ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: uchaiyawat ที่ ตุลาคม 24, 2018, 03:00:07 pm



หัวข้อ: Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่มีวันล้ม
เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ ตุลาคม 24, 2018, 03:00:07 pm
                ในบรรดากล้องดิจิตอลกับกล้องมิลเลอร์เลสที่กำลังเป็นที่ชื่นชอบในบ้านเราและกระแสในทั่วโลกนั้น หากไม่เปรยยี่ห้อ ฟูจิ ก็อาจเปรียบเสมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ในสมัยนี้กล้องฟูจิ ราคาหลายหลากที่มีให้เลือกสรรซื้อหานั้น  ได้เข้าไปนั่งอยู่ภายในใจของผู้ที่รักการถ่ายภาพอย่างกว้างขวาง ถือว่าเป็นยี่ห้อที่ประสบความสำเร็จในสมัยปัจจุบัน มียอดจำหน่ายในแต่ละปีโด่งที่สุดในเมืองไทยกับทั้งอันดับต้นๆในทวีปเอเชียรวมทั้งทั่วโลกในประเภทกล้องถ่ายรูปมิลเลอร์เลสนั้น กว่าจะผ่านมากระทั่งถึงจุดนี้ได้ นับได้ว่าฝ่าระลอกคลื่นมรสุมทางเศรษฐกิจอีกทั้งกระแสเทคโนโลยีที่บริษัทดั้งเดิมอย่าง Fujifilm ต้องมุมานะตะกุยตะกายพร้อมทั้งวิ่งให้เฉียบแหลมอยู่เสมอ ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่า Fujifilm ก็ทำมันได้อย่างน่าประหลาดเลยทีเดียว
                ฟูจิ โฟโต้ ฟิล์ม ริเริ่มตั้งขึ้นเมื่อปี 1934 ตามแนวทางของรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นในระยะเวลานั้นที่อยากจะมีบริษัทฟิล์มเป็นของตนเอง กับทั้งมีการเจริญมาอย่างไม่ขาดสายตามลำดับ จนปี 1965 จึงได้เข้าไปทำสาขาย่อยที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก พร้อมทั้งในปี 1995 ฟูจิก็ตกลงใจย่างก้าวเข้ามาบุกท้องตลาดแข่งขันกับเจ้าตลาดในสหรัฐฯและในตลาดโลกอย่าง โกดัก ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 90% ฟูจิกลับใช้กลยุทธ์กลับด้านมาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากโกดักได้มากกว่า ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นเป็น 33% ในปี 1995 พร้อมกับขยายอีกเป็น 60% ในปี 1996 ซึ่งในตอนนั้นทั้งกล้องฟูจิฟิล์ม และโกดักต่างขับเคี่ยวกันที่จะเป็นเจ้าตลาดฟิล์ม แต่หารู้ไม่ว่ามีคลื่นเทคโนโลยีลูกใหม่ที่กำลังถั่งโถมเตรียมที่จะเข้าแทนอยู่เสมอ
                ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ช่วงรุนแรงของกิจการค้ากล้องถ่ายรูปฟิล์มคือเวลาปี 2000 ต้นๆ ในห้วงที่บริษัท SONY และ HP เริ่มกล้องถ่ายรูปดิจิตอลขึ้นมาเป็นครั้งแรกพร้อมกับสามารถร้องเรียกจุดสนใจจากคนรักการถ่ายรูปไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียวในตอนนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของ smart phone และ social media อีกทั้งการบันทึกภาพดิจิทัลนั้น ย่อมเยากว่า ง่ายกว่า และรวดเร็วกว่ามาก จึงเป็นผลให้พฤติกรรมผู้ซื้อผันไป  หน่วยงานอีสต์แมนโกดักขณะนั้นมัวแต่คิดว่าการใช้ฟิล์มถ่ายรูปจะมีอยู่ได้อีกช่วงหนึ่ง นั่นคือมิตกลงฮวบฮาบอย่างแน่แท้ ดังนี้โกดักจึ่งยังคิดว่าจะเก็บกระแสกล้องถ่ายภาพฟิล์มไปอีกสักพักนึง แต่ฟูจิคาดว่าท้ายที่สุดแล้ว ดิจิตอลต้องมาทำลายเนื้อกิจการฟิล์มถ่ายภาพอย่างแน่นอนและรวดเร็วด้วย CEO ของบริษัทก็ได้ตัดสินใจที่จะนำหน่วยงานเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล
ที่จริงแล้วกล้องถ่ายรูปดิจิตอลที่สร้างขึ้นมาได้บนโลกเครื่องแรกๆนั้นก็เป็นของบริษัทโกดักนั่นแหละ ที่อุตส่าห์ผลิตคิดค้นขึ้นมาได้แต่ผู้บริหารไม่สืบต่ออย่างเอาจริง กลับเห็นเป็นเพียงสิ่งที่จะมาบ่อนทำลายธุรกิจหลักคือฟิล์มถ่ายรูป ต่างจากระดับผู้บริหารของ ฟิจิฟิล์ม ที่ถึงจะไม่ได้บุกเบิก แต่ก็ไม่เคยตกเทรนด์ ได้พัฒนากล้องถ่ายรูปดิจิตอลออกจำหน่ายอย่างจริงจัง ระดับผู้บริหารฟูจิมีวิสัยทัศน์ที่ต่างจากผู้บริหารโกดัก ที่ตระเตรียมก้าวย่างสมัยใหม่อย่างค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ทั้งยังเคยได้ใช้เทคโนโลยีที่ตนเองมีและเคล็ดต่างๆ ที่ใช้บำรุงรักษาสภาพสีบนแผ่นฟิล์ม มาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์แทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยี collagen ที่ช่วยคงสภาพสภาพความชุ่มชื้น อีกทั้งความอ่อนวัยของผิวได้ ออกแบรนด์เครื่องสำอางภายใต้ชื่อ Astalift ในปี 2007 กับทั้งออกขายในตลาดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศในยุโรป ซึ่งปัจจุบันทำกำไรให้บริษัทกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่ใช่แค่นั้น Fujifilm ยังนำนวัตกรรม Digital Camera Tech ประยุกต์ใช้กับวัสดุทางการแพทย์ สำหรับการบันทึกภาพเพื่อวินิจฉัยโรค กับทั้งพัฒนาการผลิตยาเยียวยาโรคมะเร็ง กับโรคความจำเสื่อม ลดงบประมาณการพัฒนาด้าน Film & Analog ลงให้มากที่สุด
การอยู่รอดของ Fujifilm ในสมัยปัจจุบันที่ยังคงมีกล้องฟูจิ ราคามากมายให้ได้เลือกซื้อกันอยู่นั้น กุญแจดอกสำคัญคือการมองวิสัยทัศน์และการรับรู้การเปลี่ยนทิศทางของกระแสลมเทคโนโลยีของประธาน Shigetaka Komori, CEO of Fujifim ซึ่งมีเซนส์ของความระมัดระวังภัยยิ่งกว่าบริษัทอื่นใด เพราะด้วยเห็นเทรนด์ดิจิตอลพร้อมๆ กันกับยี่ห้ออื่นแต่เชื่อว่าท้องตลาดฟิล์มจะสูญพันธุ์อย่างเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพราะฟิล์มถ่ายรูปเป็นธุรกิจการค้าหลัก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้อย่างทันใจและสร้างกิจการค้าใหม่ทันท่วงที ชะตากรรมก็คงไม่พ้นจากการหมดตัว และการแก้ไขสภาพการณ์จากการเห็นภัยอันตรายจากเทคโนโลยีที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดแล้วไม่หยุดนิ่งกับที่เปลี่ยนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์หน่วยงานให้เข้ากับสภาพยุคปัจจุบันขณะนั้นๆให้มากที่สุด ชี้ให้เห็นให้เราเห็นว่าเราไม่ควรที่จะหยุดนิ่งมิเช่นนั้นเราก็จะไม่เห็นความน่าจะเป็นที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในภายภาคหน้านั่นเอง

Tags : กล้องฟูจิ,กล้องฟูจิ ราคา,Fujifilm
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