หัวข้อ: iPad Mini 4 ความทรงพลังในขนาดย่อม เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ ตุลาคม 30, 2018, 06:14:49 am iPad Mini เป็นคำตอบของหลายคนที่ชื่นชอบใช้แท็บเล็ตที่มีขนาดย่อมแต่สมรรถนะดีในระบบ iOS กระทั่งวันนี้ได้เดินทางมาถึงรุ่น iPad Mini 4 แล้ว ซึ่งได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งวันนี้ผมจะมาแนะนำถึงแท็บเล็ตจาก Apple รุ่นนี้กัน
แต่ก่อนอื่นดิฉันจะมาแนะนำถึงประวัติคร่าวๆ ของ iPad และ ไอแพด มินิ ก่อนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรก่อนที่ชนะใจสาวก Apple ถึงตอนนี้ iPad คือแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่ดีไซน์และพัฒนาโดยบริษัท Apple ซึ่งมีหน้าที่หลักในด้านสื่อผสม หนัง เพลง เกม อีบุ๊ก และท่องเว็บไซต์ iPad เริ่มวางขายครั้งแรกในเดือนเมษายน 2010 สำหรับรุ่น Wi-Fi และในเดือนเมษายน 2010 สำหรับรุ่น Wi-Fi พร้อมด้วย 3G ซึ่ง iPad สามารถทำยอดขายได้ถึง 3 ล้านเครื่องในระยะเวลาแค่ 80 วัน จุดสำคัญคือมาพร้อมด้วยเทคโนโลยี Multi Touch สามารถเล่นวิดีโอ, ฟังเพลง, ดูรูปถ่ายและเล่นอินเทอร์เน็ตได้ จอขนาด 9.7 นิ้ว มีความละเอียด 768 x 1024 พิกเซล หนา 0.5 นิ้ว ใช้ซีพียู Apple A4 ที่พัฒนาขึ้นเองโดยบริษัท Apple โดยถัดจากนั้น iPad ก็ทยอยออกรุ่นใหม่ ๆ ตามมาอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็น iPad2 ได้รับการพัฒนาขึ้นให้มีขนาดโปร่งบางลง น้ำหนักเบาขึ้น และเพิ่มเติมกล้องหลังอีกด้วย แต่ขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้วเท่าเดิม The New iPad ได้ทำการปรับปรุงในหลายๆ ด้าน อาทิเช่น เพิ่มความไวซีพียู ปรับความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ เพิ่มความละเอียดหน้าจอมากขึ้น (2048 x 1536 พิกเซล) แต่ว่าหน้าตาข้างนอกยังเหมือนกัน iPad2 iPad with Ratina Display เป็นรุ่นที่ทำการยกระดับขึ้นมาจาก The New iPad โดยพัฒนาซีพียูให้ดีขึ้น พร้อมกับแก้ไขสเปคบางส่วนตัวอย่างเช่น กล้องถ่ายรูปข้างหน้าละเอียดขึ้น เปลี่ยนพอร์ตการเชื่อมต่อ จาก 30 pin adapter เป็น Lightning Port อย่างไรก็ตามที่เป็นที่พึงพอใจและตอบโจทย์ของคนที่ไม่ชอบพกพาจอใหญ่ ๆ ก็คือ iPad mini ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2012 มีหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 768 พิกเซล (163 ppi)น้ำหนัก 308 กรัม สำหรับรุ่น Wi-Fi และน้ำหนัก 312 กรัม สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ระบบประมวลผลแบบ Dual-core processor (Apple A5 chipset) โดยเป็นซีพียูอันเดียวกับ iPad 2 กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลและบันทึกวิดีโอระดับ 1080p ด้านกล้องถ่ายรูปด้านหน้ามีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล