ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Jeatnarong9898 ที่ พฤศจิกายน 03, 2018, 12:49:47 am



หัวข้อ: สัตวแพทย์รักษาหมา ด่วนรีบด่วน ผ่าตัดทำหมัน แล้วก็ ผ่าตัดเนื้องอก ตั้งอยู่ถ.สุขุม
เริ่มหัวข้อโดย: Jeatnarong9898 ที่ พฤศจิกายน 03, 2018, 12:49:47 am
สัตวแพทย์รักษาหมาแมว ด่วนฉุกเฉิน รักษาโรคผิวหนังต่างๆ มดลูกอักเสบ ตั้งอยู่ซ.พัฒนาการ 20 ติดห้าง Maxvalue
คลินิกของเรารักษาสัตว์ อยู่ตรง ถ.สุขุมวิท77 (ซ.อ่อนนุช17) ทะลุกันได้ ติดห้าง Maxvalue
 
โรคติดเชื้อจากน้ำลายหมาและก็แมว เป็นยังไง
โรคติดเชื้อจากน้ำลายหมาและก็แมว เป็นโรคติดโรคที่เกิดขึ้นมาจากแบคทีเรีย โรคนี้นำไปสู่หนองเลือด เป็นพิษตามผิวหนัง หรือเยื่อไขกระดูกอักเสบ ถ้าหากเป็นกรณีที่ร้ายแรงมาก บางทีอาจเสียชีวิตได้
 
โรคติดเชื้อจากน้ำลายสุนัขแล้วก็แมว มีต้นเหตุที่เกิดจากอะไร?
โรคติดเชื้อจากน้ำลายสุนัขและแมว เป็นอาการติดเชื้อโรคจากแบคทีเรีย Pastsrera ของสัตว์กินนม ซึ่งบางทีอาจพบจากข้างในปากของหมา 75% และก็แมวมากถึง 97% ผู้ครอบครองบางทีอาจดำรงชีวิตคลุกคลีอยู่กับสัตว์เลี้ยงมากจนเกินไป จนกระทั่งทำให้ได้รับเชื้อแบคทีเรียเข้าสูงร่างกายผ่านน้ำลายของสัตว์เลี้ยง หรือการดมเอาแบคทีเรียเข้าไปผ่านจมูก อาทิเช่น การจุมพิต หรือหอมสัตว์เลี้ยงเสมอๆ
 
โรคติดเชื้อจากน้ำลายสุนัขและก็แมว มีลักษณะอาการยังไง
แม้ติดโรคผ่านการดมหายใจเอาแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายผ่านจมูก อาจส่งผลให้มีลักษณะคัดจมูกคล้ายเป็นหวัด แต่ว่าที่จริงแล้วเป็นลักษณะของโพรงจมูกอักเสบ เป็นหนอง หากเชื้อแบคทีเรียไปสู่ดวงตา ก็อาจทำให้มีอาการตาแดง เลือดคั่งในตา
ยิ่งกว่านั้นยังอาจมีไข้สูง ไอออกจะหนัก จนถึงอาจถึงกับขนาดไอเป็นเลือด เมื่อปอดติดโรค

โรคติดเชื้อจากน้ำลายสุนัขแล้วก็แมว อันตรายมากไหม?
ในความเป็นจริงแล้วถ้าเป็นผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคดี ร่างกายธรรมดาแข็งแรงอยู่แล้ว ร่างกายอาจต้านแบคทีเรียกระทั่งหายปกติได้เอง แม้กระนั้นแม้ยังคงได้รับเชื้อแบคทีเรียจากสัตว์เลี้ยงโดยตลอด บวกกับร่างกายเริ่มไม่แข็งแรง พักน้อย ทานอาหารที่ไม่ค่อยเป็นประโยชน์ และไม่ได้ออกกำลังกายบ่อยๆ อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียทำร้ายร่างกายหนักขึ้นเรื่อยกระทั่งบางทีอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เหมือนกัน ความร้ายแรงของโรคก็เลยขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันโรค และสุขภาพของแต่ละคนด้วย
 
พิจารณาได้อย่างไร ว่าสุนัขและก็แมวของพวกเรา มีเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เป็นอันตรายต่อพวกเราหรือเปล่า
เกิดเรื่องยากที่จะพินิจจากข้างนอกได้ว่า หมาหรือแมวมีเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เป็นอันตรายต่อพวกเราไหม เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปากของหมาและก็แมว ไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุนัขและแมวเอง แต่มีอันตรายต่อมนุษย์ โดยเหตุนั้นควรจะระวังไม่ว่าสัตว์เลี้ยงพวกนั้นจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของ ได้รับการดูแลอย่างยอดเยี่ยมหรือไม่ก็ตาม
 
