ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Treekaesorn ที่ ตุลาคม 01, 2018, 12:18:27 pm



หัวข้อ: [Off-Road Test] Ford Ranger RAPTOR ทดสอบออฟโรดแบบบ้าระห่ำ หายสงสัยทำไม 1.699 ล้
เริ่มหัวข้อโดย: Treekaesorn ที่ ตุลาคม 01, 2018, 12:18:27 pm
ทดสอบการขับขี่ Ford Ranger RAPTOR แบบจัดเต็ม บนเส้นทางออฟโรด ไขข้อสงสัยระบบช่วง FOX Racing มีดีอย่างไร วันนี้เราทดสอบมาให้ท่านทราบกันแล้ว
 
(https://preview.ibb.co/e2xFde/ford_ranger_raptor_test_drive_29.jpg)
 
กับมาพบกันอีกครั้งสำหรับการทดสอบกระบะออฟโรดพันธุ์แกร่ง ที่เป็นกระแสร้อนแรงมากในบ้านเราอย่าง Ford Ranger RAPTOR แม้จะมีราคาค่าตัวที่ค่อนข้างสูง แต่ช้าก่อน! หากใครคิดว่าแพง
เพราะหลังจากที่ผมกลับมาจากทริปการทดสอบอันสุดโสดโหดครั้งนี้ ผมบอกเลยว่า โคตรคุ้มค่า แล้วไม่ได้แพงเกินเหตุไปเลยจริงๆ ซึ่งผมจะได้ทดสอบอะไรบ้าง วันนี้ผมนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันแล้ว
 
(https://preview.ibb.co/dPgQde/ford_ranger_raptor_test_drive_3.jpg)
 
สำหรับสเปครายละเอียดเน้นๆ ของ Ranger RAPTOR คันนี้ ทาง AutoStation ได้นำมาทดสอบกันแบบจัดเต็ม รวมไปถึงมีคลิปรีวิวมาให้ชมกันแล้ว สามารถกดอ่าน ได้ที่นี่ หรือจะชมคลิปรีวิวก็ติดตามได้ด้านล่างนี้เลย
 
ในส่วนรีวิวนี้ ผมจะเน้นการทดสอบบนเส้นทางแบบออฟโรด ซึ่งทริปที่ได้เข้าร่วมนี้ ต้องยอมรับว่า ฟอร์ด ประเทศไทย มีความกล้าจริงๆ เพราะจัดหนักชนิดที่ว่าไม่กลัวรถพังกันเลย
ทั้งสถานีกระโดดความเร็วสูง สถานีขับผ่านน้ำ เนินไต่ระดับ ปีนหิน ขับบนทางกรวดความเร็วสูงจนรถท้ายปัด ก็มีมาให้ทดสอบหมด ทำให้ได้ทราบความสามารถและสมรรถนะรถอย่างเต็มที่
 
(https://preview.ibb.co/icYMJe/ford_ranger_raptor_test_drive_6.jpg)
 
เริ่มต้นทดสอบโดยวิ่งจากใจกลางกรุงเทพมุ่งหน้าสู่เขาใหญ่
 
หลังจากฟังการบรรยายพร้อมสรุปเส้นทางเรียบร้อย เริ่มต้นออกเดิมจากใจกลางเมือง มุ่งหน้าสู่สนามทดสอบ 8 Speed เขาใหญ่ ที่ๆ เราจะได้เริ่มทดสอบออฟโรดจัดเต็มกันในวันแรก
 
(https://preview.ibb.co/eTSbjK/ford_ranger_raptor_test_drive_8.jpg)
 
ความรู้สึกแรกที่รับรู้ได้เมื่อขับ Ranger RAPTOR บนทางออนโรดคือ “เห้ยมันไม่ได้ ก้าวร้าว หรือดุดันแบบที่คิดไว้ตอนแรก” ใช่ครับความคิดนี้เข้ามาในหัวจริงๆ เพราะการซับแรงสั่นสะเทือน รวมไปถึงการเก็บเสียงทำออกมาได้ค่อนข้างดี
 
(https://preview.ibb.co/nPJz4K/ford_ranger_raptor_test_drive_30.jpg)
 
ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยไฟฟ้าที่เซ็ตมาค่อนข้างเบา ช่วงล่างที่กลับกันกลายเป็นนุ่มนวล รวมไปถึงการทำงานหลายๆ อย่างจนทำให้คิดว่า มันสามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันสบายๆ ขับบนทางยกระดับ ความเร็ว 100-120 ก็ยังเนียนๆ
 
(https://preview.ibb.co/fB8hPK/ford_ranger_raptor_test_drive_7.jpg)
 
เสียงที่เข้ามาในห้องโดยสารมีเพียงแค่เสียงลมจากกระจกบังลมหน้าเล็กน้อย บวกกับเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างเร้าใจ แต่ในบางช่วงยังแอบคิดว่า มันนุ่มนวลไปเสียด้วยซ้ำ
 
เครื่องใหม่เกียร์ใหม่ อาจไม่ดุดันก้าวร้าว แต่ความเร็วไหลมาแบบไม่รู้ตัว
 
(https://preview.ibb.co/mcNnrz/ford_ranger_raptor_test_9.jpg)
 
ทางด้านขุมพลังดีเซลลูกใหม่ 2.0 ลิตร Bi-Turbo หรือ เทอร์โบคู่ 213 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ลูกใหม่ อาจจะด้วยการเซ็ตเกียร์ขนาด 10 สปีด ทำให้ ความกระโชกโฮกฮาก อาจจะไม่มีในเห็นในคันนี้
ซึ่งตอนแรกคาดว่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะดูจากแรงบิดแล้วมหาศาลถึง 500 นิวตันเมตร แต่อาการหลังติดเบาะไม่มี แต่อย่างใด ทุกอย่างทำงานร่วมกันอย่างสมูท ความเร็วไหลอย่างไม่น่าเชื่อ ขับเผลอๆ บางทีจะแตะ 140 เอา ก็ต้องผ่อนคันเร่งให้ลดลงเพื่อความปลอดภัย
ก็ถือว่าเป็นกระบะออฟโรดที่มาพร้อมรูปลักษณ์ หล่อ เท่ ดุดันจากโรงงาน ที่สามารถขับใช้งานได้จริงๆ ในชีวิตในเมืองประจำ ความสะดวกสบาย นุ่มนวลมีมาให้อย่างครบครัน แต่ถ้าขับในที่แคบๆ อาจต้องกะระยะนิดนึงเพราะตัวรถมีขนาดที่ค่อนข้างกว้างและใหญ่กว่า Ranger รุ่นปรกติ (เกือบเต็มเลนถนน)
 
(https://preview.ibb.co/ccZp4K/ford_ranger_raptor_test_drive_20.jpg)
 
ถึงสนาม 8 Speed เขาใหญ่ เริ่มทดสอบเส้นทางออฟโรดจัดหนัก
 
เดินทางมาถึงสนามที่เราจะได้ทดสอบ Ranger RAPTOR กันแบบจัดเต็มที่นี่ ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์อีกวัน เพราะพรุ่งนี้ก็จะได้ขับ ออฟโรดความเร็วสูงในโหมด Baja เช่นเดียวกัน
 
(https://preview.ibb.co/k7NHPK/ford_ranger_raptor_test_8.jpg)
 
พระเอกหลักที่จะทดสอบในสนามนี้คือ ระบบช่วงล่าง ตามสเปคดังนี้
 
ระบบกันสะเทือนหน้า – อิสระปีกนกอลูมิเนียม 2 ชั้นพร้อมโช๊ค FOX Racing Shox แบบมีระบบบายพาสภายใน พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือนหลัง – คอยส์โอเวอร์ช็อคพร้อมโช๊ค Fox Racing Shox แบบมีซับแท๊งค์และระบบบายพาสภายใน พร้อมวัตต์ลิงค์
 
(https://preview.ibb.co/hpvtye/ford_ranger_raptor_test_7.jpg)
 
จากการสอบถามทีมงาน แค่ระบบช่วงล่าง ทั้งเซ็ตก็ตีราคาได้ไปราวๆ 2.4-2.5 แสนบาท แล้ว เพราะเป็นช่วงล่างที่พัฒนามาเพื่อ Ranger RAPTOR พิเศษ
 
(https://preview.ibb.co/kn5Ade/ford_ranger_raptor_test_drive_11.jpg)
 
