จะมีเยอะมากๆกว่ากรุ๊ปที่รักษาด้วยยาหลอกอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติ ระดับความเจ็บต่ำลงเร็วกว่ากรุ๊ปยาหลอก และไม่พบผลกระทบอะไรก็ตาม อาการข้างๆ ความเป็นพิษทั่วๆไปและต่อระบบแพร่พันธุ์ การทดลองความเป็นพิษ เมื่อป้อนสารสกัดด้วยเอ็นบิวทานอลจากใบให้หนูเม้าส์ พบว่าเป็นพิษน้อย แม้กระนั้นเป็นพิษปานกลางเมื่อฉีดเข้าช่องท้อง ส่วนสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1.3 กรัม/โล (หรือเทียบเท่าใบแห้ง 5.44 กรัม/โล) เมื่อป้อนเข้าทางปากหรือฉีดเข้าช่องท้องหนูเม้าส์ ไม่ส่งผลให้เกิดอาการพิษอะไรก็ตาม การเล่าเรียนพิษ พญายอครึ่งเรื้อรัง พบว่าเมื่อป้อนหนูแรทด้วยสารสกัดเอ็นบิวทานอลจากใบขนาด 270 มิลลิกรัม/โล และก็ 540 มิลลิกรัม/กิโล ทุกวัน นาน 6 สัปดาห์ พบว่าไม่มีผลต่อการเจริญเติบโต แต่ว่าน้ำหนักต่อมธัยมัสลดลง ขณะที่น้ำหนักตับมากขึ้น ไม่เจอความแปลกต่ออวัยวะอื่น และไม่พบอาการไม่พึงประสงค์อะไรก็ตาม หนูแรทที่กินสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1 กรัม/กิโลกรัม ทุกๆวันนาน 90 วัน พบว่าการกินของกินของกลุ่มที่ได้รับสารสกัดแล้วก็กลุ่มควบคุมไม่มีความแตกต่างกัน แต่ว่าน้ำหนักของหนูเพศผู้ที่ได้สารสกัดขนาด 1.0 กรัม/กิโล น้อยกว่าพญายอกลุ่มควบคุม เกร็ดเลือดของหนูแรททั้งสองเพศสูงขึ้นยิ่งกว่า รวมทั้งครีอาว่ากล่าวนินน้อยกว่ากลุ่มควบคุม แต่ไม่เจอความแตกต่างจากปกติด้านจุลพยาธิวิทยาของอวัยวะภายใน และพยาธิสภาพภายนอกhttp://www.disthai.com/[/b]
|