หากมีลักษณะคัดจมูก ตาแดง มีไข้สูง หรือไอหนัก โดยที่บ้านมีสัตว์เลี้ยง แล้วก็คลุกคลีอยู่กับสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด บางทีอาจต้องพบแพทย์เพื่อหามูลเหตุที่แท้จริง แล้วก็รีบทำรักษาอย่างทันเวลาจ้ะ
การตัดหางหมา
หมาบางจำพวกนิยมตัดหาง ให้เหลือความยาวตามลักษณะในประเภทนั้นนิยม ซึ่งก็ควรตัดตอนที่ยังแก่ยังน้อยๆอยู่เพื่อที่จะไม่มีเลือดออกมามาก สุนัขไม่เจ็บปวด แผลหายเร็วและทำได้ง่ายโดยไม่ต้องวางยาสลบ โดยเหตุนี้สุนัขจำพวกที่จำต้องตัดหางข้างหลังคลอดควรนำลูกหมาไปกระทำตัดหางข้างในหนึ่งสัปดาห์แม้จะตัดหางเองจะต้องทำในระยะไม่เกิน 7 ครั้งหน้าคลอด โดยการขลิบขนบริเวณหางที่ต้องการเอาทิ้งให้ถึงผิวหนังแล้วชำระล้างด้วยการใช้แอลกอฮอล์ หรือทิงเจอร์ไอโอดีน ทาให้ทั่ว ถัดจากนั้นก็รูดผิวหนังขึ้นมาทางโคนหางแล้วก็ใช้เชือกหรือยางรัดไว้ให้แน่นตรงข้อที่ 2 ของกระดูกโคนหาง ใช้กรรไกรที่ทำลายเชื้อแล้วตัดตรงระหว่างข้อของกระดูกที่จะตัด แล้วแต้มด้วยทิงเจอร์ไอโอดีน ทิ้งไว้ 4-5 ชั่วโมง แล้วก็ค่อยเอาเชือกหรือยางรัดออกปล่อยให้แผลหาย ส่วนมากผิวหนังของหางที่รูดขึ้นไปก็จะรูดลงมาเอง หรือบางครั้งก็อาจจะเย็บปิดก็ได้ถ้าอยากได้
การตัดหูหมา
สุนัขบางจำพวกนิยมตัดหู เป็นต้นว่า บ็อกเซอร์, โดเบอร์แมน, ไม่นิเจอร์ พินเซอร์ และเกรท เดน ซึ่งก็ควรจะกระทำการตัดหูเมื่อลูกสุนัขอายุระหว่าง 12-14 สัปดาห์ เพราะขนาดโตพอที่จะทำหน้าผาตัดได้ง่าย ทนต่อการวางยาสลบ หลังจากตัดแล้วแพทย์ต้องดามหูไว้จวบจนกระทั่งหูจะตั้งตรงตามอยากได้ ซึ่งใช้เวลาราว 3-4 สัปดาห์ ระหว่างนี้ผู้ครอบครองต้องคอยดูและอยู่ให้สุนัขเกาแผลกระทั่งไหมที่เย็บหลุด หรือแผลเปรอะเปื้อน เนื่องจากจะก่อให้ทรงของหูไม่เป็นไปตามอยากได้
การอาบน้ำหมา
สุนัขก็ราวกับคนที่จะต้องรักษาความสะอาดและตกแต่งให้ดูสวย น่ารักน่าเอ็นดูอยู่เป็นประจำ เนื่องจากมันไม่สามารถจะทำความสะอาดรวมทั้งเสริมสวยให้ กับตนเองได้ ผู้เลี้ยงก็เลยต้องทำหน้าที่ พอใจในตัวของมันเสมือนเป็นตัวของมันเองเลยทีเดียว การอาบน้ำต้องใช้ยาสระผม และสบู่พร้อมกันไปด้วย ควรที่จะทำการเลือกซื้อยาสระผมหรือไม่ก็สบู่ที่ผลิตขึ้นสำหรับใช้กับสุนัขแค่นั้น อย่านำยาสระผมหรือสบู่ของคนมาใช้กับสุนัขโดยเด็ดขาด เพราะผิวหนังของหมาบางประเภทเปราะบางมากมาย ถ้าหากอาบน้ำด้วยยาสระผมหรือสบู่ของคน จะก่อให้มีปัญหาเรื่องขนแห้ง หยาบคาย และมีสะเก็ดรังแคขึ้นบนผิวหนัง บางตัวเป็นหนักถึงบางทีอาจจะขนร่วงไปเลยก็มี ปัจจุบันนี้แชมพูหมามีให้เลือกหลายสูตร มีแบบผสมครีมในตัว ประเภททูอินวัน หรือ ทรีอินวัน ชนิดที่มีสารฆ่าตัวเห็บ ฆ่าหมัด มากมายมากมายก่ายกองไปหมด ก่อนซื้อควรจะอ่านดูฉลากข้างขวดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง บรรจุเท่าไร หมดอายุวันไหน แล้วจึงเลือกซื้อมาใช้ให้ถูกกับลูกสุนัขของเรา
วิธีอาบน้ำให้สุนัข
เครื่องไม้เครื่องมือต้องตระเตรียมหมายถึงยาสระผมสำหรับสุนัข ผ้าสำหรับเช็ดตัว อ่างน้ำ หรือสายยาง ที่ต่อจากก๊อก เครื่องเป่าผม
กรรมวิธีอาบน้ำให้หมาทำได้ดังต่อไปนี้ คือ
1. จับหมาให้อยู่ในอ่างนิ่งๆโดยการจับที่ปลอกที่เอาไว้ใส่คอ เป็นไปได้ควรอุดหู ทั้งสองข้าง ของหมาด้วยสำลีเพื่อคุ้มครองปกป้องมิให้น้ำไพเราะ แล้วจึงค่อยเทน้ำลง บนตัวหมาให้ทั่วหมดทั้งตัว
2. ใช้ยาสระผมสุนัขเทลงบนตัวหมา แล้วจึงใช้มือถูนวดแชมพูให้ทั่วใน ช่วงเวลาที่มืออีกข้างหนึ่งยังจับปลอกสำหรับใส่คอสุนัขอยู่เพื่อจะให้มันอยู่นิ่งๆ
3. ล้างยาสระผมที่ท่อนหัวของลูกหมาก่อน หลังจากนั้นจึงล้างแชมพูที่ลำตัวให้ แล้วก็ใช้ผ้าเช็ดถูให้ แห้งตลอดตัว
4. เอาสำลีที่อุดหูออก แล้วเป่าขนให้แห้ง กับแปรงขนให้ได้รูป ทรงดังที่อยาก
 
