|
หัวข้อ: สมุนไพรพญายอมีรูปร่างอย่างไรเเละสรรพคุณ-ประโยชน์ดีอย่างไร..?... เริ่มหัวข้อโดย: ำพ ที่ สิงหาคม 24, 2018, 10:15:17 am (https://www.img.in.th/images/95d9d55a77aaef8d4932ebe158d5fbff.jpg)[/b]
พญายอ[/size][/b] พญายอเป็นไม้พุ่งแกมเลื้อย เถาแล้วก็ใบมีสีเขียวใบไม้ไม่มีหนาม ใบยาวเรียวปลายแหลม ออกตรงข้ามเป็นคู่ ดอกออกเป็นช่อ อยู่ที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมี 3-6 ดอก กลีบเป็นดอกปลายแยกสีแดงอมส้ม พญายอขึ้นได้สวยในดินที่บริบูรณ์ แสงแดดปานกลาง พบได้มากตามป่าในประเทศไทย หรือปลูกกันตามบ้าน ปลูกโดยใช้ลำต้นปักชำ เป็นต้นไม้ที่ปลูกได้ไม่ยาก ตัดกิ่งออกมาซัก 2-3 คืบ ปักขำให้รากออกมาก็ดีก็ย้ายไปปลูกลงในแปลง ดูแลรักษาเสมือน พืชไม้ทั่วๆไป ใบ เป็นยา ให้เก็บขนาดกลางที่บริบูรณ์ ไม่แก่ไหมอ่อนจนถึงเกินความจำเป็น ใบของพญายอสามารถลดอาการักเสบของหูเจริญ โดยเฉพาะส่วนที่สกัดด้วยสารละลาย “บิวทานอล” สกุลสถิต ฉั่วกุล และก็ภาควิชาได้เรียนพบว่าสารสำคัญตัวหนึ่งเป็น “เฟลโอ้อวดนนอยต์” ส่วนด้านที่มีการต้านทานพิษงูยังไม่ชัดเจน แต่ว่าไม่มีอันตรายพอที่จะใช้ ใบพญายอรักษาอาการอักเสบเฉพาะที่ (ปวด, บวม, แดง ร้อนแต่ว่าไม่มีไข้) จากแมลงที่เป็นพิษกัดต่อย อย่างเช่น ตะขาบ แมงป่อง ผึ้ง ต่อ แตน รักษาโดยการเอาใบสดจากพญายอนี้มาสัก 10-15 ใบ (มากมายน้อยตามบริเวณที่เป็น) ล้างให้สะอาด ใส่ลงในครกตำยา ตำอย่างละเอียด เพิ่มเติมแอลกอฮอล์พอเพียงเปียกยา ตั้งทิ้งเอาไว้ 1 อาทิตย์ หมั่นคนยาทุกเมื่อเชื่อวัน กรองน้ำยา ใช้น้ำ และกากทาบบริเวณที่ปวดบวม หรือที่ถูกแมลงสัตว์กัดต่อย พญายอ หรือ เสลดพังพอน ด้วยเหตุว่าเสมหะพังพอนมีหมดทั้งตัวผู้ละตัวเมีย แต่ว่าเพศผู้ไม่นิยมประยุกต์ใช้เนื่องมาจากมีฤทธิ์อ่อน และก็เพื่อไม่ให้งวยงงก็เลยเรียกเสลดพังพอนตัวเมียว่า "พญายอ" ส่วนมากนำมาทำเป็นยาสมุนไพรไทยจัดอยู่ในกรุ๊ปพืชทำลายพิษ “พญายอ” เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นยาใช้ภายนอกรักษาภายนอก มีสรรพคุณบรรเทาการอักเสบของผิวหนังได้ดิบได้ดี มีฤทธิ์ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส คุณสมบัติของผงพญายอสำหรับเพื่อการบำรุงผิวพรรณ - ใช้แก้สิวเม็ดผดผื่นคัน ด้วยการนำมาดองกับสุรา แล้วผสมดินสอพองใช้ทาแก้สิวและเม็ดผดผื่นคัน - ใช้แก้โรคผิวหนังผื่นคัน ผสมกับสุราใช้เป็นยาแก้ผื่นคัน ไฟลามทุ่ง ผื่นคัน แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก - ใช้รักษาแผลไฟลุกน้ำร้อนลวก พญายอมีสรรพคุณช่วยดับพิษร้อนได้ดิบได้ดี - อีกหนังสือเรียนกล่าวว่านอกเหนือจากการที่จะใช้รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้แล้ว ยังช่วยรักษาแผลยุ่ยด้วยเหตุว่าถูกแมงกะพรุนไฟ แผลหมากัด และแผลที่เกิดขึ้นมาจากการเช็ดกกรดได้อีกด้วย - ใช้รักษาแผลน้ำเหลืองเสีย เอามาพอก จะรู้สึกเย็นๆซึ่งยาจะช่วยดูดน้ำเหลืองได้ดี ทำให้แผลแห้งไว - ใช้แก้ฝี ด้วยการผสมกับเกลือแล้วก็สุรา ใช้พอกรอบๆที่เป็น เปลี่ยนยาทุกรุ่งเช้ารวมทั้งเย็น - ใช้เป็นยาขับพิษ ถอนพิษ โดยยิ่งไปกว่านั้นพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย อย่างเช่น งู ตะขาบ แมงป่อง มด ยุง ฯลฯ - พญายอ [/color]ใช้รักษาอาการอักเสบ รักษาแผลร้อนในปาก แก้เริม (แผลผิวหนังชนิดเริม) อีสุกอีใส แก้งูสวัด ไฟลามทุ่ง รวมทั้งใช้เป็นยาถอนพิษต่างๆเอาน้ำมาดื่มหรือเอาน้ำมาทาแผลแล้วก็เอากากพอกรอบๆแผล - มีฤทธิ์แก้อาการแพ้ ลดการอักเสบ สามารถลดการอักเสบเรื้อรังได้ - มีฤทธิ์ลดความเจ็บปวด ช่วยลดลักษณะของการปวด - มีฤทธิ์ต้านไวรัสก้าวหน้าและไม่เป็นพิษต่อเซลล์ (https://www.img.in.th/images/ed6ab7622d9f1f0f42f350984289db50.jpg)[/b] แนวทางการพอกขัดผิวด้วยผงพญายอ
- สำหรับผิวหน้า พญายอถ้าหากเป็นสิวอักเสบ ห้าม ขัดโดยเด็ดขาด ให้ใช้เป็นการพอกผิวแทน เพื่อไม่ให้เชื้อสิวลุกลามไปทั่วบริเวณใบหน้า และก็เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผิวหน้ามากเกินความจำเป็น พอกทิ้งไว้โดยประมาณ 15 นาที - หากใช้ขัด (สำหรับผู้ที่ไม่เป็นสิว รวมทั้งผิวกาย) ให้ขัดให้เบามือที่สุด โดยประมาณเพียงแค่คลำอุตสาหะจะไม่ให้นิ้วโดนผิวหน้าเลย ห้ามกดแรงลงบนนิ้วขณะขัด แล้วก็ให้ขัดแค่ 5 นาทีก็เพียงพอที่สารสำคัญจะออกฤทธิ์แล้ว เมื่อครบ 5 นาทีให้พอกทิ้งไว้จนกระทั่งแห้ง (อาจใช้ระยะเวลาพอกทิ้งเอาไว้ราวๆ 15 นาที)
Tip เพื่อการบำรุงที่มากขึ้น เมื่อพอกหรือขัดผิวด้วยผงสมุนไพรแล้ว ให้เอาน้ำผึ้งผสมน้ำธรรมดาในอัตราส่วน 1 ช้อนชาเท่ากัน ทาให้ทั่วผิวหน้า แล้วนวดวนเบาๆทั่วใบหน้าสักเล็กน้อย ทิ้งน้ำผึ้งไว้ 10 นาที ก็ล้างออก เพื่อเป็นการคืนความสดชื่นให้แก่ผิว อีกทั้งช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มและกระจ่างขาวใส ดูอ่อนกว่าวัยเพิ่มขึ้น http://www.disthai.com/[/b] Tags : สมุนไพรเสลดพังพอน (พญายอ)
|