หัวข้อ: เมื่อการเช่าสิ้นสุดใครมีสิทธิในบ้านที่สร้างในระหว่างเช่า เริ่มหัวข้อโดย: saibennn9 ที่ พฤศจิกายน 17, 2018, 06:36:00 am การเช่าที่ดินเพื่อทำธุรกิจในระยะยาว เมื่อมีการก่อสร้างตึก ที่ทำการ หรือแม้ว่าจะปลูกบ้านลงไปในที่ดินแล้ว ถัดมาเมื่อการเช่าสิ้นสุดลง ก็เลยมีคำถามที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นว่า คนไหนกันแน่จะเป็นเจ้าของตึก อาคาร ที่ทำการ หรือ บ้านที่ผู้เช่าได้ปลูกสร้าง ในมุมของผู้ให้เช่ายอมจำต้องมีความรู้สึกว่า ในเมื่อมีการก่อสร้างในที่ดินของผู้ให้เช่าแล้ว ตึก อาคาร สำนักงาน หรือบ้าน ย่อมเป็นของผู้ให้เช่าโดยเป็นส่วนควบของที่ดินที่เช่า ในมุมของผู้เช่าก็เห็นว่า ผู้เช่าได้ใช้สิทธิเช่าเพื่อมาสร้าง อาคาร อาคาร ที่ทำการหรือบ้าน ในระหว่างที่เช่า จึงการปลูกสร้างอาคาร อาคาร สำนักงานหรือ บ้านโดยมีสิทธิ สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวจึงเป็นของผู้เช่า นอกเหนือจากนี้ ยังมีประเด็นตามว่า ผู้เช่าจำเป็นต้องออกมาจากที่ดินที่เช่าหรือไม่ ก็เลยมีการฟ้องร้องกันระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่า โดย ศาลได้ตัดสินคดีแล้วว่า สิ่งปลูกสร้างของผู้เช่า เป็นของผู้เช่าไม่เป็นของผู้ให้เช่า แต่ผู้เช่าจำต้องรื้อถอนออกไปจากที่ดินที่เช่า และใจความสำคัญถัดมา ผู้เช่าจำต้องออกมาจากที่ดินที่เช่า และการที่ผู้เช่าอยู่ในที่ดินที่เช่านับแต่เวลาจบระยะเวลาเช่าแล้ว ย่อมเป็นการอยู่โดยฝ่าฝืนสิทธิของผู้ให้เช่า ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้เช่าจำเป็นต้องใช้ค่าทำขวัญให้แก่ผู้ให้เช่า รวมทั้งออกมาจากที่ดินของผู้ให้เช่า ความจริงมี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4260/2550 เดิมที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของ ท. ต่อมาผู้จัดการมรดกของ ท. ได้ทำสัญญาให้ ธ. เช่าที่ดินมีกำหนด 20 ปี การที่ ธ. ปลูกสร้างตึกแถวลงบนที่ดิน จึงไม่ถือว่าเป็นส่วนควบกับที่ดินตาม ป.พ.พ. มาตรา 146 โจทก์ซื้อที่ดินมาจากผู้จัดการมรดกของ ท. ระหว่างอายุสัญญาเช่า โจทก์จึงไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกแถว แต่เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าที่ดิน ธ. ย่อมหมดสิทธิในที่ดินต้องรื้อถอนตึกแถวออกไป เว้นแต่ ธ. ยินยอมให้ตึกแถวตกเป็นของโจทก์ ตึกแถวย่อมกลายเป็นส่วนควบของที่ดินและตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามมาตรา 144 วรรคสอง เมื่อโจทก์ได้รับมอบสิทธิในตึกแถวแล้ว ตึกแถวย่อมกลายเป็นส่วนควบของที่ดินและตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามมาตรา 144 วรรคสอง แต่ ธ. ซึ่งเป็นเจ้าของตึกแถวไม่มีอำนาจให้เช่าห้องพิพาทเกินกำหนดระยะเวลาการเช่าที่ดิน เมื่อสัญญาเช่าที่ดินครบกำหนดแล้ว ระยะเวลาการเช่าห้องพิพาทส่วนที่เกินกว่านั้นย่อมไม่ตกมายังโจทก์ตามมาตรา 569 เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์ที่จะให้จำเลยอยู่ในห้องพิพาทอีกต่อไป แต่จำเลยไม่ยอมออกไป จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย ด้วยเหตุผลดังกล่าว จะมองเห็นได้ว่า ไม่ว่าเช่นไรผู้ให้เช่าคนที่เป็นเจ้าของที่ดินย่อมมีสิทธิเหนือที่ดินตามหลักกรรมสิทธิ์ บุคคลภายนอกย่อมไม่มีสิทธิ์ดีมากยิ่งกว่าเจ้าของที่ คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายเชียงใหม่ เครดิต : https://www.นพนภัสทนายความเชียงใหม่.com/ Tags : ทนายความเชียงใหม่
|