วิธีการหวีรวมทั้งแปรงขนหมา
การแปรงขนสุนัขทุกวันจะมีผลให้สุนัขมีร่างกายแข็งแรง ขนเป็นเงางาม ไม่มีสิ่งสกปรกหมักหมมอยู่ ในขนสุนัข ประเภทขนยาว อย่างเช่น อาฟกัน ฮาวด์ ชิสุ ควรจะหวี วันแล้ววันเล่า ส่วนสุนัขประเภทขนสั้น เช่น บลูด็อก เกรดเดน แปรงขนเพียง2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ ส่วนหมาชนิดพุดเดิ้ลจำเป็นต้องใช้การตัดแต่งขน จะหวีให้ตรงแบบหมาประเภทอื่นไม่ได้
การหวีขนหมาชนิดขนสั้น
เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้มีแปรงบิสเทิล แปรงหวีสลิดเกอร์ หวีตรง กระบวนการหวี มีดังนี้
- ใช้หวีแปรงสลิดเกอร์หวีก่อน เพื่อจำกัดเอาขนที่พันออกไม่ให้กำเนิดก้อน สังกะตัง ออกแรงหวีเพียงแค่ เบาๆนุ่มๆหวียาวๆจากคอถึงลำตัวทำแบบนี้ทั่วตัว
- ใช้หวีบิสเทิลแปรง เพื่อเอาขนที่ตายแล้วรวมทั้งสิ่งสกปรกให้หลุดออกมาจากขนของหมาตลอดตัว
- ใช้หวีตรง หวีรอบๆที่ยาว อย่างเช่น ส่วนของหาง เท้า ขา ถ้าเกิดพบว่าขนพันกันให้ใช้กรรไกรตัดทิ้ง หมาจะได้ไม่เจ็บ
การหวีขนสุนัขที่สั้นกุด
เครื่องมือที่ใช้มี แปรงรับเบอร์ หนังชามัวร์ แปรงบิสเทิล
- ใช้แปรงรับเบอร์ เพื่อแปรงย้อนขนสุนัขจะมีผลให้ขนตาย แล้วก็สะเก็ด ผิวหนัง สิ่งสกปรกหลุดออกโดยง่าย
- ใช้แปรงบิสเทิล แปรงขนตัวสุนัขอีกทีให้ทั่วหมดทั้งตัว เพื่อเอาขนที่ตายแล้วก็สะเก็ดออก
- เช็คขนหมาด้วยหนังชามัวร์ เพื่อให้ขนวาวเงาสวย
การหวีขนหมาที่ขนตรงยาว
อุปกรณ์ที่ใช้มีแปรงสลิดเกอร์ แปรงบิสเทิล หวีตรง กรรไกร
- ใช้แปรงสลิดเกอร์หวีขนก่อน เพื่อทำให้ขนที่พันกันอยู่คลายตัวออก
- ใช้แปรงบิสเทิลหวีตามอีกรอบ เพื่อทำให้ขนมันเงา รวมทั้งหวีง่ายมากยิ่งขึ้นไปอีก
- ใช้หวีตรง หวีจัดให้ขนของหมาตกลงไปข้างลำตัว ทางซ้ายและก็ทางขวาตามแนวขน
- ใช้กรรไกรตัดแต่งบริเวณเท้าแล้วก็หู เพื่อเป็นระเบียบดูสวยงาม
การดูแลหูสุนัข
หูมีความจำเป็นเป็นอย่างมากที่จะจำต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง สุนัขที่มีหูปกติต้องมีสีชมพูเรื่อยๆสะอาด ไม่มีกลิ่นไม่ปกติ หูควรจะสะอาดไม่มีขี้หูมากเกินไป ไม่มีเห็บ หรือหมัด ไม่เป็นแผล หนอง สุนัขบางจำพวกแล้วก็พวกพุดเดิ้ล มักมีขนขึ้นที่รอบๆช่องหู ขนกลุ่มนี้จะเป็นตัวเพาะเชื้อโรค และก็หมักหมมส่งเปรอะเปื้อนทั้งหลายแหล่ได้เป็นอย่างดี พวกหูยานก็เก็บสิ่ง
สกปรกต่างๆได้ง่ายก็เลยจะต้องหมั่นเอาใจใส่เช็ดถูสิ่งสกปรกในช่องหูออกให้หมด พวกหูตั้งนี้รักษาง่าย เพราะช่องหูสามารถถ่ายเทกับอากาศข้างนอกได้โดยธรรมชาติ ด้วยเหตุผลดังกล่าวสิ่งสกปรกต่างๆก็เลยไม่สามารถที่จะหมักหมมกระทั่งกำเนิดโรคได้มากนัก ถ้าหากหูหมาเลอะเทอะมากก็ควรที่จะใช้สำลีหรือผ้านุ่มๆถูรอบๆใบหูรวมทั้งรูหูส่วนนอกๆบ่อยๆทางที่ดีหลังการอาบน้ำ เนื่องจากสามารถพิจารณาว่ามีน้ำหลงเหลือเข้าไปในรูหูหรือเปล่า ถ้าเกิดมีจะได้เช็ดออกให้แห้ง เป็นการคุ้มครองหูอักเสบได้ด้วย แม้กระนั้นอย่าได้เพียรพยายามทำความสะอาดลึกเข้าไปในรูหูเป็นอันขาด รอบๆหวั่นไหวดังกล่าวข้างต้นควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอ
 