มีระบบปรับความสว่างและโฟกัสอัตโนมัติ และยังรองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ 4G LTE วางจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2012 ซึ่งปัจจุบัน iPad mini ได้เดินทางมาถึงรุ่นที่ 4 ถึงแม้จะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็ยังไม่มีรุ่นใหม่ของประเภท Mini มาทดแทน โดยสเปคเบื้องต้นของ ไอแพด มินิ 4 มีดังนี้ - ขนาด 134.8x203.2x6.1 มม. - น้ำหนัก 298.8 กรัม - หน้าจอกว้าง 7.9 นิ้ว ความละเอียด 2040x1536 Pixel (326 ppi) - ตัวเครื่องใช้วัสดุชนิด อะลูมิเนียม แบบ Unibody - กระจกหน้าจอใช้เทคโนโลยี Oleophobic Coating เคลือบกันร่องรอยนิ้วมือ - ชิปประมวลผล Apple A8 (64 bit) พร้อมชิป M8 motion coprocessor - กล้องถ่ายรูปดิจิทัลข้างหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล - กล้องถ่ายรูปดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล - รองรับ FaceTime HD - รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 1080p - มาพร้อมระบบ Touch ID หลายท่านอาจมีคำถามว่า ไอแพด มินิ 4 ควรถือครองไหมเราจึงคอมไพล์ ส่วนดี และ ข้อด้อย มาให้พิเคราะห์กันดังนี้ จุดแข็ง 1. คุณภาพจอยอดเยี่ยม ภายหลังโดนมืออาชีพติชมมาตลอดว่าจอของ iPad Mini 1-2-3 นั้นมีคุณภาพไม่เหมาะสมกับความเป็น Apple ด้วยเหตุว่าสามารถแสดงสีได้แค่ 62% ของขอบข่ายสี sRGB แถมยังสะท้อนแสงเพียบ ผลที่สุด Apple ก็อัพเกรดหน้าจอให้ iPad Mini 4 สามารถโชว์สีสันได้แม่นยำและโชว์ได้ถึง 101% ของขอบข่ายสี sRGB เลยเทียว อีกทั้งยังมีอัตราการสะท้อนแสงแค่ 2%
iPad Mini 4 มีน้ำหนักราว 3 ขีดแค่นั้น โดยเบากว่า iPad Mini 2 โดยประมาณ 30 กรัม ทำให้ความรู้สึกในการ กำหยิบสะดวก ยิ่งไปกว่านี้ iPad Mini 4 ยังบางเพียง 6.1 มม.
มีความสามารถแยกครึ่งหน้าจอที่มาใน iOS9 เพื่อเข้าทำงาน 2 แอปควบคู่กัน ซึ่งจะต้องใช้เครื่องมือที่มี Ram 2 GB ขึ้นไป ข้อเสีย 1. ใช้ร่วมกับเคสแต่ก่อนไม่ได้ iPad Mini 4 มิได้บางลงเท่านั้น ที่ส่วนหน้าก็มากกว่า iPad Mini รุ่นอื่น โดยสูงกว่ารุ่นก่อนราวๆ 3 มม. ทำให้ใช้ Smart Cover ของ iPad Mini รุ่นเดิมมิได้ ตัวเครื่องบางลงมากก็ใช้เคสของ iPad Mini เดิมมิได้อีกเหมือนกัน
iPad Mini 4 พลังไม่ทัดเทียม iPhone 6s ที่ใช้ชิป A9 เนื่องมาจาก iPad Mini 4 ใช้หน่วยประมวลผลเป็น Apple A8 ประเภท เดียวกับที่ใช้ใน iPhone 6 ถึงกระนั้นก็มีทดสอบแล้วไวกว่าชิปใน iPhone 6 อยู่ราว 10% เนื่องจากปฏิบัติการที่ความถี่สูงกว่า ปัจจุบัน iPad Mini 4 สนนราคาอยู่ที่ 14,900 บาท ในรุ่น Wi-Fi และ 19,900 บาท ในรุ่น Wi-Fi+ Cellular บนความจุ 128 GB ท่านใดให้ความสนใจก็ไปหาซื้อกันที่ตัวแทนขายมากมาย ได้ครับ Tags : iPad,ipad ราคา,ipad 2017 สเปค
|