ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

ในยุคที่ข้อมูลและสื่อผสมมีจำนวนและความจุเยอะขึ้นในสมัยปัจจุบัน คนที่ต้องทำงานกับข้อมูลใหญ่ ๆ เพียง USB flash drive คงไม่พอแล้ว ซึ่งในยุคปัจจุบัน External hard diskก็ได้เข้ามามีบทบาทกับคนใช้คอมพิวเตอร์เหลือเกิน ทั้งยังมีให้เลือกหลายหลากความจุและแยกย่อยเป็นแต่ละกลุ่ม ซึ่งการเลือกให้ตอบโจทย์ความปรารถนาถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งพวกเราจะมาแนะแนวท่านกันในบทความนี้ครับ
 
 จะเลือก External Harddisk อย่างใดดี
 ตอนนี้ External Harddisk มีให้เลือกระหว่าง Desktop หรือ Portable ซึ่งถึงแม้ชื่อ Desktop จักบอกว่ามันเหมาะกับการใช้งานแบบตั้งโต๊ะ ด้าน Portable ก็เหมาะกับพกไปไหนมาไหน แต่เอาเข้าจริงๆ External Desktop Harddisk ก็สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้เหมือนกันถ้าจำเป็น ซึ่งประเด็นสำคัญของแต่ละแบบมีดังต่อไปนี้
 
External Desktop Harddisk
คือ Harddisk ขนาด 3.5 เหมาะกับติดตั้งไว้อยู่กับที่ ไม่ว่าจะเป็น ตั้งบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน เป็นอาทิ จึงค่อนข้างจะเหมาะที่จะใช้กับเครื่อง Desktop หรือ การทำงานคงที่มากกว่าพกพาไปไหนมาไหน มีขนาดตั้งแต่ 2 TB ถึง 12 TB กันเลยทีเดียว
 
 ข้อดี มีขนาดเยอะ เพราะมักจะใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ 3.5 โดยปัจจุบันนี้ยี่ห้อ WD มีรุ่น My Book Duo ที่ให้ความจุสูงสุด 16TB เลยทีเดียว รวมถึงมีรุ่นอย่าง WD My Book Duo ที่รองรับ RAID0 และ RAID1 ในเทคโนโลยี USB 3.0 ใช้ได้ทั้งบน PC, Linux หรือ Mac สบายๆ
 
 ข้อจำกัด มีขนาดเบิ้ม (เพราะใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่) และต้องใช้พลังไฟฟ้าจากอะแด็ปเตอร์ช่วย ลำพังแค่กำลังไฟจากพอร์ต USB จึงไม่พอ ทำให้การพาไปใช้ข้างนอกสถานที่ยากลำบากพอใช้
 
 External Portable Harddisk
คือ Harddisk ขนาด 2.5 จักมีขนาดย่อม เบา เหมาะกับการพกพา จักมีให้เลือกสรรหลายรุ่นหลายขนาดตั้งแต่ 500 GB ถึง 5 TB ขนาดความไวจะอยู่ที่ประมาณ 5400 rpm
 
จุดสำคัญ มักจะมีขนาดกระชับ น้ำหนักเบา ติดตัวไปใช้งานได้ง่าย ใช้พลังงานจากพอร์ต USB หรือ Thunderbolt ก็พอเพียงแล้ว จึงง่ายในการใช้ประโยชน์งานข้างนอกสถานที่
 
ข้อจำกัด ความจุโดยมากไม่มาก ก็เพราะว่าฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เป็นแบบ 2.5 แต่ทว่าก็มิได้หมายความว่าไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานเพราะว่าขณะนี้ความจุมากสุดคือ 4TB
 