การดูแลตาสุนัข
ตาของสุนัขที่มีสุขภาพดีจะมีแววตาแจ่มใส ไม่ขุ่นหมองหรือมีสีแดง หรือมีขี้ตา รวมทั้งร้องไห้เป็นคราบเปื้อนอยู่เสมอก็แปลว่าควรมีอะไรไม่ดีเหมือนปกติเข้าตา ถ้าหากเป็นโรคตาอักเสบธรรมดาเพราะว่าผงเข้าตา ก็ควรใช้น้ำยาล้างตา 4-5 หยด ใส่เพื่อสิ่งสกปรกออกก่อน แล้วใช้ผ้าที่สะอาดเช็ดเบาๆรอบๆขอบตาออกได้ ถ้าเกิดเป็นมากกว่านี้ควรจะนำไปเจอสัตวแพทย์สุนัขบางประเภท ตัวอย่างเช่น พวก พุดเดิ้ล มักมีรอยด่างสีน้ำตาลที่ขนใต้ตาเสมอ ที่เป็นแบบนี้เนื่องจากขนบริเวณนั้นเปียกน้ำเพราะเหตุว่าหยดน้ำตาของสุนัข คราบเปื้อนน้ำตานี้จะติดแน่นที่ศีรษะตาย้อยลงมา การกำจัดรอยด่างนี้ทำเป็นโดยการหมั่นขัดถูให้เสมอๆครั้งทุกวี่ทุกวัน เพื่อขนที่ติดรอยเปื้อนน้ำตานี้เบาๆหลุดร่วงหมดไปสุนัขบางตัวตาเฉอะแฉะ อาจจะเป็นเนื่องจากขนตาขึ้นผิดปกติ แยงเข้าไปในดวงตา การดูแลรักษาอาการนี้ควรจะเป็นหน้าที่ของสัตวแพทย์
การดูแลฟันหมา
โดยปกติแล้วสุนัขฟันผุได้ยากมาก แต่ที่มองเห็นบ่อยคือ เหงือกอักเสบ มีเหตุที่เกิดจากฟันหมาไม่สะอาด ขี้ฟันหมักหมมกระทั่งจับมาเป็นๆรอยคราบที่เป็นสีเหลืองเกาะติดที่ผิวฟัน คือ หินปูนนั่นเอง บางครั้งบางคราวหินปูนมีมากมายและก็ลุกลามไปจนถึงนางเงือก ทำให้เหงือกอักเสบ มีกลิ่นปาก จนถึงฟันหลุดไปสุดท้ายวิธีคุ้มครองการจับของหินปูน ควรให้สุนัขรับประทานอาหารสำเร็จรูปที่เป็นเม็ดแห้ง หรือให้แทะกระดูกเสียบ้างเพื่อขัดฟัน แต่ว่าถ้าจะให้ดีจริงๆควรให้สัตวแพทย์ตรวจฟันทุกปี หมาบางประเภทก็มีการเรียงตัวของฟันที่แย่มาก มีเหงือกเป็นหนองรวมทั้งฟันหลุดเสมอการให้แทะเล็มกระดูกไม่อาจช่วยได้เลย พวกนี้จะต้องตรวจฟัน รวมทั้งทำความสะอาดเสมอโดยสัตวแพทย์
การดูแลเล็บหมา
เล็บสุนัขจะแตกหน่อจิกลงดิน มันจะสึกไปเองโดยธรรมชาติ แต่ถ้าเกิดเป็นสุนัขที่เลี้ยงบนพื้นไม้หรือพื้นปูนซีเมนต์ มักจะพบปัญหาเล็บไม่สึก มีเล็บยาวเร็วกว่าปกติทำให้เดินไม่สะดวก รวมทั้งเมื่อทิ้งเอาไว้ นานๆจะทำให้นิ้วคด หรือแยกห่างออกจากกัน บางเวลาก็ถอนหรือฉีกแตกจนเกิดหนองได้ จะมีผลให้หมาเจ็บปวดมากมายเวลาเดิน ด้วยเหตุดังกล่าวก็เลยจำต้องหมั่นตรวจทานแลตัดเล็บเท้าให้สั้นอยู่เป็นประจำการตัดเล็บหมาควรจะใช้กรรไกรสำหรับเพื่อการตัดโดยเฉพาะ จะทำเป็นโดยง่ายและก็ปลอดภัย ได้รอยตัดที่กลมโค้ง การตัดควรตัดที่ปลายเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ ระวังอย่าตัดให้ถูกปลายประสาทสีชมพูในเล็บได้หมาที่มีเล็บดำไม่สามารถที่จะมองเห็นปลายประสาทนี้ได้ ด้วยเหตุนั้นตัดเล็บก็เลยทำเป็นเพียงแค่คลิบปลายเพียงเล็กน้อย หรือตัดตรงตำแหน่งต่ำจากบริเวณที่มีเลือดมาเลี้ยงสัก 3 มม. การตัดเล็บควรทำทุกเดือน โดยข้างหลังการอาบน้ำ เพราะเหตุว่าเล็บที่เปียกน้ำจะอ่อนตัดง่ายดายยิ่งกว่าปกติ
   (http://cz.lnwfile.com/q0ymkv.jpg)

