หัวข้อ: การดำเนินการทางวินัยข้าราชการ/พนักงานส่วนท้องถิ่น เริ่มหัวข้อโดย: Luckyz0nl3 ที่ กันยายน 13, 2018, 01:33:28 am ความหมายของ คำว่า " วินัย "มี ๒ ความหมาย คือ
๑. ระเบียบ กฎเกณฑ์ แบบแผนความประพฤติที่กาหนดให้ข้าราชการต้องยึดถือปฏิบัติ ๒. ลักษณะเชิงพฤติกรรมที่แสดงออกมาว่าสามารถควบคุมตนเองให้อยู่ในกรอบของวินัยได้ประเภทของ " วินัย " มี ๒ ประเภท(*มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัย และการรักษาวินัยและการดำเนินการทางวินัย ข้อ ๒๒ วรรค ๓) คือ ๑. วินัยอย่างไม่ร้ายแรง ๒. วินัยอย่างร้ายแรง โทษทางวินัยมี ๕ สถาน (*มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัย และการรักษาวินัยและการดาเนินการทางวินัย ข้อ ๒๑ วรรค ๒) ได้แก่๑. วินัยอย่างไม่ร้ายแรง (๑) ภาคทัณฑ์ (๒) ตัดเงินเดือน (๓) ลดขั้นเงินเดือน๒. วินัยอย่างร้ายแรง (๔) ปลดออก (๕) ไล่ออกฐานความผิดทางวินัย มีทั้งสิ้น ๑๘ ฐาน หรือ ๑๘ ข้อ (*มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัยฯ) ได้แก่๑. ฐานไม่สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ๒. (๑) ฐานไม่ซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรม - องค์ประกอบความผิด ๑. มีหน้าที่ราชการ ๒. ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยไม่ซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรม (๒) ฐานอาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอานาจหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์ - องค์ประกอบความผิด ๑. มีหน้าที่ราชการ ๒. อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอานาจหน้าที่ราชการของตน ๓. หาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น (๓) ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ “ฐานทุจริต” เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง - องค์ประกอบความผิด ๑. มีหน้าที่ราชการ ๒. ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ ๓. เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ ๔. มีเจตนาทุจริต๓. ฐานไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลดี หรือความก้าวหน้าแก่ราชการ - องค์ประกอบความผิด ๑. มีหน้าที่ราชการ ๒. ไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เกิดผลดี หรือความก้าวหน้าแก่ราชการ๔. (๑) ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความอุตสาหะ/ไม่เอาใจใส่/ไม่ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของราชการ/ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ - องค์ประกอบความผิด ๑. มีหน้าที่ราชการ ๒. ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยไม่มีความอุตสาหะ/ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยไม่เอาใจใส่/ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยไม่ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของราชการ/ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความประมาทเลินเล่อ (๒) ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง - องค์ประกอบความผิด ๑. มีหน้าที่ราชการ ๒. ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ๓. เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง๕. ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมายระเบียบของทางราชการ มติ ค.ร.ม. และนโยบายของรัฐบาล - องค์ประกอบความผิด ๑. มีหน้าที่ราชการ ๒. ไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมายระเบียบของทางราชการ มติ ค.ร.ม.หรือนโยบายของรัฐบาล และเกิดความเสียหายแก่ราชการ ฐานจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติค.ร.ม. หรือนโยบายของรัฐบาล เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง - องค์ประกอบความผิด ๑. มีหน้าที่ราชการ ๒. จงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการมติ ค.ร.ม.หรือนโยบายของรัฐบาล ๓. เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง๖. ฐานไม่สนใจและรับทราบเหตุการณ์เคลื่อนไหวอันอาจเป็นภยันตรายต่อประเทศชาติ และไม่ปูองกันภยันตรายนั้นจนเต็มความสามารถ - องค์ประกอบความผิด ๑. ไม่สนใจและรับทราบเหตุการณ์เคลื่อนไหวอันอาจเป็นภยันตราย และ ๒. ไม่ปูองกันภยันตรายซึ่งจะบังเกิดแก่ประเทศชาติจนเต็มความสามารถ๗. (๑)ฐานไม่รักษาความลับของทางราชการ - องค์ประกอบความผิด ๑. มีความลับของทางราชการ ๒. นำความลับของทางราชการไปเปิดเผย (๒)ฐานเปิดเผยความลับของทางราชการเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง - องค์ประกอบความผิด ๑. มีความลับของทางราชการ ๒. นำความลับของทางราชการไปเปิดเผย ๓. เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง๘. (๑)ฐานขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชา - องค์ประกอบความผิด ๑. มีคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ๒. เป็นการสั่งในหน้าที่ราชการ ๓. เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการ ๔. มีเจตนาขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงที่จะไม่ปฏิบัติตามคาสั่งดังกล่าว - แต่หากเห็นว่าการปฏิบัติจะทำให้เสียหาย หรือไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการ จะเสนอความเห็นเป็นหนังสือทันทีให้ทบทวนก็ได้ ถ้าผู้บังคับบัญชายืนยันตามคำสั่งเดิมต้องปฏิบัติตาม (ไม่ผิดวินัยฐานนี้/เป็นเหตุลดหย่อนโทษได้) (๒) ฐานขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง - องค์ประกอบความผิด ๑. มีคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ๒. เป็นการสั่งในหน้าที่ราชการ ๓. เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการ ๔. มีเจตนาขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว ๕. เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง๙. ฐานกระทำการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน - องค์ประกอบความผิด ๑. มีการปฏิบัติราชการ ๒. การปฏิบัติราชการนั้นเป็นการกระทำการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน - เว้นแต่ ๑. ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปเป็นผู้สั่งให้กระทำ หรือ ๒. ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษชั่วครั้งคราว๑๐. (๑)ฐานรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา - องค์ประกอบความผิด ๑. ต้องมีการรายงานต่อผู้บังคับบัญชา ๒. การรายงานนั้นมีข้อความอันเป็นเท็จ หรือมีลักษณะปกปิดข้อความจริงซึ่งควรต้องแจ้งด้วย (๒)ฐานรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง - องค์ประกอบความผิด ๑. ต้องมีการรายงานต่อผู้บังคับบัญชา ๒. การรายงานนั้นมีข้อความอันเป็นเท็จ หรือมีลักษณะปกปิดข้อความจริงซึ่งควรต้องแจ้งด้วย ๓. เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง๑๑. ฐานไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมของทางราชการ - องค์ประกอบความผิด ๑. มีระเบียบและแบบธรรมเนียมของทาราชการ ๒. ไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมของทางราชการนั้น๑๒. (๑)ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการ - องค์ประกอบความผิด ๑. มีหน้าที่ราชการ ๒. มีการละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการนั้น (๒)ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการ เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง (ตั้งแต่ครึ่งวันขึ้นไป) - องค์ประกอบความผิด ๑. มีหน้าที่ราชการ ๒. ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการนั้น โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ๓. เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง (๓)ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือโดยมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง - องค์ประกอบความผิด ๑. ละทิ้งหน้าที่ราชการ ๒. ติดต่อกันในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน ๓. โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือโดยมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ๑๓. ฐานไม่สุภาพเรียบร้อย/ ฐานไม่รักษาความสามัคคี /ฐานไม่ช่วยเหลือกันในการปฏิบัติราชการ -องค์ประกอบความผิด ๑.ไม่สุภาพเรียบร้อยระหว่างข้าราชการและผู้ร่วมปฏิบัติราชการ ๒.ไม่รักษาความสามัคคีระหว่างข้าราชการและผู้ร่วมปฏิบัติราชการ ๓. กลั่นแกล้งกัน ๔. ไม่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการปฏิบัติราชการ๑๔. (๑)ฐานไม่ต้อนรับ/ฐานไม่ให้ความสะดวก/ฐานไม่ให้ความเป็นธรรม/ฐานไม่ให้การสงเคราะห์ฐานดูหมิ่น/เหยียดหยาม/กดขี่/ข่มเหง...ประชาชนผู้มาติดต่อราชการ - องค์ประกอบความผิด ๑. ไม่ต้อนรับ ไม่ให้ความสะดวก ไม่ให้ความเป็นธรรม ไม่ให้การสงเคราะห์ดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่หรือข่มเหง ๒. กระทาต่อประชาชนผู้มาติดต่อราชการเกี่ยวกับหน้าที่ของตน (๒)ฐานดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่ หรือข่มเหงอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง - องค์ประกอบความผิด ๑. ดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่ หรือข่มเหงอย่างร้ายแรง ๒. เป็นการกระทำต่อประชาชนผู้มามาติดต่อราชการ ๓. กระทำโดยมีเจตนา (กระทำโดยรู้สานึกในการกระทำ)๑๕. ฐานกระทาการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทาการหาผลประโยชน์อันอาจทาให้เสียความเที่ยงธรรมหรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตาแหน่งหน้าที่ราชการของตน๑๖. ฐานเป็นกรรมการผู้จัดการหรือผู้จัดการหรือดำรงตาแหน่งอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท๑๗. ฐานวางตนไม่เป็นกลางทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และในการปฏิบัติการอื่นที่เกี่ยวข้องกับประชาชนกับจะต้องปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการว่าด้วยมารยาททางการเมืองของข้าราชการด้วย๑๘. (๑)ฐานไม่รักษาชื่อเสียงของตนและรักษาเกียรติศักดิ์ของตาแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย โดยกระทาการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว (ประพฤติชั่วไม่ร้ายแรง ประพฤติตนไม่สมควร) - แนวทางพิจารณาความผิดฐานประพฤติชั่วทั้งอย่างร้ายแรง และอย่างไม่ร้ายแรง ดังนี้ ๑. เกียรติของข้าราชการ ๒. ความรู้สึกของสังคม ๓. เจตนาในการกระทำ (มีจิตสำนึกในการกระทา) (๒)ฐานกระทำผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุกหรือโทษที่หนักกว่าจำคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก หรือให้รับโทษที่หนัก กว่าจำคุก (เว้นประมาท/ลหุโทษ) หรือกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง - เรียงฐานความผิด เป็นดังนี้ ๑. ฐานกระทำผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก หรือโทษที่หนักกว่าจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก หรือให้รับโทษที่หนักกว่าจำคุก ๒. กระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงพรุ่งนี้เราจะมานำเสนอ ตัวอย่างในการกระทำความผิดทางวินัยและแนวทางการลงโทษทางวินัยกันต่อนะคะ ๑โดย ทนายความเชียงใหม่
|