หัวข้อ: iPhone 8 และ iPhone 8Plus อีกวิธีเลือกของความคุ้มค่า เริ่มหัวข้อโดย: mmhaloha ที่ กันยายน 13, 2018, 06:44:55 pm แม้กระนั้นมือถือตัวหลักของค่าย Apple ในศักราช 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ที่มาพร้อมกับดีไซน์และคุณลักษณะแบบพรีเมี่ยมและเป็นแน่แท้ว่ามูลค่าก็แพงเหมือนกัน แต่ทว่าหลายคนคงจะหลงลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้า iPhone X เปิดฉากเพียง 15 นาที iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักกัน โดยจากนั้นคงเหมือนคือรุ่นที่ถูกลืมเนื่องจากกระแสของ iPhone X แต่ทราบหรือเปล่าว่า ไอโฟน 8 กับ iPhone 8 Plus แม้กระนั้นจะมีโครงสร้างหน้าตามิต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นผู้ครอบครอง iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นเจ้าของได้ ดิฉันจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นนี้ให้ดีเพิ่มขึ้น
ไอโฟน 8 กับ iPhone 8 Plus เปิดจำหน่ายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ณสหรัฐอเมริกาและขายที่บ้านเราวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสรรสองขนาด คือ iPhone 8 ขนาดจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งทั้งสองรุ่น มีสัดส่วนตัวเครื่องเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง โดยเป็นการทำสีเฉดใหม่เอี่ยมมีประสิทธิภาพในการกันน้ำ กันฝุ่น เหมือนกัน อย่างไรก็ตามมีข้อแตกต่างตรงที่ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีข้างหลังคือกระจก ทำให้สามารถชาร์จแบบปราศจากสายได้ ในด้านของขนาดนั้น Apple ก็มีมาให้เลือกเพียงแค่ 2 ขนาด ได้แก่ 64 GB และ 256 GB ซึ่งคงเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายสินค้าไปให้ลูกค้าได้อย่างกว้างขวางพร้อมทั้งเร็วเพิ่มขึ้น จึงทำการลดรุ่นให้น้อยลง แม้นความละเอียดจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิสีหน้าจอให้ตรงกับสภาพแสงตอนนั้น เป็นเหตุให้หน้าจอดูเป็นธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core แบ่งแยกเป็น 4-Core ที่สมรรถนะสูง และอีก 2-Core ใช้ระยะเวลาที่เครื่องมิได้ทำงานหนักอึ้งอะไร โดยใช้การได้อย่างลื่นไหล ที่น่าศึกษาคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไปหรือเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกขั้นเลิศ ยกตัวอย่างเกมรถแข่งเช่น Need for Speed ที่จำเป็นจะต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างเยอะ ไม่ก็ ROV ก็เล่นได้ไม่ติดขัด กล้องถ่ายภาพได้พัฒนามาจาก iPhone 7 ทั้งสองโมเดล ถึงแม้จะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม แม้กระนั้นมีการปรับปรุงเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้เพิ่มขึ้น ชักรูปในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น ชักรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า “Portrait Lighting” เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด ภาพบุคคล เดิม ที่ให้พวกเราเลือกสรรปรับแสงหน้าคนได้มากถึง 5 แบบ กล้องหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมทั้งไฟแฟลชจากหน้าจอ Retina HD ในส่วนการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพการเคลื่อนไหวในวิดีโอที่ออกมาก็จะแลดูนุ่มนวล ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้านี้มีเพียง 30fps) แต่ณ เวลานี้เราเลือกได้เสรีมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดปรกติ ด้านการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps เทคโนโลยีชาร์จไม่มีสายที่เพิ่มเติมเข้ามาให้กับ iPhone 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นหนแรกนั้นรองรับกับอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายความว่า ไม่ต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple อย่างเดียว แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จปราศจากสายจาก Apple ออกมาจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถใช้ยี่ห้ออื่นๆ ได้ แต่กระนั้นแนะนำว่าจำต้องเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge สรุปว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple ถึงแม้ว่าจะคงไว้ออกแบบตัวเครื่องแต่เดิมตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนโปรดปรานถ่ายรูปน่าจะติดใจการรวมกันของคุณลักษณะของกล้องถ่ายภาพที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยแต่งแสงเงาในภาพได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการ ทำให้ขณะที่ออก วางขายใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ดีที่สุดในตลาดมือถือ ส่วนจอที่น่าพึงพอใจผนวกกับความไหลลื่นและคุณลักษณะสำคัญ ๆ ที่ไม่เป็นรองมือถือตัวตัวหลักใด ๆ ในช่วงนี้ก็ถือได้ว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone x แต่หากว่าใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะย้ายขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่แนะไปนั้น ก็แนะนำว่าเฝ้าคอยไปอีกสักหน่อย เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่น่าจะมากขึ้นยิ่งกว่านี้อีกในรุ่นถัดไป Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8
|