สุนัขที่มิได้รับการฝึกฝนบางทีอาจกลายเป็นหมานิสัยเสียรวมทั้งก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ครอบครองได้ เจ้าของควรจะเริ่มฝึกหัดสุนัขตั้งแต่ยังเล็กๆจะง่ายยิ่งกว่าโดยฝึกหัดให้รู้จักดีกับการรับคำสั่ง การเดินโดยใช้สายลาก การเล่นเกม สุนัขที่ได้รับการฝึกฝนตั้งแต่เล็กถ้าเกิดการกระทำที่ไม่ดีตอนโตจะปรับแก้ได้ง่ายยิ่งกว่าหมาที่ไม่ได้รับการฝึกหัดให้เชื่อฟังคำบัญชา
เมื่อใดที่ควรเริ่มฝึก
คุณไม่ควรจริงจังกับการฝึกฝนหมาเท่าไรนัก หากสุนัขอายุยังไม่ถึง 7-8 เดือน นักจิตวิทยาสัตว์บางบุคคลกล่าวว่า ลูกสุนัขบางตัวสามารถเริ่มฝึกหัดได้เมื่ออายุตั้งแต่ 7 สัปดาห์ แล้วจากนั้นก็เทคนิคต่างๆค่อยๆสอนวันหลัง แม้กระนั้น อันที่จริงแล้วเรื่องของเทคนิคต่างๆปล่อยให้นักฝึกฝนสุนัขอาชีพเป็นครูฝึกดีมากกว่า ในขณะที่ลูกหมาของคุณยังอยู่ในช่วงต้นๆของความเป็นลูกหมา ตั้งอกตั้งใจเอาชนะดวงใจมันให้ได้ มันจะรักแล้วก็เชื่อถือคุณ การฝึกรากฐานจะเริ่มได้เมื่ออายุ 3-4 เดือน ช่วงอายุนี้ควรจะฝึกให้เดินสวยในเวลาที่คุณจูง นั่ง นอน ตามคำสั่ง รวมทั้งเข้ามาหาคุณเวลาคุณเรียกมัน
 
เมื่อมันเริ่มทำความเข้าใจให้ใช้เพียงคำพูดเป็นคำสั่งโดยไม่ต้องออกท่าทาง อบรมพร่ำสอนกับมันบ่อยๆเมื่อมันทำผิดก็ปรับแต่งมันมันถูก แรกๆก็ใจดีกับมันก่อน และก็หลังจากนั้นจึงค่อยๆเข้มงวดขึ้นเรื่อยตามความเจริญรุ่งเรืองของการฝึกฝน อย่าหมดความทรหดอดทนหรือไม่พอใจเสียก่อน อย่าตีมันด้วยมือหรือเชือกลากในช่วงเวลาที่ฝึก เพียงคุณดุมันหรือว่ามันก็รู้สึกไม่ถูกมากพอแล้ว
เมื่อสุนัขทำในสิ่งที่คุณต้องการ ชมเชยมันพร้อมกับลูบข้างหลังมันไปด้วย อย่าตบรางวัลสุนัขด้วยขนมหรือปฏิบัติกับมันดีเกินความจำเป็นขณะฝึกฝน หมาที่ชินกับนิสัยการรับรางวัลเช่นนี้จะวางใจไม่ค่อยได้ เนื่องจากมันจะไม่ค่อยยอมทำอะไรถ้าไม่ได้กลิ่นขนมหรือของขวัญ หากว่าฝ่าฝืนคำสั่งหรือทำอย่างไม่ค่อยเต็มอกเต็มใจ (เหลวไหล) คุณน่าจะพูดกับมันดีๆต่อไปมันจะดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เสียงที่ใช้ฝึกฝน
เมื่อคุณฝึกหมาให้ใช้เสียงสำหรับเพื่อการบัญชาที่แข็งขันแล้วก็ชัดเจน คราวแรกคุณออกคำสั่งไปแล้วต้องยืนกรานคำบัญชาเดิมไปจวบจนกระทั่งมันเชื่อฟัง หรือแม้แต่จะฉุดมันให้มาฟังคุณตามที มันจำเป็นต้องเรียนรู้ว่าการฝึกนั้นแตกต่างจากการเล่น เมื่อใดที่มีการสั่งมันจะต้องเชื่อฟังไม่ว่าจะมีอะไรมาทำให้วอกแวกก็แล้วแต่ จงจดจำไว้ว่าน้ำเสียงแล้วก็น้ำหนักเสียงของคุณ (จำต้องไม่ดังกระหึ่ม) จะมีผลกระทบต่อหมาเป็นส่วนมาก ต้องบอกด้วยคำกล่าวที่เน้นแน่น สำหรับในการใช้คำบอกเล่าระหว่างฝึกจำกัดคำสั่งของคุณให้ใช้คำแค่เพียง 2-3 คำ ถ้าเกิดเป็นได้ก็อย่าเปลี่ยนแปลงคำบัญชา มันเป็นเรื่องดีที่สุดหากจะมีผู้ฝึกสอนหมาเพียงผู้เดียว ผู้อื่นบางทีอาจใช้คำบัญชาต่างกันออกไป วิธีฝึกก็ต่างไปซึ่งอาจจะก่อให้สุนัขงงงวยได้ สุนัขที่ได้ยินคำบัญชาประเภท "มานี่" "มาหาหน่อย" "เร็วๆ" หรือคำบัญชาทำนองนี้แม้กระนั้นมีความต้องการเดียวกันคือให้มันมาหา ถ้าเกิดคุณใช้คำบัญชาล้นหลามขนาดนี้มันจะงงเต็กมากมาย ให้ใช้คำไหนคำนั้นดีที่สุด
 