ณ สนาม 8 Speed ได้ถูกเซ็ตเส้นทางไว้ค่อนข้างโหด เริ่มต้นกันที่การออกตัวจากแทร็ก ลงสู่เส้นทางออฟโรด โดยเปิดโหมดการทำงานปรกติ เมื่อถึงจุดเปลี่ยนโหมดแรก ได้เริ่มทำการปรับมาใช้โหมด Rock เพื่อทดสอบการไต่หิน ในพื้นที่ที่เป็นหินก้อนใหญ่
สถานีนี้อาจไม่รู้สึกอะไรมากนัก แต่ระบบและโหมดรถช่วยให้ขับขี่ได้ค่อนข้างง่าย ระบบถ่ายเทกำลังทำงานได้ค่อนข้างฉลาด ก็ผ่านไปได้แบบไม่ยากเย็นเท่าไรนัก
 
(https://preview.ibb.co/nfzE4K/ford_ranger_raptor_test_drive_13.jpg)
 
ถัดมาก็พบการทดสอบระบบ HDC หรือ (Hill Descent Control) ระบบช่วยควบคุมรหะหว่างลงทางลาดชัน ที่คุ้นเคยกัน ต่อมาคือการขับบนทางต่างระดับ 2 ฝั่ง ที่ยกมาเพื่อให้ทดสอบการส่งกำลังล้อทั้ง 4
 
(https://preview.ibb.co/jm43ye/ford_ranger_raptor_test_drive_36.jpg)
 
ในส่วนนี้เริ่มจับความรู้สึกได้ถึงการยันของชุดโช๊คอัพ ที่รองรับได้ดีมาก ตัวรถมีอาการโครงเคลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ระบบช่วงล่างซับมาได้ดี ทำให้ขับผ่านไปอย่างง่ายดาย เพียงแค่ควบคุมพวงลัยให้ไปตามทางเท่านั้น
ต่อจากนั้นได้ทดสอบขับผ่านแอ่งน้ำ ด้วยความที่เป็นรถออฟโรด การลงแอ่งน้ำต้องไม่ธรรมดา แต่ละคันขับกันแบบเต็มที่ บวกกับ สมรรถะเครื่องยนต์ที่มีกำลังค่อนข้างสูง ทำให้ผ่านไปง่ายดาย น้ำกระจายทุกคัน แถมแอ่งนี้เป็นจุดดูดป้ายทะเบียน หล่นกันไปหลายคันเลยทีเดียว
 
(https://preview.ibb.co/kuNj4K/ford_ranger_raptor_test_drive_16.jpg)
 
หลังจากลงไปจุ่มน้ำกันให้เปียกกันเรียบร้อย ถึงพื้นที่ทดสอบการขับบนพื้นหญ้าความเร็วสูง วึ่งมีระยะทางให้ราวๆ 300 เมตร เป็นที่ที่ทีมงานให้กดเต็มพร้อม หักพวงมาลัยให้รถเกิดอาการเสียการทรงตัว ก็แก้กันได้ไม่ยาก
 
(https://preview.ibb.co/e7WYye/ford_ranger_raptor_test_drive_14.jpg)
 
จนมาถึงสถานีพระเอกของวันนี้ สถานีสุดท้าย ที่เราจะได้ทดสอบการทำงานช่วงล่างเต็มที่ ด้วยการ กระโดดจากความเร็วสูง จากพื้นที่จนถึงเนิน หากกดคันเร่งมาเต็มที่ จะทำให้ความเร็วรถอยู่ราวๆ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
 
ทดสอบกระโดดเป็นเพียงการทดสอบเพื่อให้เห็นสมรรถนะช่วงล่างเท่านั้น โปรดอย่าลอกเลียนแบบ
 
(https://preview.ibb.co/gr0MjK/ford_ranger_raptor_test_drive_42.jpg)
 
เป็นสถานีที่ทำให้ผมหวิวไประยะเหมือนกัน เพราะช่วงจังหวะที่รถลอยตัวขึ้นจากพื้นทั้ง 4 ล้อ มีระยะความสูงพอประมาณ พอช่วงที่รถกระแทกลงสู่พื้น โช๊คอัพทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมมาก สามารถเก็บอาการ และระยะการส่ายของรถได้เป็นอย่างดี
รถที่ทดสอบกระโดดทุกคันไม่มีอาการส่ายไปมาแต่อย่างใด ลงมาแน่นๆ ตรงๆ พร้อมเหยียบคันเร่งไปต่อได้อย่างทันที เลยทีเดียว ความดีความชอบอันนี้ต้องยกให้ระบบช่วงล่างจริงๆ
 
