หัวข้อ: รีวิวสาย audio cable 6 แนวทางตรวจสอบประสิทธิภาพสายสัญญาณเสียง คลิกเลย เริ่มหัวข้อโดย: SEO.No1 ที่ ตุลาคม 05, 2018, 10:24:47 pm 6 วิธีสำรวจประสิทธิภาพสายสัญญาณเสียง
สายสัญญาณเสียง เป็นวัสดุอุปกรณ์สำหรับเพื่อนำมาใช้ในการเชื่อมต่อเครื่องเสียงเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆโดยสายนี้จะเป็นตัวนำเสียงจากเครื่องใช้ไม้สอยอิเล็กทรอนิกส์ให้มาแสดงออก ณ เครื่องเสียง ช่วยทำให้สามารถเล่นไฟล์เสียงด้วยเสียงที่ดังขึ้นได้ เดี๋ยวนี้ พวกเราสามารถหาซื้อสายสัญญาณเสียงได้ทั่วๆไปตามร้านจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารวมทั้งเครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆมีสินค้าหลายรุ่น หลายแบรนด์ให้พวกเราได้เลือกซื้อกัน ซึ่งแน่ๆว่าเมื่อสายสัญญาณเสียงบนท้องตลาดมีอยู่หลายรุ่น หลายแบรนด์ ทำให้ท่านภาพของสินค้ามีความแตกต่างกันด้วย ถ้าหากเราได้สายสัญญาณเสียงที่มีคุณภาพดีมาใช้ก็ดีแล้วไป แต่ว่าถ้าเกิดพวกเราเผลอไปซื้อสายสัญญาณเสียง ที่ไม่ได้ประสิทธิภาพมาใช้งานเข้า ก็จะต้องเจอกับปัญหาระหว่างใช้งานหลายประการ ทั้งยังเสียงไม่ออก ประสิทธิภาพเสียงไม่ดี มีอายุการใช้แรงงานสั้น ใช้ไปได้เล็กน้อยก็เสียแล้ว ทั้งสายสัญญาณเสียงนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจประเมินประสิทธิภาพด้วยราคาได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ราคาไม่แพงหรือสินค้าราคาแพง ต่างก็มีทั้งยังคุณภาพดี คุณภาพต่ำ รวมทั้งปัญหาในตนเองปะปนไป ฉะนั้น เราจึงจึงควรมีวิธีการเบื้องต้นสำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพสายสัญญาณเสียง เพื่อให้สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาใช้งานได้ถัดไป . (https://static.mustlovemac.store/catalog/product/cache/image/700x560/e9c3970ab036de70892d86c6d221abfe/b/e/belkin_rca_studio_audio_cable.jpg) . การตรวจสอบประสิทธิภาพ สายสัญญาณเสียง พวกเราสามารถทำเป็น 6 วิธีดังนี้ 1. พิจารณาความแข็งแรง-ความอ่อนของสาย ข้อนี้เป็นอย่างแรกที่พวกเราสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ รวมทั้งควรเช็คเป็นอย่างแรก เพราะสายสัญญาณเสียงในขณะนี้มีการผลิตสายออกมาให้มีความแข็งแรงและก็ความอ่อนไม่เท่ากัน โดยธรรมดา สายสัญญาณเสียงที่ราคาแพงถูกมักจะมีสายค่อนข้างจะแข็ง ตอนที่สายสัญญาณเสียงราคาแพงๆชอบมีสายอ่อน คำแนะนำเป็น ไม่สมควรซื้อสายสัญญาณเสียงที่แข็งเหลือเกิน เพราะเหตุว่าจะไม่อาจจะพับสายได้ ถ้าเกิดพับ ม้วนเก็บสายย่อมก่อเรื่อง ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรซื้อสายสัญญาณเสียงที่อ่อนเกินความจำเป็น ด้วยเหตุว่ายิ่งอ่อนนิ่มมาก สายก็จะยิ่งเปราะบาง เมื่อใช้ประโยชน์งานเสมอๆย่อมมีความเสี่ยงสูงที่สายจะขาด หรือหักพับได้อย่างไม่ยากเย็นสายสัญญาณเสียงที่ดีที่สุด ควรเป็นสายที่อ่อนเพียงพอจะสามารถพับได้อย่างไม่มีการเสียหาย แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันก็มีความแข็งแรงพอที่จะใช้งานได้อย่างไม่มีการฉีกให้ขาด หากเราพบว่าสายสัญญาณเสียงใดมีลักษณะแบบนี้ สามารถซื้อมาไว้ใช้งานได้เลย 2. วิเคราะห์อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับทำหัวสายว่าเป็นอย่างไร สายสัญญาณเสียงที่ผลิตออกมาจัดจำหน่ายในปัจจุบันนั้น มีการใช้โลหะอยู่ 2 ชนิดใหญ่ๆสำหรับเพื่อการทำหัวสาย อาทิเช่น ทองบรอนซ์ แล้วก็อลูมินัม ขอแนะนำว่าควรเลือกใช้สายสัญญาณเสียงที่มีหัวสายเป็นทองบรอนซ์จะดีกว่า เนื่องด้วยเป็นโลหะที่นำสัญญาณได้ดียิ่งไปกว่าอลูมินัม ไม่ค่อยเจอกับปัญหาเสียงขาดเสียงหาย