บทเรียนที่ใช้ฝึก
การฝึกเป็นงานหนักหมาและผู้ฝึก หมาเล็กๆใช้เวลาฝึกในช่วงหนึ่งได้ไม่เกิน 10 นาที ก็จะไม่ได้อยากต้องการฝึกหัดต่อโดยเหตุนั้นควรจำกัดอย่าให้บทเรียนบทแรกยาวเกินความจำเป็นนัก แล้วจึงค่อยๆเพิ่มเวลาไปเป็นระยะจนกระทั่งถึง 30 นาที คุณเองก็อาจพบได้ว่าคุณก็เริ่มหมดความอดทนเช่นกันเมื่อใกล้ๆจะหมดเวลาฝึกหัด เมื่อคุณมีความคิดว่าคุณอารมณ์ไม่ดีให้หยุดฝึก ใช้เวลาที่เหลืออยู่ทบทวนบทเรียนเก่าๆไปก่อน และก็ก่อนหรือหลังบทเรียนควรมีระยะเวลาพักเล่นด้วยไม่ใช่เล่นระหว่างเรียน แม้กระทั้งหมาที่เด็กที่สุดก็จะศึกษาได้เองว่าในเวลาที่จำเป็นต้องเรียนนั้นเป็นช่วงๆที่จำเป็นต้องเคร่งครัดจริงจัง ส่วนความสนุกจะตามมาหลังจากนี้
อย่าใช้เวลาในการฝึกช่วงแรกๆมากเท่าไรนัก มิฉะนั้นสุนัขก็จะเบื่อ บากบั่นจบบทเรียนในตอนที่ดีๆหากสุนัขไม่ได้ทำในสิ่งที่คุณอยากนั้นเป็นเนื่องจากคุณไม่อาจจะทำให้มันจดจำได้ดีพอเพียง
 
เครื่องมือในการฝึกหัด
1. เชือกที่ใช้ลากสุนัข ใช้เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า "ตัวนำ" ด้วยเหตุนั้นเราจะใช้คำนี้แทน ตัวนำ ที่เยี่ยมที่สุดสำหรับฝึกฝนนั้นเป็นผ้าทอหรือสาน ยาว 6 ฟุต ส่วนมากใช้สีมัวซัวมอๆหรือจะใช้เป็นหนังขนาดเสมอกัน หรือจะใช้แบบเป็นสีสันก็มีใช้กันอยู่บ้าง ตามใจคุณจะเลือก
2. จะต้องใช้ปลอกที่มีไว้ใส่คอฝึกฝนสุนัขพร้อมกันไปด้วย ปลอกที่เอาไว้ใส่คอฝึกโดยมากทำด้วยไนล่อนหรือ โซ่เหล็ก ซึ่งมีห่วงติดอยู่กับปลายทั้งสองข้าง แล้วใช้ตัวนำคล้องกับปลายห่วงทั้งสอง ใช้ผ่อนหรือดึงบังคับหมา แม้ว่าจะฟังดูน่าตกใจ แต่ว่ามันก็ไม่ได้ทำให้หมาของคุณจำเป็นต้องเจ็บแต่อย่างใด แล้วก็มันก็จะต้องใช้ในการฝึกด้วย ควรฝึกวิธีการใช้ปลอกคอให้ถูก ปลอกสำหรับใส่คอฝึกฝนควรจะใส่รอบคอหมา เพื่อคุณจะสามารถล่ามตัวนำกับห่วงตรงปลายปลอกที่มีไว้ใส่คอ อย่าใส่ห่วงใต้คอ มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใส่ปลอกที่เอาไว้สำหรับใส่คอฝึกหัดให้ถูก มันจะได้แน่นเวลาคุณดังตัวนำ แล้วก็ง่ายเวลาคุณผ่อนไหมได้รั้งตัวนำ
3. วิธีสำหรับในการจับตัวนำก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเหตุว่าปลอกที่เอาไว้ใส่คอควรจะหย่อนยานอยู่ตลอดเวลา นอกจากเวลาดึง จับวงเชือกไว้ด้วยมือขวา ไขว้มือไปด้านข้าง ส่วนมือซ้ายจับกุมนำไว้ให้ใกล้ปลอกคอฝึกฝนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนที่เหลือของตัวนำก็จะขมวดเป็นวงได้ (ที่คุณถือด้วยมือขวา) แนบแขนข้างนี้กับลำตัว การผ่อนคลาย ดึง หรือคลาย ทั้งหมดทุกอย่างทำด้วยมือซ้าย ด้วยการกระตุก
 