(https://preview.ibb.co/jQ82rz/ford_ranger_raptor_test_drive_9.jpg)
 
เพราะถ้าเป็นรถที่ไม่ได้เซ็ตมาแนวนี้ อาการส่าย หรือหลุดเส้นทางมีให้เห็นอย่างแน่นอน แต่ในส่วนนี้ต้องขอแนะนำว่า การทดสอบกระโดดนี้เป็นเพียงการทดสอบให้เห็นประสิทธิภาพของระบบช่วงล่างเท่านั้น Ford Ranger RAPTOR ไม่ได้พัฒนามาเพื่อให้กระโดดอะไรแนวนี้ หรือเป็นรถบินได้อย่างที่หลายท่านเข้าใจ
 
(https://preview.ibb.co/mwZ8Wz/ford_ranger_raptor_test_drive_22.jpg)
 
ถัดมากับอีกวันที่ได้ลองขับ Ranger RAPTOR บนทางออฟโรดความเร็วสูง ณ สถานที่ปิดและเซ็ตมาพิเศษ ณ ทุ่งกังหันลมห้วยบง บอกเลยว่าวันนี้ได้ขับบนทางออฟโรดในความเร็วระดับ 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดเส้นทางราวๆ 10 กิโลเมตร!
ด้วยเส้นทางที่เซ็ตมาพิเศษ แต่ก็ยังมีอุปสรรค์อยู่มากมาย ทั้งแอ่งน้ำ ทางต่างระดับ โค้งหักศอก โค้งเล็ก แต่เราจะวิ่งด้วยความเร็วมากว่า 80 ตลอดเส้นทางด้วยโหมดไฮไลท์อย่าง Baja Mode
 
(https://preview.ibb.co/ihu3ye/ford_ranger_raptor_test_drive_1.jpg)
 
การทำงานของโหมดนี้ คือจะตอบสนองการขับขี่สไตล์แรลลี่ คือออฟโรดบนความเร็วสูง โดยจะตัดระบบป้องกันล้อหมุนฟรีออก เพื่อให้ไม่ให้แทรกแซงการทำงานของเครื่องยนต์ รวมถึงเกียร์จะถูกปรับให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ระบบจะค้างรอบเครื่องไว้นานขึ้เน และเปลี่ยนเกียร์ลงได้อย่างรวดเร็ว
อีกการทดสอบสุดเร้าใจ เริ่มต้นด้วยการขับบนทางหินลอย ที่ค่อนข้างลื่น ก็มีอาการเพียงเล็กน้อย ผ่านหลุม ผ่านบ่อ ผ่านแอ่งน้ำ อินสตรัคเตอร์ที่นั่งไปด้วยบอกให้ รูดไปเลย ผมก็ทดสอบ ตัวรถมีการเก็บ ซับ แรงและคงความมั่นคงได้ยอดเยี่ยมมาก
 
(https://preview.ibb.co/dUpLde/ford_ranger_raptor_test_drive_25.jpg)
 
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอุปสรรค์รวมไว้ในเส้นทางนี้หมด แต่ก็ขับไปด้วยความเร็วราวๆ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดเส้นทาง ในช่วงโค้งใหญ่ที่ผสมโค้งหักศอก ผนวกกับพื้นที่เป็นหินลอย
ทำเอารถเสียอาการจนท้ายปัด แต่ด้วยระบบและความมั่นคงของตัวรถ ทำให้ผมแก้อาการเพียงนิดเดียว ก็ทำให้ตัวรถกับมามั่นคงเหมือนเดิมได้โดยไม่ยากเย็น แต่ก็หวิวๆ เหมือนกันเพราะท้ายปัดไปพอสมควรแล้ว
ทั้งนี้ต้องขอบคุณตัวรถ ขอบคุณระบบต่างๆ ขอบคุณการทดสอบดีๆ ที่หาได้ยาก เพราะถ้ารถยนต์ไม่แกร่งจริง คงไม่มีใครกล้าให้มาขับแบบบ้าระห่ำกันขนาดนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่า Ford Ranger RAPTOR เอาอยู่จริงๆ โดยเฉพาะทางออฟโรด
 
