หัวข้อ: iPhone 8 และ iPhone 8Plus อีกทางเลือกของความคุ้มราคา เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ พฤศจิกายน 16, 2018, 10:47:02 am แม้สมาร์ทโฟนตัวหลักของค่าย Apple ในปี 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ที่มาพร้อมดีไซน์และคุณลักษณะแบบพรีเมี่ยมและชัดเจนว่ามูลค่าก็แพงเหมือนกัน อย่างไรก็ดีหลายคนคงจะหลงลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้า iPhone X โหมโรงเพียง 15 นาที iPhone 8 กับ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำตัวให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักกัน โดยสืบมาอาจจะเหมือนเป็นรุ่นที่ถูกหลงลืมเนื่องด้วยกระแสของ iPhone X แต่รู้หรือเปล่าว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus ถึงแม้นจะมีเค้าโครงหน้าตามิแตกต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นผู้ครอบครอง iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นเจ้าของได้ อีฉันจะนำทุกท่านไปทำความรู้จักมักจี่กับโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นนี้ให้ดียิ่งขึ้น
iPhone 8 กับ iPhone 8 Plus เปิดวางขายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ณสหรัฐฯและจัดจำหน่ายที่บ้านเราวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสองขนาด คือ iPhone 8 ขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus สัดส่วน 5.5 นิ้ว ซึ่งทั้งคู่รุ่น มีขนาดตัวเครื่องเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง โดยเป็นการทำสีเฉดใหม่เอี่ยมมีความสามารถในการกันน้ำ กันฝุ่นละออง เหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างตรงที่ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีด้านหลังเป็นกระจก เป็นเหตุให้สามารถชาร์จแบบปราศจากสายได้ ในด้านของขนาดนั้น Apple ก็มีมาให้คัดเพียงแค่ 2 ขนาด เช่น 64 GB และ 256 GB ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายสินค้าไปให้ผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงพร้อมกับเร็วมากขึ้น จึงกระทำการลดรุ่นให้น้อยลง แม้ว่าความละเอียดจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มเติมการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิสีจอให้ตรงกับสภาพแสงในเวลานั้น ทำให้หน้าจอดูเป็นธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core แบ่งเป็น 4-Core ที่ประสิทธิภาพสูง และอีก 2-Core ใช้ระยะเวลาที่เครื่องไม่ได้ทำงานหนักอึ้งอะไร ซึ่งใช้การได้อย่างลื่นไหล ที่น่าดึงดูดคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบทั้งการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วไปพร้อมทั้งเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกชั้นเลิศ ยกตัวอย่างเกมรถแข่งอย่าง Need for Speed ที่จำเป็นต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างเยอะ ไม่ก็ ROV ก็เล่นได้มิติดขัด กล้องถ่ายรูปได้พัฒนามาจาก iPhone 7 ทั้งสองโมเดล แม้ว่าจะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามมีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้เพิ่มขึ้น ฉายรูปในสถานการณ์แสงน้อยได้ดีขึ้น ถ่ายรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า “Portrait Lighting” เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด Portrait เดิม ที่ให้คุณเลือกสรรปรับแสงหน้ามนุษย์ได้มากถึง 5 แบบ กล้องหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมแฟลชจากหน้าจอ Retina HD ในส่วนการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพความเคลื่อนไหวในวิดีโอที่ออกมาก็จะดูละมุน ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้านี้มีเพียง 30fps) แต่ปัจจุบันนี้คุณเลือกสรรได้เสรีมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดทั่วๆ ไป ท่อนการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps เทคโนโลยีชาร์จปราศจากสายที่เพิ่มเติมเข้ามาให้กับ ไอโฟน 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นหนแรกนั้นรองรับกับวัสดุอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายความว่า มิจำเป็นจะต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple แค่นั้น แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จไร้สายจาก Apple ออกมาวางขายในเร็ว ๆ นี้ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถใช้ยี่ห้ออื่นๆ ได้ ถึงกระนั้นแนะนำว่าควรเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge เอาเป็นว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple แม้ว่าจะคงไว้ออกแบบตัวเครื่องแต่เดิมตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้องถ่ายรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนโปรดปรานชักรูปน่าจะพึงพอใจการรวมกันของคุณภาพของกล้องที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยเสริมแต่งแสงเงาในภาพได้หลายหลากแบบตามความอยาก ทำให้ตอนที่ออก วางขายใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องมือถือที่ดีที่สุดในท้องตลาดสมาร์ทโฟน ส่วนหน้าจอที่น่าพึงพอใจผนวกกับความไหลลื่นและฟีเจอร์สำคัญ ๆ ที่มิเป็นรองโทรศัพท์มือถือตัวตัวท็อปใด ๆ ในปัจจุบันนี้ก็ถือว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเทียบกับ iPhone x แต่ถ้าหากว่าใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะเขยิบขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่แนะนำตัวไปนั้น ก็แนะนำว่ารอคอยไปอีกสักนิด เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะมากขึ้นมากกว่านี้อีกในรุ่นถัดไป Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8
|