การฝึกหัดให้ตาม
"การตาม" เป็นคำศัพท์สำหรับหมาจุดมุ่งหมายความว่า ให้สุนัขเดินไปด้านข้างของคุณชิดกับขาคุณ มีตัวนำด้วยหรือไม่มีก็ได้ ถ้าคุณทรหดอดทนและพยายามพอเพียง คุณสามารถฝึกหมาให้เดินใกล้เคียงคุณได้ในถนนหนทางอันคับแคบ หรือผ่านหมาตัวอื่นๆได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงเดี๋ยวนี้คุณก็ได้ทำความเข้าใจถึงกรรมวิธีการใส่ปลอกที่มีไว้ใส่คอ การใช้ตัวนำแล้วคุณก็พร้อมที่จะเริ่มบทเรียนแรกสำหรับในการฝึกหัดการตาม ให้หมานั่งอยู่ด้านซ้าย เรียกชื่อ รวมทั้งใช้คำสั่ง "ตาม" เริ่มก้าวเท้าซ้ายของคุณ ดึงตัวนำบางส่วน เพื่อให้หมาได้เริ่ม จำต้องเรียกชื่อมันก่อนเสมอ แล้วและก็ตามด้วยคำสั่ง อาทิเช่น "แดงตาม" การเอ่ยชื่อจะช่วยทำให้มันพอใจมากขึ้น ทำให้มันได้รับรู้ว่าคุณกำลังสั่งการให้มัน (แดง คือชื่อสมมุติของสุนัขในที่นี้)
ให้เดินอย่างกระฉับกระเฉงแต่ละก้าว เดินวนเป็นวงกลมใหญ่ หรือเดินไปเป็นสี่เหลี่ยม หรือเส้นตรงก็ได้ ระหว่างที่เดินมั่นใจว่าหมาของคุณอยู่ข้างซ้ายและติดขาของคุณเสมอ หากมันเดินล้าหลังคุณให้กระตุกตัวนำเบาๆให้มันเดินให้ทันคุณ แล้วหลังจากนั้นก็ชมมันว่าก็ดีที่ทำแบบงี้ หากมันเดินนำหน้าคุณหรือออกห่างไป ให้ท่านหยุดพร้อมด้วยกระตุกตัวนำอย่างแรง ดึงมันกลับมาอยู่ตรงที่ที่ถูก ควรดูมันครั้งใดก็ตามมันเดินถูกที่ถูกทาง เมื่อคุณกระตุกตัวนำเพื่อสุนัขคุณอยู่เหมาะสมก็ให้ผ่อนเนื้อตัวนำไปด้วย อย่างลากสุนัขหรือดึงตัวนำเพราะเหตุว่าจะเกิดการดึงกันไปดังกันมา ซึ่งไม่เป็นผลดีเลย
เพื่อให้หมาตั้งอกตั้งใจฝึก จะต้องกล่าวกับมันตอนที่คุณให้มันกลับมาถูกที่คุณน่าจะฝึกการเดินหันหลังกลับด้วยการกระตุกตัวนำเบาๆในตอนที่คุณหมุนตัวด้วย มันจะทำความเข้าใจไปทีละนิดละหน่อยว่ามันจะต้องมุ่งมั่น หรือจะถูกกระตุกให้กลับมาอยู่ข้างตัวคุณ และคุณสามารถแปลงขั้นตอนการไปได้เรื่อยๆโดยการเปลี่ยนความเร็วบ้าง หันหลังกลับ เดินตรง หรือเดินซิกแซกผ่านสนามที่ใช้ฝึก เป็นต้น
"ตาม" คือ "นั่ง" ด้วย สำหรับสุนัขแล้วคำบัญชาว่า "ตาม" จะหมายถึงมันจำเป็นต้องนั่งอยู่ข้างซ้ายของคุณด้วย เมื่อคุณหยุดโดยไม่มีคำสั่งอะไรเพิ่มในตอนที่คุณฝึกฝนให้ตาม ทำให้มันนั่งเมื่อคุณหยุด คราวแรกใช้คำสั่งว่า "นั่ง" แต่ว่าถัดไปไม่ต้องออกคำสั่งอีก มันจะคิดทราบแล้วก็จะนั่งได้เองเมื่อคุณหยุด และก็จะรอคำบัญชา "ตาม" ใหม่ เพื่อจะลุกเดินอีกครั้ง
 
การฝึกหัดให้นั่ง
การฝึกหัดหมาให้นั่งค่อนข้างง่าย โดยให้มันยืนอยู่ข้างซ้ายมือ ให้ทะนงตัวนำสั้นๆแล้วบัญชาว่า "นั่ง" ขณะสั่งให้ดึงตัวนำขึ้นพร้อมทั้งกดพักหลังของสุนัขลง แม้กระนั้นอย่าให้มันลงไปหมอบหรือยืนขึ้น หากมันลงหมอบให้กระตุกตัวนำขึ้นจวบจนกระทั่งมันยืนขึ้นแล้วนั่ง หากมันประพฤติตามคำบัญชาช้าๆให้ดังมันอย่างแรงจนกระทั่งมันประพฤติตามสิ่งที่ต้องการของพวกเรา ให้มันอยู่ในท่านั่งสักชั่วครู่ และก็หลังจากนั้นจึงค่อยผ่อนความตึงของตัวนำพร้อมกับชมมันด้วย ทวนคำสั่งอย่างหนักแน่นในขณะที่คุณลากมันในท่านั่ง ย้ำเพื่อให้มันจำคำบัญชาได้ขึ้นใจ ถ้าเกิดมันเคลื่อนที่ละก้อให้ทวนคำสั่งอีกครั้งแล้วให้มันนั่ง ต่อจากนี้มันก็จะคิดทราบรวมทั้งนั่งลงไปเองโดยไม่ต้องกดหลังมันอีก เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วแสดงว่ามันจะนั่งเองได้ สรรเสริญมันบ่อยๆให้รางวัลโดยความประพฤติปฏิบัติกับมันอย่างสุภาพ และก็สรรเสริญมันเป็นประจำด้วยคำบอกเล่าที่นุ่มนวล
 