 ต้องเลือกจ่ายความจุเท่าไหร่ดี
                เรื่องของขนาดนั้นหลากหลายคน ก็อาจมีคำถามว่าความจุเท่าใดดีถึงจะพอใช้ ก่อนอื่นเลยต้องสอบถามว่าท่านมีข้อมูลที่ประสงค์เก็บสำรองเยอะแยะแค่ไหน หากใช้เก็บพวกไฟล์งานเอกสารทั่วๆ ไป ความจุ 250GB-350GB ถือได้ว่าเหลือแหล่ แม้กระนั้นหากว่าท่านเป็นลักษณะชอบโหลดไฟล์หนัง วิดีโอ เพลง เกม หรือไม่ก็มีรูปถ่ายนานา อื้อซ่า ก็แนะนำให้เลือกขนาดเบิ้มที่สุดไปเลย จะได้เป็นการแบ่งเบาภาระในการจัดเก็บข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งทุกวันนี้ราคาของรุ่นขนาด 1TB หรือ 2TB ก็มิได้แพงมาก
 
 ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล
กำลังเร็วที่ External Harddisk ใช้ในการอ่าน หรือเขียนข้อมูล โดยทั่วไปก็จะเป็น USB2.0 (แต่ปัจจุบัน USB 3.0 เริ่มมีการใช้งานเยอะขึ้น) หรือ eSATA โดยตัวหลังนี้จะมีกำลังเร็วยิ่งกว่า แต่กระนั้นก็ควรมีแหล่งพลังงานเพิ่มเติมในการใช้งานเช่นกัน หากว่าจำต้องโอนโยกย้ายข้อมูลที่มีขนาดใหญ่อยู่เนืองๆ ก็พึงจะซื้อแบบ eSATAไปเลยก็เพียงพอแล้ว โดยค่ากลางความไวของรุ่น 2.5 นิ้ว คือ 5400 rpm ส่วนแบบ 3.5 นิ้วจะมีความไวที่ 7200 rmp
 
 ความยั่งยืนในการใช้งาน
External Harddisk ทุกตัวนั้นจะทำหน้าที่โดยใช้ระบบจานหมุน ดังนั้นหากเกิดการตกหล่น หรือกระทบกับของแข็งแรงๆ จะทำให้ชิ้นส่วนชั้นในเกิดความเสียหายได้ โดยรวมไปถึงข้อมูลที่เก็บสำรองเอาไว้ด้วย เวลาใช้งานจึงพึงระวังในส่วนนี้ให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัว 2.5 นิ้ว ที่มีขนาดย่อม ควรจะหากระเป๋า หรือซองที่มีการบุนวมกันกระแทกสำหรับป้องกันถ้าหากเกิดอุบัติเหตุ ถ้าหากเจ้าตระเวนเรื่อยๆและจำเป็นต้องพกพา External Harddiskไปด้วยทุกหนทุกแห่งทุกเมื่อ ควรจะเลือกดูยี่ห้อที่โดดเด่นในเรื่องของ Ruggedness หรือความทนทาน เพราะเป็นส่วนใหญ่จะมีการบำรุงรักษาชิ้นส่วนข้างในได้ดีกว่าแบบทั่วๆ ไป
 
 เลือกจ่ายเงินยี่ห้อไหนดี
เวลานี้ที่นิยมใช้งานกันจะมี 2 ยี่ห้อคือ WD (Western Digital) และSeagate โดยทั้ง 2 แบรนด์นี้มีความไว้วางใจ และมีความสามารถยอดเยี่ยมทั้งคู่ มูลค่าและสเปกก็ไม่แตกต่างกันมากนัก จะแตกต่างกันเพียงดีไซน์ สีสันของตัวเครื่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจเฉพาะบุคคลและงบประมาณของท่าน
 
 และนี่คือทั้งหมดที่มีคือเรื่องราวของ External Harddisk ที่ท่านควรจะทราบ จะเห็นได้ว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยหลากหลายที่จำเป็นต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อ วาดหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ให้ความสนใจไม่มากก็น้อยนะขอรับกระผม

Tags : External Harddisk,external harddisk ราคา,external harddisk ยี่ห้อไหนดี

ฐานข้อมูลผิดพลาด

ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย