หัวข้อ: สภาพอากาศภายในบ้านหมดจดง่ายๆ โดยใช้เครื่องกรองสภาพอากาศ เริ่มหัวข้อโดย: asianoned ที่ พฤศจิกายน 15, 2018, 11:05:11 am ปัจจุบันสภาพอากาศที่เราสูดเข้าไปแทบจะเหมือนเป็นสภาพอากาศที่มีเฉพาะฝุ่นรวมถึงสิ่งโสโครกที่แปลกปลอมเข้าในนั้นเป็นไปได้ว่าส่งผลให้ป่วยง่ายๆ หรือไม่ก็หายใจไม่ค่อยสบายได้ ฉะนั้นแล้วการที่อยู่ท่ามกลางมลภาวะสารพิษคุณจึงหลบไม่ได้ที่จำเป็นต้องหายใจอากาศเอาสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในสังขาร
อย่างไรก็ดีขณะเรากลับมาที่พักเราเป็นไปได้ว่าสมมติสภาพอากาศข้างในบ้านสะอาดมากกว่านอกบ้านก็จริงแต่และยังมีฝุ่นละอองที่มาจากสิ่งของภายในบ้านที่บางครั้งคุณอาจเห็นว่าก็ชะล้างอยู่บ่อย หรือว่าที่เกาะมาพร้อมกับเสื้อผ้าคุณที่ออกไปด้านนอกมาตลอดวัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้เราต้องอยู่กับมลพิษเป็นประจำ ดังนั้นเราก็เลยควรจะมีทางเลือกที่เรียกว่า เครื่องกรองอากาศ ไว้ภายในบ้านสำหรับทำให้ที่พักอาศัยสะอาดพร้อมด้วยเราได้อากาศสะอาดมั่งภายในแต่ละวัน โดยที่ที่กรองอากาศที่ใช้งานในบ้านมีอยู่ 4 ประเภทด้วยกันยกตัวอย่างเช่น 1. เครื่องกรองสภาพอากาศประเภทใช้งานแผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยโดยปกติแล้วล่ะก็คาร์บอนประกอบด้วยคุณสมบัติเพื่อดักจับสิ่งสกปรกและกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วส่งผลให้มีการเอามาทำเป็นไส้กรองอากาศที่ประกอบด้วยคาร์บอนให้ทำงานในขั้นตอนสกัดอากาศ 2. เครื่องกรองอากาศรูปแบบใช้ประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่ฟอกอากาศลักษณะนี้มีการกรองประจุไฟฟ้ามาใช้งานในการดักฝุ่นหลายชนิด เพราะว่าประจุไฟฟ้าทำให้ดักจับชิ้นเล็กๆดีแม้ว่ามีสิ่งเล็กๆเล็กมากก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นธรรมดา ขนสัตว์ หรือแม้กระทั่งควันไฟบุหรี่ ทำให้เครื่องกรองอากาศดังนี้เหมาะสมกับผู้บริโภคที่มีเรื่องมีราวเรื่องทางเดินหายใจ หรือไม่ก็มีอาการภูมิแพ้ 3. ที่ฟอกอากาศลักษณะความสามารถในการกรองมากๆ (High Efficiency Particle Arresting) หรือที่เรียกว่า HEPA ถือเป็นเครื่องฟอกสภาพอากาศมีศักยภาพในการกรองสภาพอากาศสูงมากก็เพราะว่าตัวไส้กรองผลิตที่มาจากใยแก้วละเอียด สามารถกรองอากาศให้ใสสะอาดมากที่สุด 99% อย่างไรก็ดีข้อบกพร่องคือไม่สามารถดูดซึมควันหรือว่าซับกลิ่นได้ เป็นที่ฟอกอากาศที่มักจะใช้งานข้างในสถานพยาบาลหรือโรงงานบางอย่าง โดยที่ไส้กรองอายุการทำงานนานมากถึง 4 ปี 4. เครื่องฟอกสภาพอากาศรูปแบบผสาน คือที่กรองสภาพอากาศที่ลักษณะประสม 2 หน่วยไปด้วยกันสามารถเป็นการประสานใน Carbon เข้ากับ Ionic หรือว่า HEPA กับ Ionic ก็ได้สุดแท้แต่ว่าผู้ประดิษฐ์ตั้งใจให้เครื่องฟอกสภาพอากาศทำงานออกมาด้วยรูปแบบใด ด้วยรูปแบบเครื่องกรองอากาศทั้งหมดที่พูดถึงอาจจะที่มีหลายคนคลางแคลงใจเกี่ยวกับแล้วจะประกอบด้วยรูปแบบการเลือกเครื่องฟอกสภาพอากาศเช่นใดเพื่อที่จะเหมาะสำหรับตัวเองมากที่สุด เริ่มที่ควรจะคุ้นเคยอากาศข้างในบ้านตัวเองก่อนว่าประเภทอากาศในตัวบ้านเป็นยังไง ประกอบด้วยผงเยอะหรือไม่ หรือมีกลิ่นเหม็นหรือเปล่าแล้วจึงค่อยคัดเลือกที่ฟอกสภาพอากาศถัดจากนั้นที่การคัดตัวเครื่องกรองสภาพอากาศโดยที่อันที่ีมีประสิทธิภาพควรมี 2 หน่วยในเพียงอันเดียวก็คือ กรองฝุ่นละออง ดักจับฝุ่น และดูดกลิ่นในเครื่องเดียว รวมทั้งมีแรงที่ทำให้สูบอากาศรอบๆ เพื่อที่จะนำไปฟอกพร้อมด้วยปลดปล่อยอากาศใสสะอาดออก เช็คดูให้ดีว่าหน่วยสกัดอากาศกับแผ่นกรองมีกลักษณะประเภทที่เราต้องการหรือไม่รวมทั้งสามารถนำไปเก็บกวาดสะดวกหรือเปล่ารวมไปถึงพวกมูลค่าแผ่นกรองเป็นอย่างไรเพื่อที่เวลาที่กรองหมดเวลาจะสามารถซื้อได้ไม่ยาก หลังสุดคือการวิเคราะห์ตัวเลขที่มีชื่อว่า CADR (Clean Air Delivery Rate) ตัวเลขนี้ก็คือค่าสำหรับเทียบสมรรถนะสำหรับใช้งานของที่กรองอากาศโดยที่ตัวเลขนี้จะเพิ่มสูงขึ้นถ้าหากมีคนอยู่ที่ห้อง ในเรื่องสำหรับการทำงานไปจนถึงการดูแลรักษาก็คือ การทำงานในส่วนเครื่องฟอกสภาพอากาศควรที่จะปิดห้องเพื่อที่จะเครื่องฟอกอากาศ[/b]ทำงานทิ้งไว้ก่อนที่จะเข้าไปในห้องเพื่อสภาพอากาศบริสุทธิ์ก่อน ส่วนการเอาใจใส่ทำความสะอาดก็คือน่าจะทำความสะอาดที่กรองขั้นต่ำทุก 3 เดือน โดยการนำมาชะล้างแล้วผึ่งให้แห้ง สำหรับที่จะฆ่าเชื้อไวรัส หรือว่าชะล้างจากที่หนังสือบอกเอาไว้ อย่างไรก็ตามในส่วนผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการเก็บกวาดบ่อยๆ ควรจะเลือกซื้อชนิดประจุไฟฟ้า เพราะแม้กระนั้นจะราคามากกว่ารูปแบบนอกจากนี้แต่ไม่ได้ไม่จำเป็นต้องชะล้างประจำตลอดจนดูแลง่ายกว่า จะเห็นว่าเครื่องกรองอากาศมีอยู่หลายอย่างอีกทั้งวิธีในการตัดสินใจซื้อให้เหมาะสมกับการทำงานก็ไม่ยากเหมือนที่คิดไว้ยิ่งไปกว่านั้นการดูแลรักษาความสะอาดสะอ้านก็ง่ายมากอีกเช่นกัน โดยที่กรองสภาพอากาศมีให้ซื้อกันหลายแบรนด์ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ เริ่มตั้งแต่มูลค่า 2-3พันบาทไปจนถึง 4-5 หมื่นเลย Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี
|