การฝึกฝนให้หมอบลงหรือหมอบ
เป้าหมายขั้นตอนนี้คือ ทำให้สุนัขหมอบลงกับคำสั่ง "หมอบ" หรือเมื่อสั่งด้วยมือ ให้คุณยกมือมาด้านหน้าพลิกโบกฝ่ามือลง อย่างไรก็ดี คุณจำเป็นต้องทำไปจนกว่าสุนัขจะเข้าสาระสำคัญหมายของคำบัญชาแล้วก็จะทำเองได้โดยไม่มีปฏิกิริยากึ่งบังคับจากคุณ สัญญาณมือน่าจะทำควบคู่ไปกับการออกคำสั่ง คำบัญชานี้บางทีอาจจะยากไปหน่อยในช่วงแรก เนื่องจากว่ามันรู้สึกราวกับคุณยกมือเพื่อจะทำร้ายมันรวมทั้งมันปกป้องตัวเองไม่ได้ บางครั้งอาจจะวิ่งเตลิดไปก็ได้ ให้เอาใจมันด้วยคำชมเชยหรือทำกับมันดีๆเมื่อมันกระทำตามคำสั่งแล้วมันจะศึกษาไปเองว่าไม่มีอะไรที่เลวร้ายเกิดขึ้น ในทางตรงกันข้ามมันจะรู้จักคำสั่งว่า "หมอบ" แล้วถ้ามันเอาอย่างนายจะพึงพอใจ
อย่าเริ่มฝึกสุนัขหมอบลงกระทั่งมันรู้เรื่องคำบัญชานั่งได้เป็นอย่างดีซะก่อน ให้หมาอยู่ในท่านั่งรวมทั้งคุณยอตัวอยู่ตรงหน้า ชูขาหน้าของมันด้วยมือแต่ละข้างของคุณ จับตรงเหนือศอก ชูขามันขึ้นแล้วดึงลงมาที่พื้นข้างหน้า ในขณะเดียวกันก็บัญชาว่า "หมอบ" แล้วดึงขาหน้ามันลงมาติดพื้น
ดึงมันลงมาที่พื้นและทำให้มันทราบดีว่าท่านี้เป็นท่าที่อยากได้ให้มันทำ แนวทางแบบนี้ดีมากกว่าจะไปบังคับให้มันทำ มิฉะนั้นจะทำให้มันรู้สึกตระหนกตกใจแล้วก็เริ่มจะเกลียดชังการฝึกฝนอะไรก็ตามเลย หมั่นคุยกันมัน บอกมันให้ทราบดีว่าคุณดีใจ พึงพอใจ ในช่วงเวลาที่มันปฏิบัติตามคำบัญชา แล้วคุณจะพบว่าคุณสุขสบายกับการฝึกฝนหมา
ภายหลังที่มันเริ่มศึกษา เลื่อนตัวนำไปอยู่ใต้เท้าซ้ายและก็ออกคำสั่ง "หมอบ" ในเวลาเดียวกันดึงตัวนำด้วยจะช่วยให้หมาหมอบลง ตอนนี้ยกมือคุณแล้วโบกลงส่งสัญญาณมืออีกที อย่าหวังว่ามันจะสามารถทำได้ด้วยคำบัญชาเพียงครั้งเดียว ควรอดทนฝึกกับมันไปเรื่อยๆมันก็จะร่วมมือด้วย ถ้าคุณแสดงให้มันเห็นว่าอะไรบ้างที่คุณต้องการให้มันทำ
การฝึกหัดให้อยู่นิ่งๆ
ขั้นถัดไปคือการฝึกหัดสุนัขให้อยู่นิ่งๆในท่านั่งหรือหมอบ ราวครั้งกระโน้นโดยใช้ตัวนำสอนคำบัญชานี้ ตราบจนกระทั่งหมาของคุณตอบรับคำบัญชาด้วยการทำตามคำบัญชา แล้วจึงเอาตัวนำออก การฝึกฝนเริ่มด้วยการนั่งนิ่งๆจัดให้สุนัขอยู่ในท่านั่งข้างคุณในท่านั่งแนบขาอัตโนมัติ ถือเชือกในมือข้างหนึ่ง (ส่วนมากผู้ฝึกชอบถือมือซ้าย) ก้าวไปด้านหน้าแล้วหันหน้ามาหามัน ยื่นมือออกไป นิ้วชี้ไปที่ช่วงจมูกของมันแล้วสั่งว่า "อยู่นิ่ง" ถ้าเกิดมันทำท่าจะเดินตามคุณเนื่องมาจากเป็นธรรมชาติของมันที่จะทำ เพราะเหตุว่ามันอยู่ในท่าที่จะตาม ให้กระตุกตัวนำ เพื่อให้มันกลับมานั่งก่อน ยกมือมาไว้ด้านหน้ามันแล้วทวนคำสั่งอย่างหนักแน่นอีกรั้ง ให้มันอยู่ในท่านั่งนั้นสัก 2-3 วินาที ก่อนที่จะให้ลงมือดำเนินการอย่างอื่น แต่ละครั้งที่มันทำสำเร็
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