แม้จะเสียบสายไม่แน่นก็ตาม ในขณะอลูมินัม เป็นโลหะที่นำสัญญาณได้ไม่ดีนัก แม้แทงไม่แน่นจะไม่อาจจะนำสัญญาณเสียงได้ นอกเหนือจากนี้ ทองเหลืองยังเป็นโลหะที่มีความทนทานสูง มีอายุการใช้แรงงานช้านาน ไม่ค่อยพบปัญหาหัวข้อการหัก หรือการโค้งงอผิดแบบ ในขณะที่สายสัญญาณเสียงที่มีหัวสายเป็นอลูมินัมนั้นจำต้องใช้งานอย่างระแวดระวัง แม้ไม่กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดู หัวสายจะหักหรือโค้งงอได้ง่ายในเวลาอันเร็ว 3. วิเคราะห์การยึดระหว่างหัวสายกับสายไฟว่าเป็นยังไง มีการเชื่อมต่ออย่างสนิทดีหรือไม่ โดยธรรมดาสายสัญญาณเสียงที่มีคุณภาพดีจะยึดจุดเชื่อมต่อระหว่างสายไฟกับอารมณ์เสียบได้อย่างสนิท ขณะที่สายสัญญาณเสียงคุณภาพต่ำมักยึดท่อนหัวสายกับสายไฟได้ไม่แน่น บางรุ่นทำแค่เอาสายใส่เข้าไปในหัวแบบไม่ได้ยึด สิ่งที่จะตามมาเมื่อใช้งานไปได้สักระยะ ก็คือ สายไฟหลุดออกมาจากอารมณ์เสียบ และก็ถ้าหากสายสัญญาณเสียงใดมีปัญหานี้ขึ้นมาย่อมไม่สามารถที่จะซ่อมแซมได้ จะต้องทิ้งอย่างเดียว ฉะนั้นสำหรับเพื่อการเลือกซื้อสายสัญญาณเสียง เราจึงต้องวิเคราะห์จุดเชื่อมต่อระหว่างหัวเสียบกับสายไฟด้วย 4. พิจารณาความยาวของโลหะหัวเสียบว่ามีความสั้นยาวเพียงใด โดย สายสัญญาณเสียงที่ดี ต้องมีความยาวระหว่างโลหะหัวเสียบอยู่ที่ 2-5 ซม. ด้วยเหตุว่าเป็นความยาวที่สมควรสำหรับเพื่อการทิ่มเข้ากับเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆได้โดยไม่มีการโยกหรือหละหลวม ทั้งยังแทงได้สนิท ไม่มีโลหะหัวเสียบโผล่พ้นขึ้นมา หากเป็นสายสัญญาณเสียงที่มีความยาวของโลหะอารมณ์เสียบสั้นเหลือเกิน จะไม่สามารถแทงกับเครื่องใช้ไม้สอยได้ กำเนิดปัญหาเสียงไม่ออก หรือเสียงมาเป็นตอนๆจำเป็นต้องรอประคองไว้ ส่วนถ้าหากโลหะที่หัวเสียบมีความยาวมากเกินความจำเป็น เมื่อแทงกับเครื่องใช้ไม้สอยจะมีผลให้มีโลหะบางส่วนโผล่ขึ้นมา หากเผลอไปชนเข้าอาจก่อให้สายเกิดการหักได้ 5. สำรวจความยาวของสายไฟว่ามีมากน้อยแค่ไหน ข้อนี้ถึงจะมิได้ส่งผลต่อคุณภาพการใช้งานโดยตรง แต่ก็สำคัญ เนื่องจากว่าการซื้อสายสัญญาณเสียงที่มีความยาวเพียงพอต่อการใช้แรงงาน จะช่วยทำให้สามารถต่อเครื่องใช้ไม้สอยอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างสะดวก ไม่เกิดปัญหาสายตึงรั้งเกินไปจนถึงมีความเสี่ยงต่อการหัก หรือหย่อนเกินไปจนกระทั่งกำเนิดความรู้สึกเกะกะ ซึ่งความยาวที่เหมาะสมของสายไฟขึ้นกับการใช้งานของพวกเราว่าคืออะไร ถ้าเกิดเป็นสายสัญญาณเสียงสำหรับทิ่มวัสดุอุปกรณ์เครื่องเสียงในรถ หรือลำโพงทั่วๆไป ควรมีความยาวอยู่ที่ 30-60 ซม. ส่วนถ้าเกิดเป็นสานสำหรับต่อลำโพงขนาดใหญ่ ต้องลากสายยาวๆก็ควรมีความยาวตั้งแต่ 1 เมตรขึ้นไป 6. พิจารณายี่ห้อของสาย ส่วนแบรนด์นี้ก็จัดว่ามีความจำเป็นไม่แพ้กันสำหรับการเลือกซื้อสายสัญญาณเสียง โดยควรที่จะเลือกซื้อสายสัญญาณเสียงที่ผลิตขึ้นโดยแบรนด์อันเป็นที่รู้จัก เลี่ยงผลิตภัณฑ์จากยี่ห้อแปลกๆหรือผลิตภัณฑ์โนเนม ด้วยเหตุว่ามักจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มิได้ประสิทธิภาพ มีโอกาสพังเสียหายได้ง่าย วิธีการสำหรับเลือกซื้อ สายสัญญาณเสียง ให้ได้คุณภาพถือเป็นเรื่องที่พวกเราจำเป็นต้องให้ความใส่ใจ เพื่อให้การเชื่อมต่อเครื่องใช้ไม้สอยอิเล็กทรอนิกส์กับเครื่องเสียงสามารถำได้อย่างมีคุณภาพ ได้การเล่นเสียงที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง ขอบคุณสำหรับ บทความสายสัญญาณเสียง ราคา : https://www.dotlife.store/cable/audio-cable.html, dotlife รีวิวสายสัญญาณเสียงจาก Pantip: www.pantip.com Tags : สายสัญญาณเสียง ราคา
|