กระบะออฟโรดจากโรงงานที่ดีที่สุดตอนนี้ อยากให้ทุกท่านได้ทดลองด้วยตนเองจริงๆ
 
(https://preview.ibb.co/mpZE4K/ford_ranger_raptor_test_1.jpg)
 
สรุปโดยรวม หากคุณคาดหวังว่าจะได้ปิกอัพที่สามารถขับได้แบบแรลลี่ ลุยหลักๆ ขับเร็วๆ แบบรถแข่ง Ranger RAPTOR อาจจะไม่ถึงขั้นนั้น แต่ ณ ตอนนี้ ปิกอัพจากโรงงาน ย้ำ จากโรงงาน ที่พร้อมลุย และช่วงล่างดีขนาดนี้ ก็ต้องยกให้เค้าจริงๆ
บวกกับการใช้งานในชีวิตประจำวันในเมืองได้แบบสบายๆ เพราะระบบช่วงล่างที่เซ็ตมาไม่ให้ดุดันก้าวร้าวเกินไป ทำให้ขับบนถนนปรกติได้อย่างสบาย นุ่มนวล ก็น่าจะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการได้ไม่น้อยทีเดียว กับค่าตัว 1.699 ล้านบาท นับว่าคุ้มค่า อันนี้ยังไม่รวมรูปลักษณ์ที่ต้องขอพูดแบบหยาบคายเลยว่า “โคตรหล่อ
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ ถือว่าเป็น กระบะออฟโรด ที่ขับสนุกทั้งออนโรด และออฟโรด ช่วงล่างดี โหมดการขับขี่ใช้ได้จริงทุกโหมดโดยเฉพาะ Baja Mode พละกำลังเหลือเฟือแม้จะไม่ได้กระชากก้าวร้าวแบบที่คิดไว้ ซึ่งอยากให้ทุกท่านได้ไปทดสอบขับด้วยตนเองเช่นเดียวกัน
 
(https://preview.ibb.co/bBLJye/ford_ranger_raptor_test_drive_21.jpg)
 


ข้อดี


  • รูปลักษณ์ภายนอก หล่อ บึกบึน โดดเด่นบนถนนแน่นอน
  • ช่วงล่าง FOX Racing อาจไม่ดีที่สุดสำหรับสายรถแต่งแรลลี่ แต่สำหรับรถกระบะจากโรงงาน ผมกล้าพูดว่า ดีที่สุดแล้ว
  • ขับทางออฟโรดได้ยอดเยี่ยม ขับทางออนโรดปรกติในชีวิตประจำวัน ก็ได้สบายๆ เพราะมีความนุ่มนวลผสมมาด้วย
  • โหมดการขับขี่พิเศษทุกโหมด ใช้งานได้จริง โดยเฉพาะพระเอกอย่าง Baja Mode
  • จานเบรกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ขึ้น 9.5 มิลลิเมตร พร้อมอัพเกรดให้เบรกมีประสิทธิภาพที่มากกว่า
  • เบาะคู่หน้าออกแบบมาค่อนข้างดีกระชับ มั่นคง ตัวไม่โยกโยน




ข้อสังเกต


  • ความกระชาก และแรงดึงจาก แรงบิด 500 นิวตันเมตร เห็นผลไม่มาก เพราะการเซ็ตเกียร์ 10 สปีด ที่เน้นสมูท
  • การขับช่วงความเร็วต่ำคิดว่า พวงมาลัยเบาไป
  • บนทางออนโรด ด้วยการเซ็ตช่วงล่างมาให้ขับขี่ได้ทุกสภาพถนน ทำให้มีการโยน และหวิวๆ บ้างเล็กน้อย
  • เบาะนั่งแถวหลังยังมีความชันไปเล็กน้อย หากปรับเองได้อีกนิดจะนั่งสบายและตอบโจทย์มาก
(https://preview.ibb.co/exZvde/ford_ranger_raptor_test_3.jpg)
 
ขอขอบคุณบริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย สำหรับทริปทดสอบ Ranger RAPTOR สุดบ้าระห่ำครั้งนี้ด้วยครับ
 
(https://preview.ibb.co/dKXyye/ford_ranger_raptor_test_10.jpg)

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เรนเจอร์  แร็พเตอร์

Tags : Ford Ranger RAPTOR,เรนเจอร์  แร็พเตอร์,รีวิว ฟอร์ด
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